CHAPTER 1

2018 คำ
“อืม อ่า...” “…” “พี่เจีย พี่เจียคะ...อ่า” ซ่า! “กรี๊ดดดดดด!” เสียงกรีดร้องดังสนั่นพร้อมกับความชุ่มฉ่ำจากน้ำในปริมาณมหาศาลทำให้การกระทำทั้งหมดของฉันหยุดชะงักลงในทันใด ฉันผละใบหน้าออกจากซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาวตรงหน้าอย่างแสนเสียดาย พร้อมกับยกมือปาดหยดน้ำบนใบหน้าของตน ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ และพาร่างที่เปียกโชกไปด้วยหยดน้ำเดินออกไปทางประตูหน้าห้องน้ำในทันใดด้วยแววตาว่างเปล่าแต่แฝงเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองอย่างไม่มีปิดบัง “ออกมาแล้วเหรอ...ยัยเลสเบี้ยนโรคจิต” หญิงสาวที่ฉันคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดียืนกอดอกรอการปรากฏตัวของฉัน ทั้งรอบข้างของหล่อนก็มีลูกสมุนยืนล้อมรอบอยู่ประมาณ 4-5 คนให้ฉันได้แต่มองเห็นว่าภาพตรงหน้านั้นเหมือนกับหมาชิวาว่าที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มก็มิปาน ซึ่งพวกมันทุกตัวตั้งท่าจะเห่าฉันโดยไม่มีเหตุผล...และฉันมั่นใจว่าไม่เคยไปทำให้อะไรพวกมันเลยแม้เพียงสักครั้ง “คราวนี้มันเล่นเด็ก ม.3 เลยว่ะ!” เด็กสาวอายุน้อยกว่าฉันที่รู้ตัวว่าถูกพูดถึงนั้นรีบก้มหน้าหลุบตาลงต่ำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะวิ่งออกไปอย่างอับอายเต็มทีแม้สภาพจะเปียกชุ่มไม่ต่างกับฉัน ทิ้งให้ตอนนี้มีเพียงแค่ฉันคนเดียวที่ยืนเผชิญหน้ากับกลุ่มหมาบ้าเหล่านี้ ทั้งหล่อนก็ยังยกยิ้มราวกับสมเพชกันอยู่กราย ๆ ที่ฉันเข้าไปทำอนาจารในห้องน้ำของทางโรงเรียนอย่างประเจิดประเจ้อโดยหล่อนหวังที่จะเห็นว่าฉันอับอายเมื่อถูกจับได้ แต่ขอโทษที...ที่ฉันไม่ได้รู้สึกอับอายแต่อย่างใดเลย “น่าสมเพชจริง ๆ ที่บ้านไม่สั่งสอนหรือยังไงว่าทำอะไรประเจิดประเจ้อแบบนี้แล้วมัน...” “ก็ดีกว่าเข้าไปสารภาพรักกับหนุ่มสุดฮ็อตในโรงเรียนแล้วโดนเขาไล่ตะเพิดกลับมาแหละนะ...อย่างน้อยฉันก็ยังได้กินแม้ว่าเธอคนนั้นจะเป็นผู้หญิงเหมือนกันกับฉัน” ฉันรีบพูดสวนออกไปให้เจ้าหล่อนหน้าเหวอในทันทีที่ฉันพูดจนจบประโยค ซึ่งหล่อนก็หันซ้ายแลขวามองหน้าเหล่าลูกสมุนของตนเองในทันที และฉันพอจะเข้าใจแล้วว่าเจ้าหล่อนไม่ได้บอกเรื่องนี้กับใคร...แม้กระทั่งกับกลุ่มเพื่อนของตัวเองที่เดินตามหล่อนเป็นลูกหมาต้อย ๆ พวกนั้น “กะ แกพูดเรื่องอะไร!” “ก็พอจะรู้นะว่าเป็นสาวสุดฮ็อตที่หนุ่ม ๆ หลายคนตามจีบ” เจ้าหล่อนเริ่มจ้องหน้ากันอย่างเดือดดาล “แต่ไม่สังเกตดูบ้างเหรอ...ว่าไอหนุ่มพวกนั้นมันเห่ย ผิดกับสเป็คที่เธอตั้งไว้มากโข” “แก...แก!” “แล้วก็ขอบคุณสำหรับน้ำที่สาดเข้ามานะ...” ฉันยังคงพูดต่อไม่เปิดโอกาสให้เจ้าหล่อนได้เอ่ยเถียงแต่อย่างใด “ดับไฟที่กำลังร้อนรุ่มในกายของฉันได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ สงสัยนัดเย็นนี้กับน้องบัตเตอร์...คงต้องเลื่อนออกไปก่อนเสียแล้ว” “ยัย...ยัย!” “แล้วก็ฉายาที่ตั้งให้ฉันน่ะ” ฉันเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของแม่สาวสุดฮ็อตที่ตั้งตนเป็นแอนตี้ของฉันอย่างจังจนพยายามหาเรื่องมากลั่นแกล้งกันทุกวิถีทาง ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่เคยไปทำอะไรให้หล่อนเลยด้วยซ้ำไป... “ฉันโคตรชอบมันเลยว่ะ!” “กรี๊ดดดดดดดด!” ก่อนที่ฉันจะพาร่างของตัวเองเดินออกมาจากห้องน้ำในทันที ท่ามกลางสายตาของคนอีกหลาย ๆ คนที่สบมองฉันเป็นตาเดียวตั้งแต่ตอนอยู่ในห้องน้ำ...จนกระทั่งเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยมาดของผู้ชนะทั้ง ๆ ที่โดนกลั่นแกล้งจนเปียกชุ่ม “แก! พี่เจียโคตรเท่!” อ่า...ฉันชอบชะมัดเลยความรู้สึกแบบนี้น่ะ “ยัยเลสเบี้ยนโรคจิต! กรี้ดดดดดดด!” เสียงกรีดร้องภายในห้องน้ำพาลทำให้รอยยิ้มของฉันค่อย ๆ ปรากฏ ซึ่งฉันก็หันมองไปรอบกายเพื่อหาตัวช่วยในวันนี้เนื่องจากว่าฉันไม่ได้พกเสื้อผ้ามาเปลี่ยน และดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันจะกลายเป็นที่สนใจของผู้คนทั้งโรงเรียนอินเตอร์แห่งนี้ไปเสียแล้วแม้ว่าในความเป็นจริงฉันจะเป็นที่สนใจมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ต้องขอบคุณฉายาที่ยัยคนนั้นตั้งให้ฉันเลย...มันทำให้มีผู้หญิงกล้าเข้าหาฉันมากขึ้นเพราะโดยปกติใบหน้าของฉันจะไม่ค่อยรับแขกเท่าไร...แม้ความเป็นจริงแล้วฉันจะชอบยิ้มมากกว่าทำหน้าบี้งก็ตาม “ว่าแต่จะมีใครใจดีให้ฉันยืมเสื้อบ้างไหมคะ?” ฉันยืนพูดกับเหล่าผู้คนที่ยังคงสบมองฉันไม่วางตา ด้วยแววตาแพรวพราวที่ฉันมั่นใจ...ว่าฉันเอาอยู่ “พี่ พี่เองค่ะ...” หญิงสาวทีท่าเขินอายเดินออกมาจากมุมหนึ่ง ทั้งในมือของเธอก็มีเสื้อพละที่พกติดสอยห้อยตามมาด้วยราวกับตั้งใจ ซึ่งเธอคนนี้ฉันจำได้ว่าเจ้าหล่อนเป็นตัวแทนของสภานักเรียนในเกรด 12 ด้วยอุปนิสัยของหล่อนที่ขี้อายแม้ว่าจะหน้าตาน่ารักสักเพียงไหนก็ไม่เคยมีข่าวเดทกับใครในโรงเรียนโสมมแห่งนี้เลย อืม...รู้สึกร้อน ๆ อีกแล้วแฮะ “ถ้าอย่างนั้นไปช่วยเจียเปลี่ยนเสื้อในห้องแต่งตัวนักกีฬาได้ไหมคะ?” เจ้าหล่อนยืนบิดไปบิดมาด้วยใบหน้าแดงก่ำให้ฉันรับรู้ได้แล้วว่าเจ้าหล่อนนั้นน่ารักไม่หยอก...ทั้งยังรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองเป็นผู้ชนะเพราะเอาเข้าจริงเจ้าหล่อนต่างหากที่ไม่ยอมออกเดทกับใคร “นำหน้าพี่ไปสิคะ...” เพราะเจ้าหล่อนตอบรับคำขอของกันด้วยความเต็มใจ... ให้ในเย็นวันนั้นฉันจดจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ...ว่าเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับไปกลับมาทั้งหมดกี่ครั้งต่อกี่ครั้งกันแน่ “แล้วแกจะเอายังไงต่อ?” ฉันได้สติหวนกลับหลังจากที่เพื่อนสนิทอย่างเกรซเดินทางมาหากันอีกครั้งที่บริษัท เจ้าหล่อนดูจะเป็นห่วงเป็นใยกับเรื่องของฉันมากแม้ว่าฉันจะบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง แต่เจ้าหล่อนก็ยืนกรานหนักแน่นเลยว่าจะคอยช่วยเหลือฉันอยู่เสมอขอเพียงแค่เอ่ยปาก “แล้วยัยนั่นมาทำงานหรือยัง?” ฉันเงยหน้าสบมองนาฬิกาบนผนังพร้อมกับยกยิ้มออกมาจนเต็มใบ เวลานี้เลยเวลาเข้างานมาเป็นชั่วโมงแล้ว ยังไม่ได้รับรายงานจากเลขาเลยว่าพนักงานใหม่เข้ามาทำงานในวันนี้ ซึ่งฉันคิดเอาไว้แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนี้แน่ ๆ หากเธอคนนั้นตั้งใจที่จะเข้ามาหยามกัน คงจะพยายามทำให้ตัวเองนั้นมีตัวตนต่อหน้าภรรยาอย่างฉัน...แต่หล่อนคงจะไม่รู้ว่าฉันน่ะมันตัวแสบกว่าที่เธอคิดเอาไว้ตั้งหลายสิบเท่าเลยเชียวล่ะ! กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ของบริษัทดังขึ้นมาให้ฉันเปรยสายตาไปสบมอง ซึ่งฉันก็กดรับสายนั้นในทันทีอย่างไม่มีอิดออดเพราะพอจะทราบเรื่องที่เลขาจะแจ้งคร่าว ๆ แล้ว “คุณจอร์เจียคะ...คุณปัญฑารีย์มาทำงานแล้วค่ะ” “ขอบคุณค่ะ” “แก! บริษัทแกเข้างาน 9 โมงไม่ใช่เหรอ...นี่มันผ่านมาเป็นชั่วโมงกว่าแล้วนะ” เกรซร้อนรนขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินเรื่องที่เลขาของฉันเอ่ยบอก “นี่มันตั้งใจมาหยามกันชัด ๆ เดี๋ยวฉันจัด...” “หยุดเลยเกรซ หยุด!” เพื่อนสาวที่กำลังจะลุกขึ้นถึงกับทรุดตัวนั่งลงที่เก้าอี้ดังเดิมในทันทีเมื่อฉันเอ่ยปราม “น้อย ๆ หน่อยเรื่องชอบหาเรื่องคนอื่นเนี่ย...” เจ้าหล่อนหน้าหงอยเหมือนสุนัขหูลู่ก็มิปาน “ตอนมัธยมเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเป็นยังงั้น...” “ฉันดีขึ้นมากแล้วเถอะ!” และหล่อนก็กอดอกสะบัดหน้าหนีกันอย่างแง่งอนในทันทีให้ฉันเผลอหลุดขำ ฉันค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงไปหาเพื่อนสนิท ก่อนจะวางก้นของตนเองลงยังที่วางแขนของเก้าอี้ตัวที่เกรซนั่งอยู่ให้เจ้าหล่อนทำทีเป็นไม่สนใจแต่ฉันแอบเห็นว่าหล่อนเปรยสายตามาสบมองกันเล็กน้อยอย่างเรียกร้องความสนใจ ฉันวางมือลงไปที่ศีรษะของเจ้าหล่อนให้เกรซสะดุ้งโหยง ก่อนที่เกรซจะหันมามองกันตาขวางแต่สายตาของหล่อนแฝงเต็มไปด้วยความน้อยใจเสียเต็มประดาให้ฉันนึกเอ็นดูหนักหนา “บอกแล้วไงว่าเดี๋ยวฉันจัดการเอง...เธอแค่คอยอยู่เป็นกำลังใจให้ฉันได้ไหม หืม?” ฉันเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวานหูจนคนข้าง ๆ ถึงกับผ่อนแรงที่กอดอกลงในทันทีอย่างยอมแพ้ “อือ...เอางั้นก็ได้” และก็ยอมตบปากรับคำให้ฉันได้นึกเบาใจจนเผยยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุขที่มีเพื่อนที่แสนดีคนนี้อยู่เคียงข้าง แม้ตอนที่เราเจอกันครั้งแรกมันจะไม่ค่อยดีเท่าไรก็ตาม... “โอเค ถ้าอย่างนั้นนั่งเล่นในห้องรอไปก่อนนะ” “แล้วแกจะไปไหน?” ฉันยกยิ้มโดยไม่ได้ตอบคำถาม ก่อนจะพาร่างของตัวเองเดินออกไปจากห้องในทันทีอย่างนึกสนุกกับสิ่งที่ตนเองกำลังจะทำต่อจากนี้ไป “ฝากงานก่อนนะ...เดี๋ยวฉันขอไปเดินดูรอบ ๆ สักหน่อย” “ได้ค่ะคุณจอร์เจีย” เมื่อเลขารับคำฉันก็เดินยิ้มร่าอย่างมีความสุขออกมาในทันที สองขาก้าวเดินอย่างมีเป้าหมายทั้งรอยยิ้มที่ประดับ ก่อนในที่สุดฉันจะมาหยุดยืนอยู่ที่หน้าแผนกบัญชีซึ่งมันถัดลงมาจากชั้นผู้บริหารของฉันอยู่มากโขเลยทีเดียว ตอนนี้พนักงานหลาย ๆ คนไม่ได้อยู่ที่โต๊ะ แต่ฉันได้ยินเสียงฮือฮาดังมาจากที่ใกล้ ๆ และทุกคนกำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานให้ฉันเดินไปสบมองดู และก็ได้พบเห็นว่าตอนนี้ปัญฑารีย์พนักงานคนใหม่ของฉัน...หรือจะเรียกอีกอย่างก็คือชู้ของสามีฉันนั้นกำลังยิ้มร่าทักทายผู้คนอย่างมีไมตรีอยู่ ฉันยืนมองหล่อนจากระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกล และฉันก็ยังคงยืนยันคำเดิมจากเมื่อวานที่ได้พบเห็นหล่อนเป็นครั้งแรกว่าหล่อนน่ะ...สวยมากจนฉันไม่นึกแปลกใจเลยที่สามีของฉันนั้นเลือกหล่อน นับว่าไอคนนั้นก็ตาถึงอยู่... “ท่านประธานคะ มายืนทำอะไรตรงนี้คะ?” แต่เสียงเอ่ยเรียกของใครบางคนก็ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังให้ฉันต้องหันกลับไปสบมอง พร้อมกับผู้คนที่ยืนเจี้ยวจ้าวกันอยู่ในคราแรกก็หันมาสบมองฉันเป็นตาเดียวเฉกเช่นเดียวกัน...รวมไปถึงเธอคนนั้นก็ด้วย “อ๋อ...แค่อยากจะมาดูการทำงานของหัวหน้าแผนกบัญชีคนใหม่หน่อยน่ะค่ะ” “อ๋อ...” คนที่เอ่ยทักเมื่อครู่รับคำให้ฉันเลิกสนใจเจ้าหล่อน ซึ่งฉันก็เปรยสายตาไปสบมองที่ปัญฑารีย์อีกครั้งและยังคงชื่นชมในความสวยของเธอ… แต่สายตาที่หล่อนสบมองและยกยิ้มให้กันราวกับเป็นผู้ชนะอยู่ในตอนนี้น่ะ...ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะเปิดศึกกับฉันเสียแล้ว “สวัสดีค่ะคุณจอร์เจีย...ตัวจริงสวยกว่าที่ฉันเคยได้ยินมาอีกนะคะ” ฉันยกยิ้มตอบรับคำเอ่ยชมของเธออย่างไม่นึกถ่อมตน “สวัสดีค่ะคุณปัญฑารีย์...คุณเองก็สวยอย่างที่ฉันคาดหวังเอาไว้ไม่มีผิดเลยนะคะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม