Chapter​ 3 Sex appeal (1)

1485 คำ
Chapter​ 3 Sex appeal (1) เปมนีย์เหลียวซ้ายมองขวาอย่างเลิ่กลั่ก หล่อนกลัวว่าจะมีคนพรวดพราดมาได้ยิน แล้วเข้าใจผิดคิดว่าหล่อนกับเขากำลังเล่นเสียวกันอยู่ในห้องออกกกำลังกาย และเมื่อหันกลับมาก็ต้องผงะตกใจ เมื่อเจ้าของร่างสูงใหญ่นั้นมายืนอยู่ตรงหน้าหล่อนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หล่อนมองใบหน้าหล่อเหลาราวเกิดมาเป็นลูกรักเทพเจ้า มันชุ่มชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ ทำไมเขาดูหล่อและมีเสน่ห์ขึ้นเป็นกองเมื่ออยู่ในสภาพแบบนี้ คิดพลางหลุบตาลงต่ำ แต่แล้วหัวใจสาวต้องเต้นแรงสั่นไหว เมื่อหนีข้างบนมาเจอกับแผงอกกำยำแน่นหนั่นที่เสื้อสีขาวแนบลู่อยู่กับผิวกาย ตาย หล่อนตายแน่ ๆ คราวนี้ อายจนมือไม้เงอะงะ และเขาต้องจับได้ว่าหล่อนกำลังเขินจนไปไม่เป็นเช่นนี้ หญิงสาวเรียกสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงกลับมา ก่อนขยับขาถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อความปลอดภัยจึงต้องอยู่ให้ห่างจากมนุษย์ผู้ชายตรงหน้าเข้าไว้ จะต้องไม่หวั่นไหวไปกับเสน่ห์ล่อหลอกตรงหน้า เพราะเขาเคยพูดใส่หน้า ไม่มีวันที่จะสนใจผู้หญิงเช่นหล่อนแน่นอน “สะ…เสร็จ…แล้ว…กะ…ก็…ไปอาบน้ำสิคะ…จะได้…คุยงานกัน” เขาหัวเราะกับน้ำเสียงตะกุกตะกักราวสมองเสียหายจากพลังทำลายล้าง ก่อนจะยกน้ำขึ้นดื่มด้วยลีลาเซ็กซี่ขยี้ใจ หล่อนมองลูกกระเดือกที่ขยับตามจังหวะพร้อมกับเสียงกลืนน้ำลงคอ อยากจะบ้าตาย นี่เขาจะอ่อยกันไปถึงไหน ทั้งที่ปากบอกว่าหล่อนไม่ใช่สเปคเขาสักนิดเดียว “ใครบอกว่าเสร็จ มันยังไม่ครบเซ็ทน่ะ พี่ต้องไปว่ายน้ำต่อ” “อะ…อะไรนะคะ!” หล่อนทำท่าหัวเสีย เขาจึงพยักพเยิดไปทางนาฬิกาอันใหญ่ที่ติดอยู่กับฝาผนัง “ใครกันแน่ที่ผิดเวลาน่ะฮึ พี่นัดเธอสิบโมงเช้า แล้วเธอโผล่หัวมาทำไมตั้งแต่ไก่โห่ ช่วยไม่ได้ รอไปก่อนจนกว่าจะได้เวลา” หล่อนมองตาม…จริงด้วย ตอนนี้ยังไม่เก้าโมงเช้าเลยด้วยซ้ำ แต่เพราะคิดเองเออเองฝ่ายเดียวว่ารีบมาจะได้รีบคุยให้จบ ๆ เพราะหล่อนมีนัดช่วงบ่าย แล้วตอนนี้ก็เถียงเขาไม่ขึ้นด้วย “ก็…เอ่อ…ลูกปลามีนัดตอนบ่ายค่ะ เลยรีบมาเพราะคิดว่าพี่แสนว่างทั้งวัน” เขามองมาด้วยสายตาไม่น่าไว้วางใจ ริมฝีปากหยักสวยราวรูปปั้นยกยิ้ม ยามจ้องหน้ารูปไข่ที่วันนี้ไร้แว่นสายตาบดบัง “แล้วคิดว่าพี่จะปล่อยกลับไปง่าย ๆ หรือเปล่า…หืม…เด็กโง่” “หมะ…หมายความว่าไงคะ!” “โทร.ไปยกเลิกนัดซะ นี่คือคำสั่งของท่านประธาน” เขาเดินไปคว้าผ้าขนหนูมาเช็ดเหงื่อตามใบหน้าและซอกคอ ในขณะที่เปมนีย์เดินตามไปขวางหน้าอย่างไม่พอใจ “นี่มันวันหยุดลูกปลานะคะ พี่แสนไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งในวันหยุดแบบนี้!” เขาทำเป็นไม่ฟัง เดินหนีไปยังประตูที่เชื่อมกับสระว่ายน้ำ เปมนีย์เดินตามออกไป เขาเดินไปหยุดอยู่ตรงโต๊ะริมสระ หล่อนหน้าเหวอกำเดาแทบพุ่งเมื่อเขาถอดเสื้อและกางเกงวอร์มขายาวออกหน้าตาเฉย เหลือเพียงกางเกงว่ายน้ำที่ซ่อนอยู่ข้างใน กายกำยำและก้นแน่น ๆ ดึงดูดให้หล่อนมองตามทุกการเคลื่อนไหวนั้น เขาเดินไปอาบน้ำชำระล้างคราบเหงื่อไคลก่อนลงสระ ยิ่งทำให้เนื้อผ้าลื่น ๆ นั้นแนบลู่กับกายท่อนล่างมากขึ้นไปอีก หล่อนเหมือนสาวโสดจอมหื่นที่ชอบมองผู้ชายหุ่นน่ากิน จับจ้องมองกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าอยู่ภายใต้สายน้ำจากเรนชาวเวอร์ แววตาอยากรู้อยากเห็นมองตรงเป้ากางเกงที่นูนเด่นจนเห็นชัดเจนเป็นรูปร่างของช้างน้อยที่ยังไม่กลายร่าง และเหมือนเขาจะรู้ว่าหล่อนจ้องอะไรจนน้ำลายหก จึงทำเป็นหันหน้ามาทางคนที่ยืนมองแล้วทำอ้อยอิ่งอาบน้ำอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมลงสระเสียที “มองอยู่นั่นล่ะ เข้ามาจับเลยมั้ยล่ะครับ” เขาตะโกนท้าทาย ทำให้เปมนีย์รีบหันหลังหนี หน้าแดงร้อนผ่าวไปกับหุ่นแสนยั่วใจจนอยากพุ่งเข้าไปซุกซบ หล่อนได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ดังอยู่ข้างหลัง ตามมาด้วยเสียงสายน้ำกระจายที่มีคนกระโดดลงไป เมื่อหันไปมอง ก็เห็นเงาไหว ๆ ว่ายดำน้ำไปยังอีกฝั่งของสระ หล่อนมองด้วยแววตาละห้อย เพราะในวันหยุดเช่นนี้หล่อนจะออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ หากวันนี้พัทธดนย์ไม่นัดให้มาหา ป่านนี้หล่อนคงแหวกว่ายอย่างมีความสุขอยู่ในสายน้ำที่บ้านของตน ชายหนุ่มโผล่หัวขึ้นมาเหนือผิวน้ำ มือใหญ่ลูบใบหน้าคมคร้ามแล้วมองมายังคนที่ยืนอยู่ขอบสระ “จะลงมาเล่นน้ำด้วยกันมั้ย ยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะกว่าจะถึงเวลานัดของเรา” เปมนีย์ยืนนิ่ง มองคนที่ว่ายมาเกาะขอบสระตรงจุดที่หล่อนยืนอยู่ แววตาแสนมีเสน่ห์มองมาอย่างมีความหมาย “พี่แสนชวนทุกคนที่มาบ้านแบบนี้หรือเปล่าคะ” “ไม่…ไม่เคยชวน” “น่าเชื่อตายล่ะค่ะ” เขาคลี่ยิ้มมาให้ สบตากับแววตากลมโตที่มองอย่างไม่ไว้วางใจ “เพราะพี่ไม่เคยพาใครมาบ้าน เธอเป็นคนแรกที่พี่ชวนให้มาหาถึงบ้าน” คนฟังก้มหน้าหนีกับถ้อยคำชวนให้คิดไปไกล เธอควรภูมิใจใช่ไหม หากแต่ก็พยายามคิดว่าเขาชวนเพราะความที่เคยเกี่ยวดองกันเมื่อครั้งอดีต ถึงอย่างไรหล่อนก็เป็นคุณอาของหลาน ๆ ของเขา ไม่แปลกที่จะไปมาหาสู่กันยังบ้านที่พิมพ์ลดาเคยอาศัยอยู่ที่นี่ “เพราะลูกปลาเป็นน้องสาวพี่ติณห์หรอกค่ะ การมาเหยียบที่นี่จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าเอาไปคิดว่าเป็นคนพิเศษอะไรขนาดนั้น” ชายหนุ่มพาร่างขึ้นมาจากน้ำ เขาเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคนที่พยายามขยับถอยหลังหนี “อย่าลืมสิครับ เราไม่มีอะไรเกี่ยวดองกันแล้ว พี่ชายเธอหย่ากับพิมพ์แล้ว ฉะนั้นเราก็เป็นเหมือนแค่คนรู้จักกัน” “พี่แสนจะบอกอะไรลูกปลาคะ เอาตรง ๆ” หล่อนมองกายกำยำท่อนบนที่หยดน้ำเกาะพราว เพื่อต้องการหลบตาหนีแววตาชวนให้ใจละลายคู่นั้น เขามองมาด้วยสีหน้าราบเรียบราวครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยออกมา “จริง ๆ พี่ก็ไม่มีใคร เธอก็ไม่มีใคร เราน่าจะ…” “คุณแสนคะ…” เสียงเรียกนั้นดังขัดจังหวะ เป็นแม่บ้านที่ถือโทรศัพท์ออกมาถึงสระน้ำ “โทรศัพท์จากสถานีตำรวจค่ะ” “หืม…” สองหนุ่มสาวมองหน้ากันอย่างงุนงง ก่อนพัทธดนย์จะเดินไปรับโทรศัพท์จากแม่บ้านแล้วเอามาคุยกับคนปลายทาง เปมนีย์ยืนฟังแล้วจับใจความได้ว่ามีใครบางคนต้องการให้เขาไปหาที่สถานีตำรวจ และสีหน้าเขาดูเคร่งเครียดขึ้นมาทันที หลังจากวางสาย เขาก็หันมาทางเปมนีย์ที่ยืนรอด้วยสีหน้าใคร่รู้ “คุณใหม่น่ะ ตำรวจบอกเธอไปแจ้งความคนหาย แล้วเธออยากพบพี่” เปมนีย์มองใบหน้าคมคร้ามที่เคร่งเครียด รู้สึกใจเต้นแรงอย่างไม่เคยเป็น ความรู้สึกนี้มันคืออะไร คงไม่ใช่ความหึงหวงใช่ไหม หล่อนถามตัวเอง “คนหายแล้วเกี่ยวอะไรกับพี่แสนคะ” ชายหนุ่มยืนนิ่ง สบตากับแววตากลมโตที่ฉายความไม่พอใจ จนเขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกลึก ๆ ของหล่อน “ไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยได้ไหม” เขาเอ่ยชวนเสียดื้อ ๆ ลืมเรื่องงานวันนี้ไปเสียสิ้น “แล้วงานที่จะคุยกันล่ะค่ะ” “เดี๋ยวค่อยกลับมาคุย ไปกับพี่ที่สถานีตำรวจก่อน” “ไปคนเดียวไม่ได้เหรอคะ เธออยากพบพี่แสน ไม่ใช่ลูกปลา” “ใช่ ไปคนเดียวไม่ได้" “แล้วทำไมต้องเป็นลูกปลาคะ” "ก็พี่อยากให้เธอไปด้วยนี่ครับ ทำไมเข้าใจอะไรยากจังเลย” เขาทิ้งท้ายแล้วเดินหนีเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้เปมนีย์ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม หล่อนมองตามร่างสูงใหญ่ไปจนลับสายตา พลางครุ่นคิดว่ากนกจันทร์ไปแจ้งความใครหาย แล้วทำไมต้องลากพัทธดนย์เข้าไปเกี่ยวข้อง อีกฝ่ายเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ และมีสถานะเป็นลูกน้องพัทธดนย์ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรในฐานะเครือญาติกันอยู่แล้ว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม