บทที่15
ทวงถามเรื่องหมั้นหมาย
กลับมาบ้านฉันก็ขอตัวขึ้นมาพักปล่อยให้พี่ตะวันอยู่คุยเรื่องคลินิกกับคุณพ่อคุณแม่ไป ฉันยังต้องทำหน้าที่ลงรูปสวยๆ เพื่อเรียกยอดไลค์จากแฟนคลับ แต่คนที่มากดหัวใจให้ฉันคนแรกกับเป็นพี่ตะวัน ฉันเลยกดเข้าไปดูเฟซบุ๊กของพี่ตะวัน เขาลงรูปฉันตอนถ่ายงานที่กระบี่ พร้อมแคปชั่นที่ชวนฉันคิดไปไกล
‘กลับมาดูแลแล้วตามสัญญาแล้วนะ (อิโมจิรูปหมูกับรูปหัวใจ) ’
จากนั้นก็มีคอมเมนต์จากเพื่อนๆ ของพี่ตะวันแถมยังมีคำถามว่าฉันเป็นแฟนของพี่ตะวันใช่ไหม พี่ตะวันไม่ได้ตอบใครนอกจากกดหัวใจให้ทุกคอมเมนต์
ตัดไปที่เฟซบุ๊กของพี่ณิชาเขาเช็กอินอยู่โรงพยาบาลปิติภัทรไพศาลพร้อมแคปชั่น ‘ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ’ หรือว่าพี่ณิชาจะมาทำงานอยู่ที่นี่ แบบนี้ก็ต้องเจอกับพี่ตะวันน่ะสิ
วันต่อมา
ฉันเดินลงมาจากบ้านก็เจอแต่ป้าอ้อยกำลังเตรียมตัวไปจ่ายตลาด ส่วนคุณแม่ไปวัดคุณพ่อป่านนี้คงไปโรงพยาบาลแล้ว พี่ตะวันคงยังไม่ตื่น
“วันนี้บ้านคุณกานดาจะมาทานข้าวด้วยนะคะ”
“ค่ะ ทำเมนูอะไรคะป้าอ้อยเดี๋ยวหนูจะช่วยเอง”
“แกงเขียวหวานไก่ ต้มมะระยัดไส้ ฉู่ฉี่ปลาทับทิมค่ะ ของโปรดคุณหมอตะวันกับคุณหมอโซ่”
“นั่นสิงั้นเดี๋ยวหนูเตรียมตัวเข้าครัวรอป้าดีกว่าค่ะ”
“ได้เลย งั้นป้าไปก่อนนะคะอยากทานอะไรก็โทรหาป้าได้เลย ป้ามีไลน์เป็นของตัวเองแล้วนะคะคิกๆๆ”
ป้าอ้อยป้องปากหัวเราะชอบใจจากนั้นก็รีบออกไปจ่ายตลาด ส่วนฉันก็เตรียมเอาผักที่แม่ครัวเตรียมไว้ล้างให้สะอาด จนทุกคนค่อยๆ เดินออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง
อีกด้านหมอตะวันเดินลงมาก็เห็นเด็กตัวแสบกำลังช่วยแม่ครัวล้างผักอยู่จึงเดินไปยืนกอดอกมองเธอหยิบจับทุกอย่าง เธอชอบทำอาหาร และฝีมือเธอก็ไม่ธรรมดา ใครได้ชิมก็ติดใจกันทั้งนั้น แต่ความรู้สึกลึกๆ หมอตะวันกลับหวงทุกอย่างที่เป็นเธอ
“ทำอะไร” น้ำเสียงที่ดังมาจากด้านหลังพาให้จันทร์เจ้าตกใจจนผักที่กำลังหยิบใส่หม้อร่วงลงไปในน้ำร้อน ทำให้น้ำกระเด็นขึ้นมาโดนแขนของเธอเต็มๆ
“ว้าย!!!”
“เฮ้ย!!”
ฉันถูกพี่ตะวันพามานั่งข้างนอกจากนั้นแม่บ้านก็รีบไปหยิบยาทากันแผลพุพองมาให้ โชคดีที่ฉันใส่เสื้อแขนยาวมันเลยพอช่วยได้ ผิวหนังแค่เป็นวงแดงๆ ไม่ได้พุพอง
“พี่ขอโทษ เจ็บมากไหมครับ”
“ไม่ค่ะ ไม่เจ็บแล้วทำไมจู่ๆ ถึงพูดเพราะจังเลยคะ”
“ไม่ชอบหรือไง”
“ก็ชอบ....”
“ชอบอะไร ชอบที่พี่พูดเพราะหรือว่าชอบ.....พี่”
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก นี่คือเสียงหัวใจของฉันเองประโยคที่พี่ตะวันถามมันพาให้หัวใจของฉันเต้นดึ๊กดึ๋ยจนอยากจะชักกระตุก เขาถามแบบนี้หรือว่าเขาจะชอบฉัน หรือว่าพี่ตะวันแค่แกล้ง
“พะ พี่ตะวันถามอะไรแบบนี้คะ”
“หรือว่าเราไม่ชอบ”
ฉันเงยหน้ามองเขาทันที ทำไมจะไม่ชอบ ชอบมานานชอบมาตั้งแต่เด็กแล้วปะ ไอ้พี่ตะวันบ้า! ตัวเองมีแฟนฉันก็ต้องถอยอยู่แล้วไหม พูดมาได้ของแบบนี้มันเลิกชอบกันง่ายๆ ที่ไหนล่ะ
ไม่มีคำตอบจากปากฉันแต่พี่ตะวันกลับอมยิ้มและหันไปมองสวนดอกไม้ งานในครัวป้าอ้อยกลับมาจัดการเองหมด ฉันทำน้ำพริกกะปิของโปรดลุงเซนกับป้ากานดาไว้แล้ว จนทุกคนเดินทางมาถึงนางซินก็รีบมาหาฉันพร้อมอวดกระเป๋าใบใหม่แต่พี่โซ่ก็เหมือนเดิมทำน้ำหกใส่จนได้ตีกับนางซินอีกรอบ
“แขนไปโดนอะไรมาลูก” แม่ฉันรีบจับดูจนเห็นรอยแดงและยาที่วางอยู่บนโต๊ะ
“หนูซุ่มซ่ามเองค่ะแม่ พี่ตะวันทายาให้แล้วเดี๋ยวก็คงดีขึ้น”
“ไหนพี่ขอดูหน่อย” โซ่รีบเดินเข้ามาแต่ก็ถูกขาของตะวันสกัดเอาไว้ ทำให้ร่างใหญ่แทบจะล้มคะมำไปกับพื้นโชคดีที่ชายหนุ่มคว้าเก้าอี้ไว้ทันไม่งั้นคงได้เลือดตกยางออก
“มึงเล่นอะไรเนี่ย!”
“อะไรของมึงที่ตั้งกว้างมาเดินใกล้ตีนกูทำไมล่ะ”
“ประสาท!”
“หนูไม่เป็นอะไรแล้วค่ะพี่โซ่ นี่ไงหายแล้วค่ะ” ฉันโชว์รอยแดงให้พี่โซ่ดูแต่คนนั่งข้างๆ กับลอยหน้าลอยตาไม่รู้ไม่ชี้
“ไอ้ตะวันมันแกล้งเราใช่ไหมจันทร์เจ้า”
“กูไม่ได้มีนิสัยแบบมึง”
“เอาๆ พอแล้วโตๆ กันแล้วนะ ที่ป้ากับลุงเซนมาวันนี้ผ้าอยากจะมาคุยเรื่องอนาคตของเจ้าโซ่กับหนูจันทร์เจ้า ตะวันโอเคไหม”
กานดาผู้เป็นแม่ของหมอโซ่เอ่ยถามแต่ดูเหมือนว่าจันทร์เจ้ากับตะวันจะตกใจจนหันไปมองหน้ากัน เธอเม้มปากพูดอะไรไม่ออกจนตะวันต้องยืดตัวขึ้นแล้วมองหน้าน้องสาว
“ผมไม่โอเคครับ ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คงเป็นเพราะน้องผมยังเด็ก เรื่องการหมั้นเอาไว้ก่อนดีกว่าอีกอย่างทุกวันนี้ไอ้โซ่ก็ยังแรดออกจากบ้านทุกคืน” ผมหันไปมองหน้าเอ๋อๆ ของมัน
“ใช่ค่ะหนูเห็นด้วย พี่โซ่มั่วจะตายทุกวันนี้หมดเงินค่าถุงยางมากกว่าค่าข้าวอีก” ซินออกความคิดเห็นจนพ่อแม่ของเธอรีบข่มอารมณ์เอาไว้ในอก
“เรื่องนี้หนูจันทร์เจ้าโอเคไหมลูก เรื่องนิสัยและสันดานของพี่โซ่ป้าจะจัดการให้”
“ไปเลิกกับผู้หญิง116คนของมันก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน ใหม่ดีกว่าครับ”
เมื่อตะวันพูดตัดบททุกคนก็เปลี่ยนเรื่องคุยทันที แต่หมอโซ่กับสังเกตอาการของเพื่อนที่ดูหวงแหนน้องจนเกินงามแถมยังชอบมองเวลาน้องสาวเดินเข้าเดินออกจากครัวด้วย นี่สิที่เขาว่าสายตามันหลอกกันไม่ได้