บทที่7
เราต้องนอนด้วยกัน!
///ตะวัน///
ผมกลับจากขนส่งก็เจอรถสปอร์ตคันเดิมขับเข้ามาผมกับไอ้โซ่หันไปมองด้วยความสงสัยจนกระทั่งจันทร์เจ้าเธอเดินลงมาจากรถแล้วหันไปโบกมือบ๊ายบายให้ไอ้ภูริ พอหันกลับมาเธอก็รีบวิ่งเข้ามากอดไอ้โซ่แต่กับผมเธอไม่สนใจเลย
“พี่โซ่เป็นยังไงบ้างคะคิดถึงจังเลย^^”
“สบายดีครับ แล้วเราล่ะดื้อหรือเปล่า”
“ไม่ดื้อเลยค่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะหนูซื้อขนมมาฝากพี่ด้วยนะคะ”
ผมยืนล้วงกระเป๋ามองหน้าเธอกับไอ้โซ่แต่ไม่มีใครสนใจผมเลยเพราะเธอพาไอ้โซ่เข้าบ้านไปออดอ้อนเหมือนตอนเธอเด็กๆ
ผมเดินตามเข้ามานั่งดูจันทร์เจ้ากับไอ้โซ่เธอเล่าเรื่องราวในช่วงที่พวกผมไม่อยู่ให้ฟังเธอดูมีความสุขมาก แต่ผมกลับรู้สึกว่าเธอเหมือนจะโกรธผม ตั้งแต่เรื่องณิชาเธอก็ไม่ค่อยพูดกับผมตอนนี้เธอก็ไม่ค่อยสนใจผมเลย มันผิดวิสัยของเธอมาก
พวกเรานั่งทานข้าวด้วยกันจนไอ้โซ่มันขอตัวกลับผมจึงเดินเข้ามาดูห้องทำงานของเธอ
“ใบขับขี่พี่ตะวันจะได้เมื่อไหร่คะ”
“พรุ่งนี้” ผมตอบเธอพร้อมกับหยิบรูปของเธอขึ้นมาดู
“แน่ใจนะว่าจะสอบผ่าน”
“ระดับนี้แล้ว ว่าแต่งานที่จะไปถ่ายกระบี่ทีมงานมารับไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ค่ะ เราจะนั่งเครื่องไปกระบี่แล้วทีมงานจะส่งรถมารับแล้วค่อยนั่งเรือไปเกาะ แต่ว่าถ้าเราจะเที่ยวหรือเดินทางที่เกาะมีรถเช่าค่ะ”
ผมเงียบไม่ได้ตอบอะไรจนผมหยิบรูปถ่ายตอนเธอไม่หาผมที่อเมริกาเมื่อ3ปีที่แล้วขึ้นมาดู ในรูปมีณิชาร่วมเฟรมอยู่ด้วยผมจึงคว่ำกรอบรูปลงแล้วเดินออกมาจากห้องทำงานของเธอ
///จันทร์เจ้า///
ถึงวันเดินทางฉันกับพี่ตะวันนั่งเครื่องมากับทีมงานบางส่วนเพราะทีมของพี่ภูริไปรอที่เกาะกระบี่แล้ว ฉันไม่เคยคิดเคยฝันว่าตัวเองจะมีแฟนคลับมายืนรอพร้อมตะโกนเรียกชื่อฉัน ยัยเด็กขี้อายในวันนั้นตอนนี้โตเป็นสาวแถมยังเก่งมากด้วย
“อุ๊ย! นั่นใครอะถือกระเป๋าให้น้องจันทร์เจ้าด้วย”
“แฟนหรือเปล่า”
ฉันไม่ได้สนใจเสียงซุบซิบที่ดังมากกลุ่มแฟนคลับเพราะทีมงานรีบพาฉันขึ้นรถส่วนพี่ตะวันก็คอยกันนักข่าวเอาไว้
“ไม่คิดว่าเราจะดังขนาดนี้เลย” พี่ตะวันเขาพูดออกมาจนทีมงานรีบพูดแทรก
“น้องจันทร์เจ้าน่ารักค่ะ มีซีรีส์รักวัยรุ่นเคยติดต่อมาด้วยแต่น้องปฏิเสธไป ช่วงเวลาที่ถ่ายมันเป็นช่วงสอบพอดี”
“ดีแล้วยังไงเรื่องเรียนก็ต้องมาก่อน เรียนจบแล้วค่อยมาลุยงานก็ได้”
“ค่ะ”
เมื่อถึงเวลาขึ้นเรือพี่ตะวันเขาก็เดินขึ้นไปพร้อมส่งมือมาให้ฉันจับ นี่ก็คงเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้สัมผัสมือของเขา มือเขานุ่มมากยังใช้ครีมกลิ่นเดิมอยู่ด้วย บ้าหน่าแมลงมันมาเกาะจมูกฉันไม่ได้เอามือมาดมสักหน่อย
ระหว่างที่พวกเรานั่งเรือที่แสนจะโคลงเคลงฉันก็รู้สึกว่าตัวเองจะเมาเรือจึงหยิบยาดมในกระเป๋าออกมาดมพี่ตะวันคงสังเกตอาการของฉัน เขาเลยดันหัวฉันลงมานอนซบไหล่ของเขาจนฉันรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ตัวเขาหอมมาก....
“คราวหลังหัดพกยาบ้าง ยาแก้เมารถเมาเรือจำเป็นนะรู้ไหม”
“พี่ตะวันเป็นผู้จัดการส่วนตัวทำไมไม่รู้จักเตรียมล่ะ”
“ยอกย้อนเก่งนักนะเดี๋ยวนี้!”
ฉันไม่ตอบแต่ข่มตานอนหลับจนรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่พี่ตะวันปลุกฉัน ฉันมองไปรอบๆ ก็เห็นความสวยงามของน้ำทะเล รีสอร์ตก็สวยงามราคาที่พักมันต้องแพงมากแน่ๆ
“ลุกไหวไหม”
“พี่ตะวันจะอุ้มหนูหรือไงหนูโตแล้วนะคะ”
“แต่สำหรับพี่เรายังไม่โต”
เขาก้มลงมาพูดจนใบหน้าของเราใกล้ชิดกันมาก ใกล้จนฉันได้กลิ่นครีมบนแก้มของเขาเลย ไม่ได้นะเราไม่รู้สึกหวั่นไหวกับเขามานานแล้วจะมารู้สึกอีกไม่ได้นะจันทร์เจ้า
เดินเข้ามาในรีสอร์ตพี่ภูริก็รีบมาหาฉันและกล่าวสวัสดีพี่ตะวัน พี่ตะวันพยักหน้าให้เล็กน้อย เขาใส่แว่นกันแดดสีดำเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวมือข้างหนึ่งยืนล้วงกระเป๋า อีกข้างถือโทรศัพท์และก้มดูแชตของใครบางคน คงจะเป็นพี่ณิชาสินะ
“โอเคใช่ไหมครับน้องจันทร์เจ้า”
“คะ? อ๋อ....โอเคค่ะ” อะไรพี่ภูริถามอะไรฉันได้ฟังเลยเพราะพี่ตะวันคนเดียวที่ทำให้ฉันเสียสมาธิ
“ถ้างั้นพี่จะให้พนักงานเอากระเป๋าขึ้นไปเก็บให้นะครับ นี่เป็นคีย์การ์ดเดี๋ยวพี่ขอไปคุยกับพี่ชายเราก่อน”
“ค่ะ”
พี่ภูริเดินตรงไปคุยกับพี่ตะวันฉันเลยเดินตามพนักงานของรีสอร์ตมาที่ห้องพัก ฉันได้ห้องพักติดทะเลเป็นเตียงแยก ปกติฉันจะได้นอนกับคุณแม่แต่ตอนนี้หน้าที่ผู้จัดการกลายเป็นพี่ตะวันแล้ว คุณแม่จะได้พักได้อีกตั้งหนึ่งเดือนกว่ามหาวิทยาลัยจะเปิด พี่ตะวันก็ได้ทำงานพอดี ช่วงเวลานี้ฉันต้องรีบกอบโกยเอาไว้เยอะๆ
ติ๊ก! (เสียงแตะคีย์การ์ด)
แกร๊ก!!!
จู่ๆ ประตูห้องก็เปิดออกฉันหันไปมองก็เห็นพี่ตะวันเดินเข้ามาหรือจะมาเอากระเป๋าเพราะพนักงานยกมาให้ทั้งของฉันและของพี่ตะวัน แต่เขามีคีย์การ์ดได้ไงกัน
“พี่ตะวันเข้ามาได้ไงคะ”
“คีย์การ์ดไง” เขาโยนคีย์การ์ดลงบนโต๊ะและเดินสำรวจห้องน้ำ ห้องแต่งตัวแถมยังปิดผ้าม่านปิดไฟแล้วมองไปรอบๆ ห้อง
“อะไรของพี่ตะวันคะเนี่ยเสียบรรยากาศหมด!” ฉันบ่นอุบจนเขาเดินไปเปิดไฟเปิดผ้าม่านแล้วหันมามองหน้าฉัน
“เช็กไงว่ามันมีกล้องหรือเปล่า เวลาไปพักที่ไหนก็ช่วยเช็กดูความปลอดภัยบ้าง ถ้ามันมีกล้องซ่อนอยู่จะมีไฟดวงเล็กๆ ถ้าพลาดพลั้งมีรูปหลุดขึ้นมาจะทำยังไง!”
“ค่ะ....” สำนึกผิดไม่ทันเลยกู
“คืนนี้พี่ต้องนอนกับเราทีมงานไม่รู้ว่าเปลี่ยนผู้จัดการเลยจองห้องเดียว พี่ไปเช็กแล้วเต็มหมดทุกห้อง”
อึก! นอนด้วยกัน บ้าไปแล้ว ตึกตัก! ตึกตัก! ตึกตัก! ไอ้หัวใจบ้าแกจะเต้นแรงทำไม!