พลั้งรักมาเฟียร้าย : ตอนที่ 15
1 หนึ่งชั่วโมงผ่านไป
"เจออันดาไหมคะ" เมื่อฉันเสร็จหน้าที่ตัวเองก็รีบมาถามกลุ่มพยาบาลทันที ระหว่างที่ทำแผลให้คนไข้ในสมองก็คิดถึงแต่อันดา หวังว่าจะกลับไปนั่งที่ห้องพักของฉัน อันดารู้ดีว่าทางไปห้องพักอยู่ทางไหน ขอให้เป็นอย่างที่ฉันหวัง
"ไม่เจอเลยค่ะหมอนับดาว เราไปตามหาน้องได้สักพักก็ต้องรีบมารับเคสด่วน วันนี้เจอแต่เคสด่วนๆทั้งนั้นเลยค่ะ น้องอันดาอาจกลับไปอยู่ที่ห้องก็ได้นะคะ"
"นับก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน ขอบคุณนะคะที่ช่วยกันตามหาอันดา"
ฉันเดินมาที่ห้องพักตัวเองหลังจากคุยกับกลุ่มพยาบาลเสร็จ ไม่นานก็เดินมาหยุดอยู่หน้าประตูห้องพักตัวเอง
แกร่ก
"เด็กแสบแม่มาแล้วค่ะ" ดวงตากลมโตมองไปรอบๆห้องแต่กลับไร้เงาของลูกสาวตัวน้อย หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ "อันดา"
ฉันรีบปิดประตูและวิ่งตามหาลูกสาวตัวน้อยทันที อันดาไม่เคยหายไปนานขนาดนี้ นี่เป็นชั่วโมงแล้วแต่ลูกสาวก็ยังไม่ยอมกลับมาที่ห้อง
"อันดาอยู่ไหนลูก" ฉันพยายามมองหาและไปตามที่ต่างๆเท่าที่คิดว่าอันดาจะไป แต่ก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของลูกสาว จะวานให้คนอื่นช่วยตามหาอีกแรงแต่ทุกคนก็ติดเคสด่วนกันทั้งนั้น "อันดาได้ยินเสียงแม่ไหม หายงอนแม่ได้แล้วนะ แม่ขอโทษ"
ตึก ตึก ตึก
ฉันวิ่งไปทุกชั้นของโรงพยาบาลสอดส่องสายตาไปทั่วทุกมุมต่างๆ
"อันดาลูก หนูอยู่ไหน" นับดาวพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถ้าเกิดอันดาเป็นอะไรไปมันคือความผิดพลาดของฉันเอง และจะไม่มีทางให้อภัยตัวเอง
"อันดาได้ยินเสียงแม่ไหม"
"ขอร้อง...ส่งเสียงให้แม่หน่อยได้ไหม"
นับดาวเรียกชื่อลูกตลอดการค้นหา นัยส์ตาทั้งสองข้างแดงก่ำ เกือบครึ่งชั่วโมงแล้วแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของลูกสาวสุดที่รัก
"อันดาขา...ได้ยินเสียงแม่ไหม ฮรึก...แม่ขอโทษ แม่ไม่เคยเห็นคนอื่นดีกว่าอันดาเลยนะคะ ฮรือ..อันดา" ฉันพรั่งพรูออกมาไม่หยุดราวกับคนสติแตก ฉันเดินวนไปวนมาอยู่แบบนั้นเผื่อคาดสายตาในตอนแรกและภาวนาให้เจอลูก แต่สุดท้ายกลับไร้เงาของลูกสาวตัวน้อย
"คุณลุงจัสตินจะบอกได้หรือยังคะว่ารู้จักแม่ของอันดาไหม อันดากินไอติมมาสองถ้วยแล้วนะคะ" เด็กสาวตักไอติมเข้าปากไปด้วย
"ยอมบอกก็ได้ รู้จักดีเลยล่ะ สนิทกันมากด้วย" มือหนาหยิบกระดาษทิชชูพับขอบเล็กน้อยแล้วเอื้อมไปเช็ดริมฝีปากเล็กของเด็กสาวที่เลอะไอศกรีม เขานั่งคุยกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กมาเกือบหนึ่งชั่วโมงแล้ว แถมไม่มีความรู้สึกเบื่อเลย แค่มองเด็กสาวตรงหน้าตักไอติมเข้าปากก็เพลินไปอีกแบบ เสียงเจื้อยแจ้วของอันดาไม่มีหยุดพัก คุยจ้อราวกับสนิทกับเขามานานเช่นกัน
"สนิทกันมากเลยเหรอคะ ทำไมแม่นับถึงไม่เล่าให้อันดาฟังเลย"
"นั่นสิ เอาไว้เราไปถามแม่นับดาวของอันดาด้วยกันไหม"
"โอเคค่ะ ถ้าอันดากินหมดแล้วเราไปหาแม่นับดาวด้วยกันนะคะ อันดาจะให้แม่ทำแผลให้คุณลุงจัสตินด้วยค่ะ"
จัสตินไม่ได้ตอบแต่กลับระบายยิ้มให้กับคำพูดของเด็กสาว
บรรดาลูกน้องที่ยืนอยู่ไม่ไกลต่างมองหน้ากันแต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร ทุกคนรู้ดีว่านายใหญ่ยิ้มยากและน้อยครั้งที่จะยิ้ม ยกเว้นแต่กับหลานชาวินท์เท่านั้นที่จะอ่อนโยน แต่พออยู่กับเด็กผู้หญิงคนนี้ที่พึ่งเจอกันเพียงหนึ่งชั่วโมงกลับได้เห็นรอยยิ้มตลอดเวลา เผลอๆยิ้มมากกว่าอยู่กับหลานเสียอีก
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าเล็กๆวิ่งเข้ามาทำให้จัสตินปรายตามองด้วยหางตาพร้อมกับเปลี่ยนสีหน้ามาเรียบนิ่งราวกับโกรธคนที่กำลังเดินมา มือหนาเอื้อมไปลูบผมของอันดาอย่างอ่อนโยนพร้อมกับหยิกแก้มเบาๆด้วยความมันเขี้ยว
"อย่าทำอะไรลูกฉันนะ" ฉันตวาดลั่นร้านกาแฟในโรงพยาบาลไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองยังไง
"แม่นับดาว..." อันดารีบวิ่งไปหาผู้เป็นแม่ทันที
"เป็นอะไรหรือเปล่าลูก เจ็บตรงไหนไหม เขาทำอะไรอันดาหรือเปล่า ไหนแม่ดูสิ" นับดาวจับตัวอันดาหมุนไปหมุนมาอย่างร้อนรน พยายามดูว่าลูกสุดที่รักได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ แต่ทุกอย่างกลับปกติไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนบนผิวเนียนละเอียดของลูกสาวตัวน้อย
"อันดาไม่เจ็บตรงไหนเลยค่ะ อันดาแค่มานั่งกินไอติมกับคุณลุงจัสตินเฉยๆ ไม่มีแผลค่ะ"
"แม่บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าไปไหนมาไหนกับคนแปลกหน้า ทำไมไม่จำสิ่งที่แม่สอน รู้ไหมว่าแม่ตามหาอันดาทั่วโรงพยาบาล แม่เป็นห่วงอันดาแค่ไหนรู้ไหม"
"ไม่ร้องไห้นะคะ อันดาไม่ได้ตั้งใจทำให้แม่นับร้องไห้" มือเล็กของอันดาเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าของแม่ด้วยความเป็นห่วง "แม่นับอย่าร้องไห้สิ อันดาไม่ชอบเห็นแม่นับร้องไห้"
"แม่เป็นห่วงอันดารู้ไหมลูก" ฉันกอดลูกด้วยความเป็นห่วง ช่วงวินาทีที่เห็นอันดาอยู่กับเขาทำเอาใจฉันเต้นระส่ำ ฉันไม่อยากให้อันดาเจอผู้ชายคนนั้น ฉันไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกับอันดาไปบ้าง และทำไมอันดาถึงยอมสนิทด้วย คำถามมากมายเกิดขึ้นในหัว ดวงตากลมโตเหลือบมองร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ไกล
"เดี๋ยวแม่ให้พี่พยาบาลพาอันดากลับห้องพักแม่นะ อันดาต้องรอแม่นับอยู่ที่ห้องอย่างเดียวนะลูก อย่าไปไหนอีก แม่ขอคุยกับผู้ชายคนนั้นก่อน"
"คุณลุงจัสตินเหรอคะ"
ฉันพยักหน้าเป็นคำตอบ แต่ไม่อยากให้ลูกได้ยินสิ่งที่ฉันจะพูดกับเขา
"คุณลุงจัสตินใจดี อย่าดุคุณลุงนะ"
ฉันไม่ได้ตอบอะไรอันดาแต่เดินจูงมืออันดาไปฝากเจ้าหน้าที่พยาบาลที่อยู่แถวนั้นเพื่อให้พาไปที่ห้องพักของตัวเอง ฉันไม่กล้าให้ลูกเดินไปคนเดียวอีกแล้ว
จัสตินส่งสายตาไปที่ลูกน้องคนสนิทให้เดินตามไปดูแลอันดากับพยาบาลคนนั้น อยู่ดีๆเขาก็รู้สึกเป็นห่วงอันดาจนไม่กล้าให้คาดสายตาเหมือนกัน
ร่างบางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มด้วยท่าทางไม่พอใจ
"อย่ามายุ่งกับลูกฉัน ถ้าไม่พอใจอะไรฉันก็มาลงที่ฉัน อย่าเอาเด็กที่ไม่รู้เรื่องเข้ามาเกี่ยวข้อง"
"ฉันไม่เคยคิดจะยุ่งกับลูกเธอเลยสักนิด แต่ลูกของเธอเข้ามาหาฉันเอง"
"ไม่จริง อันดาไม่ใช่เด็กที่จะเข้ากับคนแปลกหน้าได้ง่าย เป็นเพราะคุณพูดหว่านล้อมแกต่างหาก"
"เธอเอาแต่โทษคนอื่นที่เข้าใกล้ลูก แต่เธอไม่โทษตัวเองที่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียว ไม่มีแม่คนไหนทิ้งลูกให้อยู่คนเดียวเป็นชั่วโมง คนอย่างเธอไม่มีความเป็นแม่ด้วยซ้ำ เธอเห็นหน้าที่ตัวเองดีกว่าลูกนับดาว"
"ถ้าเป็นแก๊งขโมยเด็ก เธอจะไม่ได้เห็นอันดานั่งกินไอติมอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ และถ้าฉันเอาเรื่องระหว่างฉันกับเธอไปลงที่อันดา ป่านนี้เธอไม่ได้เห็นแม้แต่เงาลูกของเธอ"
"....." ฉันได้แต่ยืนนิ่งเมื่อฟังสิ่งที่จัสตินตอกกลับมา
"คนที่เธอควรเป็นห่วงไม่ใช่คนเจ็บคนนั้น แต่เป็นลูกของเธอ โรงพยาบาลนี้ไม่ได้มีหมอแค่เธอคนเดียว แต่ลูกของเธอมีแม่แค่คนเดียวจำไว้" จัสตินพูดด้วยท่าทางเดือดดาลยิ่งนึกถึงตอนที่อันดาเดินมาคนเดียวทำให้ความโมโหทวีคูณขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ทำไมเขาถึงโกรธนับดาวขนาดนี้ ราวกับอันดาเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา สายตาคมกริบจ้องมองคนตัวเล็กอยู่สักพักก่อนจะเดินออกไปปล่อยให้เธอคิดทบทวนตัวเอง
__//__//__//__//__
ฉันเดินคิดมาเรื่อยๆกับสิ่งที่จัสตินพูดออกมามันคือเรื่องจริงทุกคำ ฉันไม่มีความเป็นแม่เลย ฉันเห็นหน้าที่ดีกว่าลูก ยอมทิ้งลูกเพราะคิดว่าอันดาเอาตัวรอดได้ แต่ฉันคิดพลาดไปเพราะอันดาอายุเพียงสามขวบ ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีทางที่จะทันผู้ใหญ่ที่คิดร้ายได้เลย และถ้าอันดาเกิดประสบอุบัติเหตุขึ้นมา หรือถูกลักพาตัวไปฉันก็จะมานั่งโทษตัวเองในวันที่สายเกินไป ถึงฉันจะเกลียดจัสตินแต่คำพูดของเขาก็ทำให้ฉันจุกอก ใบหน้าคมคายนั้นดูจริงจังมากทั้งที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่เคยเห็นเขาแสดงสีหน้าแบบนี้เลย
กึก
ฝีเท้าเรียวเล็กหยุดชะงักเมื่อเดินมาจนถึงหน้าห้องพักตัวเองก็เห็นลูกน้องคนสนิทของเขายืนอยู่หน้าห้อง ฉันจำเขาได้ดีเพราะเป็นลูกน้องคนเดียวที่อยู่กับจัสตินเมื่อสามปีก่อน
"ทำไมมายืนอยู่ตรงนี้"
"ผมมายืนเฝ้าอันดา กลัวว่าจะเดินไปไหนอีก" วินตันตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"ขอบใจ นายไปได้แล้วล่ะ"
"ผมมีหนึ่งคำถามที่อยากถามคุณ หวังว่าคุณจะพูดความจริง"
"....." ฉันนิ่งไปเมื่อเห็นสายตาของเขา "ฉันอยู่ในฐานะหมอที่ดูแลเจ้านายของนาย ถ้านายอยากรู้เรื่องการรักษาเจ้านายตัวเอง ฉันตอบได้ทุกข้อ แต่ถ้านายคิดจะถามเรื่องอื่นฉันไม่สะดวก และเราก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่สนิทกันขนาดนั้น"
ฉันหลบสายตาของวินตันและตั้งท่าจะเปิดประตูเข้าไปข้างในห้อง แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูดออกมา
"อันดาคือลูกของนายใหญ่ใช่ไหม"
ทุกอย่างหยุดชะงักแม้แต่มือของฉันก็ไม่มีแรงเปิดประตู อยู่ดีๆมือก็สั่นจนควบคุมไม่ได้ ฉันพยายามรวบรวมสติและหันมาหาวินตันด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง
"อันดาคือลูกฉันแค่คนเดียว นายอย่าเอาเรื่องในอดีตมาโยงกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ระหว่างฉันกับเขามันจบไปนานแล้ว ไม่มีทางที่อันดาจะเป็นลูกของเขา"
"แล้วไหนพ่อของอันดา คุณตอบผมได้ไหมว่าพ่อของอันดาคือใคร ถ้าคุณตอบผมได้ผมจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ ผมไม่ได้ก้าวก่ายแต่ถ้าอันดาเป็นลูกของนาย ก็เท่ากับเป็นคุณหนูของวงศ์ตระกูล เป็นหลานของผมเหมือนกัน"
ฉันสูดอากาศเข้าปอดลึกๆพยายามควบคุมอาการสั่นเทาของตัวเอง
"พ่อของอันดาประสบอุบัติเหตุเมื่อสามปีที่แล้ว พักหลังก่อนที่จัสตินจะทิ้งฉันไป เขาไปๆมาๆ ทำให้ช่องว่างตรงนั้นฉันแอบไปนอนกับผู้ชายอื่น และพลาดจนตัวเองท้อง พ่อของอันดารับผิดชอบตั้งแต่รู้เรื่อง แต่เมื่อคลอดได้ไม่กี่วันพ่อของเขาก็ประสบอุบัติเหตุ นี่คือความจริงที่ฉันจะบอกนาย ขอตัว" ฉันพูดจบก็เปิดประตูเข้าห้องพักตัวเองทันที และพอเข้ามาในห้องก็เห็นลูกน้อยนั่งตาแป๋วมองฉันอยู่ทำให้ฉันรีบโผลเข้ากอดอันดาทันที ฉันกลัวเหลือเกิน กลัวว่าเขาจะมาเอาลูกฉันไป
"แม่รักอันดาคนเดียวนะลูก อย่าทิ้งแม่ไปไหนนะ"
"อันดารักแม่นับดาวที่สุดในโลกเลยค่ะ"
"คุณแต่งเรื่องหลอกคนอื่นได้ แต่คุณแต่งเรื่องหลอกผมไม่ได้ คุณไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนกับผู้ชายไปทั่ว อีกอย่างคุณไม่ใช่คนใจร้ายที่จะไม่ให้อันดาเห็นรูปพ่อของเขา นอกซะจากพ่อของอันดายังไม่ตายและคุณไม่อยากให้อันดาเห็นหน้าพ่อ" วินตันพูดคนเดียวหลังจากหญิงสาวเดินเข้าห้องไปแล้ว
"คุณลุงชื่ออะไรคะ"
"วินตัน"
"คุณลุงวินตันเป็นเพื่อนกับคุณลุงจัสตินเหรอคะ อันดาเห็นคุณลุงยืนอยู่ข้างๆคุณลุงจัสตินตลอดเลย
"ช่างสังเกตจริงนะเรา ก็เหมือนเพื่อนแต่เป็นลูกน้องคนสนิท ว่าแต่พ่อเราไปไหนล่ะ ทำไมถึงมาอยู่กับแม่ที่โรงพยาบาล"
"อันดาไม่รู้ค่ะ อันดาไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลย"
"แล้วรูปล่ะ แม่นับดาวไม่เอารูปพ่อให้ดูบ้างเหรอ"
"ที่บ้านของอันดามีแต่รูปคุณตา คุณยาย แม่นับดาว และก็อันดาค่ะ คุณลุงวินตันรู้จักพ่อของอันดาด้วยเหรอคะ อันดาอยากเห็นรูปพ่อ"