ตอนที่ 9 ชื่อตอน ตราท่านแม่ทัพ

1423 คำ
"แย่แล้ว ตราแม่ทัพของข้าหาย !!!!" เส้าจิ่นกวางวิ่งออกไปด้านนอก ตะโกนโวยวายเสียงดังลั่นขึ้นมา " ใครอยู่ข้างนอก ตราแม่ทัพของข้าหาย !!! " อ้ายฉิงยกนิ้วนวดนวดขึ้นมาที่หว่างคิ้วเบาๆ และส่งเสียงถามออกไปดูเล่นๆ "ท่านจิ่นกวางมิได้นำมันออกไปรบด้วยหรืออย่างไรกัน" ร่างหนาชะงักและถอนหายใจออกมาช้าๆ หันหน้ามายิ้มแย้มให้คนงาม "อ่า...ใช่แล้ว ข้าลืมว่านำมันออกไปรบด้วย คงยังอยู่ที่ค่าย ผู้อื่นคงนำมันมาให้เองนั่นแหละ " ร่างหนาเอนลงไปซบร่างบาง หลังจากทหารวิ่งออกไปกันจนหมดแล้ว "ทหารรับใช้ออกไปหมดแล้ว เรื่องสำคัญเช่นนี้ คงแตกตื่นกันมิน้อยเลย เช่นนี้คงมิมีผู้ใดอยู่ปรนนิบัติข้าแล้ว อาบน้ำให้ข้า เปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ให้ข้าได้หรือไม่เล่า " อ้ายฉิงปรายสายตามองไปน้อยๆ และพยักหน้าลงไปแบบไม่ขัดข้องเท่าใดนัก ร่างหนาเหลือบมองนางและทำท่าจะเป็นลมก่อนจะเอนซบนางลงไป "อ่า ข้ายังวิงเวียนอยู่มิน้อย คงเพราะรีบร้อนจนเกินไป เจ้าจุดไฟหุงอาหารได้หรือไม่ ข้ายังรู้สึกหิวอยู่มิน้อยเลย " อ้ายฉิงตอบรับเบาๆ เรื่องจุดไฟคงไม่ยากอะไรมากแต่ก็น่าเบื่อพอสมควร ร่างบางเอ่ยถามทางไปในห้องครัว เพื่อที่จะหุงหาอาหารขึ้นมา "ห้องครัวไปทางไหนหรือจิ่นกวาง " ท่านอ๋องแปดอมยิ้มขึ้นมา เดินแอบอิงนางจนตัวเอียง ชี้ไปที่ทางห้องครัว อ้ายฉิงต้องเดินแบบทุลักทุเลไปช้าๆไปจนถึงห้องครัว จิ่นกวางช่วยนางเปิดตู้เสบียงทีล่ะบาน มองนางต่อเก้าอี้รื้อค้นสิ่งของลงมา อ้ายฉิงมองดูไปตามไหและโถต่างๆที่มีผักดองและอาหารฤดูหนาว รื้อไปค้นมาก็ยังไม่ค่อยพอใจนัก จนเปิดประตูครัวออกไป พบสระน้ำและแปลงผัก มีหัวเผือกอยู่ที่หลังครัว มีดอกบัวอยู่ในสระน้ำ อ้ายฉิงปรายสายตาขึ้นมาน้อยๆและถอนหายใจออกมาเบาๆ "อยากได้รากบัวกับสายบัวมาผัดจัง แต่คงจะยากแล้วคนอื่นไม่อยู่แล้ว จะลงไปเองขึ้นมาคงเหม็นไปทั้งตัว คงไม่อยากทำอะไรต่อแล้วทีนี้ น่าเสียดายจัง" " ท่านคงต้องกินข้าวอบเผือกกับกระเพาะปลาผัดแห้งไปแทน หรือจะทนกินข้าวต้มเกี๊ยมฉ่ายผัดกุ้งหรือแกงจืดดีล่ะทีนี้ " ร่างหนาหัวเราะนางเบาๆ และเดินไปใช้ไม้ไผ่ยาวดีดรากบัวและสายบัวขึ้นมาให้นาง นำไปล้างน้ำที่ด้านหลังในลำธารเล็กๆ และถือมาให้นางจนเต็มในอ้อมแขน มีดอกบัวกลิ่นหอมรวยรินให้ชื่นใจ "บ่อบัวหลังครัวนี้มิใช่บัวที่ใช้สำหรับมองชมดู บ่อจึงตื้นนัก ใช้ในยามที่พวกเรานั้นขาดแคลนเสบียง ส่วนบ่อที่ข้างศาลาริมน้ำนั้น มีปลาหลี่ฮื้อและปลาอื่นๆเอาไว้สำหรับให้ชมดู" " นอกจากออกไปอีกที่นอกจวน จะมีบ่อปลาสำหรับทำอาหาร ลำธารนี้ก็มีปลาว่ายผ่านไปมา " "งั้นทำข้าวอบเผือกเมล็ดบัว สายบัวผัดกระเพาะปลาแห้ง ปลานึ่งบ๊วยเห็ดหอม" อ้ายฉิงยิ้มร่าลงมือหั่นอาหารต่างๆตระเตรียมเอาไว้ให้ครบ ร่างหนาช่วยนางล้างเครื่องปรุงและเป็นลูกมือให้นาง ระหว่างที่รอปลานั้นนึ่งสุก อ้ายฉิงก็ต้มถั่วแดงและนำมารีดเป็นแผ่นๆไว้ ก่อนจะผสมน้ำตาลกวนให้เหนียวหนึบ ตัดเป็นก้อนกลมๆ ลงมือนวดแป้งซาลาเปาและยัดไส้ถั่วแดงลงไป ร่างหนานั่งช่วยนางนวดแป้งและนำแป้งป้ายลงไปที่ใบหน้าของนางทั้งสองแก้ม "ว้าย อย่านะ คิก คิก " จนเมื่อวางซาลาเปาลงไปในซึ้งนึ่งแล้วและอาหารคาวนั้นสุกจนครบ ร่างบางต้มน้ำจี๋ฮวาสีเหลืองทองออกมาหนึ่งหม้อ แล้วรินลงกาน้ำชาไปจนเสร็จสิ้น ร่างหนาก็ลงมือคดข้าวด้วยตนเองที่ในครัวนั้น อ้ายฉิงมองอย่างสนใจและถามอย่างสงสัยขึ้นมา "ท่านทำเองเป็นด้วยหรือ " "หึ หึ หึ ทหารกินข้าวกลางดิน ก็ต้องเคยผ่าน ก็ต้องทำ ต้องกิน ยามสู้รบมิมีข้ารับใช้มาช่วยเรา มีแต่เราที่ต้องปกป้องคนเหล่านั้นเท่านั้นเอง" อ้ายฉิงพยักหน้าหงึกๆ คีบปลาจิ้มซีอิ้วให้ร่างหนาป้อนไปจนถึงปากแดงๆนั้นๆ ร่างหนาอ้าปากรับและพุ้ยข้าวเข้าปากไปอย่างอารมณ์ดี อ้ายฉิงนั่งกินข้าวข้างกัน รอจนซาลาเปาถั่วแดงสุก ร่างหนาจึงอาสาถือไปที่ข้างนอกครัว ร่างหนาถือถาดใส่กาน้ำชาและซาลาเปาออกไปข้างนอก ชวนกันไปนั่งในศาลาริมน้ำ ยามเมื่อเดินไปถึง ข้ารับใช้ก็มาถึงพอดีกัน อ้ายฉิงยิ้มให้ บอกกล่าวออกไปเบาๆ "กับข้าวอยู่ในครัว นำซาลาเปาออกมาจากซึ้งให้หมดด้วย เดี๋ยวจะแฉะเกินไปไม่อร่อยนัก " อ๋องแปดนอนตะแคงลงไปบนตักนุ่ม รอให้บิซาลาเปาป้อนช้าๆคำน้อยๆ ร่างบางนั้นในมือถือถ้วยชาน้อยๆ ดื่มชาจี๋ฮวาอย่างชื่นชอบขึ้นมา "อืม รสกำลังดีมิหวานนัก ข้ามิชอบหวานเลี่ยน ขมแบบขมขื่นก็ยิ่งดี หึ หึ หึ " "ดีเลย มื้อต่อไปข้าจะคั้นน้ำผักให้ท่านดื่มเสียให้พอใจท่าน ดีหรือไม่เล่า " "แค่คิดข้าก็ขมคอแล้ว อย่าแม้แต่จะคิดเลย จะยินดียิ่ง" อ้ายฉิงหัวเราะเบาๆ บิถั่วแดงเข้าปากตนเองไป ร่างหนาโวยวายน้อยๆและดึงนางเข้ามาใกล้ บดจูบขโมยขนมของนางไป "อื้ม หวานจัง..." อ้ายฉิงหน้าแดง หันมองไปรอบๆตัวกลัวว่าจะมีคนนั้นมาเห็น เส้าจิ่นกวางหัวเราะนางขึ้นมาเบาๆ "มิมีผู้ใดมาทางนี้แน่ หากว่าข้ามิได้เรียก แต่ยามปกติจวนเราจะมีทหารยามรอบๆจวนเดินไปมา ครานี้ทหารเฝ้าจวน มิรู้เป็นตายร้ายดี ต้องรอผู้คนบาดเจ็บกลับมาเสียก่อน จึงจะนับจำนวนผู้คนได้ บางคนก็อพยพย้ายถิ่น หนีสงครามตามครอบครัว หลังเสร็จศึกเช่นนี้ ต้องตรวจนับทำทะเบียนคนขึ้นใหม่เสียก่อน จึงจะรู้จำนวนประชาชนในเมืองนี้ " "ท่านทำเหมือนตนเองเป็นเจ้าเมืองเลย สรุปเป็นแม่ทัพหรือท่านเจ้าเมืองกันแน่นี่" อ้ายฉิงเอ่ยล้อเล่นอย่างไม่จริงจังมาก แต่คนตอบกลับมากลับตอบอย่างจริงจัง "ข้ามียศเป็นท่านอ๋องพิทักษ์แคว้น เป็นทุกสิ่งของเมืองนี้ เจ้าเมืองปกครองเมือง นักรบป้องกันเมืองและเป็นบุตรของผู้ยิ่งใหญ่แห่งดินแดนผืนใหญ่กว่าที่เมืองนี้นัก" " ข้าเพียงเพิ่งยึดเมืองนี้มาได้มินาน จึงมาพัฒนามันเช่นนั้นเอง ในทุกๆสามเดือนของปี ข้าจะกลับไปที่เมืองหลวง และสลับเดินทางไปทั่วทั้งดินแดน" " แซ่เส้านั้นมีมิมากในแผ่นดิน แต่ผู้แซ่เส้าคือเจ้าของแห่งผืนดินที่ตนนั้นถือครองอยู่ " อ้ายฉิงดวงตาโตน้อยๆและนั่งนิ่งลงบ้าง เส้าจิ่นกวางกอดนางลงไปในอ้อมอก หอมซ้ายหอมขวา ใบหน้าชื่นมื่น มือถือถ้วยชาจิบชาจี๋ฮวาไปช้าๆอย่างอารมณ์ดียิ่ง อ้ายฉิงนั่งเล่นแล้วก็เบื่อมากพอสมควร โลกนี้ไม่มีโทรศัพย์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต ไม่มีโทรทัศน์ เหมือนมาเที่ยวในธรรมชาติ แต่นานไปก็เหงาขึ้นมาพอสมควร เส้าจิ่นกวางโอบเอวนางไปในห้องและให้คนนำชุดงดงามมาให้นางมากมาย มีปิ่นปักผม เชือกถักผมและสิ่งของที่สตรีชมชอบ อ้ายฉิงค่อยยิ้มออกและหันมาเลือกเครื่องประดับออกมาดู "มิต้องเลือกหรอก ทั้งหมดนั้นข้าให้เจ้าเพียงผู้เดียว เลือกไปก็เท่านั้น วันนี้เจ้าใช้เพียงปิ่นไม้หอมอันนี้เสียบผมก็พอแล้ว ข้าจะให้เจ้าไปเดินตลาดชาวบ้าน สำรวจว่าชาวบ้านสุขสมบูรณ์ มีขวัญกำลังใจเพียงพอจะค้าขายแล้วหรือยัง "
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม