ดิศรณ์กำลังดึงขาของควายน้อยออกมา และในที่สุดการทำคลอดที่ยาวนานก็สิ้นสุดลงเมื่อปลอดภัยทั้งแม่ควายและลูกควายตัวน้อย ลูกควายน้อยแข็งแรงดี พอออกมาก็วิ่งไปมาและทำให้ผู้ที่มาใหม่ที่เพิ่งจอดมอเตอร์ไซค์แล้วเดินตรงเร็วๆ มายังคอกของแม่ควายและลูกควายทันที
“คลอดแล้วเหรอไอ้หมอเปอร์ ตัวผู้รึเมียวะ”
“เมียว่ะไอ้หอย”
“แล้วนี่ไอ้หมูกับไอ้เข้มมันไปไหน ทำไมถึงให้มึงและคนงานช่วยกันอยู่แค่นี้” มองไปยังลูกควายตัวน้อยที่แข็งแรงดีวิ่งไปมาในคอกแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ ช่างน่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกินเจ้าควายน้อยของเขา
“มึงลืมรึไง มึงให้พวกมันสองคนไปส่งนมของเราที่ร้านในตลาด”
“เออ...กูลืมไป ไหนดูซิ เจ้าควายน้อยของพ่อ ดีใจไหมที่จะได้มาอยู่ด้วยกัน” คมธรรมเดินเข้าไปในคอกแล้วเดินไปจับหัวลูบหัวเจ้าควายน้อยด้วยความเอ็นดู ภาพของคมธรรมกับควายตัวน้อยที่เพิ่งคลอดทำให้มัลลิกาที่ยืนมองอยู่ข้างนอกคอกนั้นอดยิ้มตามไม่ได้
“ไอ้หอยมันรักควายทุกตัวของมันครับคุณเพื่อน มันจะดีใจทุกครั้งที่ลูกควายและแม่ควายคลอดออกมาแข็งแรงทั้งคู่” สัตวแพทย์หนุ่มที่เพิ่งล้างมือเสร็จเดินมาหยุดยืนข้างหญิงสาวพร้อมมองตามสายตาของเธอไปที่เพื่อนของตัวเอง
“เพื่อนเชื่อค่ะ เพราะก่อนหน้านี้เขาดูรีบร้อนมากทั้งๆ ที่คอกของแม่ควายและลูกควายอยู่แค่นี้เอง แต่เขาไม่ยอมเดินมาจะขี่มอ’ไซค์มาอย่างเดียวเลย”
“มันใจร้อนน่ะครับ อีกอย่างมันรักมันห่วงของมันด้วยล่ะครับ”
“พ่อจะให้แกชื่ออะไรดีนะเจ้าควายน้อย” คมธรรมไม่ได้สนใจคนที่มาด้วย เพราะความสนใจของชายหนุ่มอยู่ที่เจ้าควายน้อยเพศเมียตัวนี้เสียแล้ว ส่วนคนงานคนอื่นๆ ที่มาช่วยสัตวแพทย์หนุ่มทำคลอดนั้นต่างก็พากันแยกย้ายไปทำงานหน้าที่ของตัวเอง
“พ่อจะตั้งชื่อแกว่าละมุดนะ ต่อไปนี้หนูชื่อละมุดนะลูก” พูดพร้อมกับลูบหัวมันไปมาและก้มลงไปจุ๊บหัวของเจ้าควายน้อยหนึ่งทีโดยไม่นึกรังเกียจหรือขยะแขยงมัน ก่อนจะลุกเดินไปหาแม่ของมันพร้อมลูบหัวมันแล้วพูดว่า
“เธอเก่งมากที่คลอดเองได้” และเหมือนแม่ควายจะเข้าใจคำพูดของผู้เป็นเจ้าของจึงถูหัวตัวเองไปมากับมือของคมธรรม
ภาพของคมธรรมที่อยู่กับควายช่างอ่อนโยนเหลือเกิน ต่างจากคนที่เธอรู้จักตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาราวกับเป็นคนละคน มัลลิกายืนนิ่งมองคมธรรมพูดกับควายสองแม่ลูกแล้วหันมาถามสัตวแพทย์หนุ่มที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ข้างๆ ตน
“เขาคงผูกพันกับควายทุกตัวในฟาร์มเลยใช่ไหมคะหมอเปอร์”
“ครับ ไอ้หอยมันผูกพันและรักควายของมันทุกตัว ถึงมันจะบอกว่ามันเรียนไม่เก่งถนัดแต่ใช้กำลัง แต่ถ้าเป็นเรื่องของควายมันรู้ทุกอย่าง มันใส่ใจทุกอย่าง มันฉลาดนะครับ แต่คนเรามีความสามารถไม่เหมือนกัน ไอ้หอยมันเป็นพวกใช้กำลังมากกว่าใช้สมอง ตอนเรียนมันก็เรียนไม่เก่ง แต่โชคดีที่มีไอ้หมีน้องชายมันช่วยไว้เลยสอบผ่านไม่สอบตกและมีผมช่วยด้วยตอนเรียน”
“คุณคมธรรมมีน้องชายด้วยเหรอคะ”
“มีแล้ว แต่งงานแล้ว และเป็นเจ้าของโฮมสเตย์สวยๆ ที่อยู่ในฟาร์มเรานั่นแหละครับ”
“อ๋อ...เพื่อนก็งงค่ะ ตอนแรกตอนที่เห็นโฮมสเตย์ในฟาร์มก็สงสัยเหมือนกันว่าของใคร ที่แท้ก็ของน้องชายคุณคมธรรมนี่เอง”
“ครับ คุณเพื่อนแวะไปได้นะครับ ไปเดินดูก็ได้ครับ สวยหรูมากๆ”
“ค่ะ ถ้ามีโอกาสเพื่อนก็อยากชวนเพื่อนที่กรุงเทพมาเที่ยวพักผ่อนที่นี่บ้างค่ะ ที่นี่บรรยากาศดี แถมมีโฮมสเตย์ด้วย เพื่อนๆ คงชอบน่าดูค่ะ”
“เพื่อนที่พูดถึง เพื่อนหรือผัว” ดิศรณ์ยังไม่ทันได้พูดตอบ เสียงทุ้มห้าวของคนที่สนใจลูกควายน้อยก่อนหน้านี้เองที่แทรกดังขึ้นพร้อมเดินตรงมาหาพวกเขาทั้งสอง
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยคุณเจ้านาย” มัลลิกาตอบกลับทันควันพร้อมกับเบือนหน้าเบ้ปากใส่เขาเล็กน้อย
“เกี่ยวแน่ เพราะในอนาคตคุณผู้จัดการคนสวยจะเป็นเมียผม”
“ผมขอตัวก่อนนะครับคุณเพื่อน เดี๋ยวจะไปเตรียมวัคซีนป้องกันโรคให้เจ้าละมุดมันหน่อยครับ” ดิศรณ์เอ่ยขอตัวเมื่อไม่อยากอยู่เป็นตัวขวางคอเพื่อนรัก
“ไปเลยมึงไอ้หมอเปอร์”
“เออ...จะไปเดี๋ยวนี้แหละ แล้วเจอกันงานเลี้ยงคืนนี้นะครับคุณเพื่อน” แล้วสัตวแพทย์หนุ่มก็เดินไปเก็บข้าวของของตัวเองแล้วเดินจากไปทิ้งให้มัลลิกาอยู่กับคมธรรมสองคน
“ทีนี้ก็เหลือแต่เราสองคนแล้ว พูดมาสิเพื่อนหรือผัว”
“โอ๊ย...คุณคมธรรมคะ มันเรื่องส่วนตัวของฉันค่ะ คุณไม่ต้องอยากเสือกค่ะ”
“ปากร้าย เดี๋ยวก็จูบโชว์เจ้าละมุดและคนงานซะเลย”
“อย่านะ อย่ามาคิดลวนลามฉันนะ”
“ก็ได้ๆ คืนนี้มีงานเลี้ยงนะ ผมจะจัดงานเลี้ยงให้เจ้าละมุดมันน่ะ”
“จัดงานเลี้ยงให้ควายเนี่ยนะคุณ”
“แน่นอนสิคุณ มันเป็นประเพณีของฟาร์มกุลธีร์ ทุกครั้งที่มีการเกิดของควายจะมีงานเลี้ยงตลอด และถือเป็นรางวัลให้คนงานในฟาร์มได้สนุกเพลิดเพลินไปกับงานเลี้ยงด้วย ถ้าหากว่าควายในฟาร์มเราตาย เราก็จะจัดงานศพใส่ชุดดำไว้อาลัยให้ควายที่ตายไปหนึ่งวันเพื่อเป็นการระลึกถึงควายที่จากเราไป”
“ฉัน...”
“คุณเป็นผู้จัดการ คุณต้องมาร่วมงานเลี้ยงกับเรา”
“ฉันไม่อยากกลับบ้านดึก”
“ก็นอนค้างที่บ้านพักของคุณสิ”
“คุณไม่บุกไปปล้ำฉันใช่ไหม ถ้าค้างที่บ้านพัก”
“ชี้ทางให้แบบนี้ หรือจะปล้ำดีนะ”
“งั้นฉันไม่มางานเลี้ยงค่ะ”
“ผมพูดเล่นน่าคุณ ไปเถอะ ไปทำความรู้จักลูกสาวของผม ไปลองจับเจ้าละมุดกับแม่มันดูนะ” เขาเปลี่ยนเรื่องฉวยโอกาสคว้าดึงมือเล็กเดินตามตัวเองเข้าไปในคอกควาย ตอนแรกจะดิ้นขัดขืน แต่พอถูกดึงลากมาถึงควายตัวน้อยและมือสัมผัสที่หัวของมันแล้วเธอก็ยิ้มออกมายอมให้เขาจับมือ
“คุณ...มันน่ารักมากเลย ชื่อละมุดเหมาะกับมันดีนะคะคุณ”
“ใช่ไหม ละมุดน่ารักแล้วเจ้าของละมุดล่ะ น่ารักรึเปล่า”
“บ้า! พูดอะไรก็ไม่รู้ ปล่อยมือฉันได้แล้ว ฉันจะจับละมุดเองค่ะ”
“ก็ผม...”
“ปล่อยเถอะค่ะ กรุณาให้เกียรติฉันด้วยคุณคมธรรม”
คมธรรมยอมทำตามที่เธอบอกเมื่อมองไปยังคนงานที่ทำงานอยู่คอกข้างๆ แล้วก็ต้องยอม เพราะทุกคนกำลังจ้องมองมาทางเขาและหล่อนอยู่ ชายหนุ่มถอยออกไปให้มัลลิกายืนพูดคุยทำความรู้จักกับเจ้าละมุดน้อยเพียงลำพัง ส่วนตัวเขาก็เดินไปพิงรั้วคอกมองเธอ และเขาก็คิดอะไรได้เลยล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงตัวเองออกมาถ่ายรูปตอนที่มัลลิกาพูดคุยหยอกล้อกับเจ้าละมุดลูกควายตัวน้อย หล่อนช่างน่ารักเหลือเกิน เขากดถ่ายรูปไปยิ้มไปและหัวใจก็เต้นแรงไปเช่นกัน