หญิงสาววิ่งออกมาจากห้องทำงานของชายหนุ่มก็ทำตัวเหมือนปกติทำการแจ้งความคนร้ายให้เรียบร้อยโดยมีผู้กองดนัยยืนกอดอกมองเธอด้วยสายตาหวานฉ่ำตรงประตูหน้าห้องทำงาน เธอเหลือบสายตามองเขาเล็กน้อยก่อนจะทำเหมือนไม่เห็นเพราะไม่อย่างนั้นอาการของเธอจะชัดเจนมากขึ้นจนคนอื่นสงสัย
“เรียบร้อยแล้วจ้ะน้องหญิงเล็กไม่มีอะไรแล้ว”
“ถ้างั้นหญิงเล็กขอตัวก่อนนะจ้ะ ต้องเอาอาหารเช้าไปให้หลวงพี่ที่วัดอยู่ นี่ก็สายแล้วสงสัยจะไม่ทันแล้วล่ะมั่ง”
“งั้นรีบไปเถอะ เดี๋ยวกลางวันนี้พวกพี่ไปอุดหนุนนะคะคนสวย”
เธอยกมือไหว้ขอบคุณทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก่อนจะยิ้มออกมาด้วยใบหน้าเอิบอิ่มไปด้วยความสุข บอกตามตรงทุกคนที่นี่ดีกับเธอมาก ชวยคุยตลอดและเหมือนเราเป็นเพื่อนกันเลยแต่เธอเองที่ยังปิดกั้นตัวเองเพราะไม่อยากต้องผิดหวังเมื่อวันหนึ่งทุกคนรู้ความจริงแล้วรับไม่ได้
“ได้จ้ะ โทรไปสั่งก่อนได้นะจ้ะไปถึงจะได้กินเลย”
“ได้เลยจ้ะเดี๋ยวให้พี่จ่าโทรไป”
เธอโบกมือบ๊ายบายทุกคนก่อนจะเดินออกไปโดยเหลือบมองชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งออกไปทันที เขาอมยิ้มอย่างเอ็นดูก่อนจะมองตามไปจนเธอขึ้นรถออกไปเสร็จถึงจะไปทำงานต่อ ทุกวันนี้มีคดีมากมายไม่ซ้ำวัน เขาแทบไม่มีเวลาไปหาหญิงสาวเลยแต่ว่ายังไงกลางคืนเธอก็ต้องมาค้างกับเขาเพราะฉะนั้นก็ถือว่ายังโอเคอยู่
“ผู้กองครับ มีญาติแจ้งมาว่าผู้ชายขี้เมาขังเมียไว้ในบ้านไม่ยอมให้ออกมา และไม่รู้ว่าผู้หญิงเป็นยังไงบ้าง”
“ที่ไหน”
“หมู่บ้านนาปางครับ”
เขาลุกขึ้นเตรียมของให้เรียบร้อยก่อนจะพาตำรวจนายอื่นออกไปทันที สารวัตร ผู้กำกับและรองผู้กำกับไปราชการในตัวเมืองเขาจึงต้องจัดการเองทุกอย่างที่นี่ และตอนนี้ก็มีเรื่องให้เขาทำอีกซึ่งถ้าไม่รีบไปฝ่ายหญิงอาจจะได้รับบาดเจ็บได้
“เตรียมตัวเดินทางเลยนะ จ่าอยู่ที่นี่คนเดียวก็พอที่เหลือตามผมมา”
“รับทราบครับผู้กอง”
ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่ในตอนนี้ รถตำรวจออกเดินทางจากสถานีตำรวจไปถึงหมู่บ้านนาปางใช้เวลาเพียงแค่10นาทีเท่านั้น และเมื่อมาถึงเขาก็เดินไปหาญาติที่ตอนนี้กำลังเคาะประตูอยู่หน้าบ้าน
“ไอ้กำจอน เอ็งปล่อยลูกข้าออกมาเถอะ ตั้งแต่เมื่อคืนแล้วนะไม่หิวหรือไง”
“แม่อย่ามายุ่ง เรื่องของผัวเมียเค้า”
“งั้นเอ็งเอาหลานข้าออกมาก่อนได้มั้ย มันคงหิวน่าดูเอ็งไม่สงสารลูกเหรอ”
หัวอกคนเป็นแม่แทบจะขาดใจเมื่อลูกถูกผู้ชายขังไว้ในบ้านแถมยังเงียบผิดหูผิดตาจนเธอกลัวใจมันเหลือเกิน และยังมีหลานอีกคนที่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง ผู้กองดนัยที่เห็นสถานการณ์ก็เดินเข้าไปเรียกญาติมาคุย มันเป็นข้อดีอย่างหนึ่งที่ผู้ชายคนนั้นยังตอบโต้กัลทางญาติบ้าง
“ผมขอคุยด้วยหน่อยครับคุณป้า”
“ได้จ้ะ”
เธอมองประตูอีกครั้งก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้นทันที ตอนนี้ผู้ชายยังไม่รู้ว่ามีตำรวจมาเดินวนเวียนเพราะเขาสั่งไว้ว่าไม่ให้ออกมาในตอนนี้
“เกิดอะไรขึ้นครับเล่าให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย”
“ได้จ้ะผู้กอง คือว่าเมื่อวานช่วงบ่ายลูกสาวป้ากับไอ้กำจอนมันทะเลาะกันทางโทรศัพท์หนักอยู่นะ ไม่รู้ไปคุยกันยังไงไอ้กำจอนมันก็มาหาที่บ้านและพาลูกสาวป้ากับหลานกลับไป ตอนแรกป้าก็คิดว่ามันดีกันแล้วก็เลยปล่อยมันให้มาด้วยกัน แต่หลังจากนั้นป้าติดต่อลูกไม่ได้เลย แต่ว่าเมื่ิอตอนตีห้าลูกป้าส่งข้อความมาขอความช่วยเหลือป้าก็เลยมา มันไม่เปิดประตูให้เลยแถมยังบอกไม่ให้มายุ่งอีก ป้ากลัวว่าลูกจะเป็นอะไรไหนจะหลานอีก ไอ้นี่มันชอบเมาแล้วเลอะเทอะด้วย ผู้กองช่วยหน่อยนะจ้ะ”
คุณป้าเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนสุดๆ เธออยากให้ลูกกับหลานปลอดภัยที่สุด เขายิ้มออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยเสียงอ่อนโยน
“ใจเย็นนะครับคุณป้า ผมจะช่วยให้ถึงที่สุดไม่ต้องกังวลนะครับ”
“ขอบคุณนะจ๊ะผู้กอง”
คุณป้ายิ้มออกมาอย่างเริ่มยิ้มออกมาได้บ้าง ผู้กองดนัยหยิบโทรศัพท์กดโทรไปหาหญิงเล็กเพื่อขอให้เธอช่วยอะไรบางอย่าง
(ว่าไงจ๊ะพี่ไฟท์)
“หญิงเล็กช่วยอะไรพี่หน่อยสิคะ”
(อะไรเหรอ…)
หญิงเล็กรับฟังอย่างตั้งใจ หลังจากวางโทรศัพท์เธอก็ไปทำตามที่เขาสั่งทุกอย่างโดยใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็มาถึงที่หมาย เธอถือถุงกับข้าวหลายกล่องไปยื่นให้ผู้กองดนัยก่อนจะเอ่ยเสียงเหนื่อยหอบ
“นี่จ้ะผู้กอง ว่าแต่เอาไปให้ใครเหรอจ๊ะ”
เขาส่งข้าวกล่องไปให้คุณป้าที่นั่งอยู่ก่อนจะเอ่ยเสียงจริงจัง
“เอาข้าวกล่องไปให้คนในบ้านก่อนนะครับคุณป้าบอกว่าซื้อมาให้กลัวว่าหลานกับลูกจะหิว ทำยังไงก็ได้ให้พวกเขากินนะครับ”
“ได้จ้ะป้าจัดการให้”
คุณป้าถือถุงข้าวเข้าไปหน้าบ้านก่อนจะเคาะประตูเรียกอีกครั้งและทำตัวปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ไอ้จอนข้าออกไปซื้อข้าวมาให้หลานกับลูกข้า มีของเอ็งด้วยนะ เอาไปให้พวกมันกินก่อนข้าขอร้อง”
นายกำจอนที่ได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปอย่างลังเล เขากำลังคิดว่าจะออกไปเอาดีมั้ยแต่ดูท่าทางสองคนน่าจะอยากกินข้าวอยู่เพราะไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
“ลูกหิวจ้ะพี่กำจอน อย่าทำแบบนี้เลยนะไหนพี่บอกว่ารักลูกรักฉันไง”
“เออๆข้าจะออกไปเอาให้”
เขาลุกขึ้นเดินออกไปเอากับข้าวที่หน้าบ้านโดยที่สั่งให้แม่เมียวางทิ้งไว้แล้วให้ออกไปไกลๆ เขาแง้มประตูเล็กน้อยรอดูว่าไม่มีคนก็รีบหยิบกล่องข้าวเข้าไปทันที ชายหนุ่มเดินมายืนตรงหน้าภรรยากับลูกก่อนจะเอาวางไว้ให้
“อ่ะเอ็งกินสิ”
“พี่จะขังพวกเราทำไมไม่สงสารลูกบ้างเหรอ แล้วเหล้านะเบาๆหน่อยได้มั้ยพี่กินทีไรก็ทำร้ายฉันทำร้ายลูก”
“ข้ายังไม่ได้ตีเอ็งเลยนะ ก็เอ็งไม่ยอมออกมาเจอไงให้ทำไงล่ะ”
“ก็เพราะพี่เป็นแบบนี้ไง”
เด็กน้อยมองพ่อกับแม่ทะเลาะกันตัวสั่น เป็นโชคร้ายที่เด็กเกิดมาในครอบครัวแบบนี้และยังเล็กต้องมาซึมซับเรื่องไม่ดีแบบนี้ นายกำจอนเปิดข้าวกล่องดูก่อนจะตักชิมเพราะมันเป็นของที่เขาชอบและไปสั่งกินที่ร้านหญิงเล็กบ่อย
“อร่อยนะเอ็งกินสิ”
“พี่กินก่อนก็ได้ เดี๋ยวฉันกับลูกค่อยกิน”
ทางด้านของผู้กองดนัยเขาโอบเอวหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะมองไปยังประตูที่ตอนนี้ข้าวกล่องหายไปด้วยฝีมือของนายกำจอนที่ออกมาเอาเมื่อสักครู่
“หญิงเล็กเจอนายกำจอนบ่อยนะจ้ะ เขาชอบมาซื้อกับข้าวที่ร้านและจะสั่งแต่เมนูเดิมๆบอกว่าเมียกับลูกชอบกิน”
“ฟังดูก็เหมือนรักลูกรักเมียนะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้”
ผู้กองดนัยมองอย่างสงสัย หญิงเล็กมองคุณป้าที่ตอนนี้เดินวนไปมาด้วยความกังวลเพราะเป็นห่วงทั้งลูกและหลาน เรื่องครอบครัวมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมากเราเป็นคนนอกไปทำอะไรไม่ได้หรอก
“เพราะแอลกอฮอล์ไงจ้ะพี่ไฟท์ นายกำจอนตอนที่ไม่ดื่มเป็นคนดีมากเลยนะ ตั้งใจทำงานซื้อของอร่อยไปฝากลูกเมียตลอด ไม่รู้ว่าเครียดอะไรถึงได้กลายเป็นแบบนี้”
“งั้นเหรอ… แล้วหนูคิดว่าตอนนี้ยาจะออกฤทธิ์หรือยัง”
“ก็ถ้ากินไปแล้วก็คงออกฤทธิ์แล้วแหละ ลองให้คุณป้าไปลองเรียกดูสิ…”
ผู้กองดนัยกวักมือเรียกคุณป้าให้มาหาเพราะเขาอยากจะรู้ว่าคนในบ้านได้กินข้าวกล่องไปหรือยัง เพราะเขาสั่งให้หญิงเล็กผสมยานอนหลับไปด้วย เรื่องของครอบครัวตำรวจไม่อยากจะใช้ความรุนแรง อะไรที่เบาได้เขาจะเบาที่สุด
“คุณป้าครับลองไปตะโกนเรียกดูสิครับว่านายกำจอนยังตอบรึเปล่า”
“ได้จ้ะเดี๋ยวป้าไปลองเรียกดู”
คุณป้าเดินไปตะโกนเรียกคนในบ้านแต่ดูเหมือนว่าไม่มีเสียงตอบรับจากนายกำจอนเลย เขาหันไปสั่งให้ผู้หมวดงัดเข้าไปในบ้านก่อนจะค่อยๆย่องเข้าไปข้างใน และภาพที่เห็นคือทั้งสามคนนอนหลับอยู่โดยแม่นอนกอดลูกส่วนนายกำจอนนอนพิงโซฟา
“ผู้หมวดจับนายกำจอนไปโรงพักก่อน ส่วนสองคนรอให้ตื่นแล้วคุณป้าพาไปหาผมที่โรงพักนะครับ”
“ขอบคุณมากนะจ้ะผู้กอง ผู้หมวด ขอบคุณทุกคนนะจ้ะที่ช่วย”
คุณป้ายกมือไหว้ขอบคุณทุกคนก่อนจะวิ่งไปหาลูกสาวและหลานเอาผ้ามาเช็ดให้หน้าด้วยความห่วงใย หญิงเล็กมองภาพนั้นก็อยากจะร้องไห้เพราะชีวิตเธอไม่มีใครสักคนคอยห่วง มีพี่ชายก็หนีไปบวชทุกวันนี้เธอเหมือนตัวคนเดียวจนกระทั่ง…
“ป่ะกลับกันคนสวย”
เขาโอบเอวหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะพากันเดินไปขึ้นรถของเธอ หญิงเล็กเงยหน้ามองชายหนุ่มก่อนจะยิ้มออกมาบางๆตอนนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองมีคนคอยห่วงใยไม่โดดเดี่ยวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว…