บทที่ 1 พากลับ

1348 คำ
ลูอีสเล็งปืนไปยังชายฉกรรจ์ที่ยืนอยู่ข้างหลังของคุณแม่เด็กสาว สายตาเล็งไปยังมือที่ถือปืน ใบหน้าของเขายิ้มเหี้ยมอย่างน่ากลัว ก่อนจะลั่นไกยิงตรงไปยังที่หมาย และเขาที่ฝึกการยิงปืนมาไม่มีทางที่จะเล็งพลาด ลูกปืนเข้าไปที่มือของเขาอย่างจัง เสียงโหยหวนดังขึ้นพร้อมกับดีดดิ้นลงไปนอนที่พื้น เขาลั่นไกซ้ำไปอีกครั้งแต่ครั้งนี้เล็งไปที่เรียวขาของเขา อ๊ากกกกก ! เด็กสาวได้สติรีบวิ่งเข้าไปหาคุณแม่ของตัวเองใบหน้าสวยตื่นตระหนกกอดรัดเอาไว้ประคองคุณแม่ของเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน พะเยาท่านเพื่อเรียกสติก่อนจะร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น "แม่จ๋า ฮึก...! แม่อย่าทิ้งหนูไปนะไม่งั้นหนูจะอยู่กับใคร" เสียงเล็กร้องไห้ออกมาเสียงดังลั่น คนตัวเล็กสั่นกลัวมองไปโดยรอบเห็นแต่ความหายนะเบื้องหน้า ลูอีสก็มองเด็กสาวด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดๆและไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากนี้เขามีความคิดแบบไหน ลูกน้องของเขารีบวิ่งตรงเข้ามาหาเจ้านายเกือบจะวิ่งตามมาไม่ทันเพราะอยู่ๆเขาก็วิ่งออกมาก่อน "เกิดอะไรขึ้นครับนายใหญ่ ทำไมหมู่บ้านนี้ถึงเละเทะแบบนี้ครับ" "ไอ้พวกโจรมันมาปล้นเสบียงเผาที่นี่จนย่อยยับหมด คนในหมู่บ้านโดนฆ่าตายเยอะมาก" "ไอ้พวกเลวเอ๊ยฆ่าคนบริสุทธิ์แบบนี้ได้ยังไง" ลูกน้องของลูอีสสบถออกมาอย่างหัวเสีย ถึงพวกเขาจะเป็นมาเฟียแต่ไม่ใช่ว่าจะฆ่าคนเหมือนผักเหมือนปลา การที่เราจะจัดการใครสักคนหนึ่งพวกมันจะต้องทำผิดจริงไม่ใช่ว่าจู่ๆอยากจะฆ่าใครก็ฆ่าอย่างนั้น และยิ่งเป็นชาวบ้านตาดำๆที่ไม่มีแม้แต่กำลังต่อสู้ พวกเขาจะไม่รังแกคนบริสุทธิ์เด็ดขาด "แล้วทางนั้นเป็นยังไงบ้าง" "ตำรวจจับได้แล้วครับตอนนี้กำลังลากคอไปที่โกดังร้าง" "ปล่อยมันไว้ที่นั่นก่อนเดี๋ยวฉันไปจัดการเอง" เขาพูดพร้อมกับปรายตามองไปยังเด็กสาว และดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะมีแค่คุณแม่เพียงคนเดียวและดูจากสภาพแล้วไม่น่าจะมีชีวิตรอด แถมในหมู่บ้านยังแทบไม่เหลือสภาพที่จะอยู่ต่อได้ แล้วเด็กคนนี้จะทำยังไงล่ะเขายังคิดไม่ตก คุณแม่ของเธอพยายามที่จะลืมตามองลูกสาวแต่มันยากมากที่จะทำได้ พิษจากการถูกยิงทำให้เธอแทบไม่เหลือลมหายใจมือใหญ่ยื่นไปลูบแก้มลูกสาวสุดที่รักพยายามใช้พลังเฮือกสุดท้ายในการคุยกับลูกสาว "แม่รักหนูนะลูก แม่... ขอโทษ" สิ้นเสียงนั้นหญิงผู้มีอายุก็สะดุ้งเฮือกก่อนจะสิ้นลมหายใจอยู่ในอ้อมแขนของลูกสาว เด็กน้อยกรีดร้องออกมาอย่างทรมานภาพที่ต้องเห็นคุณแม่ของตัวเองถูกยิงต่อหน้าต่อตามันทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดทรมาน มันเป็นภาพติดตาที่ลบยังไงก็ไม่มีวันหาย "แม่... ฮึก แล้วหนูจะอยู่ยังไง แม่ฟื้นขึ้นมาก่อน ฮืออออออ แม่...!" ริชาร์ดมองภาพนั้นด้วยความสะเทือนใจ เหลือบสายตามองเจ้านายซึ่งไม่รู้ว่าภายใต้ใบหน้านิ่งนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ "นายใหญ่จะเอายังไงกับเด็กคนนี้ครับ" "ถ้าฉันปล่อยทิ้งไว้ที่นี่เด็กจะอยู่ได้ไหม" ชายหนุ่มเอ่ยถามตามตรงเขา ไม่ใช่คนดีอะไรนักหนาหรอกจะให้ไปช่วยเหลือทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ "ผมว่าไม่น่ารอดนะครับ แล้วตอนนี้ไม่รู้ว่าไอ้พวกนั้นจะย้อนกลับมาอีกหรือเปล่าถ้านายใหญ่ไม่พาเธอกลับไปด้วยอาจจะได้รับอันตรายได้" ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างเซ็ง ๆ ทำไมเขาจะต้องพาเด็กคนนี้กลับไปเป็นภาระให้ตัวเองด้วย ปกติดูแลลูกน้องเป็นร้อยคนพันคนก็เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว อย่างน้อยลูกน้องของเขาดูแลตัวเองได้เพราะว่าต่อสู้กันเก่งมากไม่มีใครกล้ามารังแกหรอก แต่กับเด็กคนนี้คิดดูแล้วอายุไม่น่าจะถึง 18 แถมยังดูพูดไม่รู้เรื่องด้วยแล้วเขาจะพาไปเป็นภาระทำไม "ก็ช่างสิไม่ใช่เรื่องของฉันสักหน่อย" พูดจบเขาก็หันหลังกลับพาตัวเองจะเดินออกไปจากตรงนั้น เสียงร้องไห้ของเด็กสาวทำให้ชายหนุ่มถึงกับก้าวขาไม่ออก หลับตาลงก่อนจะพ่นลมหายใจอุ่นร้อนออกมา "ภาระชิบหาย แม่งเอ๊ย" ชายหนุ่มสบถออกมาอย่างหัวเสียก่อนจะหันหลังกลับไปหาเด็กสาวดึงตัวเธอให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะลากออกไปจากตรงนั้นทันที "ปล่อยหนูนะ อย่ามายุ่งกับหนู ฮึก...! จะอยู่กับแม่" "แม่เธอตายไปแล้วจะไปอยู่ด้วยได้ยังไง หรือว่าเธอจะฆ่าตัวตายตามไปล่ะ" สกิลปากของเขายังคงเก่งตามสไตล์ พูดจาไม่ค่อยรักษาน้ำใจใคร และนี่เป็นข้อเสียของผู้ชายแบบเขา เด็กสาวกลับหลังหันมองไปยังร่างที่ไร้วิญญาณของคุณแม่ร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสารสำหรับผู้ที่มองเห็น ริชาร์ดรู้สึกสงสารหญิงสาวจับใจแต่เขาเป็นลูกน้องของนายใหญ่ไม่สามารถออกคำสั่งอะไรกับเขาได้ และการที่เขาจะพาเด็กคนนึงไปดูแลนายใหญ่แห่ง west valor ต้องเป็นคนตัดสินใจเอง "แม่หนูยังไม่ตาย หนูต้องพาแม่ไปหาหมอก่อนให้คุณหมอรักษา" "รักษาบ้าอะไร...! แม่เธอไม่หายใจแล้ว" "แม่หนูยังไม่ตาย คุณโกหก" เด็กสาวร้องไห้โวยวายออกมาอย่างไม่อายใครพยายามจะวิ่งกลับไปหาร่างไร้วิญญาณของคุณแม่ชายหนุ่มไปหน้าหงุดหงิดฉายแววชัดเจนอุ้มหญิงสาวขึ้นพาดบ่าก่อนจะพาเดินออกไปจากตรงนั้นทันที "กรี๊ดดดด ปล่อยหนูนะคนบ้า" "เธอนี่มันเป็นตัวภาระของจริง ไม่รู้ว่าชีวิตทำกรรมทำเวรอะไรมาถึงโคตรซวยได้มาเจอเธอในสภาพนี้ จะไม่ดูดำดูดีก็กระไรอยู่ เดี๋ยวลูกน้องคนอื่นก็จะว่าฉันใจร้าย พวกมันจะไม่เคารพฉันเอาได้" "ฮือ...! งั้นก็ปล่อยหนูสิปล่อยหนูไปตามยถากรรม ปล่อยให้หนูอยู่ในป่าตัวคนเดียวให้โดนเสือกัดตายไปเลยคุณจะได้ไม่ต้องเอาหนูไปเป็นภาระ ปล่อยนะ...!" เสียงเล็กเอ๋ยประชดประชันชายหนุ่ม ในตอนนี้เธอกำลังเสียใจที่แม่ของตัวเองไม่มีชีวิตอยู่แล้วแทนที่เขาจะปลอบโยนกับพูดจากระแทกแดกดันทำลายความรู้สึก ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ปากเสียชะมัดเลย "ให้เสือในป่ากินตายมันจะไปมีประโยชน์อะไรล่ะ สู้ให้เธอไปทำประโยชน์ให้ฉันดีกว่า" "ทำประโยชน์อะไรคะ" "ไปเลี้ยงลูกๆของฉันไง ไม่ต้องทำอะไรเยอะหรอกแค่ป้อนข้าวป้อนน้ำ อาบน้ำแปรงฟันทำแค่นี้ก็พอแล้วฉันจะส่งเสียเธอเรียนให้จบ ให้ที่พักอาศัยถือว่าแลกเปลี่ยนกัน" หญิงสาวนิ่งเงียบอย่างคิดไม่ตกจากที่เธอฟังผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาและดูเหมือนว่าเขาจะเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่งและมีลูกน้องติดตามค่อนข้างเยอะ "แล้วลูกคุณมันแปรงฟันเองไม่ได้หรือไงทำไมต้องไปแปรงให้" "เสือโคร่งมันไม่มีมือจะแปรงฟันเองได้ยังไง" ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเสียงเรียบลูก ๆที่เขาพูดถึงก็คือเสือที่เขาเลี้ยงไว้ดูเล่นมีหลายตัวด้วยนะน่ารักน่าชังสุด ๆ "อะไรนะคะให้หนูไปเลี้ยงเสือเหรอ ไม่นะหนูไม่ไปปล่อยหนู กรี๊ด...!"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม