ตอนที่ 5

1158 คำ
“ต้องขอโทษด้วยนะคะ คีธ ที่ฉันมารบกวนเวลาพักผ่อนของคุณตอนนี้ แต่ฉัน...มีเรื่องด่วนที่อยากจะคุยกับคุณค่ะ” ปื้นคิ้วสีน้ำตาลเข้มบนใบหน้าหล่อเหลาเลิกขึ้น โคเลสนิกเอียงคอและถามด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็น “เรื่องด่วนอย่างนั้นหรือ? อืม...มันคงเป็นเรื่องด่วนมากซีนะ เพราะคุณบอกผมว่าเพิ่งกลับอเมริกาเมื่อไม่กี่วัน แล้วต้องเดินทางมาบรัสเซลส์ ถ้าอย่างนั้นมันเป็นเรื่องอะไรกันล่ะ ผมให้เวลาคุณหนึ่งนาทีที่จะพูดสั้น ๆ ให้ผมเข้าใจ” พอถึงตอนนี้ทิพชยาก็เริ่มมองเห็นความผิดปกติบางอย่างที่เกิดขึ้น เธอมองบุรุษตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่แปลกเปลี่ยน เขาทำเหมือนสิ่งที่เธอกำลังจะบอกไม่มีความสำคัญ รวบรัดตัดความให้ได้ภายในนาทีเดียว สาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นเม้มปากบางก่อนพูด “ฉันอยากขอให้คุณอภัยให้พ่อของฉัน ท่านไม่ได้คิดจะหักหลังคุณ ตอนนี้บริษัทของท่านกำลังประสบปัญหา นักมวยในสังกัดพร้อมใจกันลาออก พวกเขามาอยู่กับคุณ ฉันมาที่นี่เพื่อขอให้คุณ...”           บทที่ 3   “ครบหนึ่งนาที!” เสียงห้าวดังแทรกขึ้นทว่าอะไรก็ไม่ทำให้หญิงสาวรู้สึกตกใจเท่ากับที่ร่างสูงใหญ่ลุกพรวดจากเก้าอี้ของเขาเข้าไปหาเธอ “คีธ!” ทิพชยาอุทานออกมาเมื่อโคเลสนิกก้มหน้าลงไปหาขณะค้ำยันแขนทั้งสองบนพนักเก้าอี้เสมือนกักตัวหญิงสาวที่นั่งตัวแข็งเอาไว้ ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าคมคาย มีแต่ดวงตาส่องประกายกล้าราวกับหมาป่ากระหายขย้ำเหยื่อ “คีธคะ...ฉัน...ฉัน...” “แทมมี่...จริง ๆ แล้วคุณมีเวลามากกว่าหนึ่งนาทีที่จะพูดเรื่องพ่อของคุณให้ผมฟัง แต่สำหรับผมแค่นาทีเดียวมันก็มากเกินพอแล้วกับการที่ต้องรับรู้การโกหกปลิ้นปล้อนที่คุณพยายามจะปกปิดและปกป้องพ่อของคุณให้พ้นจากความชั่วช้าที่เขาเคยทำ” “คีธ...คุณพูดเรื่องอะไรคะ ฉันมาที่นี่ก็เพื่อ...” “ผมรู้!...ผมรู้ว่าคุณมาที่นี่เพื่ออะไร คุณต้องการให้ผมคืนนักมวยในสังกัดกลับไปให้เขา แต่สิ่งที่คุณอยากได้กลับไปให้ยาซาโน่มันไม่สำคัญเท่ากับความสูญเสียที่ผมต้องเผชิญเมื่อสองปีที่แล้วหรอกนะ... ไงล่ะ ตอนนี้เขาไม่เหลืออะไรแล้วอย่างนั้นหรือถึงได้ส่งลูกสาวมาอ้อนวอนขอให้ผมกลับไปช่วยเหลือเขา ไอ้คนตระบัตรสัตย์ไม่เคยจริงใจกับใครแม้แต่ตัวมันเอง!” “คุณไม่ควรก่นด่าคนที่เคยมีบุญคุณกับตัวเองแบบนี้นะคะ คีธ” “บุญคุณงั้นรึ...อย่าเรียกว่าสิ่งที่พ่อคุณให้ผมว่าบุญคุณเลย เรียกว่าหลอกใช้กันมันน่าจะสมน้ำสมเนื้อกว่า!” “ฉันจะกลับ!” ทิพชยาผลักหน้าอกกำยำของเขาออกเพื่อจะลุกขึ้นแต่ก่อนจะก้าวพ้นไปจากร่างสูงใหญ่กลับต้องหยุดชะงักเมื่อเขาจับบ่าเล็กเอาไว้และได้ยินเสียงกังวานนั้นดังขึ้นอีกครั้ง “คุณมาที่นี่เพื่ออะไร แทม?” ร่างบอบบางราวถูกตรึงอยู่กับที่ ไหล่ของเธอยังเสียดสีอยู่กับอกแกร่งภายใต้ชุดสูทหรูระยับ ทิพชยามึนงงต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เธอสับสนเกินกว่าจะก้าวข้ามหน้าผาของความลังเล แทม...มันเป็นชื่อสั้น ๆ ที่มีโคเลสนิกเพียงคนเดียวเท่านั้นเรียกเธอ แต่ตอนนี้อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับความกักขฬะที่เขาแสดงออกต่อผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาเคยรู้จักและดั้นด้นมาไกลจากอเมริกา หญิงสาวเม้มปากเพื่อสะกดกลั้นความเจ็บปวดและอับอายที่แล่นปรี่ขึ้นมากระทั่งเขากล่าวขึ้น “คุณคิดว่าจะมาที่นี่ เพื่อพบกับผู้บริหารอาคิลลา ขอให้เขาเห็นใจและช่วยเหลือพ่อของคุณที่กำลังตกอับ พอเขาพูดให้คุณไม่พอใจก็คิดจะกลับไปง่าย ๆ แบบนี้น่ะหรือ รู้ไว้ด้วยว่าการมาพบกับผมไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หรือคุณคิดจะถอดใจ ช่างไม่เข้มแข็งเหมือนยาซาโน่พ่อของคุณเอาเสียเลย” “ขอโทษด้วยนะคะ โคเลสนิก รอชนีเชนโก ที่ฉันลืมไปว่าคุณเป็นโปรโมเตอร์ใหญ่ผู้บริหารอาคิลลา...ฉันคิดว่าคนที่ฉันจะมาพบคือ คีธ นักมวยที่ฉันเคยรู้จักต่างหาก แต่ตอนนี้เขาไม่ใช่...เขาเปลี่ยนไป เขาไม่ใช่คนที่ฉันเคยรู้จักอีกต่อไปแล้ว” น้ำเสียงหวานสะท้อนความเจ็บปวดก้องกังวานเข้าไปถึงใต้บึ้งของโคเลสนิก เจ้าของดวงตาสีอำพันถูกความรู้สึกบางอย่างเข้าครอบงำตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เห็นหญิงสาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นซึ่งเขารู้จักเธอเมื่อสองปีก่อน บุตรสาวของยาซาโน่ที่เขาจดจำได้ติดตาว่าเคยชอบไปแอบดูการซ้อมมวยของเขา พยายามเข้ามาพูดคุยและทักทาย ใช่...ในเวลานั้นเขาเองก็เริ่มหวั่นไหวแต่กลับรู้สึกว่าห่างไกลจากเธอมากเหลือเกิน ทว่าตอนนี้เธอมาอยู่ใกล้เขา ใกล้มากเสียจนชายหนุ่มแทบจะรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจเต้นเร็วแรงของหญิงสาว ความโกรธแค้นที่ฝังแน่นอยู่ข้างในทำให้โคเลสนิกอยากเฉือนหัวใจของยาซาโน่ตั้งแต่ครั้งแรกที่คนของเขารายงานว่าทิพชยามาขอพบ “ผมไม่เคยเปลี่ยน...มองผมให้ชัดสิ แทมมี่” มือแกร่งรั้งไหล่บางของหญิงสาวให้เธอหันมาเผชิญหน้ากับเขาตรง ๆ  ความตระหนกฉายออกมาจากดวงตาคู่สวย เธอกำลังจะกลับออกไปจากห้องนี้ไม่ใช่หรือ “คีธ...” เรียวปากบางสั่นระริก เธอไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับเขาถึงขนาดนี้ “คุณไม่เห็นหรือแทม ว่าผมก็คือโคเลสนิก คนที่คุณเคยรู้จักเมื่อสองปีที่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้ผมไม่ใช่โคเลสนิก นักมวยอ่อนหัดที่ถูกพ่อของคุณใช้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์อีกต่อไปก็เท่านั้น!” จบคำพูดที่เปลี่ยนเป็นดุดันใบหน้าคร้ามเข้มก็ฉกวูบลงไปหาหญิงสาว ทิพชยาตื่นตระหนกหากทุกอย่างก็รวดเร็วเกินกว่าที่เธอจะทันตั้งตัว โคเลสนิกปิดปากเธอแน่นด้วยริมฝีปากของเขา บดขยี้จูบหนักหน่วงอย่างที่หญิงสาวไม่เคยพานพบจูบจากผู้ชายคนไหนมาก่อนในชีวิต ปากบางถูกลิ้นหนารุกราน ร่างอรชรถูกรั้งเข้าไปแนบชิดอกกว้างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเคร่งเครียดภายใต้ชุดสูทคัตติ้งเนี้ยบ ถึงเธอจะเคยรู้สึกหวั่นไหว หากแต่เขาก็ทำเกินไปแล้ว เขาทำกับเธอเกินไปที่ไม่ยอมให้เกียรติลูกสาวของผู้เคยมีบุญคุณ “คีธ!...ปล่อยนะคะ!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม