บทที่6
ผู้จัดการส่วนตัว
ผมนั่งดูสองแม่ลูกนั่งคุยกันและเลือกชุดที่ทีมงานส่งมาให้ อะไรมันจะเยอะขนาดนี้ไม่อยากจะเชื่อว่าเด็กขี้อายในวันนั้นจะกลายเป็นนางแบบในวันนี้
“คุณหนูเธอน่ารัก เก่ง เรียบร้อย ทีมงานมาถ่ายงานที่บ้านก็ต่างชื่นชมไม่ขาดปากเลยค่ะคุณหมอตะวัน”
ผมไม่ได้ออกความเห็นอะไรแต่เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้นจึงรีบหยิบมาเปิดดู ไอ้โซ่มันคงพึ่งรู้ข่าวเรื่องซินกับจันทร์เจ้ามันส่งรูปจันทร์เจ้าถ่ายแบบครีมกันแดดมาให้ผมดู บิกินี่เหรออันนี้เกินไปมาก เกินตัวจริงๆแม่ผมรับงานแบบนี้ให้เธอได้ยังไงกัน
“จันทร์เจ้าเอาสัญญามาให้พี่และตารางงานทั้งหมดด้วย”
“ค่ะ” เธอรีบลุกเข้าไปในห้องทำงานของเธอเพื่อหยิบใบสัญญาในตู้มาให้ผม ไอแพดที่มีคิวตารางงานและโทรศัพท์สำหรับรับงานถูกส่งมาให้ผม
“พี่ตะวันต้องการอะไรอีกไหมคะ คิวอาทิตย์นี้เต็มหมดแล้ว ส่วนอาทิตย์หน้ามีถ่ายแบบกับโฆษณาติดต่อมาแต่หนูยังไม่ได้ตอบตกลง”
“อืม”
ผมเปิดดูงานของอาทิตย์นี้ มีถ่ายเสื้อผ้าแฟชั่นแบรนด์วาริส ใช้เวลาถ่าย3วันเพราะคลอเลคชั่นใหม่ต้อนรับหน้าร้อนมีชุดเกือบ10แบบ
“พี่ต้องทำอะไรบ้าง ขับรถรับส่งเราเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“พี่ไม่มีใบขับขี่?” เข้าใจใช่ไหมพึ่งกลับมาเลยไม่มีใบขับขี่
“ถ้างั้นพรุ่งนี้พี่ตะวันไปทำใบขับขี่นะคะ เดี๋ยวหนูนั่งรถไปทำงานเองก็ได้ อ้ออีกเรื่องนึง เวลาลูกค้าติดต่องานมาปรึกษากันก่อนนะคะ^^”
“โอเค”
ผมต้องใช้เวลาในการทำความรู้จักกับงานของเธอเป็นวัน ไหนจะสินค้าที่ส่งมาทดลองอีก เครื่องสำอางเกรดแบบนี้ปัดทิ้งไป ชุดสปอร์ตบาร์ตัดทิ้งไป ครีมอาบน้ำตัดทิ้งไป รองเท้าส้นสูงใส่กับชุดมินิเดรสโชว์เรียวขาตัดทิ้งไป
ส่วนนี่ต้องรับไว้ถ่ายโฆษณานมตราหมีน้อยต้องใส่ชุดมาสคอตหมีน้อยสีชมพู และนี่ยาดมตราคุณหลวงต้องใส่ชุดไทยคอกระเช้ารับไว้เลยก็แล้วกัน
เฮ้อทำงานเหนื่อยจังเลย....
วันต่อมา....
ปึ้งๆๆๆๆ
เสียงทุบประตูห้องดังสนั่นไปทั้งบ้านจนคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองต้องรีบออกมาดู หนูจันทร์เจ้ายืนหน้าแดงทุบประตูห้องพี่ชายจนเจ้าของห้องเดินงัวเงียมาเปิดประตู
“มีอะไร -_-!”
“พี่ตะวันทำอะไรกับงานหนูคะ!”
“ก็รับงานให้ไงทำไม -_-!”
“พี่รับงานแบบนี้ให้หนูได้ยังไง แล้วงานใหญ่พี่ปฏิเสธหมดเลยพี่ตะวันทำไมไม่ปรึกษาหนูก่อนคะ!! >[]
“พี่เป็นผู้จัดการพี่ต้องดูความเหมาะสมสิ วันนี้พี่ต้องไปทำใบขับขี่ขอตัวก่อนดีกว่า”
ปึ้ง!
///จันทร์เจ้า///
ฉันไม่ไหวแล้วนะนี่แค่กลับมาวันเดียวก็ทำฉันเสียหายไปหลายแสน ฉันหันไปฟ้องคุณแม่กับคุณพ่อพวกท่านก็หนักใจไม่รู้ฉันคิดถูกหรือคิดผิดที่เอาพี่ตะวันมาเป็นผู้จัดการ
หลังจากที่พี่ตะวันออกไปทำใบขับขี่กับพี่โซ่ ฉันก็ออกมาหานางซิน ตอนนี้มันกำลังขำก๊ากจนฉันยากจะตีมันให้ตายไปเลย
“ไม่เหมือนพี่โซ่เลย รายนั้นนะสนับสนุนบอกให้ฉันรีบเซ็นสัญญากับค่ายที่เกาหลีไวๆ จะได้ไปให้พ้นหูพ้นตา นี่พึ่งกลับมาเองนะแก” อะไรกันทำไมพี่โซ่กับพี่ตะวันถึงได้แตกต่างกันขนาดนี้ฮะ
หลังจากที่ฉันเมาท์มอยกับนางซินเสร็จทีมงานที่ฉันนัดไว้ก็มาถึง ฉันกับพี่ภูริต้องบรีฟงานกันพี่ภูริเป็นหลานของป้าสุชาดาพวกเราจึงทำงานกันง่ายและค่อนข้างสนิทกัน
งานที่ฉันต้องถ่ายในอีกสองวันก็คือเครื่องดื่มเลมอนโซดา กว่าจะถึงวันถ่ายพี่ตะวันก็คงได้ใบขับขี่พอดี งานนี้ต้องไปถ่ายที่ทะเลบนเรือยอชต์ ฉันต้องใส่ชุดบิกินี่ให้เข้ากับงานปาร์ตี้บนเรือ
“น้องจันทร์เจ้าติดตรงไหนหรือเปล่าครับ” ภูริหันมาถามสาวน้อยที่กำลังดูบรีฟงานจากทีมงานที่พึ่งมาถึง
“ไม่ค่ะพี่ภูริ หนูโอเคแต่ว่าวันถ่ายคุณแม่คงไม่ได้ไปด้วยนะคะ ตอนนี้หนูมีผู้จัดการคนใหม่แล้วค่ะ^^”
“ใครเหรอครับ พี่รู้จักไหม”
“พี่ชายของหนูเองค่ะ เขาพึ่งกลับมาจากอเมริกาตอนนี้กำลังว่างงานอยู่ คุณแม่เลยให้มาดูแลหนูก่อน”
“อ่อ....พี่ชายเรียนจบอะไรมาครับ”
“พี่ตะวันจบศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ จากอเมริกามาค่ะ พี่โซ่พี่ชายของซินก็เรียนสาขาเดียวกัน”
“ไว้พี่ค่อยทำความรู้จักกับพี่ชายของเราก็แล้วกัน”
“ค่ะ” ฉันนั่งฟังทีมงาน บรีฟงานก็รู้สึกตื่นเต้นไม่ใช่แค่ถ่ายชุดบิกินี่นะแต่ฉันจะได้ไปเที่ยวที่เกาะกระบี่ด้วย
หลังจากที่คุยงานเสร็จนางซินก็ต้องรีบกลับไปเตรียมถ่ายงานของวันพรุ่งนี้พี่ภูริเลยมาส่งฉันเหมือนเดิม ในกลุ่มแฟนคลับของพี่ภูริมีทั้งจับฉันจิ้นกับเขาและแอนตี้หาว่าฉันไปเกาะเขาดัง แรกๆ ฉันก็รับไม่ได้หรอกแต่พี่ภูริเขาให้พลังบวกกับฉันมาก เขาแถลงข่าวต่อว่าคนที่คิดไม่ดีกับฉันแถมยังประกาศไปอีกว่าถ้ามีแฟนคลับคนไหนลุกล้ำพื้นที่ส่วนตัวของฉันเขาจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด
จากนั้นเขาก็ให้กำลังใจฉันดีมากไม่ว่าจะมีงานอะไรเขามักเสนอชื่อฉันตลอดเขาบอกอย่าไปคิดว่าเป็นเพราะเขาที่ทำให้ฉันได้งาน แต่เป็นเพราะความสามารถของฉันต่างหากที่ทำให้ลูกค้าเห็นการพัฒนาของฉัน