อาทิตาลุกจากที่นั่ง ไม่ผิดที่เขาจะคิดแบบนั้น และไม่ผิดเช่นกันที่เธอจะคิดอีกอย่าง
หมับ!
นิ้วเรียวๆ คว้าหมับเข้าที่ปลายคางของศราวิล เธอบีบมันไว้ในขณะที่อีกฝ่ายถลึงตาใส่
“อย่าลืมสิ หมากฝรั่งบางยี่ห้อน่ะ ยิ่งเคี้ยวยิ่งมันนะ รู้ตัวอีกทีก็ติดซะแล้ว ฉันอาจจะเป็นหมากฝรั่งจำพวกนั้นก็ได้ เพราะฉะนั้น อย่าประมาทฉันเป็นอันขาด ถ้าไม่แน่จริง ฉันไม่หอบผ้าหอบผ่อนตามคุณมาถึงที่นี่ ทางที่ดีเลิกล้มความคิดจะลากฉันขึ้นเตียง แล้วสอนฉันให้เรียนรู้งานซะ สอนฉันให้คุ้นเคยกับที่นี่ จะได้ช่วยคุณดูแลไร่จะดีกว่า แบบนี้ดีไหมคะ...พี่ฉัตรขา...” อาทิตาทำเสียงอ่อนเสียงหวาน แต่ดวงตาจิกลงเน้นๆ ใส่ตาของศราวิล
ชายหนุ่มดึงมือหญิงสาวออก แต่ยังจับมันไว้ เขาลุกขึ้นบ้าง
“ก็ดี แต่คงดีกว่านี้ถ้าได้เคี้ยวหมากฝรั่งของน้องซันสักคำ อยากรู้นักว่าจะเคี้ยว มัน ขนาดไหน...จุ๊บ!”
“เอ๊ะคุณ!”
หญิงสาวตาเบิกโพลง จู่ๆ ก็โดนเขาจูบมือไปเต็มๆ
“บอกแล้วอย่าอ่อย ไม่ว่าเธอจะเป็นหมากฝรั่งหรืออะไร ขอแค่เป็นเธอ ฉันจะกินไม่ให้เหลือซาก”
“คุณฉัตร!”
“คร้าบ...น้องซัน...”
อาทิตาหุบปากฉับ หัวคิ้วมนๆ เลื่อนมาชนกัน ยกนี้เธอแพ้ใช่ไหม แพ้อีกแล้ว!
“เลิกทำหน้าบูดหน้าบึ้งแล้วไปใส่เสื้อผ้าชุดใหม่ ให้มันรัดกุม ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สวมบูทที่วางอยู่ข้างบันไดด้วย” เขาได้ทีสั่งอาทิตาฉอดๆ
“จะพาไปไหน”
“เดี๋ยวก็รู้ เลิกพูดมากทีเถอะ พูดมากน่ารำคาญ” ศราวิลทำฉุนเฉียว ก่อนจะเดินออกไปจากห้องครัว
อาทิตาตามออกมาติดๆ เธอพูดมากคนเดียวที่ไหน พูดอะไรออกไปเขาก็เถียงกลับมาทุกครั้ง เขาก็พูดมากเหมือนกันแหละ ไม่รำคาญตัวเองหรือไง
สายมากแล้วตอนที่อาทิตาลงจากรถอีแต๋นคันเก่าเก็บของศราวิล ไม่รู้ฟ้าสั่งหรือสวรรค์แกล้ง ให้เธอต้องนั่งรถโกโรโกโสที่ไม่รู้ว่าชิ้นส่วนจะพังลงตอนไหน ทว่าสุดท้ายแล้วเธอก็มาถึงที่หมาย
พอตอนกลางวันอย่างนี้เธอจึงได้เห็นว่าไร่ปกฉัตรกว้างใหญ่เพียงใด ตัวบ้านที่มีเนื้อที่สองไร่นั้น มีบ้านหลังใหญ่ของเขา มีโรงนาสามหลัง หอส่งน้ำสูงใหญ่ แล้วก็แผงโซลาร์เซลล์ที่เรียงกันไว้เป็นพรืด รอบบ้านยังปลูกต้นไผ่ให้ขึ้นเป็นแนวรั้ว ราวกับป้อมปราการธรรมชาติที่มีไว้เพื่อต้านลม
ศราวิลมองออกไปยังท้องนาทางทิศตะวันตกของไร่ พื้นที่ราวห้าสิบไร่นี้ถูกปรับให้เหมาะสำหรับการปลูกข้าวและอื่นๆ เขาจัดสรรพื้นที่ทำหลายอย่าง ทั้งบ่อปลา สวนมะม่วง หรือแม้แต่คอกสัตว์ทั้งไก่และหมู ซึ่งในส่วนนี้ เขาให้คนงานดูแลกันเอง ดูแลและเก็บผลผลิต โดยที่เขาจะไม่ยุ่ง ที่นี่เป็นอาณาจักรเล็กๆ ที่สามารถอยู่กันได้อย่างพอเพียง ไม่เดือดร้อน
“ลงไปสิ!” เขาสั่งเสียงห้วน
อาทิตากะพริบตาปริบๆ ถนนที่เป็นดินลูกรังขรุขระกับรถที่ไร้ความนิ่มนวลทำให้ก้นเธอชา มิหนำซ้ำตะคริวยังกินขาอีก
ศราวิลลงจากรถ เขาเดินอ้อมมาหาอาทิตา หล่อนยังไม่ยอมลงมา ในชุดเสื้อผ้าสำหรับลงท้องไร่ท้องนาของป้าพุด อาทิตาก็ดูดีไม่หยอก แก้มขาวๆ ของหล่อน โดนลมโดนแดดลามเลียจนแดงเรื่อขึ้นมาน่าเอ็นดูนัก
“จะลงไม่ลง”
“ลงสิ! รอแป๊บหนึ่ง ขาฉันเป็นตะคริว ว้าย!”
เสียงร้องของอาทิตาทำเอาคนงานที่กำลังยกกระสอบข้าวเปลือกลงจากรถ หันมามองเป็นตาเดียว เธอถูกศราวิลอุ้มลงจากรถอีแต๋น แรงที่ใช้นั้นไร้ความปรานี
“นี่! ฉันเจ็บนะ!” เธอร้องบอก สองแขนโอบรอบคอเขาแน่น น่องขวาของเธอปวดหนึบ
“รู้แล้วน่า เลิกโวยวายซะทีได้ไหม หนักก็หนัก”
อาทิตาอ้าปากค้าง มาบอกว่าเธอตัวหนักได้ยังไง ชั่วร้ายที่สุด!
“ยังอีก ยังมาทำตาเหลือกตาถลนใส่ฉันอีก ฉันนี่โคตรจริงใจเลย หนักก็บอกหนัก ไม่มีอ้อมค้อม” เขาว่าแล้ววางอาทิตาลงกับพื้นถนนที่เป็นดินลูกรัง
หญิงสาวกัดฟันกรอดๆ
“บางทีหัดอ้อมค้อมซะบ้างก็ได้นะคะคุณศราวิล! โอ๊ย...เจ็บๆๆ” ประชดยังไม่สะใจใบหน้าก็ได้บิดเบ้ เพราะแรงบีบที่น่องขวา
“เบาๆ หน่อยได้ไหม ขาคนนะโว้ย!”
“นี่! ลามปามใหญ่แล้ว อย่างน้อยฉันก็อายุมากกว่าเธอ มาโว้ยมาวะใส่ได้ที่ไหน”
“ทำไมจะไม่ได้ ก็นายทำฉันเจ็บนี่!”
“หยุด! หยุดแหกปากเดี๋ยวนี้นะ!” เขาสั่งอย่างเหลืออด ผู้หญิงอะไร ถนัดแต่ทำเสียงแวดๆ แสบแก้วหู
“ไม่หยุด!”
“ไม่หยุดจะจูบนะ เอาไหม! จะให้บีบขาหรือให้จูบ!”
“จูบ! อ๊าย! ไม่ใช่! บีบขาสิ บีบขา!”
ศราวิลกลั้นขำกับความเปิ่นของแม่คนปากดี อาทิตาเป็นสตรีที่มีหลายมุมนัก อยู่ที่ว่าในช่วงเวลานั้น หล่อนจะเผยมุมไหนให้เห็น ดูไปดูมาหล่อนก็ไม่เหมือนคนมีพิษมีภัยอย่างที่ปากว่าสักนิด แล้วเขาล่ะ จะลงทัณฑ์หล่อนให้สาสมได้หรือ
ความคิดคล้ายเอนเอียงไปหาอีกฝ่ายทำให้รอยยิ้มบางๆ ของศราวิลหุบฉับในทันใด มือที่นวดเฟ้นท่อนขาให้อาทิตาก็ผละออก เขายืนขึ้นเต็มความสูง
“ลุกได้แล้ว สำออยอย่างนี้จะอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“ฉันไม่ได้สำออย ฉันเจ็บ!” บอกเขาแล้วเอื้อมมือไปหาล้อรถ ค้ำยันมันไว้เพื่อพยุงกายให้ลุกยืน ชุดของป้าพุดตัวใหญ่เทอะทะ แม้รู้สึกรำคาญแต่ไม่กล้าถอดทิ้ง ดูแดดข้างหน้านี่สิ ถ้าถอดเสื้อกับหมวกออกมีหวังผิวเกรียมแน่ๆ
“ก็เห็นยืนได้แล้วนี่ ไปสิ...โน่น” เขาชี้ไปยังกลุ่มคนงานราวยี่สิบคนที่กำลังทำอะไรสักอย่างอยู่ข้างกระท่อมหลังใหญ่ อาทิตาเห็นแล้วว่าที่นี่ไม่ได้ปลูกแค่อ้อยเพียงอย่างเดียว ยังมีพืชเกษตรอื่นๆ อีก และวันนี้คงถึงเวลาปลูกข้าวสินะ