“ไม่เจ็บตรงไหนใช่ไหม”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถาม ขณะที่เอวบางของนารายังคงอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง สายตาคู่คมมองสำรวจไปทั่วร่างเล็กว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ จนมาหยุดตะลึงตรงหน้าอกอวบอิ่มที่อยู่ระดับสายตาของเขาพอดิบพอดี ชาร์ลส์ไม่ได้ตั้งใจมองแต่ก็ยอมรับว่าละสายตาไม่ได้เลย ผู้หญิงอะไรตัวเล็กนิดเดียว แต่...
“ว้าย! ไอ้โรคจิต ปล่อยฉันนะ” ดวงตากลมโตเบิกกว้างตกใจสุดขีดพร้อมกับเผลอตะโกนลั่น ตำหนิสายตาคู่นั้นให้หยุดสำรวจไปทั่วเรือนร่างของเธอ
“เอ่อ…ขอโทษนะ”
วงแขนแกร่งปล่อยสาวน้อยให้เป็นอิสระอย่างรวดเร็ว ด้วยสำนึกผิดที่เมื่อครู่เหมือนสายตาเขาจะหยุดมองแช่นิ่งที่หน้าตาจิ้มลิ้มกับเอวคอดบางนานไปนิด แต่สาบานได้ สาวน้อยคนนี้เข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว เขาไม่ได้มาขอซื้อบริการจากเธอแน่นอน
“นี่ติดใจจนตามมาขอซื้อถึงในบริษัทเลยเหรอ! บอกแล้วไงว่าฉันไม่ใช่...! มันจะมากเกินไปแล้ว” เธอเม้มปากหยุดคำพูดไว้เท่านั้น อายปากที่จะบอกว่า ตัวเองไม่ใช่ผู้หญิงแบบว่า
“นี่คุณเสียง เบาๆ หน่อยเถอะ หยุดโวยวายได้แล้ว เดี๋ยวคนทั้งบริษัทก็แห่มาดูเราหรอก”
“ดีสิ ยามจะได้มาจับคุณโยนออกไป ไอ้ฝรั่งโรคจิต ฉันจะบอกให้ ผู้หญิงไทยไม่ได้สนใจชาวต่างชาติทุกคน มีฉันคนหนึ่งแหละที่ไม่ใช่สายฝอ อีกอย่างก็...เบ้าหน้าคุณไม่เข้าสเปกฉัน”
“สายฝอ” ชาร์ลส์ สราวิน เฮอร์นันเดส ขมวดคิ้ว “ผมไม่เข้าใจ”
ดวงตาคู่หวานไหวระริก นึกอยากแกล้งพวกฝรั่งที่ชอบดูถูกผู้หญิงไทย “ก็หมายความว่า ฉันไม่ได้มีรสนิยมชอบฝรั่งอย่างคุณไง คิดว่าตัวเองหล่อนักหรือไง”
ที่จริงเขาล่อมาก เธอแค่อยากทำลายความมั่นใจของเขาลง
“จะบอกเอาไว้ เงินของคุณมากแค่ไหนก็ซื้อฉันไม่ได้ เพราะฉันไม่ได้...ขาย เลิกมาตื๊อขอซื้อบริการจากฉันได้แล้ว มองว่าผู้หญิงไทยคลั่งไคล้ฝรั่งไม่ลืมหูลืมตาหรือไง และตอนนี้คุณก็ออกไปจากบริษัทนี้ได้แล้ว ก่อนที่ฉันจะแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ว่าคุณเดินตามฉันมาถึงในบริษัทเพื่อขอซื้อ...”
นารายังพูดไม่ทันจบ พี่พัชชาที่ดูแลนักศึกษาฝึกงานก็เดินผ่านมาพอดี
“อ้าว! นารา เจอบอสแล้วเหรอ” จากนั้น พี่พัชชาก็รีบหันไปสนใจคนที่นาราเพิ่งด่าว่าเขาเป็นโรคจิตตามเข้ามาขอซื้อบริการเธอถึงในบริษัท “ทำไมมายืนคุยกันหน้าห้องล่ะคะ”
เท่านั้น นารารู้สึกว่าเธอยืนตัวแข็งเหมือนถูกสาป เหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นตามไรผม นึกถึงแต่เกรดฝึกงาน
“หา! บอส?” แล้วหันไปมองหน้าพัชชา “พี่พัชชา เรียกใครว่าบอสคะ ขออีกที”
พัชชามองเด็กนักศึกษา ที่ตั้งแต่เข้ามาฝึกงานก็ทำงานอย่างขยันขันแข็ง แต่วันนี้มีอาการแปลกๆ หรือจะป่วย ก็ยืนคุยอยู่กับบอสตัวเป็นๆ เมื่อกี้นี้ชัดๆ
“น้องนารา ไม่สบายหรือเปล่าคะ ถ้าป่วย ลากลับบ้านก่อนได้นะ ก็น้องนารายืนคุยอยู่กับบอส ยังมาถามพี่อีกว่าใครคือบอส” พัชชาส่ายหน้าหวืออย่างงงๆ พอดีมีสายเรียกเข้า เธอจึงขอตัวจากวงสนทนาเพื่อรับโทรศัพท์และเดินเลี่ยงไปอีกทาง
นารากลืนน้ำลายลงคอฝืดๆ แล้วหันมามองหน้าคนที่ยืนกอดอกจ้องเธอด้วยแววตาดุๆ
“คุณคือ...บอส?”
ด้วยอาการงงๆ ปนตกใจ เพราะไม่คาดคิดว่าไอ้ฝรั่งโรคจิตที่เคยเดินมาถามซื้อบริการจากเธอ แล้วยังตามมาถึงที่นี่แท้จริงเขาคือ บอสหนุ่มมากความสามารถ แล้วยังเป็นเจ้าของบริษัทที่เธอกำลังมาเป็นนักศึกษาฝึกงาน
‘บ้าจริง เป็นไปได้ไงเนี่ย อีตาโรคจิต หื่นกาม คือเจ้าของบริษัทนี้’
‘อยากเป็นลม’
‘ไม่ผ่านฝึกงานแน่ๆ โอย...’
และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ชาร์ลส์เห็นผู้หญิงจ้องหน้าเขาแล้วทำหน้าช็อกสุดขีด ก่อนเป็นลมไปต่อหน้าต่อตา
ชาร์ลส์ยิ้มกับเรื่องในอดีต ส่วนเรื่องปัจจุบัน นาราดูตกใจมากที่ถูกเขาฉกจูบไปหน้าตาเฉย แล้วยังบอกว่าเป็นสัญญาปากเปล่า
สีหน้าของเธอในเวลานี้ดูตกใจ ดวงตาโตเบิกกว้าง ยกมือขึ้นปิดปาก มองเขาราวกับว่าเป็นผู้ร้ายในคดีข่มขืนกระทำชำเรา ในขณะที่สาวๆ ไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ที่อยากได้รับจูบของชาร์ลส์จนแทบจะแย่งชิงกันกัน เหมือนที่ดาราดังกับนักร้องสาวสวยเคยทะเลาะกันเพราะมีเขาเป็นสาเหตุจนขึ้นหน้าหนึ่งมาแล้ว
ชาร์ลส์พรูลมหายใจออกมา นึกต่อว่าตัวเองว่าใจร้อนเกินไป เดี๋ยวไก่จะตื่นหมด
“ทำหน้าตกใจอะไรเบอร์นั้น เว่อร์ไปแล้ว”
ทั้งที่พูดไปแบบนั้น ทว่าภายในใจชาร์ลส์กำลังต่อว่าตัวเอง เขาเองไม่น่าบุ่มบ่ามดึงเธอมาจูบแบบเมื่อครู่เลย แต่ดวงตากลมสดใสรับกับริมฝีปากอวบอิ่มมันทำให้เขาลืมตัว จึงรีบอธิบายแก้เก้อ
“เอ่อ...ผมเติบโตที่อเมริกา การจูบ มันเป็นวัฒนธรรมปกติของคนที่นั่น ใครๆ ก็ทำ ถ้าทำให้คุณตกใจ ผมขอโทษด้วยละกัน”
นาราหน้าเหวอ เขาคิดว่าเธอเป็นเด็กประถมหรือไง แม้การจูบจะเป็นวัฒนธรรมของพวกฝรั่งมังค่า แต่การจุมพิตทักทายกับคนอื่นถึงจะเป็นการแสดงถึงมิตรภาพ ก็จุมพิตแก้มกันไม่ใช่ที่ปาก ใครๆ ในโลกก็รู้กันทั้งนั้น ยิ่งคิดว่าผู้ชายตรงหน้ากำลังตีมึนหลอกจูบ ดวงหน้าน่ารักก็ยิ่งแดงซ่านไปหมด อดคิดไม่ได้ว่าเขาคิดอะไรกับเธอกันแน่
“แต่เมื่อครู่ ฉันว่าคุณจูบผิดที่นะคะ จูบมิตรภาพมันควรเป็นที่แก้ม ไม่ใช่ที่ปาก”
น้ำเสียงเจือเสียงหัวเราะของชาร์ลส์ดังขึ้นกลบเกลื่อนความเผลอของตัวเอง “งั้นผมจูบผิดที่ ขอโทษด้วยละกัน ช่วงนี้อาจทำงานหนักไปหน่อย เดี๋ยวผมจะจูบแก้ตัวที่แก้มคุณใหม่ เพื่อแสดงมิตรภาพระหว่างเราใหม่ก็แล้วกัน”
คนตัวสูงพยายามดึงร่างบอบบางเข้าหาตัวเพื่อจูบแก้ม ทว่า สาวสวยผงะด้วยความตกใจแล้วรีบถอยห่าง
“พอๆ เลย คุณไม่จำเป็นต้องจูบเพื่อแสดงมิตรภาพระหว่างเจ้านายกับนางทาสหรอกค่ะ”
นารายื่นนิ้วก้อยข้างขวาต่อรองให้ผู้บริหารหนุ่มเกี่ยวก้อยสัญญา
“วันหลังห้ามจูบฉันแบบนี้อีกนะคะ คนไทยเขาถือค่ะ ถ้าใครมาเห็น ฉันจะถูกมองไม่ดี เข้าใจไหมคะ”
ชาร์ลส์ยกมือลูบหน้าแก้เก้อ “โอเค ผมเข้าใจแล้ว”
ให้ตาย เธอจะให้เกี่ยวก้อยสัญญากันเหมือนเด็กนี่นะ เขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ มันดูไม่ใช่ตัวของตัวเอง ใครมาเห็นคงหัวเราะเยาะ สำหรับสาวๆ เขาเคยแต่เกี่ยวอย่างอื่นด้วยมากกว่า
ชาร์ลส์ผ่อนลมหายใจหนักๆ พลางส่ายศีรษะ “ก็ได้ๆ”
ชายหนุ่มโน้มตัวลงมายื่นนิ้วก้อยเรียวยาวข้างขวาไปเกี่ยวกับนิ้วของหญิงสาว ขณะที่สายตาคู่คมลอบมองริมฝีปากอวบอิ่มอย่างหลงใหลในความหวาน นิ้วแข็งแรงอีกข้างเลื่อนไปเกลี่ยแก้มนวลเบาๆ ทำเอานาราหน้าแดง ลมหายใจติดขัด