“คุณหนูอีกนิดเดียวก็ถึงรถม้าแล้วเจ้าค่ะ ทนอีกนิดเดียวนะเจ้าคะ โธ่คุณหนูของบ่าว เปียกปอนไปหมดแล้ว” สตรีชุดสีเทาคร่ำครวญไม่หยุดปาก พยายามหาผ้ามาคลุมศีรษะของเธอเอาไว้ตลอดทางอย่างร้อนรน
หยูจินเซียงถูกตัวละครที่น่าจะเป็นสาวใช้สามคนส่งขึ้นไปนั่งบนรถม้าที่ถูกตกแต่งไว้อย่างงดงาม ผ้าม่านและของใช้ส่วนใหญ่ภายในรถม้าเป็นสีขาวและสีชมพูอ่อนเหมือนกับชุดที่เธอกำลังสวมใส่
ถ้วยชาสีขาวสะอาดตาวาดลวดลายสีชมพู กับผลไม้และขนมที่นางไม่รู้จักถูกจัดเตรียมเอาไว้พร้อมสรรพ ทำให้หญิงสาวผู้ไม่เคยสัมผัสกับข้าวของเครื่องใช้ดีๆ มาก่อนในชีวิต รู้สึกราวกับว่าตนเป็นเทพธิดาตัวน้อยในเทพนิยายอย่างไรอย่างนั้น
พอนั่งเข้าที่ดีแล้ว หญิงสาวก็ต้องรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความสมจริงจากรสสัมผัสอันเรียบลื่นของเบาะนั่งแพรไหม กลิ่นหอมของสายฝนที่ปะปนกับกลิ่นดินและหญ้าแห้ง ความหนาวเย็นที่เกาะกุมรอบกาย และเสียงเอี๊ยดอ๊าดของรถม้าที่เริ่มเคลื่อนตัวออกจากสถานที่เดิม
ส่วนสตรีสามคนก็ช่วยกันเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เธอ พร้อมกับเปลี่ยนเสื้อคลุมที่สวมไว้สามสี่ชั้นเหลือเพียงชุดสีขาวด้านในที่ยังคงเปียกอยู่ ส่วนด้านนอกถูกเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าสีชมพูที่แห้งสนิทดีอยู่แล้ว
“คุณหนูดื่มน้ำขิงอุ่นๆเสียก่อนนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นท่านจะไม่สบายเอาได้” สตรีสูงวัยยื่นถ้วยสีขาวขุ่นขนาดเล็กกว่ากำปั้นเล็กน้อยส่งมาให้เธอ
หยูจินเซียงใช้มืออังไอน้ำที่ลอยอยู่เหนือถ้วยน้ำขิง พร้อมกับสูดกลิ่นขิงอ่อนๆ และดูเหมือนจะมีกลิ่นของดอกไม้ชนิดหนึ่งผสมอยู่ในน้ำอุ่นถ้วยนั้นด้วยอย่างแปลกใจ
“กินได้ด้วยหรือ?” เธออ้าปากค้างไว้ครู่หนึ่ง ก่อนจะถามสตรีสูงวัยชุดเทา
“คุณหนู ฮูหยินเคยสอนท่านไว้อย่างไรจำไม่ได้แล้วหรือเจ้าคะ หากร่างกายเปียกหรือหนาว ต้องดื่มน้ำอุ่น น้ำชาหรือน้ำขิง แม้จะไม่ชอบท่านก็ต้องดื่มให้หมด ไม่เช่นนั้นท่านจะป่วย คุณหนูจำได้หรือไม่”
หญิงชุดเทาปลอบประโลมหยูจินเซียงด้วยท่าทางและสายตาเหมือนกับสตรีชุดเขียวไม่มีผิด คือทำเหมือนว่าเธอเป็นเด็กตัวเล็กไม่รู้ประสีประสาอะไร
หญิงสาวเบ้ปากเล็กน้อย รู้สึกกระอักกระอ่วนกับการถูกเอาอกเอาใจของตัวละครนี้เหลือเกิน เธอเป็นเด็กกำพร้าเติบโตแข่งกับพี่น้องร่วมชะตากรรมจำนวนมาก หาคนพูดจาดีๆ ด้วยสักคำสองคำก็ยากแล้ว ไม่ต้องคิดฝันถึงเรื่องการเอาใจใส่ที่ดีเพียงนี้ไปเลย
แต่นี่มันจะเหมือนมากไปไหม? หญิงสาวดื่มน้ำในถ้วยไปอึกหนึ่งก็ต้องชะงักงัน น้ำขิงมีรสชาติของขิงที่หอมแต่ไม่เผ็ดร้อนเหมือนน้ำขิงราคาถูกที่แบ่งขายเป็นห่อๆ อย่างที่เธอเคยซื้อมากิน
“นี่ไม่ใช่ประเด็น จะอร่อยสักแค่ไหนมันก็แค่ในเกม แต่ทำไมฉันถึงกินของจากในเกมได้ล่ะ กดปุ่มเลิกเล่นตรงไหนเนี่ย หยุดเกม ออกจากเกม ยกเลิก แคนเซิล”
หยูจินเซียงเริ่มจะกลัวแล้วแค่ภาพและเสียงก็พอทำเนา แต่นี่เกมมันกลับสามารถให้รสชาติได้ด้วย? เธอพยายามหาวิธีออกจากเกมอย่างร้อนรน แต่ไขว่คว้าไปรอบตัวก็ไม่มีเมาส์หรือแป้นพิมพ์อยู่ด้านหน้า ออกคำสั่งด้วยเสียงก็ไม่ได้ แล้วเธอจะเลิกเล่นเกมด้วยวิธีใด!
“คุณหนูใจเย็นๆ ก่อนนะเจ้าคะ ท่านต้องการสิ่งใด ท่านจะออกไปที่ใดบ่าวฟังไม่รู้เรื่องเจ้าค่ะ”
“ออกจากเกมไง ไม่เข้าใจหรือฉันเลิกเล่นแล้ว คีย์เวิร์ดคืออะไรการเลิกเล่นน่ะ ฉันจะเลิกเล่นแล้ว” หยูจินเซียงกรีดร้องด้วยความแตกตื่น สองมือก็จับร่างของสตรีสามคนรอบข้างเขย่าไปมา
“คุณหนูอาการกำเริบแล้ว แม่นมจางทำอย่างไรดี ท่านหมอก็ไม่ได้ติดตามพวกเรามาเสียด้วย” หญิงสาววัยรุ่นใบหน้ากลมทำตาแดงก่ำท่าทางหวาดกลัว ไม่กล้าแม้แต่จะแกะมือของหญิงสาวที่กำลังเขย่าร่างตัวเองออกไป
“คุณหนูท่านจะออกไปที่ใดก็มีทางเดียวคือต้องดื่มยานี้เจ้าค่ะ ดื่มแล้วท่านก็จะได้ออกไปแล้ว เชื่อบ่าวนะเจ้าคะ” สตรีชุดเทาหันไปเทน้ำสีน้ำตาลอ่อนออกมาอีกถ้วย ยื่นส่งให้หยูจินเซียง
“ดื่มแล้วก็เลิกเล่นได้เลยใช่ไหมคะ ทำไมต้องทำอะไรน่ากลัวขนาดนี้ด้วยเนี่ย!” หญิงสาวไม่รอช้า ไม่ว่าตัวละครจะให้เธอทำอะไรเธอก็ทำหมดแล้ว เธอรับถ้วยจากสตรีชุดเทาแล้วยกดื่มรวดเดียวหมดถ้วย
หยูจินเซียงรู้สึกเหมือนร่างกายเริ่มเบาลง สายตาของเธอเริ่มพร่าเลือน หญิงสาวเผยอยิ้มออกมาอย่างล่องลอยให้กับสตรีสามคนที่จ้องมองตนไม่วางตา
“โอย ตาย ตอนจะเข้าก็เวียนหัว ตอนจะออกก็มึนงงง่วงนอน ไม่เอาอีกแล้วเกมบ้าๆ อย่างนี้ ฉันไปล่ะน่ะ อย่าเจอกันอีกเลยคุณผู้หญิงทั้งสาม” กล่าวจบสติของหยูจินเซียงก็ดับวูบไปในทันที
..........
จวนราชมนตรีหยู
ร่างเล็กในชุดสีชมพูที่ถูกเปลี่ยนใหม่เป็นเสื้อผ้าที่แห้งสนิทลืมตาขึ้นมา แล้วเธอก็ต้องกรีดร้องโวยวายออกมาอีกครั้ง สถานที่ที่เธอตื่นยังคงเป็นภาพมายาในยุคจีนโบราณดังเดิมไม่มีผิดเพี้ยน
ยิ่งพอได้เห็นใบหน้าของสตรีชุดเทาผลักประตูเข้ามาเป็นคนแรก และยังมีบุรุษและสตรีอีกหลายคนตามเข้ามาอีกเป็นฝูงเธอก็ยิ่งแตกตื่นตกใจอย่างหนัก
“ทำไมยังออกไปไม่ได้ เลิกเล่นแล้ว ไม่เอาแล้ว”
“จินเซียง ใจเย็นๆ ก่อนลูก นี่แม่เองนะเจ้ามองดูให้ดี ไม่มีผู้ใดทำร้ายเจ้า เจ้าจะไปที่ใดบอกแม่” สตรีใบหน้างาม ร่างเล็กอรชรคล้ายคลึงกับหยูจินเซียงน้ำตาไหลพรากอาบสองแก้ม พยายามเอื้อมมือมาจับร่างของคนที่นางเรียกว่าบุตรสาวเอาไว้
“เอาผ้ามัดมือเอาไว้ก่อน ให้นางสงบลงแล้วค่อยปล่อย ท่านหมอท่านให้ยานางอีกสักรอบเถิด ให้นางหลับยังดีเสียกว่าให้นางอาละวาดเช่นนี้ ดีไม่ดีเกิดทำร้ายตัวเองบาดเจ็บขึ้นมาจะยุ่งไปกันใหญ่” หยูซุนนายท่านใหญ่ประจำจวนเอ่ยปากขอร้องกับหมอชรา
หยูซุนก็เศร้าใจไปไม่น้อยกว่าภรรยารักของตน เมื่อเห็นบุตรสาวอันเป็นที่รักอาการกำเริบคลุ้มคลั่งขึ้นมา แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าอาการของบุตรสาวจะหนักหนากว่าทุกครั้ง แต่ก่อนอย่างมากก็แค่พูดจาไม่รู้เรื่องดื่มยาถ้วยเดียวก็สงบลงได้ ไม่เคยกรีดร้องเสียงดังถึงเพียงนี้มาก่อน
“คุณหนูเพิ่งดื่มยาไปได้ไม่นาน ดื่มอีกถ้วยเวลานี้เกรงว่าจะไม่ได้ขอรับนายท่าน ยาอย่างไรก็มีพิษสามส่วน หากดื่มติดกันคุณหนูอาจจะไม่ตื่นอีกเลยก็เป็นได้ขอรับ” หมอชราส่ายหน้าอย่างจนใจ
“ฟางซิน เจ้าอย่าร้องไห้ให้ลูกเห็นจะดีกว่าประเดี๋ยวนางจะยิ่งหวาดกลัว แม่นมจางเจ้ากับพวกนางพยายามปลอบใจคุณหนูของเจ้าไว้ อีกสักพักนางอาจสงบลง นางดีขึ้นแล้วก็ไปเรียกข้า” หยูซุนมองไปที่ร่างของบุตรสาวที่ถูกมัดมือและเท้าเอาไว้ด้วยความสงสารจับใจ แล้วเลือกประคองเหยี่ยนฟางซินออกจากห้องไปก่อน
หยูจินเซียงยังคงพยายามดิ้นรนจากผ้าขาวที่มัดมือและเท้าของเธอไว้อย่างแน่นหนาจนกระทั่งเหนื่อยจนหมดแรงแล้วเธอจะได้พยายามรวบรวมสติให้มั่นคง
บทสนทนาของกลุ่มคนเมื่อครู่ แม้ว่าเธอกำลังอาละวาดโวยวายอยู่แต่เธอก็ได้ยินทุกประโยคอย่างแจ่มชัด
ดูเหมือนว่าเธอถูกวางตัวให้เป็นบุตรสาวของสามีภรรยาที่แต่งกายดีสองคนนั้น และตัวละครสองคนในเกมนี้ก็เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ด้วย ส่วนสตรีสามคนที่อยู่กับเธอมาตั้งแต่แรกก็เป็นบ่าวรับใช้
“พวกเธอชื่ออะไรกันบ้าง มีหน้าที่ทำอะไรเพื่อช่วยเหลือฉัน” หญิงสาวเอ่ยปากถาม หากออกจากเกมไม่ได้ทางเดียวคือเธอต้องเล่นเกมและทำความเข้าใจกับมัน
“คุณหนูเหตุใดท่านจึงพูดจาพิลึกเช่นนั้นเล่าเจ้าคะ ไปจำคำพูดแปลกๆ เหล่านี้มาจากที่ใดกัน ซินอี้ ซินยี่ เป็นเจ้าสองคนพูดจาเลื่อนเปื้อนให้คุณหนูได้ยินใช่หรือไม่” แม่นมจางหันมาตำหนิสาวใช้วัยเยาว์สองคน
“เอาล่ะๆ ไม่ต้องโทษกันไปมา ข้ารู้แล้วว่าข้าควรพูดกับพวกเจ้าเช่นไร เอาใหม่ พวกเจ้ามีนามว่าอะไรกันบ้าง ท่านพ่อท่านแม่ของข้าด้วยพวกเขาชื่ออะไร ทำอาชีพอะไรกันอยู่” หยูจินเซียงพยายามเปลี่ยนสรรพนามและวิธีการพูดของตนให้เข้ากับยุคสมัย เลียนแบบละครในภาพยนตร์ที่เคยดู ดูเหมือนเกมนี้ต้องการความสมจริงจนถึงที่สุดใช่หรือไม่ นางต้องตามน้ำสินะ