บทที่2 ตัวตึงของโรงเรียน

1052 คำ
บทที่2 ตัวตึงของโรงเรียน วันต่อมา ลัลลาเบลรีบวิ่งมาหาจีนที่โต๊ะประจำก็เจอคู่อริเก่าที่กำลังนั่งก้มหน้าอยู่ นั่นคือปอแก้วและใบหนาด สองคนนี้เคยแอบเอาเศษแก้วมาใส่ในรองเท้าของลัลลาเบลแต่น้องชายของเธอดันเดินมาเห็นเสียก่อนเลยยืนเฝ้าเพื่อรอเจ้าของรองเท้าเดินออกมาจากห้องดนตรีไทย โบ๊ทเห็นพี่สาวกำลังก้าวขาสวมรองเท้าก็คว้าหมับที่แขนของพี่สาวอย่างลัลลาเบลเอาไว้จนเธอต้องถอยออกมาตามแรง “อะไรของแกฉันจะไปเข้าห้องน้ำ-_-!” “เคาะรองเท้าก่อนใส่ด้วยถ้าไม่อยากโดนแก้วบาด-_-!” ลัลลาเบลที่ได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบหยิบรองเท้ามาเคาะจนเห็นเศษแก้วแหลมคมกระเด็นออกมา โบ๊ทเดินล้วงกระเป๋าเข้าไปในห้องดนตรีไทยพร้อมกับเพื่อนชายอีกสองคน สาวสวยลูกคุณหนูและกะเทยตุ้งติ้งรีบเดินหนีแต่เพื่อนของโบ๊ทขวางทางเอาไว้ นาทีนั้นแม้แต่อาจารย์ก็ไม่กล้ายุ่งเพียงแค่ลูกๆ ของพยัคฆ์เมฆาเข้ามาเรียนครอบครัวของพวกเธอก็เทคโอเวอร์โรงเรียนนี้ไปแล้ว “มีอะไรหรือเปล่า พวกพี่ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” “กูยังไม่ได้พูดอะไรเลย” น้ำเสียงเย็นชาและแววตาที่ดูเปลี่ยนไปทำให้ทุกคนต่างพากันหนีออกมาจากห้องเหลือเพียงปอแก้วกับใบหนาดยืนเกาะแขนกันอยู่ “พ่อฉันเป็นตำรวจนะหัดเกรงใจกันบ้าง!” ปอแก้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามข่มตัวเองเอาไว้แต่มันทำให้โบ๊ทกระตุกยิ้มทันที “ทำกับพี่กูขนาดนี้กูต้องเกรงใจพ่อมึงด้วยเหรอ” “พอโบ๊ท เดี๋ยวฉันจัดการเอง!” โบ๊ทถอยออกมายืนข้างเพื่อนและหันไปส่งซิกให้เพื่อนปิดประตูห้องเรียนให้มิดชิด จากนั้นเสียงตบตีก็ดังขึ้นพร้อมเสียงร้องไห้ของใบหนาดกะเทยร่างเล็กที่แสนบอบบาง ปัจจุบัน ลัลลาเบลยืนกอดอกมองทั้งสองคนด้วยความแปลกใจเพราะหลังจากที่เธอตบสองคนไปวันนั้น ทั้งสองคนก็ปิดปากเงียบไม่กล้าคุยกับใคร แถมเรื่องที่เธอถูกตบก็ไม่มีใครยุ่งด้วย แค่โบ๊ทเดินออกมายิ้มให้สาวๆ ในโรงเรียนทุกคนก็หลงใหลจนไม่สนใจคนเจ็บในห้องเลย “มึงพวกมันมาขอโทษเรื่องวันนั้นและจะขอเข้าแก๊งเรา” ฉันต้องตกใจอะไรก่อน ตกใจที่นังสองตัวนี้มาขอโทษหรือตกใจกับคำว่าแก๊งของจีน เพราะทั้งแก๊งมีฉันกับมันแค่สองคน เพื่อนคนอื่นๆ ไม่ค่อยมีใครมายุ่งกับฉันเท่าไหร่หรอก ฉันเป็นคนดีเกินไป “พวกเราขอโทษนะเบล พวกเราแค่อิจฉาเบลที่ได้คะแนนวิชาอาจารย์บาสมากกว่าใคร ทั้งๆ ที่เบลไม่ค่อยเข้าเรียนงานก็ไม่ส่ง” “นี่มึงหลอกด่ากูหรือเปล่าใบหนาด-_-!” “เปล่า เราแค่พูดความจริง=_=” “อีกสักทีดีไหมมึงอะ” “พวกเราขอโทษจริงๆ เบล หลังจากนี้พวกเราจะทำดีกับเบล จะไม่อิจฉาเบลแล้วเมื่อวานคุณพ่อเราสองคนพาไปดูมหาลัยนานาชาติมา แต่เราเห็นพ่อของเบลคุยกับอธิการบดีอยู่ ท่านเห็นพวกเราก็เดินตรงมาถามถึงเรื่องที่เบลตบเรา” “พ่อเบย์เหรอ” “ใช่ๆ ที่เป็นหมอนั่นแหละ” ใบหนาดรีบพูดเสริม “พ่อแม่ของพวกเราตกใจมากเราเลยบอกไปว่าพวกเราเอาเศษแก้วไปใส่ในรองเท้าเบลก่อน พ่อกับแม่ของพวกเราเลยต้องขอโทษพ่อเบลอีกรอบ แถมยังบอกว่าให้เรามาขอโทษเบลด้วย” “ก็แหง่ล่ะ รู้ไหมว่าบ้านฉันเสียเงินให้ตำรวจเดือนละกี่ล้าน อยากได้ยศอะไรก็เข้ามาหาชิ!” “นั่นแหละพวกเราเลยอยากมาขอโทษละขอเป็นเพื่อนของเบลได้ไหม” จีนยักไหล่เพราะเธอไม่มีคำตอบอะไร เธอยังไงก็ได้แต่ลัลลาเบลกลับมองทั้งสองคนอย่างพิจารณา ทั้งสองคนเรียนดีนิสัยก็ไม่ต่างจากเธอเท่าไหร่นัก จึงพยักหน้าและให้จีนจัดการบอกกฎของการเข้าร่วมกลุ่ม ถึงเวลาพักกลางวันสี่สาวนั่งทานข้าวกันอยู่โบ๊ทก็เดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะพร้อมกับมองหน้าทุกคน วันนี้มีสมาชิกมาเพิ่มด้วยแต่ก็ไม่คิดว่าพี่สาวจะญาติดีกับคู่อริได้ “เจ้วันนี้กลับบ้านไปก่อนนะ ผมจะไปดูสโมสรกับพ่อไบร์ท” “อืม แกพึ่งอายุ15เองนะโบ๊ททำไมไม่ปฏิเสธพ่อบ้าง” แม้จะไม่ค่อยลงขัดขากันประจำแต่ลึกๆ ทั้งสองก็ต่างเป็นห่วงกันมาก ใครเป็นอะไรอีกคนก็จะร้อนรนจนไม่มีสติ “ช้าเร็วผมก็ต้องดูแลสโมสรแทนพ่ออยู่ดี ว่าแต่มหาลัยที่จะสาระแนไปเรียนโอเคใช่ไหม” นี่คือคำพูดของน้องชายที่เป็นห่วงพี่สาว จนพี่สาวอย่างลัลลาเบลถึงกับจิ๊ปากใส่ “ก็คงดีนั่นแหละ” ตกเย็นของวันนั้น บ้านพยัคฆ์เมฆา ต้นหอมเอาแต่เดินไปเดินมาจนคุณพลอยและคุณอาทิตย์ถึงกับมองหน้ากัน หมอเบย์เดินออกมาจากห้องทำงานก็รีบเข้ามาดึงภรรยามานั่งระงับสติอารมณ์เอาไว้เพราะกลัวว่าเธอจะหลุดพูดอะไรออกไปจนลูกได้ยิน “อย่าคิดมาก เรื่องนี้ผมเองก็ลำบากใจแต่ลูกควรมีคนดูแล” “ลูกจะโอเคไหมที่รู้ว่าตัวเองมีว่าที่คู่หมั้นอยู่ที่มหาลัย เขาจะโอเคกับลูกเราหรือเปล่าคะหมอ” “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหลอกลูก เห็นเบลมันแสบ ก๋ากั่นไม่กลัวอะไรแต่ใครไม่ได้อยู่ใกล้ไม่รู้หรอกว่าเบลเป็นเด็กที่ขี้สงสาร เป็นเด็กที่จิตใจดีพวกเราอาจจะผิดที่ตามใจเบลมากจนเกินไปแต่พ่อเชื่อว่าถ้าเบลได้ไปเรียนรู้ชีวิตในรั้วมหาลัย เบลจะโตขึ้นอีกเยอะ” คุณอาทิตย์พูดปลอบใจจนหมอเบย์พยักหน้าเห็นด้วย แต่คนเป็นแม่อย่างต้นหอมกลับหนักใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม