[3]

1418 คำ
บริเวณล็อบบี้อันโอ่โถงของโรงแรมเวิลด์พาราไดซ์ ปราณันต์นั่งรอเวลาที่พี่สาวคนสวยจะเลิกงาน พี่ชายคนดีอย่างติการุณก็อยู่ด้วย เขาเพิ่งวางสายจากสาวคนรักด้วยรอยยิ้มอิ่มใจ ปราณัฐเจ้ากี้เจ้าเจ้าการสั่งแม่บ้านสามสี่คนให้ทำความสะอาดบริเวณที่สองหนุ่มก่อเรื่องไว้ ก่อนจะเดินหน้าตึงเข้ามาร่วมวง เป็นเวลาเดียวกับที่ดิมิทรีเดินมาสมทบกับคนทั้งสาม “ฉันไม่น่าหลวมตัวมาทำงานที่นี่เลย ลาออกดีไหมเนี่ย” หญิงสาวผิวสีน้ำผึ้งบ่นไปเรื่อย ไม่จริงจังนัก แต่ก็ทำให้เจ้าของโรงแรมทำหน้ายู่ด้วยไม่ชอบใจ “โธ่...ณัฐอ่า อย่าเพิ่งไปไหนเลยนะคนดี ถ้าณัฐไปจริงๆ ดอมจะอยู่ได้ยังไง คิดถึงนะ...” ติการุณทำหน้าแหยใส่วาจาเลี่ยนๆ ของดิมิทรี พ่อคนเจ้าชู้มีวาจาหวานชวนอ้วกเสมอ “ฉันจะไป คอยดูนะ ฉันจะสามีดีๆ หล่อๆ รวยๆ แล้วก็แต่งงานไปอยู่กับเขาให้รู้แล้วรู้รอด นายจะได้เข้าใจซะทีว่าเราเลิกกันแล้ว” ปราณัฐย้ำเตือน ดิมิทรียิ่งตีหน้าเศร้าลงไปอีก “ไม่มีใครดีเท่าดอมหรอก เชื่อสิ!” เขาโอ้อวด ปราณันต์ขยับขาแว่นตาเล็กน้อย เฝ้ามองบุรุษลูกครึ่งที่กำลังสารภาพความในใจให้พี่สาวเธอรับฟัง ด้วยหวังว่าอีกฝ่ายจะใจอ่อน แต่เธอรู้ดี พี่สาวคนนี้ลองได้ตัดสินใจอะไรแล้วละก็ ไม่มีวันเปลี่ยนใจแน่นอน บางทีเธอก็สงสัยว่าตกลงแล้วพี่สาวเธอรักดิมิทรีบ้างไหม ทำไมไม่เห็นเศร้าโศกเสียใจสักนิดที่ต้องเลิกกัน เธอเห็นแค่ปราณัฐหัวเสียและอารมณ์ไม่ดีเท่านั้นตอนที่บอกเลิกดิมิทรีใหม่ๆ ราวกับหล่อนแค่เสียดายเวลาที่เสียไปเท่านั้น “มีสิ! คอยดูนะ ฉันจะหาให้ได้ภายในวันสองวันนี้แหละ” ปราณัฐเอ่ยคำท้าออกไปด้วยรำคาญอดีตแฟนเด็กโข่ง ดิมิทรียังพยายามอย่างยิ่งในการง้อให้เธอกลับไปยืนอยู่ข้างเขาในฐานะแฟน แต่ไม่ดีกว่า การเป็นแฟนที่ต้องทนต่อความเจ้าชู้ของชายคนรักน่ะ มันทรมานเกินไป เธอเบื่อที่ต้องเป็นแบบนั้น “โอ...ขนาดนั้นเลยหรือณัฐ” ติการุณถามด้วยความทึ่ง ปราณัฐดูมันอกมั่นใจเสียเหลือเกิน “อาฮะ คอยดูเถอะ สามีในอนาคติของฉันจะต้องหล่อ รวย กล้ามใหญ่ และไม่เจ้าชู้” เธอเอ่ยอย่างหนักแน่นในข้อท้ายๆ เอาให้เข้าหูของใครบางคน หวังว่ามันจะไม่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาของเขานะ ดิมิทรีเบะปากใส่ “จ้างก็หาไม่เจอ ไม่มีหรอกนะ ผู้ชายที่ไม่เจ้าชู้น่ะ” “ฉันไง ฉันไม่เจ้าชู้ ฉันรักแฟนฉันคนเดียว” ติการุณออกตัวอย่างภูมิใจ “ยกเว้นแกโว้ย!” ดิมิทรีสวนทันควัน ปราณันต์มองเขาแล้วก็ได้ถอนหายใจเฮือกๆ ทำไมนะ ทำไมดิมิทรีไม่หันมามองเธอบ้าง แต่ก็นั่นแหละ ใครเขาจะสนป้าแก่แสนเฉิ่มอย่างเธอล่ะ “พี่ณัฐคะ แล้วพี่จะไปหาผู้ชายคนนั้นได้ที่ไหน พี่แทบจะไม่ได้ออกไปเจอโลกกว้างเลยนะ อยู่แต่ในโรงแรมนี่” “ก็หาเอาแถวๆ นี้แหละ ง่ายดี” คนถูกถามบอกยิ้มๆ อย่างนึกสนุก “ที่ไหนคะ โรงแรมนี่เหรอ?” ปราณันต์ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่พี่สาวเอ่ย ก็จริงที่โรงแรมนี้มีแขกเข้ามาพักมากมาย แต่ปราณัฐจะใช้วิธีไหนกันล่ะ ถึงจะได้เจอกับสามีในอนาคตที่โพรไฟล์เลิศเลอขนาดนั้น “ใช่...อืม...คอยดูนะ ผู้ชายคนแรกที่เดินเข้าประตูมานั่นแหละ คนนั้นแหละที่จะมาเป็นพ่อของลูกฉัน!” “ฮะ!?” สองหนุ่มกับหนึ่งสาวที่นั่งอยู่ ร้องออกมาพร้อมๆ กัน ต่างคิดเหมือนกันว่าปราณัฐชักจะบ้าไปใหญ่แล้ว “พี่พูดเล่นใช่ไหม!” ปราณันต์ถามพี่สาวอย่างขลาดๆ พี่คงไม่คิดทำจริงๆ หรอกมั้ง ก็ถ้าคนที่เขามา หัวล้าน พุงพลุ้ย หนักกว่าคือเขามีเมียแล้วล่ะ พี่จะทำยังไง “ฉันพูดจริงย่ะ!” สิ้นคำประกาศของปราณัฐ ทุกคนก็หันไปจ้องประตูทางเข้าอย่างใจจดใจจ่อ ประตูแบบหมุนที่คนเดินเข้าออกสามารถเดินสวนกันได้ กำลังทำงานของมันอย่างขะมักเขม้น สีรมดำของกระจกประตูทุกบานทำให้คนข้างในมองเห็นไม่ค่อยชัด จนกว่าคนข้างนอกจะเดินเข้ามาข้างใน แล้วหัวใจของปราณัฐก็ได้เต้นโครมคราม เมื่อเงาสูงใหญ่ของบุรุษนายหนึ่งกำลังทาบทับตรงหน้าบานประตู เขาไม่ได้มาคนเดียว แต่มีผู้ติดตามมาด้วย อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือไม่ก็คนของเขา ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ หัวใจของปราณัฐเต้นถี่เร็วแรง ขายาวๆ ของเขาก้าวพ้นประตูมาแล้ว เธอรีบหลับตาปี๋เพราะกลัวว่าภาพที่เห็นมันจะไม่เป็นอย่างที่คิด แล้วเสียงร้องอย่างตื่นตะลึงของคนทั้งสามที่นั่งอยู่ด้วยกันก็ทำให้เธออดไม่ได้ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามอง และภาพที่เห็นก็ทำหัวใจเธอแทบหยุดเต้น บุรุษเลือดผสมร่างสูงใหญ่ กำลังก้าวผ่านเธอไปพร้อมผู้ติดตามอีกสี่คนซึ่งล้วนแต่เป็นบุรุษ พวกเขาสวมสูทเรียบหรู ดูเป็นทางการ หน้าตาแต่ละคนก็ดูโหดๆ ขรึมๆ ราวกับพวกบอดี้การ์ดหรือองครักษ์ มีแต่คนที่เดินนำหน้าเท่านั้นที่หน้าตาหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาน่าจูบน่าหอม น่า...โอ๊ย! คนนี้แหละ พ่อของลูก! “พี่ณัฐ! พี่ณัฐคะ” ปราณันต์เรียกพี่สาว แต่ดูเหมือนว่าปราณัฐจะสติไม่อยู่กับตัว เจ้าหล่อนยังคงจ้องไปยังบุรุษร่างสูงคนแรกที่ก้าวเข้าประตูมา ตอนนี้เขากำลังเช็กอินอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ “ณัฐ...ณัฐ!” ติการุณช่วยเรียกอีกแรง ส่งผลให้ปราณัฐหลุดจากภวังค์ชั่วครู่ “นี่อย่าบอกนะว่าตกหลุมรักนายนั่นไปแล้วจริงๆ” ดิมิทรีถามอย่างเคืองๆ “ใช่...ตกหลุมรักแบบหัวปักหัวปำเลยด้วย นายเห็นไหมดอม ผู้ชายคนนั้นน่ะหล่อชะมัดเลย ตัวสูง หน้าคมเข้ม ฉันว่าเขาต้องเป็นแขกหรือไม่ก็ลูกครึ่งแขก โอ...พระเอกนิยายชัดๆ” “เลิกเพี้ยนแล้วออกมาสู่โลกของความจริงซะณัฐ เธอไม่มีวันสมหวังกับผู้ชายคนนั้นแน่นอน” ดิมิทรีเอ่ยเตือนอย่างเพื่อนผู้หวังดี ยิ่งเห็นดวงตาเป็นประกายของปราณัฐยามจ้องไปที่บุรุษร่างสูง แทนที่จะหึงตามประสาคนเคยรัก เขากลับเป็นห่วงอย่างเพื่อนผู้ปรารถนาดีมากกว่า ปราณัฐไม่ควรรักผู้ชายคนนั้นหากว่าหล่อนไม่อยากเสียใจไปตลอดชีวิต “ทำไมจะไม่ได้ยะ! ฉันจะเอา ผู้ชายคนนี้แหละพ่อของลูกฉัน!” ปราณัฐยืนกราน ดิมิทรีส่ายหน้า ติการุณกับปราณันต์นั่งดูคนทั้งสองเจรจากันอย่างใจจดใจจ่อ “ฝันกลางวันเถอะณัฐ เธอไม่รู้หรือว่านั่นใคร” “แล้วใครล่ะ” ปราณัฐสงสัย นี่ดิมิทรีรู้จักผู้ชายคนนั้นด้วยเหรอ “ชีคอลัญ อัลล์ นูไอล์มี เชื้อพระวงศ์จากดูไบ หรือเรียกง่ายๆ ว่าเจ้าชายน่ะณัฐ เธอรู้จักไหม เจ้าชาย...” ปราณัฐสตั๊นไปสิบวิ คำว่าเจ้าชาย เจ้าชายและเจ้าชาย! ดังก้องอยู่ในหูเหมือนถูกร้องผ่านไมโครโฟน มันดังก้องและดังอย่างต่อเนื่องราวกับตอกย้ำถึงความเป็นไปไม่ได้ที่เธอจะได้สมหวังกับเขา แต่ไม่! เธอจะไม่ยอมให้คำว่าเจ้าชายมาพรากพ่อของลูกไปจากเธอเด็ดขาด! “เจ้าชายก็เจ้าชายสิ! ฉันจะเอา!” ว่าแล้วลุกขึ้นมาจัดเสื้อผ้าหน้าผม “พี่จะไปไหนคะ” คนเป็นน้องถามด้วยใคร่รู้ “ก็ไปทำหน้าที่ผู้จัดการโรงแรมน่ะสิ ฉันจะหาดอกไม้กับการ์ดงามๆ ไปต้อนรับท่านชีคที่ห้องของเขา มันต้องเริ่มตั้งแต่ตอนนี้แหละ” ปราณัฐเอ่ยพร้อมรอยยิ้มมาดหมาย ก่อนจะจากไปพร้อมกับความไม่สบายใจของคนที่ยังอยู่ ทุกคนต่างเป็นห่วงปราณัฐ เพราะดูเหมือนว่าเจ้าหล่อนจะสู้ไม่ถอย กลัวแต่ว่าการสู้ของหล่อนจะล้มเหลวน่ะสิ เพราะผู้ชายคนนั้นเป็นถึงท่านชีค เป็นเจ้าชายนะ!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม