บทที่14
ของเราไม่มีขนหรือไง
กลับมาถึงกรุงเทพฯ จันทร์เจ้าก็เล่าเรื่องที่เธอประสบพบเจอมาให้ผู้เป็นแม่ฟัง แต่เมื่อคุณพ่อเดินลงมาก็ถึงกับโมโหที่มีคนคิดเรื่องสกปรกทำร้ายลูกสาว
“โชคดีที่พี่ตะวันจัดการให้ค่ะ”
“จัดการอะไร?” ผู้เป็นพ่อหันไปมองหน้าลูกชายทันที
“พี่ตะวันต่อยไมค์ไปค่ะคุณพ่อ ไม่มีอะไรค่ะ”
“แล้วไป”
///จันทร์เจ้า///
ฉันต้องรีบปฏิเสธเรื่องราวให้พี่ตะวัน เพราะเมื่อคืนเขาช่วยฉันผ่อนคลาย ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเลย ไม่เคยได้สำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองสักครั้งจะว่าฉันติดใจก็คงใช่
“วันนี้พี่ตะวันจะไปดูคลินิกใช่ไหมหนูขอไปด้วยนะคะ”
“อือ” เขาตอบสั้นๆ จากนั้นก็ขอตัวขึ้นไปพัก ฉันเลยตามขึ้นมาเพื่อขอบคุณเรื่องเมื่อคืน
“ไม่เห็นต้องขอบคุณเลย” เขาตอบโดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าฉัน
“ไม่ได้ค่ะ พี่ตะวันหนูอายจังเลยพี่เห็นนุ่มนิ่มของหนูไหมคะ”
“เป็นสาวเป็นนางมาถามแบบนี้ได้ไงจันทร์เจ้า พี่ไม่เห็นหรอกพี่หลับตาแล้วก็หันไปทางอื่น”
“แล้วนมหนูล่ะพี่เห็นไหม”
“เอ่อ...คือ...” จะบอกว่าไม่เห็นมันก็ดูโกหกถ้าตอบว่าเห็นเธอจะโกรธไหม
“ไม่เป็นไรค่ะตอนเด็กๆ เราแก้ผ้าอาบน้ำด้วยกันบ่อยจะตายหนูไม่ถือ แต่ขอบคุณมากนะคะ”
“อื้ออ ไปได้แล้วพี่จะนอนเดี๋ยวเย็นๆ ไปเรียก”
“ค่ะ^^”
ทำไมหัวใจฉันมันเต้นแปลกๆนะ กลับมาถึงห้องฉันก็รีบเอาหมอนปิดหน้าแล้วกรี๊ดออกมา ฉันเป็นสาวเต็มตัวแล้วนะ เป็นสาวที่ถูกผู้ชายจับน้องนุ่มนิ่มแล้ว
ถึงเวลาที่พี่ตะวันต้องพาฉันมาดูคลินิกตอนนี้นางซินกับพี่โซ่ก็รออยู่ เครื่องมือแพทย์ทันสมัยถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปโดยมีลุงเซนและคุณพ่อคอยดูแลทุกการเคลื่อนย้าย
“แบบนี้พี่ตะวันกับพี่โซ่ต้องอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยไหมคะ”
“ก็สลับกันไปถ้าใครว่างก็มาอยู่ที่นี่ ว่างตรงกันก็มาเพราะพ่อกับลุงทำคลินิกนี้เป็นเครือของโรงพยาบาลเรา”
ฉันฟังที่ลุงเซนพูดพี่ตะวันก็เผลอลูบหัวฉัน เดี๋ยวนะหัวใจฉันมันสั่นอีกแล้ว ตึกๆๆๆ โอ๊ยตายหยุดเดี๋ยวนี้
“ถ้าเป็นไปได้ช่วยเอาพี่โซ่มาอยู่ที่นี่ตลอดไปเลยก็ได้ไม่ต้องให้กลับบ้านหรอก น่าเบื่อ!”
“ก็รีบๆ ไปเกาหลีสักทีสิ เบื่อเหมือนกันมีน้องปากเสีย”
ฉันกับพี่ตะวันส่ายหัวให้ทั้งสองคน มีสักนาทีไหมที่จะไม่ทะเลาะกัน พี่ตะวันพาฉันเข้ามาดูด้านในที่ตกแต่งโทนสีครีมมีกรอบรูปของพี่ตะวันตั้งอยู่ คุณพ่อใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ
“ชอบไหม”
“ถามหนูเหรอคะ”
“อือ”
“ชอบค่ะห้องสวย คลินิกก็หรูมาก”
“หมายถึงพี่”
“ฮะ? อะไรนะคะ”
“เปล่าๆ พี่ก็ชอบคลินิกเหมือนกัน”
///ตะวัน///
อะไรวะผมเป็นอะไรทำไมจิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย ผมรีบเดินขึ้นไปดูชั้นสองที่มีห้องนอน2ห้องนอนคือห้องของไอ้โซ่กับผม ผมเป็นคนขอร้องให้พ่อทำเองเผื่อมีเคสดึกจะได้ไม่ต้องกลับบ้าน
“ที่นอนน่านอนจังแบบนี้หนูก็มานอนกับพี่ตะวันได้ใช่ไหมคะ”
“ได้ แต่จะมานอนกับพี่ทำไมไม่กลัวเหรอ”
“ตึกใหม่ไม่น่ามีผีนะคะ”
ครับ ผมก็คงหมายถึงผีนั่นแหละ เช็กความเรียบร้อยเสร็จผมก็พาเธอมาเลี้ยงอาหารทะเลที่ร้านอาหาร เพราะตอนไปถ่ายงานที่เกาะกระบี่เธอแทบไม่ได้กินของพวกนี้เลย ต้องถ่ายชุดบิกินี่กลัวว่าพุงจะออก แต่เธอมีเวลาพักสองวันวันนี้เลยอ้อนให้ผมจัดหนักจัดเต็ม ซึ่งผมพร้อมจัดมากนะ
“หูยยย น่ากลัวมีขนด้วยค่ะ”
“ทำท่าซะ ทำไมของเรามันไม่มีขนหรือยังไง”
“ใช่ค่ะ ของหนูมันไม่มีขน แต่ของพี่ตะวันขนเต็มเลย”
“รู้ได้ไงว่าพี่มีขนเต็มเลยเคยเห็นเหรอ?”
“ก็นั่นไงหอยในจานของพี่ตะวันมันเป็นหอยครางเลยมีขนอุยๆ แต่ของหนูมันตัวเล็กจิ๋วเขาเรียกว่าหอยแครงค่ะ”
รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลยกู....
“ซี๊ดดด เผ็ดอะ”
“เบาๆ หน่อย จำเป็นต้องซี๊ดขนาดนั้นเลยหรือไง” รู้ไหมว่าคนฟังมันจินตนาการไปไกลแล้ว ผมนั่งแกะกุ้ง หอย ปู ปลาให้เธอจนตัวผมแทบไม่ได้กินอะไรเลย ยิ่งเธอร้องซี๊ดอยู่ข้างๆหู ผมยิ่งอยากจะเข้าไปสั่งน้ำจิ้มซีฟู้ดส์ใส่พริกยกสวนให้เธอเลย
“อ่า~~ ซี๊ดด”
“โอ๊ย~ จันทร์เจ้ามันเผ็ดขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ค่ะเผ็ดมากพี่ตะวันไม่ชอบเหรอคะ ทำไมไม่ทานเลย”
“พี่เห็นเรามีความสุขกับของกินพี่ก็อิ่มแล้ว ว่าแต่งานเดินแบบให้แบรนด์วาริสพร้อมไหม”
“พร้อมมากค่ะ พี่ตินใจดีมาก”
“ใคร!”
“พี่ตะวันจะเสียงดังทำไมคะ ไม่น่ารักเลย พี่ตินเป็นลูกชายของคุณวาริสค่ะ หล่อมากจบนอกมาด้วยลูกพี่ลูกน้องของพี่ตินก็เป็นดารานะคะ พี่วันใหม่ที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ไงคะ”
ผมไม่ตอบแต่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาค้นหาข้อมูลของไอ้คนชื่อติน ไม่เห็นจะหล่อเลยผมหล่อกว่าตั้งเยอะ แต่ทำไมมันมีภาพคู่กับจันทร์เจ้าเยอะจังวะ เป็นFCเหรอ
“รีบกินพี่อยากกลับบ้านแล้ว!”
“อะไรของยังมาไม่ครบเลย พี่ตะวันเป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
ผมไม่ตอบแต่คว่ำโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ หงุดหงิดจู่ๆ ก็อยากโมโห แต่พอเห็นแววตาที่มองมาผมก็ใจอ่อนทุกที
“มาพี่แกะให้เดี๋ยวมือเปื้อน”
“น่ารักจังเลย แบบนี้หนูรักตายเลย”
“หึ ทำเป็นพูดรักให้จริงเถอะ”