บทที่ 2: ดอกไม้ในมือมาร
มีนานั่งขดตัวราวกับความหนาวเหน็บไม่รู้จบเกราะอยู่ในความมืดของถ้ำที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน เสียงกระซิบของสายลมที่พัดผ่านทำให้หัวใจของเธอเต้นระส่ำดังหนึ่งเสียงกลองศึก เธอถูกจับตัวมาโดยศัตรูในคืนค่ำแห่งการต่อสู้อันดุเดือดซึ่งขณะนั้นอาร์นต้องขับเคี่ยวกับพวกมันอย่างหนักหน่วงเพื่อปกป้องมาตุคามของเขา
เมื่อเห็นศัตรูเข้ามายืนกร่างใกล้ ๆ เธอรู้สึกได้ถึงความหวาดผวาที่เข้ามาครอบงำจิตใจมากล้น
“ปล่อยฉันเถอะ!”
มีนาร้องขอเมื่อเธอเห็นเงาของผู้ชายที่คุ้นเคยกับเธอเดินเข้ามาในถ้ำ ที่แท้มันคือสมาชิกของเผ่าที่มีชื่อเสียงในความโหดร้ายคนหนึ่ง เขาชื่อว่า “คาเลน” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูถ้ำที่ถูกปิดแน่นหนา เขามองเธอด้วยรอยยิ้มที่เลวร้าย เจ้าเล่ห์
“ไม่มีใครจะมาช่วยเจ้า” คาเลนพูด พร้อมกับยิ้มเยาะอย่างคนชั่วร้ายทั้งหลายกระทำ “ตอนนี้เจ้าจะต้องอยู่ที่นี่กับข้าสองต่อสองเท่านั้น”
“ไม่ ไม่มีทาง จงถอยออกไป”
มีนารู้สึกถึงความสิ้นหวัง เธอเริ่มคิดถึงอาร์น ความรักของเขาที่ให้กำลังใจเธอเสมอ ชายหนุ่มที่ทำให้โลกของเธอเต็มไปด้วยสีสันและความหวัง แม้ในตอนนี้เธอจะอยู่ในสถานการณ์ที่มืดมนลงทุกขณะ
แต่เธอยังคงตั้งคำถามกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เธอเคยเชื่อในช่วงชีวิตที่ผ่านมา
“ถ้ามีใครที่ได้ยินเสียงหัวใจฉัน เต้น ขอให้ท่านช่วยเหลือฉัน” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความหวัง “ข้าขอความช่วยเหลือจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกป้องเผ่าของข้า มาตลอดตั้งแต่อดีตนั้น จงรู้ว่าข้าไม่ต้องการอยู่ที่นี่กับคนไม่น่าไว้ใจ“
ในเวลานั้น ความเงียบเข้าครอบงำทุกสิ่ง เสียงของน้ำหยดลงมาจากผนังถ้ำ เสียงดังก้องในความมืดวังเวงซึ่งหนีไม่พ้นความรู้สึกของความโดดเดี่ยว มีนารู้สึกว่าเธออยู่ในโลกที่ว่างเปล่า
แต่ทว่า, ความเชื่อมั่นในความรักของอาร์นไม่เคยลดน้อยลง
“ข้าเชื่อว่าเขาจะมาช่วยข้า” เธอพูดกับตัวเอง พยายามให้กำลังใจตนเอง แม้ว่าเธอจะรู้ว่าเขาอยู่ห่างออกไปหลายไมล์ แต่ความรักนั้นทำให้เธอสามารถอดทนเพื่อความอยู่รอด
เวลาผ่านไปช้าๆ ความมืดเริ่มกลืนกินความหวัง แต่จู่ๆ เสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นอีกครั้ง คาเลนกลับมาอีกครั้ง เขามองมาที่เธอด้วยสายตาที่เยาะเย้ย
“เจ้าเชื่อว่าอาร์นจะมาช่วยเจ้าหรือ?” เขาถามเสียงเหยียดหยาม
“เขาบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่ไม่เอาไหน เขาจะต้องเสียเลือดมากมายก่อนที่จะมาถึงเจ้าที่นี่”
มีนาสั่นสะท้านจากคำพูดของเขา แต่เธอไม่ยอมแพ้ “อาร์นคือคนที่ทรหดและแข็งแกร่ง เขาเป็นคนที่จริงใจและปกป้องทุกคนที่เขารัก” เธอตอบกลับไป “เขาจะไม่ยอมให้คนที่เขารักต้องทุกข์ทรมานแบบนี้”
คาเลนหัวเราะอย่างดูแคลน “ความรักเป็นเพียงความอ่อนแอ อาร์นจะต้องตายภายใต้แรงกดดันนี้ และเมื่อเขาตาย เจ้าจะเป็นของเรา ฮ่าๆๆๆๆๆ”
“ไม่ ไม่มีวัน คนที่จะต้องตายคือเจ้าต่างหาก”
“ไม่มีใครจะทำให้ข้าตายได้”
“มี คอยดู”
ความโกรธและความกลัวเข้าครอบงำมีนา แต่เธอก็ยังไม่ยอมให้ศัตรูได้ชัยชนะในใจของเธอ เธอเริ่มอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง “ข้าขอความช่วยเหลือจากท่าน หากท่านยังมีอยู่ โปรดส่งเขามาช่วยข้า”
ทันใดนั้น !
หินที่อยู่รอบตัวเริ่มสั่นสะเทือน มีนารู้สึกถึงกระแสลมเย็นพัดผ่านเหมือนมีอะไรบางอย่างตอบสนองต่อคำอ้อนวอนของเธอ หัวใจของเธอเต้นแรง ความหวังที่เคยจางหายเริ่มกลับคืนมา
“อาร์น!”
เธอเรียกชื่อเขาดังๆ ในใจ หวังว่าความรักของพวกเขาจะสามารถทำลายพันธนาการนี้ได้
ในขณะเดียวกัน อาร์นอยู่ที่ลานหินหน้าปากถ้ำไกลออกไป เขากำลังเตรียมการสำหรับการตามหามีนา เมื่อได้ยินเสียงน้ำที่ไหลลงมาในถ้ำ เขารู้สึกถึงการเชื่อมต่อที่แปลกประหลาดระหว่างเขากับเธอ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ความมืดที่เรียกหาความหวัง
“ฉันจะพาเธอกลับมา”
เขากล่าวกับตัวเอง สัญญาที่จะไม่ยอมให้ความรักต้องแยกจากกัน
และนั่นคือการเริ่มต้นของการเดินทางที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
*****