ตอนที่ 7 เก็บใจตัวเองไว้ให้ดี 2

933 คำ
“ผมผมยุ่งมากมั้ยอาย” สายตาของหญิงสาวที่จดจ้องที่ทรงผมของเขาทำให้บริณัยเอ่ยถามความเห็นจากเธออย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก พลางยกมือขึ้นลูบผมแก้เก้อ “ไม่หรอกค่ะ แบบนี้ก็เท่ดีนะคะ” เธอบอกและยิ้มออกมาโดยไม่ตั้งใจ คำชมจากปากหญิงสาวทำให้หัวใจของบริณัยเต้นรัว มีคนชื่นชมเขามากมาย แต่สำหรับคนตรงหน้ามันค่อนข้างพิเศษ เขาเลยหลบตาเธอ แล้วเอามือลูบผมที่ไม่เป็นทรงแก้เก้ออีกรอบ อารียาที่เห็นความกังวลของอีกฝ่ายเลยยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู รู้สึกว่าเจ้านายของเธอก็มีมุมเด็กน้อยอยู่เหมือนกัน เธอตัดสินใจหยิบหวีที่อยู่ในลิ้นชักออกมาแล้วเดินไปหาเขา “เดี๋ยวอายช่วยนะคะ” เธอยิ้มละมุน แล้วค่อย ๆ เขย่งปลายเท้าขึ้นเพราะอีกฝ่ายตัวสูงกว่าเธอ บริณัยในตอนแรกจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่สุดท้ายก็ย่อตัวลงให้เธอจัดทรงผมให้เขาได้สะดวกขึ้น สายหวานตาจับจ้องไปที่ผมอันอ่อนนุ่มของเขา นิ้วมือของเธอเคลื่อนไปบนศีรษะของอีกฝ่าย พร้อมกับลงหวีแปรงอย่างช้า ๆ ให้เป็นทรงแบบที่เขาทำเป็นประจำ ระหว่างที่กำลังตั้งใจที่จะตกแต่งทรงผมให้กับเจ้านายของตัวเองอารียาก็รู้สึกถึงสายตาที่จับจ้องเธออย่างไม่วางตา เธอเผลอสบตาบริณัยที่มองเธอด้วยแววตาสื่อความนัยบางอย่าง ทำให้เธอรู้ตัวว่าทำอะไรลงไป ใบหน้างามเห่อร้อน พร้อมกับใจที่เต้นระส่ำ เธอพยายามควบคุมมือไม่ให้สั่น แล้วหันมาจัดแจงทรงผมของเขาให้เรียบร้อย และผละออกจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว นึกตำหนิตัวเองว่าลืมตัวอีกแล้ว ทำไมถึงไม่ยับยั้งชั่งใจตัวเอง ถึงผมเขาจะไม่เป็นทรง แต่นี่มันก็ไม่ใช่หน้าที่เธอ จำไว้ยัยอายว่าเธอเป็นได้แค่เลขาฯ ของเขาเท่านั้นแหละ “เรียบร้อยแล้วค่ะ” เธอบอกโดยที่ก้มหน้าไม่กล้าสบตา ก่อนหมุนตัวเดินกลับไปที่ต๊ะของตัวเอง หัวใจเต้นโครมครามเหมือนจะเป็นลมสียให้ได้ เธอเกาะโต๊ะเอาไว้ เพราะรู้สึกว่าขาอ่อนแรงอย่างบอกไม่ถูก “เป็นอะไรรึเปล่าอาย” บริณัยรีบลุกขึ้นทันทีที่เห็นท่าทางแปลก ๆ ของหญิงสาว เขาเป็นห่วงว่าเธอจะเป็นอะไรไป “เปล่าค่ะ ฉันแค่กำลังจะเก็บหวีเฉย ๆ” เธอพูดกลบเกลื่อนใจที่สั่นไหว พร้อมกับก้มลงไปดึงลิ้นชักเพื่อเก็บของให้เรียบร้อย บริณัยไม่ได้พูดอะไรเพิ่มแต่ยังคงจ้องมองเลขาฯ สาวไม่วางตา เขาสัมผัสได้ถึงกระแสบางอย่างระหว่างสองคน เขารู้สึกดีเวลาที่มือเล็กนุ่มนิ่มลูบไล้ไปตามเส้นผมของตนเอง ความอ่อนหวานซาบซ่าบังเกิดขึ้นในหัวใจ แต่พอนึกถึงความจริงที่ตอกย้ำ รสขมปร่ากลับเข้ามาแทนที่ หญิงสาวที่เขาพึงใจ และก็รู้ด้วยว่าเธอมีใจตรงกับเขาเช่นกันอยู่ตรงหน้า แต่กลับแตะต้องไม่ได้ ทำไมความรู้สึกนี้มันช่างทรมานเหลือเกิน กริ๊ง ๆ ๆ เสียงโทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะของอารียาดังขึ้น เธอจึงรีบยกหูเพื่อรับสายตามสัญชาตญาณของเลขาฯ ทันที “สวัสดีค่ะ ห้องของคุณบริณัยมีข้อความอะไรแจ้งไว้ได้เลยนะคะ” บริณัยเห็นท่าทางคล่องแคล่วของอีกฝ่ายก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมา เขาเลยเดินกลับเข้าไปในห้อง ชายหนุ่มหวังใช้งานเป็นเครื่องหันเหความสนใจไปจากเลขาฯ คนสวย และเขายังสะสางงานไม่เสร็จเลยตั้งแต่เมื่อวาน ภายนอกอารียาคุยกับคนที่ต้องการติดต่อ จดและบันทึกข้อมูลสำคัญไว้เรียบร้อย “ได้ค่ะ เดี๋ยวดิฉันจะติดต่อกลับไปนะคะ” อารียาวางสายแล้วต่อสายเข้าไปหาบริณัย “ครับ” เสียงทุ้มตอบรับ “คือว่าท่านประธานบริษัทแอดเวนเจอร์เอ็กซ์อยากเข้าพบคุณบลูค่ะ เขาอยากยื่นข้อเสนอสำคัญให้ ไม่ทราบว่าคุณบลูอยากจะเจอเขามั้ยคะ?” อารียารายงานชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่ปรับให้เป็นปกติแล้ว เพราะก่อนหน้าที่จะยกสายหาเขา เธอได้สะกดจิตตัวเองแล้วว่า ต้องคิดกับเขาเรื่องงานเท่านั้น และเธอต้องทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุดไม่ให้มีขาดตกบกพร่อง “อยากสิ คนนี้เก่งมากเลย ผมอยากร่วมงานกับเขามาสักพักแล้ว อายช่วยดูวันว่างให้ผม แล้วนัดเขามาได้เลย” บริณัยบอกอย่างยินดีเมื่องานใหญ่กำลังจะเข้ามาอย่างที่เขาคาดหวัง “อ้อ...อายต้องไปกับผมด้วยนะ” เขาบอกเธอก่อนที่จะวางสาย เขารู้สึกว่าการมีอารียาอยู่ใกล้ ๆ ทำให้อะไร ๆ ดูจะง่ายไปเสียหมดราวกับว่าเธอเป็นเทพีนำโชคของเขาอย่างไรอย่างนั้น “ได้สิคะ” เสียงหวานตอบรับทำให้ชายหนุ่มเผลอยิ้มออกมา ฝ่ายอารียาเองก็เผลอยิ้มออกมาเช่นกันก่อนที่จะวางสายลง เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วอาย อย่างน้อยเธอก็ยังได้อยู่ใกล้ ๆ เขา ได้เห็นเขา แค่นี้ก็พอแล้ว แล้วอย่างลืมเก็บใจเธอไว้ให้ดี ๆ ล่ะ จำไว้ว่าเขาเป็นเจ้านาย และเป็นผู้ชายของเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอนะ... อารียาเตือนตัวเองในใจแล้วหันไปจดจ่ออยู่กับงานต่อไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม