ไหนแฟนเธอ

2725 คำ
ผมหันกลับมามองยัยตัวแสบที่ตอนนี้หน้าแดงๆแล็วก็เหมือนจะโกรธหน่อยๆเลยใช้แขนพาดไปที่คอก่อนจะรั้งให้เข้ามาหาพร้อมกับใช้แขนอีกข้างรัดที่เอวของยัยตัวแสบไว้แน่นๆและหอมแก้มอีกข้างหนึ่งแรงๆ อือหื้อ แล้วกลิ่นตัวแม่งหอมมากหอมแบบหวานๆอะ ฟอดดดด!!! “อือ ปล่อย!!” ฉันบอกคนตัวสูงก่อนจะดิ้นแล้วใช้มือยกขึ้นเพื่อตบหน้าเขาก่อนจะได้ยินเสียงคนตัวสูงพูดขึ้นมา “ถ้าตบหน้าจะไม่ได้หยุดแค่หอมนะ เตือนไว้ก่อน” ผมปล่อยยัยตัวแสบออกแล้วหลังจากนั้นยัยนี่ก็ใช้เท้าเหยียบที่เท้าผมแรงๆก่อนจะถือกระเป๋าแล้วก็ซองเอกสารเดินออกจากห้องไปผมเลยเท้าเอวมองก่อนจะพูดกับตัวเองเบาๆ “หึ แม่งทรงนี้ไม่รู้ว่าใครจะอายุมากกว่าเลย” “นี่กูจะอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่วะสภาพนี้อะ งื้ออ” ฉันเดินออกมาจากห้องพร้อมกับใช้มือถูที่แก้มตัวเองแรงๆก่อนจะรวมรวบสติแล้วเดินมาที่ห้องทวิภาคีในระหว่างที่เดินมาก็มีเด็ก ๆ ทักเลยยิ้มพร้อมกับทักทายกลับไป “ไอ้โย นานจัด แล้วมึงทำอะไรอาจารย์วะเดินออกมาหน้าโกรธๆ” “เออ แล้วแดกข้าวไหมครับ” “หึ เออไป กูเลี้ยงข้าวพวกมึง 5 คนเอง” “อือหื้อ พ่อพระของกลุ่ม” ฉันเปิดตารางสอนที่อาจารย์แม่ส่งมาให้แล้วก็มาดูวิชาที่ตัวเองต้องสอน อ๋อ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์แทนอาจารย์คนเก่าที่ออกไปด้วย “อืม ดีนะทำแผนการสอนมาแล้ว” ฉันเดินลงมากินข้าวที่ศูนย์อาหารเพราะวันนี้มีสอนตอน 13.00-16.00 น. ห้อง ชคก.1/1 (ย่อมาจากประกาศนียบัตรวิชาชีพสาขาคอมพิวเตอร์กราฟิก) พอมาถึงศูนย์อาหารเท่านั้นแหละแทบจะเดินออกเพราะเห็นไอ้บ้านั่นกับเพื่อนเขาแต่เด็กผู้หญิงในห้องที่เป็นที่ปรึกษาเดินมาจับแขนฉันไว้พอดี “พี่มิ้ม มากินข้าวเหรอคะ” “จ่ะ” “มาค่ะงั้นพวกพริกพาทัวร์เอง” “หึหึ ขอบใจจ้า แล้วยังไม่กลับบ้านกันเหรอ” “ไม่ค่ะ เหงา” “หื้อ หึหึ” ผมมองยัยตัวแสบที่ตอนนี้ถูกไอ้พริกแล้วก็ไอ้แปมลากมา หึ สงสัยต้องเลี้ยงเหล้าไอ้สองคนนี้เยอะ ๆ ละ ฉันเดินมาหยุดที่ร้านอาหารตามสั่งก่อนจะสั่งสุกี้ทะเลแห้งแล้วก็ได้ยินเสียงเด็กตรงหน้าพูดขึ้นมา “พี่มิ้มงั้นเดี๋ยวพริกมาหานะ ฝากซื้อน้ำไหมคะ” “อ๋อ ไม่เป็นไรพี่เกรงใจ” “อื้อ เกรงใจอะไรของแค่นี้” ฉันหยิบเงินให้เด็กน้อยสองคนไป 100 บาท พร้อมกับลูบหัวเบาๆ “งั้นพี่เลี้ยงนะ” “งื้อออ น่ารักจนอยากจะกลืนลงท้องเดี๋ยวแปมกับพริกรีบกลับมานะคะ” “จ้าๆ” “เดี๋ยวกูมา” “อ้าวแล้วมึงจะไปไหนสัสโย” ผมยิ้มมุมปากก่อนจะกอดอกแล้วบอกพวกมันไป “ไปร้านอาหารตามสั่ง” “สัสเอ๊ย กูคิดว่าแฟนกัน” “เออ แสดงจุดยืนชัดสัส” ฉันยืนรอข้าวอยู่พร้อมกับเล่นโทรศัพท์ไปด้วยสักพักก็สะดุ้งขึ้นมาเบาๆหลังจากได้ยินเสียงดังมาจากข้างหลัง “กินอะไร” “อุ้ย ขยับออกไป” ผมกอดอกก่อนจะยืนอยู่ที่หลังของยัยตัวแสบก่อนจะเห็นว่ายัยนี่เหมือนจะดูเสื้อผ้าหรืออะไรอยู่นี่แหละเลยถามออกไปอีกรอบ “ถามว่ากินอะไร” “เรื่องของฉัน ฉันเอาปากนายเคี้ยวเหรอ” “แล้วอยากใช้ปากฉันไหมละ” “ฉันบอกให้นายขยับออกไปคนอื่นมองมามันดูไม่ดี กรุณาให้เกียรติฉันด้วย” ฉันบอกคนตัวสูงออกไปด้วยหน้าตาจริงจังเพราะถ้าคนอื่นมองมาก็เอาไปพูดกันถึงไหนต่อไหนแล้วอีกอย่างสมัยนี้คือลงโซเซียลก็แทบจะไม่มีที่ยืนแล้วนะ พอบอกเขาออกไปด้วยหน้าตาจริงจังเขาก็ขยับออกนิดหนึ่งแล้วก็ไม่รู้ว่าไอ้นี่อยากจะแกล้งอะไรฉันหนักหนา “แล้วเธอมีแฟนแล้วเหรอ” “ใช่” “หึ ไหนแฟนเธอ” ผมถามยัยตัวแสบที่อยู่ข้างหน้าเพราะรู้ว่ายังไงยัยนี่ก็โกหก “แฟนฉันก็คือแฟนฉันนายยุ่งอะไรด้วย” ฉันถอนหายใจก่อนจะหันมามองคนตัวสูงแล้วก็เห็นเขาหัวเราะเบาๆออกมาแล้วถามฉันขึ้นมาอีกรอบ “แล้วทำไมสถานะเธอโสดในเฟส” “ฉันเพิ่งคบกันเลยยังไม่ได้ขึ้นสถานะ” “อย่าโกหกเอาเรื่องจริง” ผมถามยัยตัวแสบออกไปด้วยหน้าตาและน้ำเสียงที่จริงจังก่อนยัยนี่จะตอบกลับมา “เออ ฉันโสดพอใจแล้วก็ไปซะ” “อืม งั้นฉันจีบเธอ ชัดนะ” ฉันหันมามองเขาอย่างงงๆก่อนจะรีบส่ายหัวแล้วตอบกลับไป “ไม่ นายไปจีบคนอื่นเถอะฉันไม่ชอบคนอายุน้อยกว่า” “หึ ฉันน้อยกว่าเธอแค่สองปีอะนะ ดูจากท่าทางฉันเหมือนจะโตกว่าเธอเยอะ” “นี่” “ได้แล้วค่ะอาจารย์สุกี้แห้ง” ฉันที่กำลังเถียงกับเขาอยู่ก็หันกลับมาก่อนจะหยิบเงินส่งให้เจ้าของร้านแล้วกำลังจะเดินไปหาโต๊ะนั่งแต่ถูกคนตัวสูงดึงแขนมาพร้อมกับดึงจานในมือฉันไปถือ “นี่ ปล่อย” “นั่ง” ผมดึงยัยตัวแสบมาที่โต๊ะที่อยู่ถัดจากที่ผมนั่งกินอยู่ก่อนจะหันไปบอกไอ้พลัส “สัสพลัส มึงเอาจานข้าวกูมาให้หน่อย กูจะนั่งกินข้าวกับแฟน” “ห๊ะ!! เออๆ อะๆ” “ทำไมนายมึนแบบนี้ห๊ะ ฉันพูดอะไรไปไม่เข้าใจเหรอ” “ไม่ นั่งกินข้าวอย่าให้ต้องบังคับ ถ้ายังไม่นั่งฉันจะจับเธอมานั่งตักแล้วถ้ากลัวดูไม่ดีก็ลาออกซะฉันมีเงินดูแลเธอได้” ฉันถอนหายใจก่อนจะเท้าเอวมองคนตัวสูงที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนจะเม้มปากเข้าหากัน นี่ฉันกำลังจะเจอกับอะไรวะ แล้วถ้าไม่นั่งแล้วไอ้บ้านี่ทำจริงขึ้นมาก็ดังอีกเอาวะยังไงก็เจอกันแค่วันนี้แหละ ฉันนั่งลงก่อนจะเริ่มกินโดยที่ไม่สนใจคนตัวสูง แล้วดูที่นายนี่ทำ “งื้ออ นายไอ้บ้า เอาของฉันคืนมา” ผมใช้ส้อมจิ้มกุ้งในจานของยัยตัวแสบมา หึ ไม่สนใจเหรอมันต้องแบบนี้แหละ “หึ มีวิญญาณแล้วเหรอ อะเอาคืนไป” ฉันใช้ช้อนดึงกุ้งลงมาแล้วถ้ามันมีเยอะก็ไม่โวยวายหรอกอันนี้ทั้งจานมีตัวเดียวฉันมองไปที่จานของเขามันเป็นกะเพราหมูกรอบแล้วก็มีไข่ดาวที่ไม่สุกเลยใช้ส้อมจิ้มที่ไข่แดงให้มันแตกสองสามทีก่อนจะหันมานั่งกินของตัวเองต่อ “หึ นี่อะนะโตแล้ว” “พี่มิ้ม อ่าวไอ้โยมึงนั่งนี่เหรอ” “เออ จะทำไมกู กูนั่งกับแฟนกูแปลกตรงไหน” “ห๊ะ!! เชี้ยโยกับพี่มิ้ม คือคบกันมาก่อนเหรอ” ผมหัวเราะออกมาหลังไอ้แปมถามออกมาเสียงเบาๆเพราะกลัวคนอื่นได้ยิน “ไม่ใช่นะ เพื่อนเราอะบ้า” “ไม่บ้า พูดจริง” “กูว่าแล้วปกติไม่นั่งหน้าวันนี้แฟนมาเลยนั่งหน้าเชี้ยโยเอ๊ย” “เออ แล้วปกตินี่หายหัวไปแล้วนะกูว่าละว่าน้ำแม่งจะท่วมวิทลัย” ฉันพยายามจะอธิบายแต่ทุกคนก็คือเหมือนเป็นเรื่องจริงไปแล้วเลยหันมากินข้าวต่อแล้วจะได้รีบไป “ดีแล้วค่ะพี่มิ้ม ไอ้โยมันรวยเอาเงินมันให้หมด” “เออ จริง เฮ้ย อิหวานมึงไปไหนอะ” “กลับบ้านคืนนี้ไปตี้” “สัสเอ๊ย เจอกันที่เดิม พี่มิ้มสนใจไหมผับแถววิทลัยไม่ไกลหรอก” “อิแปม หยุดซะมึงอะ” “เออ กูลืม ถ้าสนใจบอกพวกหนูได้นะ” ฉันกินข้าวเสร็จก็เดินกลับมาที่ตึกแล้วก็หาซื้อขนมมาติดไว้จะว่าไปยังไม่ได้ไปดูโต๊ะตัวเองเลย แล้วสิ่งที่น่าปวดหัวกว่าคือ “สอนถึงกี่โมง” ผมเดินถามยัยตัวแสบมาก่อนจะถามออกไปเพราะไม่รู้ว่ายัยนี่สอนถึงกี่โมงเดี๋ยวจะต้องเอาตารางไว้ละ “นี่ นายจะเอายังไง” ฉันหันมาพร้อมกับเท้าเอวและถามคนตัวสูงออกไปเพราะตอนนี้มันก็ไม่ค่อยมีใครเดินไปเดินมาเพราะเป็นเวลาเรียนเลยถามออกไปแบบจริงจัง “ก็ไม่เอาไง ฉันบอกฉันจีบเธอ เธอก็เป็นแฟนฉัน เราสองคนเป็นแฟนกัน อะ” ผมบอกยัยตัวแสบตรงหน้าออกไปพร้อมกับตักข้าวโพดอบเนยแล้วยัดไปที่ปากของคนตรงหน้า “งื้ออ นาย” ฉันดันมือเขาออกก่อนตัวสูงจะใช้นิ้วเช็ดปากให้พร้อมกับหัวเราะออกมาเบาๆ “หึหึ ก็มันอร่อยเลยอยากให้ชิม” “งั้นนายกลับบ้านไปค่อยไปคุยกันที่นู่นฉันจะไปสอน” “ก็ไปสิ ฉันก็ไปด้วยนั่งด้วยกันได้อยู่ละน้องห้องไหนก็รู้จักหมด” ผมเดินตามยัยตัวแสบขึ้นมาบนห้องก็เห็นว่าเป็นห้องน้อง ปวช.ปีหนึ่ง พอเข้ามาเด็กๆในก็ทักยัยตัวแสบ “ครูมิ้ม” “หึหึ สวัสดีค่ะ นั่งก่อนเนาะครูขอสอนแป๊บหนึ่ง” “ค่ะ เฮ้ยไอ้เบสมึงปิดเพลงก่อน” “เออๆ กำลังปิด อ้าวพี่โย” “หึ นั่งด้วยนะ” “ยินดีจ้า” ฉันเดินเอาของมาวางที่โต๊ะพร้อมกับกดเปิดคอมและหันมาบอกเด็กๆก่อนจะหันมาบอกคนตัวสูงที่เอาเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ “เดินไปเปิดไฟสิ” “ห๊ะ” ผมมองยัยตัวแสบที่ตอนนี้ใช้ผมเดินไปเปิดไฟแล้วหนึ่งแล้วถามว่าลุกไหมก็ต้องลุกดิครับ “ปิดข้างหน้า เปิดข้างหลังให้หมด” ฉันบอกคนตัวสูง ฮึ เดี๋ยวจะใช้ให้ขาลากเลยเดี๋ยว พอบอกเขาเสร็จก็หันมาบอกเด็กๆ “นั่งประจำที่แล้วก็เปิดคอมเลยนะคะ ใช้ได้ทุกเครื่องใช่ไหม” “ได้ค่ะ” ฉันกดเปิดหน้าพาวเวอร์พ้อยที่ทำตารางการให้คะแนนไว้และเริ่มอธิบายรายวิชา “ค่ะ ระหว่างที่เรารอคอมอาจารย์ขออธิบายรายวิชาก่อนนะคะ ใครจะถ่ายรูปถ่ายไว้นะคะ การให้คะแนนก็คือมาเรียน 10 คะแนน คะแนนงาน 60 คะแนน แล้วคะแนนสอบ 30 คะแนน ตรงนี้สำคัญครูเลยจะถามเราว่าเราจะสอบแบบอัตนัยหรือปรนัยคะ ปรึกษากันได้หลังจบคาบเรียนอาจารย์จะถามจะได้เข้าใจตรงกัน ส่วนในการขาดเรียนของอาจารย์ขาดได้ 4 ครั้งคือสูงสุด สายสามครั้งเท่ากับขาดหนึ่งครั้งนะคะ ใครที่มีเหตุจำเป็นมาบอกอาจารย์ได้และอาจารย์จะสร้างกลุ่มไลน์สำหรับวิชานี้ใครจะลาไปไหนสามารถบอกมาในกลุ่มได้เลยนะคะ” “ค่ะ” ผมมองยัยตัวแสบตรงหน้าที่ไม่บอกก็ไม่อยากจะเชื่อนะเพราะดูสอนแบบเหมือนเคยสอนมาแล้วทั้งๆที่เพิ่งจะเริ่มทำงาน “อะ โอเค วิชานี้เราจะใช้โปรแกรม อิลลัสเตรเตอร์ (Ai) กดเปิดโปรแกรมได้เลยค่ะ แล้วแต่ละรายชั่วโมงอาจารย์จะทำชีทมาแจกนะคะเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาจดเดี๋ยวของวันนี้อาจารย์จะเอามาให้ย้อนหลัง แล้วชีทเก็บไว้นะคะมีค่าตอนสอบ” “ค่ะอาจารย์” “อะ โปรแกรมมาแล้วเรากด Ctrl+N ค่ะ เพื่อที่จะสร้างขนาดอาร์ตบอร์ดหรือขนาดหน้ากระดาษของงานนะคะ แล้วมีอีกหนึ่งวิธีคือไปที่ File แล้ว เราจะเห็น คำว่า New สามารถทำได้สองวิธีนะคะแต่อาจารย์แนะนำวิธีแรกแล้วทุกครั้งของการทำงานเราเพิ่มลดแก้ไขตรงไหน อาจารย์แนะนำให้ กด Ctrl+S ไปจนกว่างานจะเสร็จนะคะไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนเสียน้ำตา” “หึหึ” ฉันหันไปบอกเด็กๆในห้องทุกคนก็พากันหัวเราะออกมา “อะ การสร้างภาพหรือออกแบบงานในโปรแกรมนี้จะเรียกว่าเป็นภาพแบบเวคเตอร์ ใครรู้บ้างว่าคืออะไร” “เป็นภาพที่ย่อขยายแล้วไม่แตกค่ะ” “ใช่ค่ะ แต่อาจารย์ขออธิบายในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมนะคะ ภาพแบบเวคเตอร์ เป็นภาพที่สร้างด้วยส่วนประกอบของเส้นในลักษณะต่าง ๆ และคุณสมบัติเกี่ยวกับสีของเส้นนั้น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้สร้างจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น รูปของกล่องนมก็จะมีเส้นต่างๆที่นำมาต่อกันจนเป็นรูปร่างทำให้เวลาเราย่อหรือขยายไปแค่ไหนเส้นก็จะไม่แตกซึ่งจะต่างจากภาพภาพแบบบิทแมพ หรือเราอาจจะเรียกว่าภาพแบบราสเตอร์ (Raster) ก็ได้เหมือนกันนะคะ ซึ่งภาพบิทแมพเป็นภาพที่เกิดจากจุดสีที่เรียกว่าพิกเซล (pixels) ซึ่งเรียกต่อกันเป็นรูปร่างบนพื้นที่ ที่จะมีลักษณะเป็นตาราง (กริด) แต่ละพิกเซลจะมีค่าของตำแหน่งและค่าสีของตัวเอง ภาพหนึ่งภาพจะประกอบด้วยพิกเซลหลาย ๆ พิกเซลรวมกัน และแน่นอนว่าถ้าเราขยายไปใกล้เท่าไหร่เราจะเห็นเป็นพิกเซลที่เรียงต่อๆกัน อันนั้นคือตัวอย่างนะคะ” ฉันสอนเด็กๆใช้เครื่องมือไปด้วยอย่างช้าๆเพราะบางคนตามไม่ทันเลยค่อยๆไปแล้วก็เดินดูไปด้วยพอทุกคนเริ่มจะเข้าใจเครื่องมือแล้วก็สั่งงานนักเรียน “อะทุกคนคะ งานชิ้นแรกนะคะ ให้ทุกคนหาตัวการ์ตูนหนึ่งตัวที่ทุกคนชอบจากนั้นนำมาดราฟและลงสีให้เหมือนต้นฉบับ อ๋อ แล้ววิชาของอาจารย์อาจารย์จะทำช่องส่งงานไว้ในโฟลเดอร์ทางเมลนะคะ อาจารย์จะแชร์โฟลเดอร์และเพิ่มเมลพวกเราเข้าไปเพราะถ้าเก็บไว้ในงานหายแน่ๆ หรือจะเอาทางคลาสรูมดี” “คลาสรูมค่ะ” “โอเค งั้นเดี๋ยวอาจารย์สร้างคลาสแล้วทุกคนก็เอางานอัพไว้นะคะวันนี้ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นถ้าใครเสร็จจะส่งเลยก็เรียกอาจารย์ได้เลยค่ะเหลือเวลาอีกสองชั่วโมงถ้าไม่เสร็จให้ส่งสัปดาห์หน้าได้แต่ต้องเอาให้ได้มากที่สุดนะคะ ใครมีอะไรติดขัดตรงไหนเรียกอาจารย์ได้ตลอดนะคะ” “ค่ะอาจารย์/ครับอาจารย์” “งั้นทำงานได้ค่ะ ใครจะเปิดเพลง ใครจะไปเข้าห้องน้ำ ใครจะไปซื้อน้ำอาจารย์อนุญาตนะคะแต่ไม่ออกข้างนอก แล้วรีบกลับมาทำงานกันนะคะที่รัก โอเค้” “โอเคค่ะ อาจารย์ใจดีมากๆ พวกหนูขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำนะคะแล้วจะรีบกลับมาทำงานค่ะ” เด็กตัวน้อยๆมากอดที่เอวฉันไว้พร้อมกับขอไปเข้าห้องน้ำฉันเลยยิ้มพร้อมกับใช้มือลูบที่หัวเบาๆ “หึหึ จ้า” ฉันเดินมาที่โต๊ะทำงานก่อนจะหยิบใบรายชื่อที่ไปขอมาแล้วก็เอามาเขียนวันที่เพราะจะเตรียมเช็คชื่อตอนท้ายชั่วโมงพอนึกขึ้นได้เลยส่งใบรายชื่อให้คนตัวสูง “อันนี้ เขียนชื่อเล่นของทุกคนแล้วขอเบอร์โทรศัพท์ด้วยถ้ามีปัญหาช่วงฝึกงานจะได้ตามได้บางคนไม่ค่อยอ่านแล้วก็ตอบไลน์” “เค” ผมหยิบกระดาษนาดยัยตัวแสบมาก่อนจะเริ่มเขียนชื่อเพื่อนลงไปท้ายชื่อจริงในช่อง แต่พอเขียนได้สามคนเท่านั้นแหละความแตก “ไหนบอกลายมือนายดูไม่ได้ไง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม