Chapter 8

1764 คำ
หญิงสาววิ่งออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่มก็ทำตัวเหมือนปกติทำการแจ้งความคนร้ายให้เรียบร้อยโดยมีผู้กองดนัยยืนกอดอกมองเธอด้วยสายตาหวานฉ่ำตรงประตูหน้าห้องทำงาน เธอเหลือบสายตามองเขาเล็กน้อยก่อนจะทำเหมือนไม่เห็นเพราะไม่อย่างนั้นอาการของเธอจะชัดเจนมากขึ้นจนคนอื่นสงสัย “เรียบร้อยแล้วจ้ะน้องหญิงเล็กไม่มีอะไรแล้ว” “ถ้างั้นหญิงเล็กขอตัวก่อนนะจ้ะ ต้องเอาอาหารเช้าไปให้หลวงพี่ที่วัดอยู่ นี่ก็สายแล้วสงสัยจะไม่ทันแล้วล่ะมั่ง” “งั้นรีบไปเถอะ เดี๋ยวกลางวันนี้พวกพี่ไปอุดหนุนนะคะคนสวย” เธอยกมือไหว้ขอบคุณทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก่อนจะยิ้มออกมาด้วยใบหน้าเอิบอิ่มไปด้วยความสุข บอกตามตรงทุกคนที่นี่ดีกับเธอมาก ชวยคุยตลอดและเหมือนเราเป็นเพื่อนกันเลยแต่เธอเองที่ยังปิดกั้นตัวเองเพราะไม่อยากต้องผิดหวังเมื่อวันหนึ่งทุกคนรู้ความจริงแล้วรับไม่ได้ “ได้จ้ะ โทรไปสั่งก่อนได้นะจ้ะไปถึงจะได้กินเลย” “ได้เลยจ้ะเดี๋ยวให้พี่จ่าโทรไป” เธอโบกมือบ๊ายบายทุกคนก่อนจะเดินออกไปโดยเหลือบมองชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที เขาอมยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะมองตามไปจนเธอขึ้นรถออกไปเสร็จถึงจะไปทำงานต่อ ทุกวันนี้มีคดีมากมายไม่ซ้ำวัน เขาแทบไม่มีเวลาไปหาหญิงสาวเลยแต่ว่ายังไงกลางคืนเธอก็ต้องมาค้างกับเขาเพราะฉะนั้นก็ถือว่ายังโอเคอยู่ “ผู้กองครับ มีญาติแจ้งมาว่าผู้ชายขี้เมาขังเมียไว้ในบ้านไม่ยอมให้ออกมา และไม่รู้ว่าผู้หญิงเป็นยังไงบ้าง” “ที่ไหน” “หมู่บ้านนาปางครับ” เขาลุกขึ้นเตรียมของให้เรียบร้อยก่อนจะพาตำรวจนายอื่นออกไปทันที สารวัตร ผู้กำกับและรองผู้กำกับไปราชการในตัวเมืองเขาจึงต้องจัดการเองทุกอย่างที่นี่ และตอนนี้ก็มีเรื่องให้เขาทำอีกซึ่งถ้าไม่รีบไปฝ่ายหญิงอาจจะได้รับบาดเจ็บได้ “เตรียมตัวเดินทางเลยนะ จ่าอยู่ที่นี่คนเดียวก็พอที่เหลือตามผมมา” “รับทราบครับผู้กอง” ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในตอนนี้ รถตำรวจออกเดินทางจากสถานีตำรวจไปถึงหมู่บ้านนาปางใช้เวลาเพียงแค่10นาทีเท่านั้น และเมื่อมาถึงเขาก็เดินไปหาญาติที่ตอนนี้กำลังเคาะประตูอยู่หน้าบ้าน “ไอ้กำจอน เอ็งปล่อยลูกข้าออกมาเถอะ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะไม่หิวหรือไง” “แม่อย่ามายุ่ง เรื่องของผัวเมียเค้า” “งั้นเอ็งเอาหลานข้าออกมาก่อนได้มั้ย มันคงหิวน่าดูเอ็งไม่สงสารลูกเหรอ” หัวอกคนเป็นแม่แทบจะขาดใจเมื่อลูกถูกผู้ชายขังไว้ในบ้านแถมยังเงียบผิดหูผิดตาจนเธอกลัวใจมันเหลือเกิน และยังมีหลานอีกคนที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ผู้กองดนัยที่เห็นสถานการณ์ก็เดินเข้าไปเรียกญาติมาคุย มันเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ผู้ชายคนนั้นยังตอบโต้กัลทางญาติบ้าง “ผมขอคุยด้วยหน่อยครับคุณป้า” “ได้จ้ะ” เธอมองประตูอีกครั้งก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ตอนนี้ผู้ชายยังไม่รู้ว่ามีตำรวจมาเดินวนเวียนเพราะเขาสั่งไว้ว่าไม่ให้ออกมาในตอนนี้ “เกิดอะไรขึ้นครับเล่าให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย” “ได้จ้ะผู้กอง คือว่าเมื่อวานช่วงบ่ายลูกสาวป้ากับไอ้กำจอนมันทะเลาะกันทางโทรศัพท์หนักอยู่นะ ไม่รู้ไปคุยกันยังไงไอ้กำจอนมันก็มาหาที่บ้านและพาลูกสาวป้ากับหลานกลับไป ตอนแรกป้าก็คิดว่ามันดีกันแล้วก็เลยปล่อยมันให้มาด้วยกัน แต่หลังจากนั้นป้าติดต่อลูกไม่ได้เลย แต่ว่าเมื่ิอตอนตีห้าลูกป้าส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือป้าก็เลยมา มันไม่เปิดประตูให้เลยแถมยังบอกไม่ให้มายุ่งอีก ป้ากลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไหนจะหลานอีก ไอ้นี่มันชอบเมาแล้วเลอะเทอะด้วย ผู้กองช่วยหน่อยนะจ้ะ” คุณป้าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนสุดๆ เธออยากให้ลูกกับหลานปลอดภัยที่สุด เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน “ใจเย็นนะครับคุณป้า ผมจะช่วยให้ถึงที่สุดไม่ต้องกังวลนะครับ” “ขอบคุณนะจ๊ะผู้กอง” คุณป้ายิ้มออกมาอย่างเริ่มยิ้มออกมาได้บ้าง ผู้กองดนัยหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาหญิงเล็กเพื่อขอให้เธอช่วยอะไรบางอย่าง (ว่าไงจ๊ะพี่ไฟท์) “หญิงเล็กช่วยอะไรพี่หน่อยสิคะ” (อะไรเหรอ…) หญิงเล็กรับฟังอย่างตั้งใจ หลังจากวางโทรศัพท์เธอก็ไปทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างโดยใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็มาถึงที่หมาย เธอถือถุงกับข้าวหลายกล่องไปยื่นให้ผู้กองดนัยก่อนจะเอ่ยเสียงเหนื่อยหอบ “นี่จ้ะผู้กอง ว่าแต่เอาไปให้ใครเหรอจ๊ะ” เขาส่งข้าวกล่องไปให้คุณป้าที่นั่งอยู่ก่อนจะเอ่ยเสียงจริงจัง “เอาข้าวกล่องไปให้คนในบ้านก่อนนะครับคุณป้าบอกว่าซื้อมาให้กลัวว่าหลานกับลูกจะหิว ทำยังไงก็ได้ให้พวกเขากินนะครับ” “ได้จ้ะป้าจัดการให้” คุณป้าถือถุงข้าวเข้าไปหน้าบ้านก่อนจะเคาะประตูเรียกอีกครั้งและทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “ไอ้จอนข้าออกไปซื้อข้าวมาให้หลานกับลูกข้า มีของเอ็งด้วยนะ เอาไปให้พวกมันกินก่อนข้าขอร้อง” นายกำจอนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปอย่างลังเล เขากำลังคิดว่าจะออกไปเอาดีมั้ยแต่ดูท่าทางสองคนน่าจะอยากกินข้าวอยู่เพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อวานแล้ว “ลูกหิวจ้ะพี่กำจอน อย่าทำแบบนี้เลยนะไหนพี่บอกว่ารักลูกรักฉันไง” “เออๆข้าจะออกไปเอาให้” เขาลุกขึ้นเดินออกไปเอากับข้าวที่หน้าบ้านโดยที่สั่งให้แม่เมียวางทิ้งไว้แล้วให้ออกไปไกลๆ เขาแง้มประตูเล็กน้อยรอดูว่าไม่มีคนก็รีบหยิบกล่องข้าวเข้าไปทันที ชายหนุ่มเดินมายืนตรงหน้าภรรยากับลูกก่อนจะเอาวางไว้ให้ “อ่ะเอ็งกินสิ” “พี่จะขังพวกเราทำไมไม่สงสารลูกบ้างเหรอ แล้วเหล้านะเบาๆหน่อยได้มั้ยพี่กินทีไรก็ทำร้ายฉันทำร้ายลูก” “ข้ายังไม่ได้ตีเอ็งเลยนะ ก็เอ็งไม่ยอมออกมาเจอไงให้ทำไงล่ะ” “ก็เพราะพี่เป็นแบบนี้ไง” เด็กน้อยมองพ่อกับแม่ทะเลาะกันตัวสั่น เป็นโชคร้ายที่เด็กเกิดมาในครอบครัวแบบนี้และยังเล็กต้องมาซึมซับเรื่องไม่ดีแบบนี้ นายกำจอนเปิดข้าวกล่องดูก่อนจะตักชิมเพราะมันเป็นของที่เขาชอบและไปสั่งกินที่ร้านหญิงเล็กบ่อย “อร่อยนะเอ็งกินสิ” “พี่กินก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันกับลูกค่อยกิน” ทางด้านของผู้กองดนัยเขาโอบเอวหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะมองไปยังประตูที่ตอนนี้ข้าวกล่องหายไปด้วยฝีมือของนายกำจอนที่ออกมาเอาเมื่อสักครู่ “หญิงเล็กเจอนายกำจอนบ่อยนะจ้ะ เขาชอบมาซื้อกับข้าวที่ร้านและจะสั่งแต่เมนูเดิมๆบอกว่าเมียกับลูกชอบกิน” “ฟังดูก็เหมือนรักลูกรักเมียนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้” ผู้กองดนัยมองอย่างสงสัย หญิงเล็กมองคุณป้าที่ตอนนี้เดินวนไปมาด้วยความกังวลเพราะเป็นห่วงทั้งลูกและหลาน เรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากเราเป็นคนนอกไปทำอะไรไม่ได้หรอก “เพราะแอลกอฮอล์ไงจ้ะพี่ไฟท์ นายกำจอนตอนที่ไม่ดื่มเป็นคนดีมากเลยนะ ตั้งใจทำงานซื้อของอร่อยไปฝากลูกเมียตลอด ไม่รู้ว่าเครียดอะไรถึงได้กลายเป็นแบบนี้” “งั้นเหรอ… แล้วหนูคิดว่าตอนนี้ยาจะออกฤทธิ์หรือยัง” “ก็ถ้ากินไปแล้วก็คงออกฤทธิ์แล้วแหละ ลองให้คุณป้าไปลองเรียกดูสิ…” ผู้กองดนัยกวักมือเรียกคุณป้าให้มาหาเพราะเขาอยากจะรู้ว่าคนในบ้านได้กินข้าวกล่องไปหรือยัง เพราะเขาสั่งให้หญิงเล็กผสมยานอนหลับไปด้วย เรื่องของครอบครัวตำรวจไม่อยากจะใช้ความรุนแรง อะไรที่เบาได้เขาจะเบาที่สุด “คุณป้าครับลองไปตะโกนเรียกดูสิครับว่านายกำจอนยังตอบรึเปล่า” “ได้จ้ะเดี๋ยวป้าไปลองเรียกดู” คุณป้าเดินไปตะโกนเรียกคนในบ้านแต่ดูเหมือนว่าไม่มีเสียงตอบรับจากนายกำจอนเลย เขาหันไปสั่งให้ผู้หมวดงัดเข้าไปในบ้านก่อนจะค่อยๆย่องเข้าไปข้างใน และภาพที่เห็นคือทั้งสามคนนอนหลับอยู่โดยแม่นอนกอดลูกส่วนนายกำจอนนอนพิงโซฟา “ผู้หมวดจับนายกำจอนไปโรงพักก่อน ส่วนสองคนรอให้ตื่นแล้วคุณป้าพาไปหาผมที่โรงพักนะครับ” “ขอบคุณมากนะจ้ะผู้กอง ผู้หมวด ขอบคุณทุกคนนะจ้ะที่ช่วย” คุณป้ายกมือไหว้ขอบคุณทุกคนก่อนจะวิ่งไปหาลูกสาวและหลานเอาผ้ามาเช็ดให้หน้าด้วยความห่วงใย หญิงเล็กมองภาพนั้นก็อยากจะร้องไห้เพราะชีวิตเธอไม่มีใครสักคนคอยห่วง มีพี่ชายก็หนีไปบวชทุกวันนี้เธอเหมือนตัวคนเดียวจนกระทั่ง… “ป่ะกลับกันคนสวย” เขาโอบเอวหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะพากันเดินไปขึ้นรถของเธอ หญิงเล็กเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาบางๆตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีคนคอยห่วงใยไม่โดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม