รอยยิ้มของเจ้าของห้องระบายเต็มวงหน้าเมื่อเห็นร่างน้องสาวคนดี ปราณันต์ มาทันเวลาพอดีเลย
ดิมิทรีจ้องร่างน้องสาวของปราณัฐแล้วต้องถอนหายใจ แม่สาวเฉิ่มแว่นโตกับกระโปรงทรงคุณป้า ช่างโผล่มาทำให้จิตใจเขาห่อเหี่ยวโดยแท้ ปราณัฐเองก็เถอะ ตั้งแต่เข้ามาทำงานที่โรงแรมก็ไม่ค่อยจะแต่งตัว หล่อนยินดีที่จะซ่อนผิวสีน้ำผึ้งเนียนๆ กับรูปร่างน่าฟัดเอาไว้ใต้ชุดฟอร์มแบบเรียบหรูของโรงแรม น่าเสียดายชะมัด
“เอ้าหยี? มาพอดีเลย พี่โดนนายนี่ตั๊นหน้า มาช่วยทายาหน่อยเร็ว” ติการุณทำทีอ้อนคนที่รักเหมือนน้องสาว แต่ปราณันต์ทำหน้าบูดใส่อย่างงอนๆ
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยค่ะ โตแล้วยังต่อยกันเป็นเด็กๆ เมื่อไหร่พวกพี่จะโตคะ” แม่สาวแสนเฉิ่มเดินลงส้นแรงๆ มานั่งที่เก้าอี้ตัวหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้กับดิมิทรี ใจหายแวบเมื่อเห็นใบหน้าที่เคยหล่อเหลาของดิมิทรีมีรอยฟกช้ำ เขาคงเจ็บน่าดู
“ฉันก็ว่างั้นแหละ เอาอย่างนี้ แกทำแผลให้อีตาดอม ส่วนฉันจะทำให้หมอกันย์เอง” ปราณัฐสั่งน้องสาวแล้วส่งสำลีกับยาล้างแผลมาให้ ปราณันต์ยังงงๆ ทว่าก็ยอมขยับเข้าหาร่างพ่อหนุ่มลูกครึ่งแต่โดยดี แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ชอบใจกับคำสั่งของพี่สาวเธอสักเท่าไหร่
“แล้วทำไมณัฐไม่มาทำแผลให้ดอมล่ะ ดอมเจ็บนะเนี่ย อูย...” พ่อหนุ่มจอมกะล่อนทำตาละห้อยยามจ้องมองปราณัฐทำแผลให้ติการุณ ทว่าสิ่งที่เขาทำอยู่มันใช้ไม่ได้ผลกับปราณัฐอีกแล้ว
“ถามได้นะว่าทำไม ก็เพราะฉันทำแผลให้หมอกันย์อยู่น่ะสิ ส่วนนายละก็...โน่น ให้ยัยหยีทำให้”
ดิมิทรีหันกลับมาหาปราณันต์อย่างเซ็งๆ ยิ่งได้เห็นแว่นตาหนาเตอะของสาวเจ้ามันก็ยิ่งเซ็ง!
“จะทำแผลไหมคะ ถ้าไม่ทำฉันจะได้นั่งหายใจทิ้ง”
ดิมิทรีตาลุกเมื่อได้ฟังสิ่งที่สาวเจ้าเอ่ยมา เขาเลยต้องนั่งดีๆ ให้ยาหยี เอ๊ย! ลูกหยีช่วยทำแผลให้ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองอดีตแฟน ก็แหม...มันยังตัดใจไม่ได้ ก็เขาน่ะนะ ยังไม่ได้แอ้มปราณัฐเลยนี่นา เฮ้อ...เสียดาย
“อ๊า! เธอทำอะไรของเธอฮะ! มันเจ็บ!”
ดิมิทรีเบี่ยงหน้าออกจากมือของปราณันต์ ก็หล่อนดันกดสำลีใส่แผลเขาทำไมเล่า
“ก็คุณไม่นั่งดีๆ นี่นา จะหันไปมองพี่ณัฐทำไม”
คนที่ช่วยทำแผลให้ บ่นอย่างเคืองๆ คนอุตส่าห์ช่วยยังจะมาว่าอีก
“เรื่องของฉัน!” ดิมิทรีโต้คืน นั่งหน้าบูดให้ปราณันต์ช่วยทำแผลต่อ ความจริงหล่อนก็ทำแผลใช้ได้ มือก็เบา แถมกลิ่นตัวก็หอมอีกต่างหาก เสียอย่างเดียว แว่นตานรกกับมาดคุณป้านี่ขอเถอะ เอาไปทิ้งได้ไหม เสียของ!
“มุมปากคุณแตกนิดหน่อย แต่ช้ำเยอะเลย พรุ่งนี้คงขึ้นสีม่วงแน่ๆ” ปราณันต์เปรย ล้างแผลเสร็จก็ช่วยทายาแก้ฟกช้ำให้เขา
“อาฮะ...ปากเธอก็แดงดีจัง”
“หือ? อะไรนะ”
ปราณันต์ได้ยินไม่ชัด ดิมิทรีเลยเฉไฉทำไม่รู้ไม่ชี้ เป็นจังหวะเดียวกับที่ปราณัฐทำแผลให้ติการุณเสร็จพอดี
“เอาละ ฉันว่าเราแยกย้ายกันดีกว่า เพราะนี่ยังอยู่ในเวลางานของฉันนะ” เธอว่า
“ได้ๆ ฉันก็จะไปโทรหาแฟนเหมือนกัน”
ติการุณเสริมแล้วลุกยืน ดิมิทรีกับปราณันต์เลยยืนขึ้นบ้าง
“แล้วนี่มาทำไม มาหาฉันเหรอ”
ปราณัฐหันไปถามน้องสาว
“คือว่าหยีเอางานมาส่งลูกค้าแล้วนี้ค่ะ ก็เลยแวะมาหา ว่าจะชวนไปหาอะไรกินด้วย” ปราณันต์บอก ขยับแว่นสายตาเมื่อมันเลื่อนออกจากตำแหน่งอันสมควรบนสันจมูก เธอรับงานแปลเอกสาร มีทีมงานคือเพื่อนอีกสองสามคนที่เรียนมาด้วยกัน มันไม่ได้หนักมากแต่มีความสุขและมีเงินใช้ ถึงจะไม่มากก็ตาม
“โอเค งั้นเดี๋ยวเลิกงานค่อยว่ากัน ไปรอที่ล็อบบี้ก่อนก็ได้ ฝรั่งเยอะ เจริญหูเจริญตา ฮ่าๆๆ”
ปราณัฐแนะน้องสาวแล้วฮากลิ้ง ติการุณกับปราณันต์ก็นึกขำกับเจ้าหล่อนด้วย แต่คนที่ไม่ขำก็ยังมีอีกอยู่
“ไม่เห็นจะมีคนหล่อเลย ทั้งโรงแรมนี่ก็มีดอมอยู่คนเดียวที่หล่อ”
ดิมิทรีบอกจริงจัง ปราณัฐยิ้มอ่อนแล้วมองบนอย่างระอา ส่วนติการุณส่ายหน้าแล้วเดินออกจากห้องไปพร้อมเจ้าหล่อน
“คุณรู้ตัวไหมคะว่าเป็นคนหลงตัวเองที่สุดในโลก”
แม่สาวเฉิ่มเตือนสติ
“อาฮะ...ก็มันเป็นเรื่องจริง หรือเธอว่าฉันไม่หล่อล่ะ”
ดิมิทรีย้อน ปราณันต์หน้าแดงขึ้นเรื่อยๆ
“เอ่อ...ฉันว่า...ฉันไปนั่งมองผู้ชายที่ล็อบบี้ดีกว่า เผื่อจะเจอสามีในอนาคต”
ว่าแล้วก็รีบเผ่นออกจากห้อง ก่อนจะถูกสายตาเจ้าชู้ของดิมิทรีกวาดมองเรือนร่างให้อายเขิน ก็เธอน่ะ แอบปลื้มเขามากน่ะสิ ปลื้มตั้งแต่ตอนที่เขากำลังคบกับพี่สาวตัวเองด้วย น่าอายชะมัด
ดิมิทรีมองตามแม่สาวเฉิ่มแล้วหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว ท่าทางเปิ่นๆ ของปราณันต์ทำให้เขาอดเอ็นดูหล่อนไม่ได้ ถ้าหล่อนถอดแว่นนั่นทิ้ง ถอดชุดคุณป้าแสนเชยนั่นออก แล้วเปลี่ยนมาใส่ส้นสูง สายเดี่ยว แล้วทาปากแดงๆ ละก็นะ
อื้อหืม...จะกล่อมให้มาอยู่บนเตียงให้ได้เลยเชียว
“โอ...แกคิดอะไรกับยัยเฉิ่มนั่นวะดอม แกรักปราณัฐไม่ใช่เหรอ ไอ้เพี้ยนเอ๊ย!”
ดิมิทรีก่นด่าตัวเองอยู่สักพักก็เดินออกจากห้องตามคนอื่นๆ ไป