ในขณะท่านผู้บังคับการเลสซันโดร เปิดภาพแฟ้มอาชญากร พร้อมกับพูดถึงสรรพคุณด้านชั่วของเหล่าบรรดาเจ้าพ่อแต่ละแก๊งให้ลูกน้องฟัง ผู้กองรีจินาก็เปิดภาพในแฟ้มดูตามไปเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงคนสุดท้ายในแฟ้มเอกสาร ทว่าเป็นเจ้าพ่อเบอร์หนึ่งที่หน่วยสืบสวนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องการตัวมากเป็นที่สุด
หญิงสาวก็ถึงกับกัดฟันกรอด กำมือแน่น ดวงตากลมโตสีฟ้าอ่อนใส ซึ่งกำลังจ้องมองเขม็งยังภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น เมื่อโสตประสาทได้ยินประวัติของดอนผู้นี้ ซึ่งเป็นเจ้าพ่อที่เธอไม่เคยลืมเลยชั่วชีวิต และต่อให้อยากลืม เธอก็ลืมเจ้าพ่อที่เลวทราม ใจอำมหิตคนนี้ไม่ลง!
“และคนสุดท้ายที่ทางการต้องการตัวมากที่สุด ดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์ เขาเป็นหัวหน้าใหญ่ของแก๊งมาเฟียทุกแก๊งในอิตาลี เป็นเจ้าพ่อแห่งเจ้าพ่อ (Don of Don) ดอนคาร์ลเป็นเจ้าพ่อของแก๊งโพเทนซา ออฟ โพเทนซา (Potenza of Potenza) ซึ่งมีความหมายว่าอำนาจเหนืออำนาจ ดอนผู้นี้เป็นคนคอยดูแลและคุมเจ้าพ่อแก๊งอื่นๆ ไว้อีกที ผลประโยชน์ที่แก๊งเล็ก
แก๊งน้อยทั้งหมดทำได้ จะต้องมีการหักส่วนแบ่งทั้งหมด 60 เปอร์เซ็นต์มาให้กับดอนคาร์ล ซึ่งไม่ต้องคำนวณให้เมื่อย ทุกคนก็พอจะรู้ว่าปีหนึ่งๆ มีเงินไหลเข้ากระเป๋าของดอนคาร์ลกี่ร้อยล้านยูโร”
“ท่านผู้การต้องการกำจัดแก๊งที่ว่าทั้งหมดเลยใช่ไหมครับ”
นายตำรวจผู้หนึ่งซึ่งมียศสารวัตรได้ยกมือขึ้น พร้อมกับเอ่ยถามท่านผู้บังคับการด้วยความสงสัย ซึ่งเขามองไม่เห็นหนทางเลยว่าพวกตนจะจัดการกับเหล่ามาเฟียร้ายพวกนี้ได้อย่างไรกัน โดยเฉพาะมาเฟียคนล่าสุด ดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์ ซึ่งเป็นมาเฟียตัวฉกาจ ทั้งโหดเหี้ยมใจอำมหิตและเลือดเย็นไม่ต่างจากน้ำแข็งขั้วโลก ความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะจับดอนคาร์ลได้นั้นเท่ากับศูนย์!
ท่านผู้บังคับการเลสซันโดรพยักหน้ารับ เขามองเข้าไปในดวงตาของนายตำรวจทุกนายที่นั่งอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ก็พอเดาใจทุกคนออกว่าคิดเช่นไรอยู่ ทุกคนคิดว่าคงไม่มีทางจับเจ้าพ่อเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะดอนคาร์ล ผู้เลื่องชื่อในเรื่องความร้ายกาจ แถมยังฉลาดหลักแหลมเป็นที่หนึ่ง
“ที่ถามมานั้นถูกต้องแล้วสารวัตร ผมต้องการจับเจ้าพ่อเหล่านี้ทุกคน ไม่ว่าจะจับเป็นหรือจับตายก็ได้ทั้งนั้น”
ท่านผู้บังคับการย้ำให้นายตำรวจทุกนาย รับทราบถึงเป้าหมายอันชัดเจน ที่ทุกคนต้องทำร่วมกัน ไม่ว่าจะได้ร่างของเหล่าเจ้าพ่อร้ายพวกนี้ ทั้งแบบมีลมหายใจ หรือร่างอันปราศจากวิญญาณ เขาก็ไม่เกี่ยง
“ท่านผู้การครับ”
นายตำรวจยศร้อยตำรวจเอกท่านหนึ่ง เปล่งเสียงเอ่ยเรียกท่านผู้บังคับการพร้อมกับยกมือขึ้น เพื่อเป็นการขออนุญาต พอท่านผู้บังคับการพยักหน้าราวกับเป็นการอนุญาตให้ถามได้ ผู้กองท่านนั้น หรือที่รู้จักกันในชื่อเลอโอเน ฟรานบอโน ก็รีบออกปากเอ่ยถามด้วยความสงสัย
“ทำไมถึงไม่มีรูปปัจจุบันของดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์ ล่ะครับ เท่าที่ผมเห็นในแฟ้มประวัติ ผมคิดว่าน่าจะเป็นรูปของดอนคาร์ลตอนอายุราวๆ 20 ปีตอนต้นนะครับ”
คำถามของผู้กองเลอโอเน จุดประกายให้นายตำรวจคนอื่นๆ ก้มลงมองภาพถ่ายของดอนคาร์ลอีกครั้ง ยกเว้นผู้กองสาวรีจินาคนเดียว ที่ไม่ได้ก้มลงมองภาพของดอนผู้ร้ายกาจ
เพราะไม่จำเป็นต้องมองภาพของคนชั่วคนนี้ ภาพของดอนคาร์ล ก็ยังคงฝั่งแน่นอยู่ในหัวสมองของเธอเสมอ แต่หาได้จดจำเจ้าพ่อผู้นี้เพราะความประทับใจไม่ มันเป็นเพราะความ
แค้นความอาฆาตต่างหาก ที่ทำให้เธอจำดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์ ได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานสักเพียงใดเธอก็ไม่เคยลืมคนชั่วคนนี้
“นั่นนะสิครับท่านผู้การ ทำไมไม่มีภาพปัจจุบันของดอนคาร์ลเลยล่ะครับ” ผู้กำกับฟาบิโอเอ่ยถามบ้าง เพราะตัวเขาเองนั้นก็สงสัยไม่ต่างกับผู้กองเลอโอเน
ท่านผู้บังคับการสูงวัยและมากด้วยประสบการณ์ การตามจับโจรผู้ร้ายและทำคดีมานักต่อนัก ได้แต่ถอนหายใจยาว สีหน้าและแววตานั้นก็เต็มไปด้วยความหนักใจกับคำถามของผู้อยู่ใต้อาณัติ ก่อนจะเอ่ยตอบคำถาม ที่ไม่ได้ช่วยให้ความสงสัยของบรรดาลูกน้องจางหายไปเลยสักนิด
“แม้ดอนคาร์ลจะเป็นมาเฟียตัวกลั่น ซึ่งหากพวกเราสามารถล้มเขาได้ บรรดาเจ้าพ่อที่เหลือก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผมเชื่อว่าหากดอนคาร์ลถูกจับได้แล้ว หางเสือที่เหลือก็ย่อมระส่ำระส่ายอย่างแน่นอน
แต่...ปัญหามันอยู่ที่ผู้กองและผู้กำกับถามมานั้นแหละ กรมตำรวจทุกหน่วยในอิตาลี ไม่เคยมีหน่วยไหน มีรูปถ่ายปัจจุบันของดอนคาร์ลเลย รูปที่พวกคุณเห็นนั้นนัยว่าเป็นรูปตอนที่เขาอายุราวๆ 19 ปี ซึ่งเขาเผยตัวให้บรรดาเหล่ามาเฟียได้เห็นเป็นครั้งแรก ตอนเขาเข้ารับตำแหน่งดอน ออฟ ดอน ต่อจากพ่อของเขา ภาพนี้สายลับของเราแอบถ่ายมาได้โดยที่ดอนคาร์ลไม่รู้ตัว แต่หลังจากดอนคาร์ลจับได้ว่าสายลับคนนี้แอบถ่ายรูปของเขาส่งมาให้ทางตำรวจ ในวันรุ่งขึ้นสายลับคนนั้นก็ถูกส่งร่างอันไร้วิญญาณกลับมายังบ้านเกิดของเขา มีข่าวลือว่าศพถูกทิ้งไว้หน้าบ้านพร้อมกับจดหมาย ที่เขียนด้วยลายมือของดอนคาร์ลในวัน 19 ปี ฝากถึงครอบครัวของสายสืบคนนั้นด้วย”
“บ้าชะมัด! ดอนคาร์ลมันโหดตั้งแต่เด็กเลยหรือนี่”
ผู้กำกับฟาบิโอทุบมือลงบนโต๊ะดังโครม พร้อมกับสบถลั่นด้วยความโมโห นึกไม่ถึงว่า
มาเฟียตัวเป้งที่พวกตนต้องจับตัวมาให้ได้จะโหดร้ายถึงเพียงนี้
“จะว่ายังงั้นก็ได้นะผู้กำกับ เพราะดอนคาร์ลคลุกคลีกับพวกมาเฟียตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้ว พอมันเติบโตขึ้นมาก็ฉายแววความเป็นเจ้าพ่อให้เห็นทันที อาวุธทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นปืน ดาบหรือมีด ไอ้หมอนี่มันใช้จนคล่อง ยิงปืนแม่นเสียยิ่งกว่าจับวางเสียอีก สายลับของเราส่งข่าวบอกว่าบรรดาเจ้าพ่อ และลูกน้องในแก๊งอื่นๆ ต่างก็กลัวดอนคาร์ลมาก แต่ไม่ค่อยมีใครได้เห็นดอนคาร์ลเท่าไรนัก คนที่เห็นและรู้จักใบหน้าอันแท้จริงของดอนผู้นี้ส่วนมากจะเป็นหัวหน้าแก๊งเท่านั้น ซึ่งพวกมันจะได้เห็นหน้าดอนคาร์ลก็ตอนเข้าประชุมประจำเดือนของแก๊ง”
ท่านผู้บังคับการเลสซันโดรอธิบายเพิ่มเติมถึงกิตติมศักดิ์ในด้านร้ายของดอนคาร์ล คาร์ลอส มาโก้ร์ ที่เลื่องลือขจรไกลถึงเรื่องความโหดเหี้ยม อำมหิต ตามต้นตำรับของคนที่เกิดมาเพื่อเป็นดอน ออฟ ดอน