“แกจะมาทำไมทุกวันวะ คนป่วยที่นี่ก็ไม่มี แม่ม้าก็ยังไม่ถึงเวลาออกลูก ถ้าแม่ม้าฉันเจ็บท้องคลอดฉันจะไปตามแก โอเคไหม”
“บ้าเหรอไอ้เจตน์ ฉันไม่ใช่สัตวแพทย์ จะได้มาทำคลอดให้แม่ม้าของแก ฉันมาหาคนโน้นต่างหาก” ณกรชี้ไปยังร่างเล็กที่วิ่งออกมาจากบ้าน ใบหน้าของมินตราเนียนใสแก้มแดงปลั่ง ไม่ซูบซีดเหมือนวันก่อน
เธอยิ้มร่าเมื่อเห็นณกร พี่หมอใจดีที่แสนจะตามใจเธอทุกอย่าง ไม่เหมือนคนหน้ายักษ์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“วิ่งระริกระรี่มาหาผู้ชาย ดูแต่งตัวเข้า” เจตน์ตาขวางเมื่อเห็นยายน้องสาวนอกไส้ใส่เสื้อยืดสีขาวรัดรูปกับกางเกงขาสั้นที่ปิดแค่ก้นกระมั้งเพราะโชว์ขาขาวผ่องสะท้อนแสงมาแต่ไกล
ผิวของมินตราขาวมาก ขาวยิ่งกว่าหยวกกล้วย ขาวเนียนกว่านมข้นหวาน มันขาวแบบผิวเนียนละเอียด ไร้ไฝฝ้าให้รำคาญใจ
“แต่งตัวแบบนี้มันเป็นยังไง หนูมินแต่งตัวแบบนี้ตลอดนี่คะ”
“โรงงานเดี๋ยวนี้แม่งเป็นห่าอะไรวะ เย็บกางเกงขายปัญญาอ่อน ยังกับใส่กางเกงในเด็ก เสื้อก็เหมือนกัน ไปเอาเสื้อเด็กที่ไหนมาใส่ ดูนมสิ มันจะปริออกมาแล้ว”
“ไอ้เจตน์ ปากแกเหรอวะนี่”
“ไม่รู้แหละ แต่งตัวแบบนี้ห้ามเดินออกจากบ้าน” เจตน์ทำเสียงขังขัง ดึงมือน้องสาวเข้าบ้าน
“ห้ามออกจากบ้านก็ตามเข้าบ้านแล้วกัน” ณกรสู้ไม่ถอย
“แกตามเข้ามาทำไมวะ” เจตน์หันไปทำเสียงเข้มใส่เพื่อน คุณหมอหนุ่มใบหน้าเหลอหลา
“อ้าว... แกบอกห้ามหนูมินออกไปข้างนอก ฉันก็ตามเข้ามาในบ้านไง”
“ถ้าแต่งตัวแบบนี้ห้ามออกไปให้ผู้ชายเห็น ไอ้กร แกเห็นไหม มีคดีฆ่าข่มขืนให้เห็นออกบ่อย เพราะผู้หญิงแต่งตัวแบบนี้ไง” เจตน์หาพวก “ไอ้กร มึงฟังกูอยู่หรือเปล่า” เจตน์เห็นเพื่อนมองมินตราด้วยสายตาหวานซึ้ง เขาหันมองคนทั้งสองที่มองสบตากันแล้วตาขวางทันที “ไอ้กร!” เจตน์เข้าขวางเอาไว้ และบังมิดเสียด้วยเพราะมินตราตัวเล็กมาก ณกรสะดุ้งเมื่อร่างยักษ์ของเพื่อนมาบังสาวน้อยที่เขากำลังมองอยู่
“เป็นห่าอะไรของมึง กูมาหาหนูมินไม่ได้มาหามึง”
“แต่นี่บ้านกู มินตราน้องกู แถมยังเด็กอยู่อีก มึงจะทำอะไรไม่ให้เกียรติกูในบ้านของกูไม่ได้นะโว้ย”
“กูทำอะไร แค่มาจีบน้อง”
“จีบ!!!” เจตน์เสียงสูงหันขวับมามองสาวน้อยทางด้านหลัง “หาเงินเลี้ยงตัวเองยังไม่ได้ ริอยากจะมีแฟน” เจตน์หันขวับไปดุน้องสาวนอกไส้ที่ยืนยิ้มอยู่ทางด้านหลัง
“พี่เจตน์คะ ปีนี้หนูมินอายุยี่สิบแล้ว”
“แค่ยี่สิบ” เจตน์เสียงดังใส่น้อง
“แต่หนูมินอยากไปเที่ยวกับพี่หมอกรนี่คะ” เด็กสาวหน้างอ
“นัดกันจะไปเที่ยว เห็นฉันเป็นหัวหลักหัวตอหรือไงห้ะ แกขออนุญาตฉันหรือยังวะไอ้หมอ” เจตน์ทำเสียงฮึดฮัดขัดใจใส่เพื่อน ที่ตอนนี้มันยังทำตาหวานซึ้งกับน้องสาวของเขาอยู่
“กำลังจะขออยู่นี่แหละ”
“ไม่ให้โว้ย”
“หนูมินโตแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องขอความเห็นแกก็ได้”
“แต่ฉันเป็นผู้ปกครอง ยายหนูผีเป็นน้องสาวฉัน”
“งั้นคุณผู้ปกครองครับ กระผมขอพาหนูมินไปเที่ยวหน่อยนะครับ รับรองว่าจะดูแลอย่างดี ปรนนิบัติพัดวี กินอิ่มนอนหลับ และพากลับมาส่งบ้านไม่มืดไม่ค่ำครับ”
“นี่แกคิดจะทำอะไรน้องฉันถึงต้องกินอิ่มนอนหลับ”
“จะพาไปกินข้าว” หมอณกรสุดหล่อรีบบอก
“ยายหนูผี ที่บ้านไม่มีข้าวกินหรือไง” เขาหันไปเอาเรื่องกับน้องสาว
“หนูมินจะไปเดทกับพี่หมอกรค่ะ เลยจะไปกินข้าวนอกบ้าน ทีนี้พี่เจตน์เข้าใจหรือยังคะ”
“ไปเดท! นี่ตกลงเป็นแฟนกันตอนไหน ทำไมฉันไม่รู้”
“ฉันเพิ่งสารภาพรักกับหนูมินไปน่ะ ก็เลยจะลองคบกันก่อน”
“ฉันไม่อนุญาต!” ญาติผู้ใหญ่คนเดียวที่เหลืออยู่พูดเสียงเข้ม
“ฉันขอเหตุผลหน่อย” ณกรถามอย่างจริงจัง เขาแสดงความจริงใจ เข้าตามตรอกออกตามประตูขนาดนี้ ยังโดนขัดขวาง เจตน์ทำยังกับเป็นพ่อของมินตรา ถ้าถือปืนได้คงจะไล่ยิงเขาไส้พรุนไปแล้ว
“พี่เจตน์ไม่อนุญาตก็แล้วแต่พี่เจตน์สิคะ หนูมินจะไปค่ะ” เจตน์รู้ดีว่ายายตัวแสบไม่มีวันเชื่อเขา และถ้าคิดว่าจะทำอะไรแล้ว จะทำจนสำเร็จ
“อยากไปเที่ยวน่ะได้ แต่ต้องไปเที่ยวในไร่ ไร่ของเรามีที่เที่ยวเยอะแยะ ลำธารน้ำตก ยิงนก ตกปลา ขี่ม้า จะไปเที่ยวที่อื่นให้เงินรั่วไหลออกนอกไร่ทำไม” เหตุผลของเจตน์ทำเอาสองหนุ่มสาวอ้าปากค้าง
“ฉันอยากได้ที่โรแมนติกๆ หน่อย” ณกรค้าน
“ไร่ของฉันไม่โรแมนติกตรงไหนวะ” ณกรอยากบอกว่าก็ไม่โรแมนติกตรงที่มี “แก” นี่แหละ แต่เขาก็ยั้งปากเอาไว้ทัน เพราะเดี๋ยวจะถูกจับโยนออกนอกไร่ เพื่อนเขาคนนี้ห่ามจะตายไป
“แล้วไปเปลี่ยนชุดด้วย ใส่ชุดล่อเสือล่อตะเข้ขนาดนี้ ไม่ไหวเลยจริงๆ”
“ชุดของหนูมินก็ต้องเปลี่ยนเหรอคะ” มินตราทำหน้างง
“ไม่ไปเปลี่ยนก็อยู่บ้าน เป็นผู้หญิงยิงเรือ อยู่กับเย้าเฝ้ากับเรือน พ่อแม่ฝากเธอเอาไว้กับพี่ เบื่อๆ ก็ไปร้อยมาลัย ทำอาหารกับป้าแก้วเสียสิ”
“ห้ะ!” มินตราอุทาน คนเผด็จการจะให้เธอเปลี่ยนชุดท่าเดียว แถมยังไล่ให้ไปร้อยมาลัยอีก
จะบ้าหรือไง! เจตน์มองชุดที่น้องสาวไปเปลี่ยนมาใหม่แล้วอมยิ้ม เสื้อยืดตัวโคร่งกับกางเกงผ้านิ่มยาวถึงตาตุ่ม แบบนี้ค่อยน่าดูหน่อย มินตราก้มมองชุดของตัวเองแล้วใบหน้าเหยเก เจตน์แกล้งเธอ เด็กสาวคิดแบบนั้น
“จะให้หนูมินใส่ชุดนี้จริงๆ เหรอคะ”
“ใช่แล้ว แบบนี้ค่อยเรียบร้อยหน่อย” เขาให้สาวใช้ในบ้านไปหาชุดเรียบร้อยมาให้มินตราแล้วก็ได้ชุดนี้แหละ ดีกว่ากางเกงขาสั้นปิดก้นงอนๆ กับเสื้อยืดพอดีตัวของเธอเป็นไหนๆ
“ถ้าอยากไปเที่ยว เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวเอง ไปเที่ยวน้ำตกในไร่นี่แหละ”
“ว้าว! ไปเที่ยวน้ำตกเหรอคะ อยากเล่นน้ำอยู่พอดี” เธอนึกถึงน้ำตกไหลเย็นก็อยากไปกระโดดว่ายให้ฉ่ำปอดนัก
“พี่หมอกรว่าดีไหมคะ” มินตราหันไปถามคนที่ยิ้มให้เธอไม่หุบอยู่อีกด้าน เจตน์มองสายตาของเด็กสาวที่มองผ่านเขาไปยิ้มให้เพื่อนรักแล้วรู้สึกหงุดหงิดไม่น้อย
“ดีครับ” ณกรรีบตอบรับ ยิ้มยิงฟันให้เด็กสาว เที่ยวที่ไหนก็ได้ ขอแค่มีเธอเป็นพอ
“รีบไปกันเถอะ มัวแต่ยืนยิ้มกันอยู่ได้” เขาเข้าขวางไม่ให้คนทั้งสองยิ้มให้กัน ก่อนจะดึงมือยายตัวแสบของเขาให้เดินออกมาก่อน
น้ำตกของไร่เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม ทางไร่ไม่ได้เปิดให้คนนอกเข้ามาเที่ยวชมแต่อย่างใด เพราะต้องการความเป็นส่วนตัว
มินตราเห็นน้ำตกก็ดีใจอยากจะกระโดดลงไปในน้ำ ว่ายเสียให้ฉ่ำปอด เพราะกลางวันแบบนี้อากาศร้อน ถ้าได้อาบน้ำเย็นๆ คงสบายตัว เธอไม่ชอบอากาศหนาว แต่ถ้าอากาศร้อนได้เล่นน้ำเย็นๆ เธอชอบมากๆ เลยทีเดียว
“เราเพิ่งหายป่วยไม่ใช่เหรอ” เจตน์เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“หนูมินหายแล้วค่ะ”
ตูม!!! สิ้นคำว่าหายแล้ว มินตรากระโดดลงไปในน้ำตกเย็นฉ่ำ ก่อนจะหายเงียบไป สองหนุ่มวิ่งไปดูอย่างตกใจ เรียกเด็กสาวไม่หยุดปาก เพราะกลัวเธอจะเกิดอันตราย
เจตน์ไม่รอให้เรียกซ้ำหลายรอบ เขากระโดดลงไปในน้ำทันที ณกรเองก็ไม่รั้งรอ กระโดดลงไปเพราะคิดว่ามินตราอาจจมน้ำ เนื่องจากไม่โผล่ขึ้นมาเสียที
“สุดยอดเลยค่ะ” คนบอกว่าสุดยอดทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากใต้น้ำ หลังจากที่ดำดิ่งลงไปแหวกว่ายใต้ผืนน้ำนานหลายนาที เจตน์กับณกรที่ทะลึ่งพรวดขึ้นมาจากน้ำ มองเด็กสาวตาปริบๆ
“อ้าว... พี่เจตน์กับพี่หมอก็อยากเล่นน้ำเหมือนกันเหรอ มาค่ะมาเล่นน้ำกัน” คนก่อเรื่องเอ่ยชวนเสียงใส ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย
เจตน์คาดโทษเด็กสาวเอาไว้ ส่วนณกรโล่งใจที่เห็นว่ามินตราไม่ได้เป็นอะไรอย่างที่เขากังวล
มินตราหัวเราะคิกๆ อย่างมีความสุข เธอวักน้ำรดหนุ่มทั้งสอง ณกรเลยเล่นด้วย เจตน์เองก็เหมือนกัน
เจตน์คอยกันท่าไม่ให้น้องสาวใกล้กับณกรมากนัก เรียกว่าไม่ให้ถึงเนื้อถึงตัว เพราะคิดว่าไม่เหมาะสม แต่ณกรพยายามอย่างที่สุดที่จะใกล้ชิดกับสาวน้อย