เมื่อพวกเขาเติบใหญ่ 10 ปีต่อมา จวี้ชิงหรานไม่ได้อยากมาเมืองหลวงสักนิด ด้วยกิจการโรงน้ำชาเถ้าแกเนี้ยจูเติบโตมาก ส่วนนางเขียนตำราขนมอบ ขนมหวาน และอาหารจานง่ายๆ เผยแพร่มากมาย ซึ่งไม่อยากปลีกตัวไปไหน แต่คำเชิญตู้ลิ่วฟาน ผู้มีฐานะเป็นถึงท่านหญิง ใช่ว่านางจะปฏิเสธได้ อีกทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นกับเสวียนซุนยามนี้น่าเป็นห่วง หากเขายังสุขภาพไม่ดีขึ้น ย่อมถูกปลดจากการเป็นรัชทายาท ซึ่งภายหลังจากชาติเดิมที่นางจำได้ เสวียนซุนถึงขั้นตรอมใจตายในตำหนักของตน ณ ตำหนักนอกวังหลวง เสวียนซุนนั่งอยู่ที่ศาลาริมน้ำ แม้ก่อนหน้านี้เขาได้กินขนมที่ส่งมาจากเมืองเจี้ยนบ่อยๆ ทว่ายามนี้การได้พบแม่นางน้อยในวันวาน ทำให้เขายิ้มและหัวเราะอย่างร่าเริง “ลุกขึ้นเถิด ข้าให้เจ้าลงไปคุกเข่าเช่นนั้นเพื่อการใด ข้ายังไม่อยากอายุสั้นสักหน่อย” จวี้ชิงหรานเงยหน้า และมองเสวียนซุนเต็มสองตาตน เขาหล่อเหลากว่าเดิม ผิดแต่ใบหน้าตอบอยู่สักหน่