#18

1570 คำ
นับดาวจูงเทวาเดินไปอีกทางเพื่อไปยังรถของเธอ แต่พวกเธอก็ไปได้ไม่กี่ก้าว “ไปขึ้นรถ” ทิวาพูดเสร็จก็มองไปที่รถของเขา “ฉันต้องไปส่งเทวา” น้ำเสียงห้วนกระด้าง “ไปขึ้นรถ” ทิวาเสียงเย็นขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว “ลืมเรื่องเมื่อคืนแล้วเหรอครับ คุณแม่” จู่ๆเขาก็ไม่ชอบน้ำเสียงกระด้างของเธอเลย “คุณหมายความว่าไง” ท่าทางที่เปลี่ยนไปของนับดาวและทิวา ทำให้เทวาสลับมองคนโน้นทีคนนี้ที  “ไปขึ้นรถ วันนี้เป็นวันทำงาน คุณไม่ต้องทำตามคำสั่งอย่างงั้นเหรอ” แม้คำพูดจะพูดออกไปอย่างงั้นแต่สายตาเขากลับมองเธออย่างน่าเกลียด เขากำลังข่มขู่เธอ ด้วยเรื่องอัปยศ นับดาวไม่อยากสายเธอจึงพาเทวาเปลี่ยนไปขึ้นรถของเขาแทน “บอกเส้นทางสิครับ” นับดาวเหลือบมองค้อนเขาทีหนึ่ง ก็หยิบโทรศัพท์ออกมา เปิดแผนที่และเพิ่มลำโพงให้เสียงดังกังวาล ทิวายิ้มออกมาก่อนที่จะเคลื่อนรถไปตามแผนที่ที่ร้องบอก เอิ๊ก เอิ๊ก เทวาหัวเราะออกมาอย่างช่วยไม่ได้ และเสียงนี้ก็ทำให้บรรยากาศตึงเครียดลดน้อยลงไปไม่น้อย เมื่อเทวาถึงโรงเรียนแล้ว ในรถก็เหลือเพียงเขาและเธอ “ไหนๆเราก็อยู่ตลาดแล้ว แวะไปเลยตอนนี้แล้วกัน” นับดาวไม่ตอบอะไร เพราะเขาอยากทำอะไรก่อนหลังก็เป็นเรื่องของเขา “ตอนนี้เป็นเวลางาน...” ทิวาชี้ไปที่นาฬิกาบอกเวลา “เรื่องส่วนตัวค่อยว่ากันหลังเลิกงานแล้วกัน” ทิวายังไม่ได้กินมื้อเช้า เมื่อหาที่จอดรถได้ เขาก็เดินนำนับดาวไป ครั้งก่อนที่เขามา เขาจำได้ว่าผ่านร้านขายโจ๊ก  ทิวายิ้มออกมาทันทีที่ร้านยังขายอยู่ เขาเดินไปสั่งของตัวเอง “ใส่ไข่มั้ย” เขาถามเธอ นับดาวปรับตัวไม่ทันกับอารมณ์ของเขาจริงๆ เธอจึงพยักหน้า และเขาก็กดเธอให้นั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างข้างกายเขา นับดาวมองเขาที่กินโจ๊กอย่างเหลือเชื่อ เป็นคนที่คาดเดาได้ยากมากจริงๆ นับดาวเดินตามเขาเงียบๆ เขากับคนดูแลตลาดนั่นก็คือลุงตุ่ม แม้การทักทายระหว่างเธอกับลุงตุ่มทำให้เขาแปลกใจ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรเลย จนกระทั่งพวกเธอเดินมาถึงฝั่งที่ขายขนม ทิวานิ่วหน้ามองพี่มยีและหันมามองนับดาวซึ่งเธอก็ยังเงียบปากอยู่เหมือนเดิม  ดีที่แม่เธอไม่ได้อยู่ที่แผง เขาเดินไปตรงหน้าแผงขนมของแม่ พี่มยียิ้มต้อนรับลูกค้า พี่มยียังไม่เห็นนับดาวที่ถูกทิวาบังไว้ จนกระทั่งเขาหันหลังกลับ “อยากกินอะไรมั้ย” เขาถามนับดาว และนั่นก็ทำให้มยีเห็นเจ้านายสาว เธอทำท่าจะทักทายแต่นับดาวส่ายหน้าห้ามไว้ ท่าทางของนับดาวทำให้ทิวาหันกลับไปมองมยีที่เก็บอาการไว้ในทันที ทั้งๆที่เขาจำหล่อนได้  “ฉันกินได้ทั้งหมดค่ะ” ขนมฝีมือแม่มีอะไรไม่อร่อยเล่า! “งั้นผมเหมาหมดนี้” !!! นับดาวและมยีเบิกตากว้าง ทิวาไม่พูดอย่างเดียวเขาควักเงินสดออกมาจากกระเป๋าห้าพัน “ที่เหลือไม่ต้องทอนครับ...เธอจะเป็นคนถือ” ท่อนประโยคหลังเขาหันไปพูดกับนับดาว และพูดต่อว่า “รีบตามมานะ” เขาพูดจบก็เดินต่อ ตอนนี้ใกล้เที่ยงแล้ว นับดาวเดินตามเขามาหลายชั่วโมงแล้ว แม้เขาจะเดินๆหยุดๆ แต่ไม่ได้นั่งพักเลย ขาเธอปวดไปหมดแล้ว แล้วนี่เขายังจะให้เธอถือขนมตั้งเยอะอีก แกล้งกันชัดๆ  เมื่อคล้อยหลังทิวา นับดาวจึงเข้าไปช่วยมยีตักขนมใส่กล่อง จัดใส่ถุง “คุณน้องดาว จะไหวเหรอค่ะ” มยีมองกองถุงขนมที่จัดไว้มากมายสลับกับใบหน้าของเจ้านายสาว “ไหวค่ะ” นับดาวกอบถุงทั้งหมดด้วยสองมือและเดินออกจากร้านไปตามทิศทางที่เขาเดินนำไปเมื่อยี่สิบนาทีนี้  เธอเดินมาไกลแล้วก็ยังไม่เจอเขา จนเจอกับลุงตุ่ม แกบอกว่าเขานั่งพักอยู่ที่สวน พรึ่บ! นับดาววางถุงขนมทั้งหมดบนโต๊ะหินที่มีเพียงน้ำเปล่าวางอยู่ ทิวาเงยหน้ามองนับดาวทีหนึ่งก่อนยิ้มขบขัน “ไปหาข้าวเที่ยงมาให้กินหน่อย” นับดาวยิ้มออกมาอย่างเหี้ยมโหดครั้งหนึ่งก่อน และเดินเข้าไปในตลาดอีกครั้ง นับดาวไปสั่งกับข้าวสองอย่างพร้อมข้าวเปล่าที่ร้านอาหารตามสั่ง ระหว่างที่รอ ตัวเองก็ไปยืนกินลูกชิ้นปิ้งแทน เมื่อเธอกินทำเวลาจนอิ่มอาหารที่สั่งก็เสร็จพอดี  ควับ ถาดอาหารถูกวางตรงหน้า ทิวาดูเมนูสองอย่างกับข้าวเปล่าหนึ่งจาน “ไม่หิวเหรอ” เขาถามนับดาว ซึ่งนับดาวก็ส่ายหน้า ก็เธอไม่หิวจริงๆ นิ แต่เธอก็นั่งลงเก้าอี้ตัวถัดไป หยิบขนมมาแกะกิน กินคาวไม่กินหวานสันดานไพร่ มักจะเป็นคำติดปากที่เธออยากกินขนมของแม่ในเวลาหลังมื้ออาหารเย็นที่แม่มักจะบ่นเสมอ...ว่าไปก็คิดถึงแม่จัง ในถุงยังมีน้ำวุ้นใบเตยที่เธอชอบด้วย นับดาวเปิดขวดกระดกกิน โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าภาพเก่าที่เคยทำให้คนข้างกายกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากมาแล้วตอนนี้มันเกิดขึ้นกับเขาอีกครั้ง ฮะฮะฮะ ทิวาเกิดอาการสำลักอาหารในทันที พรึ่บ! นับดาวหันไปมองทิวาที่ก้มหน้าไปอีกด้าน ไอไม่หยุดจนหูคอแดงไปหมด เธอจึงหยิบน้ำวุ้นใบเตยอีกขวดเปิดฝายื่นส่งให้เขา และล้วงเอาทิชชู่ส่งให้เขา ทิวาหอบหายใจ ใบหน้าเขาแดงก่ำ เขารับขวดน้ำและทิชชู่มา สักพักเขาก็อาการดีขึ้น แม้จะไอออกมาเป็นพักๆบ้าง  นับดาวหลบสายตาขวางๆของเขา และอดคิดไม่ได้ว่า ควรปล่อยให้เขาตายไปเสียดีกว่า ถ้าช่วยแล้วต้องมาเจอสายตาแบบนี้ของเขา ทิวาไม่กินข้าวต่อแล้ว เขาดื่มน้ำวุ้นใบเตยจนหมดขวดและอดไม่ได้ที่จะยกขวดเปล่าในมือมาดู เพราะรสชาติดีไม่น้อยดื่มแล้วรู้สึกสดชื่นมาก  พรึ่บ นับดาวสังเกตเขาเธอจึงยื่นอีกขวดให้ โดยไม่พูดอะไร แต่เขาพลักมือเธอคืนไป แม้จะรสชาติดีแต่เขาเป็นพวกไม่ชอบกินของหวาน “ฉันอยากได้กาแฟสด” อ่อ นับดาวเข้าใจ และลุกขึ้นพร้อมหยิบถาดอาหารไปด้วย ยี่สิบนาทีต่อมา นับดาวกลับมาอีกครั้งกับกาแฟสดหอมกรุ่น “ตอนนี้ตลาดที่อื่นๆ เริ่มดำเนินการแล้ว ที่นี่ผมต้องการให้คุณเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายยามที่มีการตั้งเบิก ซึ่งผมจะเป็นคนมาตรวจงานเอง” “ทำไมต้องเป็นฉันละคะ” “เพราะผมสั่ง” นับดาวเม้มปากของตนไว้ “คุณดาว” เสียงเอ่ยเรียกทำให้นับดาวหันไปมองทันที “คุณตุลย์” นับดาวร้องเรียกกลับพร้อมกับลุกขึ้นเดินไปหาคนที่เอ่ยเรียก “ไปไงมาไงคะ” นับดาวทักทายคนที่ชื่อตุลย์ด้วยท่วงท่าสบายๆ สร้างความขุ่นเคืองให้กับทิวาโดยทันที พรึ่บ! ทิวาลุกขึ้นยืนขยับไปยืนซ้อนหลังนับดาวในระยะประชิด เขาโน้มตัวลงและเอ่ยบางอย่างข้างหูนับดาว ซึ่งมีนับดาวเท่านั้นที่ได้ยิน ‘น้ำผู้ชายคนเมื่อคืนยังไม่ทันแห้งเลย ทำตัวร่านตกเหยื่อต่อเลยเหรอ’  นับดาวหน้าซีดเผือกจนไม่อาจปิดบังคนตรงหน้าได้เลย ตัวเธอสั่น “คุณดาว!” นับดาวหมดแรงกระทันหัน ดีที่ด้านหลังเธอคือเก้าอี้ เธอจึงนั่งลงสองมือประคองตัวเองไว้ด้วยขอบโต๊ะ ตุลย์หันไปมองแผ่นหลังของทิวาโดยทันที “เขาว่าอะไรคุณ” ตุลย์ถามนับดาว เพราะเขาพร้อมจะปกป้องนับดาว นับดาวพยายามสะกดน้ำตาของตัวเองไว้อย่างหนักหน่วง แต่มันก็เล็ดรอดออกมาอยู่ดี พรึ่บ! แม้นับดาวจะมีน้ำตาและอยู่ในห้วงความสะเทือนใจไม่น้อย แต่เธอก็คว้ามือตุลย์ไว้ก่อนที่เขาจะตามทิวาไป “คุณเป็นข้าราชการนะคะ อย่าวิวาทค่ะ ไม่งั้นดาวคงรู้สึกผิดไปทั้งชีวิตแน่ค่ะ” ตุลย์นั่งลง เขาถือวิสาสะใช้ทิชชู่ที่เขาดึงมาจากซองทิชชู่ที่นับดาววางไว้ที่โต๊ะมาซับน้ำตาให้นับดาว “เขารังแกคุณใช่มั้ย” นับดาวส่ายหน้า “เขา...เขาไม่ชอบดาวเอามากๆเลยค่ะ” ตุลย์พยักหน้ารับรู้อย่างเข้าใจ เพราะฐานะระหว่างเขากับนับดาวก็คือลูกเลี้ยงแม่เลี้ยง มันก็เป็นเรื่องธรรมดา ไหนจะมีเรื่องเงินๆทองๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม