“ ท่านขุนขอรับ ท่านขุนจะเอายังไงต่อไปขอรับ” ไอ้มิ่ง บ่าวคนสนิทของขุนไกรถามผู้เป็นเจ้านายออกมาด้วยน้ำเสียงที่รียบนิ่งและเบาหวิว เหมือนอย่างกับรู้แล้วว่าคนเป็นนายจะทำอะไรต่อไป เมื่อขุนไกรไม่พูดอะไรนอกจากหันหน้าไปมองบ่าวคนสนิทก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างมีแผนการแล้วเดินออกจากตรงนั้นไป
“ ไอ้มิ่งมึงไปเรียกแม่พิกุลมาหากูที กูมีเรื่องจะหาลือกับนาง” ขุนไกรที่เดินอย่างใช้ความคิดมาตลอดทางก่อนจะก้าวขาขึ้นบรรไดขั้นที่1 เขาก็หันไปบอกกับบ่าวด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งเหมือนอย่างทุกที แต่ที่ไม่ทุกทีคือเรียกหาพิกุล เมียที่ตัวเองเกลียดนักเกลียดหนา มิ่งไม่ถามอะไรต่อไปเขาได้แต่ก้มหัวลงเพื่อรับคำสั่งก่อนจะถอยหลังออกมาแล้ววิ่งไปทำตามคำสั่งของเจ้านาย
เรือนพิกุล
“ แม่นาย แม่นาย เจ้าขา แม่นาย “ เสียงของจำปา บ่าวคนสนิทของพิกุลวิ่งมาเรียกแม่นายของตนด้วยน้ำเสียงที่รีบร้อนอย่างกับว่าไฟกำลังไหม้บ้าน แม้นกับพิกุลที่กำลังนั่งถักปลอกหมอนอยู่ ใช้แล้วในอยุทธยายังไม่มีการถักแม่พิกุลก็เลยเกิดไอเดียในการทำงานและหัวการค้าซะเลย555 นั้นคือการถักปลอกหมอนนั้นเอง
“ มีอันใดว่ะอีจำปาวิ่งหน้าตั้งมาอย่างกับมีใครตาย” แม้นเอ็ดจำปาด้วยน้ำเสียงที่เบาแต่สายตากับจิ๊กกัดอย่างไม่จริงจัง เพราะแม้นที่กำลังดูแม่นายขงตัวเองถักปลอกหมอนอย่างตั้งใจ อยู่ๆก็ต้องมาเสียสมาธิเพราะเสียงของจำปา
“ มีอะไรรึเปล่าจ๊ะพี่ ทำไมพี่ถึงได้ดุรีบร้อนแบบนั้น” พิกุลที่นั่งถักปลอกหมอนอยู่เธอก็เอ้ยถามจำปาพร้อมกับรอยยิ้มที่มีเมตตา จำปารีบคานเข้ามาหานายหญิงของตัวเองพร้อมกับพูดออกมา
“ แม่นายเจ้าขา คุณไกรให้คนมาตามแม่นายไปหาเจ้าคะบอกว่ามีเรื่องจะหาลือกับแม่นาย” จำปาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น แม้น พิกุล และบ่าวที่อยู่ในระแวกนั้นพอได้ยินว่าเป็นผู้ใดอยากพบแม่นายของตนเอง ทุกคนต่างทำหน้าตกใจอ้าปากค้างอย่างกับถูกดึงถ่านไฟฉายก้อนโตออกจากร่าง พิกุลที่กำลังตกใจเพราะไม่อยากเจอท่านขุนอะไรนั้นเลย เธอก็ต้องรีบปลับอารมณ์ทันทีในเมื่อเธออยู่บ้านเขาแล้วอีกอย่างเธอไม่มีที่ไป จะให้ทำยังไงได้ นอกจากต้องก้มหน้ารับกรรม
“ ท่านขุนไกรมีเรื่องอันใดจะหาลือกับข้าเหรอจ๊ะ พี่จำปา “ ด้วยความอยากรู้พิกุลก็เลยถามจำปาออกไปแบบนั้น ระหว่างที่จำปากำลังจะอ้าปากพูดเธอก็ต้องหุปากลง เมื่ออยู่ๆขุนไกรที่ดูเหมือนจะร้อนใจทนรอไม่ไหวเลยต้องมาเอง
“ ทำไมข้าต้องมีเรื่องอันใดสำคัยแล้วเจ้าถึงจะไปพบข้าได้อย่างนั้นหรือ แม่พิกุลแล้วเรียกข้าก็หัดเรียกข้าซะใหม่ด้วย ข้าเป็นผัวของเจ้าเจ้าต้องเรียกข้าว่าคุณพี่ คุณพี่เท่านั้น เข้าใจหรือไม่” ขุนไกรที่เดินขึ้นบรรไดมาอย่างร้อนใจเพราะกลัวว่าเมียจะไม่มาหา ชายหนุ่มเลยถือวิสาสะร้อนรนทนไม่ไหวรีบมาตามนางเอง พิกุลเมื่อได้ยินเสียงคนที่เธอไม่อยากเจอก็ต้องอ้าปากค้างก่อนจะค่อยๆหันหน้าไปทางที่เสียงเข้มที่ยืนเอามือไขว้หลังมองมายังหญิงสาว
“ คุณพี่ขุน” พิกุลเมื่อหันมาเจอกับใบหน้าอันหล่อมลากดินของขุนไกรเธอถึงกับหลุดปากเรียกชายหนุ่มออกมา พร้อมกับภาพตอนที่เธอโดนชายหนุ่มจับกินอยู่ที่บ้านกระท่อมของเขา หน้าของเธอแดงอย่างกับลูกตำลึงเมื่อหันไปเจอหน้าอันหล่อเหลาบวกกับภาพที่เธอมีอะไรกับชายหนุ่มวิ่งเข้ามาในหัวของเธอ
“ เมื่อกี่ที่ข้าบอกให้เจ้าเรียกข้าว่าคุณพี่ เจ้าจำไม่ได้รึแม่พิกุล หรือว่าเจ้าจะให้ข้าทวนความจำให้เจ้า “ ขุนไกรเดินเข้ามาหาร่างบางที่นั่งอยู่ที่โต๊ะประจำของนางพร้อมกับก้มหน้ามามองจ้องหน้าอันขาวสวยน่ารักของนางที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างกับลูกตำลึง ขุนไกรเมื่อเห็นหน้าของหญิงสาวที่แดงและสายตาของนางที่บอกเขาว่านางกำลังเขินอายเขาอยู่นั้น ขุนไกรรู้สึกพอใจเป็นอย่างมากที่ในตาของนางมีความรู้สึกกับตัวเอง พิกุลที่รู้สึกถึงลมหายใจของชายหนุ่มที่เป่ามาใกล้หน้าของนาง บวกกับบ่าวไพร่ที่อายจนก้มหน้าแทบติดกับพื้นเธอก็ได้สติก่อนจะดันขุนไกรออกให้ห่างเบาๆ
“ คุณพี่ น้องลืมตัวเจ้าคะน้องขอโทษ “ พิกุลหน้าแดงฉานอย่างกับลูกตำลึง พร้อมกับพูดกับชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก ขุนไกรรู้สึกพอใจเป็นอย้่างมากที่นางกล้าสบตาแล้วเรียกขานเขาว่าคุณพี่ตามที่ตัวเองบอก เมื่อหยอกล้อแม่พิกุลจนพอใจแล้ว ขุนไกรที่ตั้งใจจะมาหาลือกับพิกุล ก็ได้ขอให้นางตามเขามาที่เรือนพิกุลไม่ได้มีทางเลือกมากเธอไม่ได้แม้แต่จะพูดอะไรด้วยซ้ำเธอก็เลยต้องเดินตามหลังขุนไกรผู้เป็นสามีมา พร้อมกับสายตาของคนทั้งเรือนที่มองมาอย่างแปลกใจ หนึ่งในนั้นคือคนของเรือนแม่หญิงจันทร์เจ้า
เรือนขุนไกร
“ เรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าพิสวาทเจ้ามากจนเอาเจ้ามาอยู่ที่เรือนกับข้า “ ขุนไกรได้เลบ่าเรื่องที่แม่นางจันทร์เจ้ากำลังคิดจะวางยานางเพื่อฆ่าอีกครั้ง ให้พิกุลฟังพิกุลเมื่อได้ยินแบบนั้นนางไม่ได้แปลกใจอะไรแต่ที่นางแปลกใจคือขุนไกรบอกให้นางมาอยู่ร่วมเรือนเดียวกันกับเขาเพื่อที่จะได้ใกล้หูใกล้ตา ขุนไกรบอกแบบนั้น
“ เอ้อ…..คุณพี่เจ้าคะ เอ้อ….” พิกุลพูดออกมาด้วยเสียงอึกอัก เพราะเธอกลัวว่าขุนไกรจะข่มเหงเธอเหมือนตอนนั้นอีก เมื่อขุนไกรเมื่อเห็นว่าหญิงสาวเรียกตัวเองเขาก็หมุนคิ้วหนามองเธอด้วยความรู้สึกหงุดหงิดว่าทำไมหญิงสาวถึงได้มีแต่คำถามและก็คำถามทำไมเธอไม่ทำตามที่เขาสั่งแค่นั้นทำไมมันยากเย็นสำหรับเธอมากนักหรือไง ขุนไกรคิดแบบนั้น ระหว่างที่ขุนไกรกับพิกุลกำลัคุยกันอยู่นั้น จันทร์เจ้าที่รู้เรื่องจากปากของบ่าวว่าพิกุลมาที่เรือนของขุนไกรผู้เป็นสามีเธอก็เลยรีบตามมาเพื่อที่จะให้เห็นกับตาว่าขุนไกรทำอย่างที่บ่าวไพร่พูดกัน
“ คุณพี่ น้องพิกุลมีเรื่องอันใดกันรึเจ้าคะ ให้น้องร่วมสนทนาด้วยได้หรือไม่” จันทร์ใที่ยืนมองขุนไกรกับพิกุลอยู่หน้าเรือนเธอรู้สึกโมโหจนแทบจะคุมสติไม่อยู่แต่ด้วยความที่เธอซ้อนหางของตัวเองมาตลอดเพื่อไม่ให้ขุนไกรเห็นหางที่แท้จริงของตัวเอง นางถึงได้ทำท่าเดินเข้ามาอย่างกับว่าเธอเป็นนางเอกเท่านั้น ขุนไกรที่เอาแต่จ้องหน้าพิกุลอยู่นั้นเมื่อได้ยินเสียงหวานของเจ้าของเรื่องราวเลวร้ายภายในเรือนเดินเข้ามา ขุนไกรก็เลยทำท่าทางอย่างเป็นปกติก่อนจะหันมาพูดกับจันทร์เจ้าอย่างเป็นปกติ ส่วนพิกุลเมื่อเห็นยัยตัวปัญหามาที่นี้นางถึงกับอยากกระชากหัวของแม่ตัวต้นเรื่องที่คิดจะฆ่าเธอ เธออุตส่าว่าจะอยู่ของเธอเียบๆที่เรือนของเธอกับบ่าวไพร่หรือไม่เธอก็คิดว่าจะออกจากที่นี้ไปหาที่อยู่ใหม่ ก็ต้องมาเสียเรื่องเพราะยัยจันทร์เจ้าเพียงคนเดียวเลย