“บาสหญิง ลงไปวิ่งรอบสนามฟุตบอล”
รุ่นพี่ทีมหญิงตะโกนเรียกมาจากโค้งประตูใต้แป้นบาส พรีมเลยดี๊ด๊าลุกไปกับเพื่อนร่วมทีม ปล่อยให้ฉันนั่งหง่าวดูบาสชายซ้อมอยู่คนเดียว อ๊ะ! ต้าร์ชู้ตลงอีกละ โอ๊ะ! ต้าร์ปัดบอลได้ เทพว่ะ อ๊ะๆ หันมามองฉันแล้วหันหนี อีกละ ขี้เก๊ก!
เอ่อ...แล้วฉันจะมองตามหมอนั่นทำไมกันล่ะเนี่ย?
"น้ำรินครับ!"
เกือบสะดุ้งโหยงเมื่อกำลังคิดไร้สาระเพลินๆ ก็มีคนมาตะโกนใกล้ๆ เอ๋ นายแว่นห้องติดกันนี่ ทำไมมาหลับหูหลับตายื่นดอกกุหลาบสีเหลืองให้ฉันล่ะ?
"เพื่อนผมฝาก เอ่อ นี่มาให้ครับ"
ฉันมองกุหลาบก้านแข็งในมือที่สั่นเทานั้น แล้วมองเลยไปด้านหลังนายแว่นที่มีผู้ชายกลุ่มใหญ่ยืนออกันอยู่ในโค้งประตูใต้เเป้นบาส โดยมีผู้ชายผิวสองสีหน้าโหดกำลังส่งยิ้มเขินๆ มาให้ฉัน นั่นมัน...นายสมชาย? (จำชื่อเล่นไม่ได้) นักเรียนดีเด่นด้านสร้างชื่อ(เสีย)ให้โรงเรียนนี่ ที่ฉันจำชื่อนายนี่ได้ขึ้นใจเพราะประชาสัมพันธ์โรงเรียนประกาศเรียกชื่อนายสมชายเข้าห้องปกครองบ่อยมากกกก
ไม่นะ! หมอนั่นนิสัยน่ากลัวยิ่งกว่าคางคกอีก!!
จะว่าไปทั้งผู้ชายพวกนี้ ทั้งเจ้าของกุหลาบปริศนาวันศุกร์นั่น คิดว่าฉันเป็นหนอนกุหลาบกันหรือไง?
“ไม่เอา”
ฉันบอกปัด ก่อนหันมองกลับไปยังสนามบาสที่พวกเหล่าทโมนยังวิ่งตามลูกบอลหนังสีส้มนั้นต่อไป พยายามไม่สนใจใบหน้าซีดขาวของนายแว่นที่ราวกับกำลังถูกส่งเข้าหลักประหาร ถึงจะสงสารนิดๆ ก็เถอะ แต่ถ้าฉันรับไว้เพราะคนโดนบังคับเอามาให้น่าสงสาร เดี๋ยวคราวหน้านายแว่นก็จะเป็นเป้าหมายโดนพวกนั้นจิกใช้อีก
“รับไปเถอะนะครับ”
“ไม่!”
ฉันขมวดคิ้วหันบอกไปด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด จนนายเเว่นหน้าเสีย แต่พอคนตรงหน้าหันกลับไปมองสบนัยน์ตาวาววับขู่เข็ญของลูกพี่ ก็ย้อนกลับมาพยายามยัดเยียดกุหลาบในมือให้ฉันอยู่ดี
โอ๊ย! ทำไมเข้าใจอะไรยากขนาดนี้นะ!
“ไอ้ต้าร์! มองบอลสิวะ!!"
‘พลั่ก!’
เสียงดังลั่นนั่นเรียกให้ฉันหันมองไปกลางสนามด้วยอารามตกใจ และพบว่าบาสชายกำลังมุงดูใครสักคนที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นสนาม ก่อนวงแตก! เสียงหัวเราะดังสนั่นพร้อมกับที่ต้าร์ลุกขึ้นยืน เดินเตะบรรดาเพื่อนที่ขวางทางตรงดิ่งมาให้ฉัน เขายกมือขึ้นปิดริมฝีปากและจมูก โดยที่ง่ามนิ้วมีเลือดกำเดาไหลซึมออกมาดูน่าขัน ซึ่งถ้าปกติฉันจะหัวเราะใส่หน้าเขานั่นไปแล้วนะ
แต่ตอนนี้อะ...รำคาญโว้ย!
“มีทิชชูป่ะ?” เพราะนายแว่นเหล็กดัดถูกต้าร์ชนจนเซไปอีกทาง ฉันเลยหันมาพยักหน้า ก่อนเปิดกระเป๋าควานหาทิชชูพกพาตอนที่ต้าร์ล้มตัวลงนอนกับเก้าอี้ยาว พอส่งห่อทิชชูให้ เขาก็เอื้อมมือมารับโดยไม่มอง เป็นเหตุให้ปลายนิ้วมือเรียวแตะสัมผัสกับมือฉัน...ชั่วขณะนั้นราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นปราดเข้ามาในร่างกาย จนต้องสะบัดมือปล่อยทันควัน
ต้าร์เลิกคิ้ว เหลือบตาขึ้นมองมาอย่างแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร นอกจากใช้กระดาษทิชชูจัดการกับเลือดกำเดาของตัวเอง ปล่อยให้นายแว่นรังควานฉันต่อ
"เอ่อ ดอกไม้ เพื่อนผม"
"ไม่เอา คืนเพื่อนนายไปเหอะ"
"รับไว้เถอะครับ นะครับ"
"ถ้าพยายามขนาดนั้น ทำไมนายไม่คบกับนายสมชายอะไรนั่นซะเองเลยล่ะ!"
พอระเบิดเสียงดังลั่นออกไปด้วยแรงโทสะ อีตามนุษย์เลือดกำเดาก็ส่งเสียง 'หึ' ในคอออกมาเบาๆ (แอบฟังอยู่แต่ไม่ช่วยกันเลยนะ) ขณะที่นายแว่นหน้าเสีย หันมองลูกพี่อย่างขอความเห็น และผลคือ...นายสมชายส่งสายตาพิฆาตมายิกๆ จนนายแว่นต้องหันกลับมาหาฉันอย่างหมดทางหนี
"คบไม่ได้ครับ เขาไม่ชอบผม"
ง่ะ... หมายความว่าถ้าเขาชอบนาย นายจะคบด้วยงั้นเรอะ!
“รับไว้เถอะครับ ดอกไม้"
ฉันสูดลมหายใจลึก กำมือแน่น พยายามนับหนึ่งถึงร้อยในใจเพื่อไม่ให้พูดตวาดออกไปด้วยความรำคาญอีกหน ยังไงๆ หมอนี่ก็โดนบังคับละนะ ใช้ความสงบสยบความชั่วช้าดีกว่า
"รับไว้เถอะนะ เพื่อนผมชอบคุณมากนะครับ" เก้า...สิบ...
"นะครับ น้ำริน" สิบสี่...สิบ...ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!
'ตึ้ง!!'
"ผู้หญิงเขาไม่ชอบยังตื๊ออยู่ได้ ไปซะ! ก่อนหน้ามึงจะมีรอยตีนกู!!"
ต้าร์กระแทกเท้าลงบนม้านั่งก่อนจะลุกขึ้นยืนขวางหน้าฉันที่ลุกขึ้นเช่นกันด้วยความรำคาญพอดิบพอดี แผ่นหลังกว้างของคนตรงหน้าทำให้ฉันอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้สินะ...ฉันรู้สึกราวกับมีปราการแข็งแกร่งที่สามารถปกป้องฉันจากอันตรายทั้งมวล...
และได้ผล! พอต้าร์กลายร่างเป็นหมาบ้าแยกเขี้ยวเตรียมจะขย้ำ นายแว่นก็วิ่งเตลิดกลับไปหาจ่าฝูง(?)ของตัวเองทันที นายสมชายทำหน้าเหี้ยม ตาวาว ก่อนยกมือส่งสัญญาณให้อีกสี่คนที่เหลือเดินตามเข้ามาเตรียมทำการประหัตประหาร
“นี่ อย่ามีเรื่องเลยนะ”
พอจับแขนเสื้อเขาดึงไว้ ก็กลับถูกดันตัวให้ถอยห่างออกมาคนตรงหน้ากำหมัดแน่นเตรียมพร้อมจนฉันชักจะใจเสีย ไม่ดีแน่ถ้าเขาต้องมามีเรื่องเพราะช่วยฉันตอนนี้ ตรงนี้ ดีไม่ดีต้าร์อาจโดนแบนไม่ให้เข้าแข่งในฤดูกาลแข่งขันที่กำลังมาถึงก็ได้
ฉันไม่อยากเป็นต้นเหตุนะ...
แต่จู่ๆ พวกนายสมชายก็ชะงัก หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก แล้วดึงๆ ตัวกันวิ่งเตลิดออกจากประตูไป เหอ... หนีอะไรของพวกนั้นหว่า หรือกลัวต้าร์กัด?
แล้วความสงสัยทั้งมวลก็กระจ่าง เมื่อฉันกับต้าร์มองหน้ากันอย่างก่งก๊ง แล้วหันมองไปโดยรอบ เห็นบาสชายทั้งทีมมายืนออด้านหลัง พวกเขายังส่งสายตาอาฆาตวิบวับไล่หลังพวกนั้นอยู่เลย เหอๆ...สงสัยเมื่อกี้จะส่งสาส์นลับ ไปทางสายตากันว่า 'ถ้าทำเพื่อนกู มึงตาย!' ประมาณนั้นสินะ
อันธพาลก้างๆ สี่คน กับนักบาสโรงเรียนสิบสองคน...
เป็นฉันก็หนีอะ
“คิดว่ามึงทำเท่เป็นคนเดียวเรอะ ไอ้ต้าร์”
ผู้ชายตัวสูงเกือบสองเมตรที่อยู่ใกล้เราที่สุดยกมือใหญ่เกือบเท่าใบลานขึ้นขยี้หัวต้าร์ ก่อนจะเดินหัวเราะลั่นกลับเข้าสนามไป
“ไอ้ลูกหมา หัดดังค์ให้ถึงก่อนเหอะ ค่อยริจีบสาว”
รุ่นพี่หัวหน้าทีมก็ขยี้หัวต้าร์แถมยังส่งสายตาแปลกๆ มาให้ฉันอีก โหยๆ นี่เหรอจีบ? ตั้งแต่กลับจากบางปู หมอนี่ก็กัดฉันไม่เลิกเรื่องที่จำชื่อเล่นเขาไม่ได้ แถมชอบเดินชน ชอบสะกิดแกล้งแล้วทำเนียนมองนกมองไม้ สารพัดสารเพที่จะเหย่ให้ฉันเม้งแตกอะ น่ากระโดดกัดหูจะตาย
จากนั้นใครต่อใครก็พากันรุมขยี้หัวอีตาโย่งข้างกายฉันจนเรือนผมสีรัตติกาลที่เซตอย่างดีเละไม่เป็นท่า และดูเหมือนเส้นสติอีตาบ้านี่จะขาดผึง เพราะเพียงไม่นาน เพื่อนร่วมทีมพวกนั้นก็โดนต้าร์ไล่เตะกลับเข้าไปในสนามกัน แต่เสียงหัวเราะก็ยังคงดังลั่นไม่จางไป
“เฮ้ยๆ เลือดหื่นไอ้ต้าร์ไหลอีกแล้วโว้ย”
“เออ กลับบ้านไปนอนเลยมึง ไปๆ”
สหบาทาหลายข้างยกขึ้นยันตัวต้าร์ให้เดินกลับมาหาฉันพร้อมกับเลือดกำเดาที่ไหลออกมาจนถึงปลายคางอีกหน ฉันเลยหยิบห่อทิชชูที่ร่วงอยู่ส่งให้ แล้วทิ้งตัวลงนั่งพร้อมเขาที่นอนลงยังม้านั่งตัวเดียวกันเหมือนเดิม
ในสนาม เสียงลูกบาสดังตึงตังกระทบพื้นปาร์เกต์เป็นจังหวะอีกครั้ง ดึงดูดให้ฉันมองตามลูกบอลสีส้มที่ถูกผลัดเปลี่ยนมือไปเรื่อยๆ นั่นอย่างหลงใหล
ชักจะไม่แปลกใจแล้วสิว่าทำไม ทั้งพรีม ทั้งต้าร์ ถึงชอบกีฬาประเภทนี้นัก
บาสเกตบอล...มีเสน่ห์ และเปี่ยมพลัง