#วันที่ 1
ปราณัฐสำรวจตัวเองผ่านกระจกที่ผนังลิฟต์ ผมที่เกล้ามวยอยู่แต่เดิมเธอก็ดึงมันออก ปล่อยผมยาวๆ ให้คลอเคลียแผ่นหลัง เมื่อครู่ก่อนจะเข้ามาในลิฟต์ก็แอบไปเติมลิปสติกกับโบกแป้งอีกเล็กน้อย เธอแต่งหน้าพอเป็นพิธี ไม่ให้หนามาก เดี๋ยวคนที่เธอกำลังจะไปพบ จะรู้เข้าว่าเธออยากเอาตัวเองใส่พานถวายให้เขา
“ฉันจะเป็นชายาท่านชีค ฉันจะเป็น!”
ปราณัฐเอ่ยกับตัวเองอย่างมุ่งมั่น ทว่าพอแลเห็นผิวสีน้ำผึ้งนวลของตัวเองก็ใจแป้ว เขาจะชอบผู้หญิงผิวสีนี้ไหม ก็มันไม่ได้ขาวเนียนเหมือนของปราณันต์นี่นา แต่ช่างเถอะ งานนี้ต้องลองดูสักตั้ง ได้ไม่ได้ค่อยว่ากัน
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดอ้า ผู้จัดการสาวก้าวออกไปพร้อมกับแจกันกุหลาบใบใหญ่ มันยังแนบการ์ดใบหรูจากทางโรงแรมที่เขียนว่ายินดีต้อนรับการมาเยือนของท่านชีคจากดูไบ ความจริงหน้าที่การเอาแจกันขึ้นมาให้ไม่ใช่หน้าที่ของเธอสักนิด แต่ว่า...เธอเต็มใจทำ
มีสุภาพบุรุษสองท่านยืนเฝ้าหน้าห้องของชีคอลัญ ปราณัฐสูบลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วยิ้มโปรยทางขณะเดินเข้าหาสองหนุ่มร่างยักษ์ในชุดสูทเต็มยศ
“อ่า...สวัสดีค่ะคุณสุภาพบุรุษ ฉันเป็นผู้จัดการโรงแรมค่ะ ฉันมีความยินดีที่ท่านชีคให้เกียรติมาพักกับเรา ก็เลยมีของขวัญเล็กน้อยมามอบให้ค่ะ”
ปราณัฐเอ่ยออกไปแล้วกลั้นใจชั่วครู่ สองคนนั้นเจรจากันเป็นภาษาตัวเองสองสามประโยค พอกระซิบกันเสร็จพวกเขาก็ส่ายหน้าแล้วยืนเฉย หรือว่าจะฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องนะ
ปราณัฐเปลี่ยนมาเจรจาเป็นภาษาอังกฤษ และต้องใช้เวลาอีกกว่าสิบนาที พวกเขาถึงอนุญาตให้เธอเข้าไป แน่นอนว่าหลังจากขออนุญาตคนที่อยู่ข้างในแล้ว
“โอ๊ย...กว่าจะเข้ามาได้ยากเย็นแสนเข็ญ”
ปราณัฐทำเป็นบ่น หอบเอาแจกันไปวางบนโต๊ะที่อยู่ใกล้มือที่สุด สองตาก็แลหาเจ้าของห้อง ทว่าไม่เจอ เขาอาจจะอยู่ในห้องน้ำ ห้องนี้เป็นห้องพักที่กว้างขวางโอ่อ่าที่สุดในโรงแรม ไม่แปลกที่มันจะมีห้องหับเป็นสัดเป็นส่วน พรั่งพร้อมด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกละลานตา
ผู้จัดการสาวเดินสำรวจไปเรื่อยๆ บ้างก็ดูความเรียบร้อยของชุดเก้าอี้ รวมถึงส่วนอื่นๆ เพราะไม่อยากให้แขกมาว่าเอาได้ว่ามาพักที่นี่แล้วไม่ได้รับความสะดวกสบายเท่าที่ควร
เสียงเปิดประตูดังเบาๆ ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะหันไปดู เขายังไม่ได้ออกมาจากห้องส่วนตัว อาจจะเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เธอเดินเตร่อยู่แถวๆ นั้น รอเวลาที่เขาจะปรากฏกาย แล้วในที่สุด เวลานั้นก็มาถึง
แอ๊ด...
“เฮือก!” ปราณัฐผวาเฮือกเมื่อหันไปเจอท่านชีครูปงาม ดวงตาเธอเบิกโต สองมือตะครุบปากไว้เพราะไม่คาดคิดว่าจะได้เจอเขาในสภาพที่สวมเพียงกางเกงชั้นในตัวเดียว!
“โอ้ว!? เจ้าเข้ามาทำอะไรในนี้!” ชีคหนุ่มถามเสียงดังแล้วก้าวพรวดๆ กลับไปคว้าเสื้อคลุมมาสวม นึกตำหนิการ์ดทั้งสองที่ปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาเดินอยู่ในห้อง
“เอ่อ...ฉะ...ฉัน ฉันชื่อปราณัฐค่ะ เป็นผู้จัดการโรงแรม ฉันเอ่อ...เอาการ์ดกับดอกไม้มาต้อนรับคุณค่ะ ขอให้พักผ่อนอย่างมีความสุขที่นี่นะคะ” ปราณัฐเอ่ยรัวๆ ขยับไปหยิบเอาแจกันใบเขื่องมายื่นให้เจ้าชายรูปงาม ผมเขายังชื้นอยู่ ใบหน้าเขาดูสดชื่นกว่าตอนที่เธอเห็นครั้งแรก แล้วนั่น แผงอกรำไรที่โผล่ออกจากสาบเสื้อคลุมทำให้เธออดมองไม่ได้ ยังมีหยดน้ำเกาะอยู่จำนวนหนึ่ง ผิวเขาขาวมาก เขาคงเป็นแขกขาว
ใช่...และคงเป็นแขกขาวที่พูดภาษาไทยชัดมากอีกด้วย
“อ่า...ได้ ได้สิ ขอบคุณสำหรับน้ำใจนะมิสปราณัฐ แต่ว่า...เอ่อ...เรา...เราไม่ชอบกุหลาบขาว” เขาบอก เริ่มคันยุบยิบในรูจมูก และพอได้กลิ่นมันมากขึ้นๆ ก็อดไม่ได้ที่จะจามออกมา “ฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย! ช่วยเอามัน...ออกไปที เราแพ้กุหลาบ ฮัดเช้ย!”
เพล้ง!
แจกันกระเบื้องบอบบางหลุดจากมือขาวของเจ้าชาย มันแตกเป็นหลายเสี่ยงบนพื้นพรม
“ตายแล้ว! ขอโทษค่ะ! ขอโทษ ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าเจ้าชายแพ้ดอกกุหลาบ”
ฉึก!
“อ๊า! บ้าจริง!”
ชีคอลัญสบถอีกสองสามคำ ก่อนจะพาตัวเองที่เท้าเจ็บด้วยว่าเหยียบโดนเศษแจกัน ไปนั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง การ์ดสองนายวิ่งเข้ามาดูในทันทีที่ได้ยินเสียงของแตก ทั้งสองหันมามองปราณัฐเป็นตาเดียว หญิงสาวได้แต่ยืนตัวลีบ หน้าซีด ปากสั่น ส่ายหน้ารัวๆ
“เปล่าๆๆ เปล่านะ! ฉันไม่ได้ทำอะไรจริงๆ”
หญิงสาวหน้าเสีย ใจหดเหลือเท่าปลายนิ้วก้อย
“พวกเจ้าสองคนน่ะ คนหนึ่งไปหาอะไรมาทำแผลให้เราที ส่วนอีกคนช่วยเก็บเจ้าเศษแจกันนี่เสีย ก่อนที่คุณผู้หญิงจะเผลอเหยียบมันเข้า”
อลัญสั่งการ์ดของตัวเอง คนทั้งสองเร่งทำตามหน้าที่
ปราณัฐมองใบหน้าชีคหนุ่มอย่างลุ่มหลง ดูเอาเถิด ขนาดตัวเองเจ็บเพราะเธอแท้ๆ ยังมีน้ำใจมาห่วงใยเธออีก
โอ...เอาใจไปเลยคุณชีคขา...
การ์ดนายหนึ่งกลับมาพร้อมกับแม่บ้าน เศษแจกันและกุหลาบดอกงามถูกเก็บกวาดออกไปโดยไว นาทีถัดมา การ์ดอีกคนก็หลับมาที่หน้าประตู ปราณัฐลุกไปหาเขา นัยหนึ่งเพื่อจะกันการ์ดทั้งสองไม่ให้เข้ามาด้านในได้อีก
“ฉันจะทำแผลให้ท่านชีคเอง เอากล่องมานี่”
เธอสั่งเสียงคล้ายกระซิบ พยายามดึงเอากล่องยาสำหรับปฐมพยาบาลมาครอง ทว่าพ่อการ์ดร่างยักษ์ก็ยึดไว้ ทั้งสองหันมองหน้ากันแล้วส่ายหน้ารัวๆ มือก็จับกล่องไว้แน่น แต่มีหรือจะแน่นเกินความสามารถของเธอไปได้
“เอามานะ ฮึบ!” แล้วปราณัฐก็ได้กล่องมาครอบครอง เธอยิ้มเยาะอีกฝ่าย ปั่นหน้าแยกเขี้ยวใส่อีกด้วย “ฉันจะทำแผลให้เจ้าชายเอง พวกคุณสองคนรออยู่ข้างนอกเถอะค่ะ!”
ปัง!
สิ้นเสียงปิดประตูปราณัฐก็เดินเร็วๆ มาหาท่านชีค เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ นิ่วหน้าเล็กน้อย อาจเพราะปวดแผล