03 - อยากอยู่กับฉันไหม

1547 คำ
"ผมชื่อข้าวเม่าครับ ชื่อจริงคือปกป้อง อายุสิบเจ็ดปี บ้านผมอยู่ที่ชัยภูมิ แต่มาอยู่กับแม่ที่กรุงเทพ" เด็กตัวบางเล่าให้ทิวากรฟังขณะกินมื้อเที่ยงด้วยกัน   "สิบเจ็ดเหรอ? งั้นก็เรียน ม.5 สิ" ทิวากรตักไข่เจียวใส่จานให้อีก เมื่อเห็นข้าวเม่ากินข้าวด้วยท่าทางหิวจัด   "เปล่าครับ ผมจบแค่ ม.3 ผมไม่มีเงินเรียนต่อก็เลยช่วยพ่อทำนา แต่พ่อผม... เสียไปปีก่อน ผมเลยมาหาแม่ที่กรุงเทพ" ข้าวเม่าหน้าสลดลง และนั่งมองจานข้าว   "แล้วแม่อยู่กรุงเทพเหรอ?" ทิวากรรีบเปลี่ยนเรื่องเมื่อเห็นเด็กหนุ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้   "ครับ แม่มาหางานทำที่กรุงเทพตั้งแต่ผมเรียน ป.1 แล้วก็ไม่กลับไปบ้านอีก มีแต่ส่งเงินไปให้นิดหน่อย พอผมจบ ป.6 แม่ก็หายเงียบไปเลย ป้าบอกว่าแม่มีแฟนใหม่ที่กรุงเทพ แม่ทิ้งผมกับพ่อไปแล้ว พอพ่อตาย ป้าก็บอกให้ผมมาหาแม่ที่กรุงเทพ แต่แม่... ชอบดุด่าผมและให้ผมทำงาน ไม่งั้นก็จะไม่ให้ผมกินข้าว แม่ไม่รักผมเลย" ข้าวเม่ากัดปากด้วยความน้อยใจ   ทิวากรเลิกถามทุกอย่าง ทั้งที่มีคำถามมากมายอยากถาม แต่คนตรงหน้าเริ่มจะกินข้าวไม่ลงแล้ว ไอ้เด็กนี่ชีวิตรันทดยิ่งกว่าตัวละครในนิยายที่เขาเขียนเสียอีก   "ช่างเถอะ ๆ ฉันไม่ถามละ กินข้าวให้อิ่มก่อน" ทิวากรตักผัดผักใส่จานให้อีก   ข้าวเม่านั่งกินข้าวต่อเงียบ ๆ จนอิ่ม แล้วรวบจานชามทั้งหมดไปล้าง   "ฉันล้างเองน่า นายไปนอนพักเถอะ ยังเจ็บอยู่เลย" ทิวากรรีบไปหาที่อ่างล้างจาน   "ไม่ได้หรอกครับ คุณให้ผมเข้ามาในบ้าน ทายาให้ แถมทำกับข้าวให้กินอีก ผมจะล้างให้ครับ" ข้าวเม่ายืนยันหนักแน่น ทิวากรเลยได้แต่ถอยออกมาและปล่อยให้เด็กตัวบางล้างจานต่อจนเสร็จ   เพล้ง!!   "ข้าวเม่า! เป็นอะไรหรือเปล่า?" ทิวากรรีบไปหาคนที่ยืนหน้าเสียอยู่กับจานที่แตกบนพื้น   "ขอโทษครับที่ทำจานแตก ผม... ผมตกใจน่ะครับ" ข้าวเม่าเสียงสั่น เขาทำหน้าเหมือนจะร้องไห้และมองจานที่แตกบนพื้น   "ตกใจอะไร?" ทิวากรงง   "คือ... แมวมันกระโดดใส่ผม ผมตกใจเลยทำจานหลุดมือ ขอโทษครับ" ข้าวเม่าแบสองมือมาตรงหน้าเจ้าของบ้าน   "ยื่นมือมาทำไม?" ทิวากรงงรอบสอง   "ลงโทษครับ ที่ผมทำจานแตก" ข้าวเม่าน้ำตาร่วงลงมาเปื้อนแก้ม   "หา? กะอีแค่จานแตกสองใบต้องลงโทษเลยเหรอ? ใครสอนนายแบบนั้น?" ทิวากรมองหน้าคนยืนกลั้นสะอื้นด้วยความไม่เข้าใจ   "พ่อครับ" ข้าวเม่ากลั้นน้ำตา   "พ่อนายดุขนาดนั้นเลยเหรอ?" ทิวากรแปลกใจสุด ๆ พ่อที่ไหนจะเข้มงวดขนาดนี้กัน   "พ่อผมไม่ดุครับ แต่พ่อคนใหม่ดุมากครับ" ข้าวเม่าตอบเสียงเบา   ทิวากรพยักหน้าเข้าใจ พ่อเลี้ยงนี่เอง แผลตามตัวนั่นก็คงไม่พ้นฝีมือพ่อเลี้ยงสินะ ถ้าจะลงโทษได้กะอีแค่จานแตก โทษอื่นคงไม่ใช่เบา ๆ แน่ ถ้าจะหนีออกจากบ้านก็คงไม่แปลกอะไร   "ช่างเถอะ เรื่องแค่นี้ฉันไม่ลงโทษหรอก จานแตกก็ซื้อใหม่แค่นั้นเอง" ทิวากรจัดการเศษจานแตกบนพื้นจนเรียบร้อย และข้าวเม่าก็ยังยืนอยู่ที่เดิม   "ไปนั่งที่โซฟาเถอะ จะดูทีวีหรือจะนอนก็ได้ อยากทำอะไรก็ตามใจ ฉันไม่ว่าอะไรหรอก พักผ่อนเถอะ แผลยังไม่หายเลย" ทิวากรลูบหัวเด็กหนุ่มที่ตัวเล็กและบางกว่าอายุมาก ทีแรกคิดว่าเด็ก ม.ต้นด้วยซ้ำ   "เอ่อ... คุณอยู่คนเดียวเหรอครับ?" ข้าวเม่าเดินตามทิวากรมาที่โซฟานั่งเล่น   "อยู่กับแมวน่ะ ไอ้ข้าวตัง ที่มันกระโดดใส่นายไง" ทิวากรชี้ไปที่แมวลายสลิดสีน้ำตาลที่นั่งเลียขนเสริมหล่อบนโต๊ะกินข้าว   "มันดุไหมครับ?" ข้าวเม่าถามอีก ท่าทางสนใจแมวที่มองมาอย่างเชิด ๆ   "ไม่ดุหรอก แต่มันบ้าน่ะ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อย่าสนใจมันมากเลย ช่วงนี้มันกำลังติดสาวซอยห้าเลยไม่ค่อยอยู่บ้าน" ทิวากรยิ้มขำคนสนใจแมว   "ชื่อคล้ายผมเลยนะครับ ข้าวตังกับข้าวเม่า" เด็กหนุ่มตัวบางยิ้มออกมาเมื่อแมวหนุ่มกระโดดลงจากโต๊ะและมาพันขาออดอ้อน   "นั่นสินะ ไอ้ข้าวตังเป็นแมวจรจัดที่ฉันเก็บมาเลี้ยง นายเองก็เหมือนกัน เจ้าแมวจรจัด" ทิวากรหัวเราะเมื่อเห็นข้าวเม่าอารมณ์ดีขึ้น   "ไม่เหมือนหรอกครับ ข้าวตังยังมีคุณคอยเลี้ยงดู แต่ผมไม่มีใครเลย" ข้าวเม่าสลดลงอีก   ทิวากรมองเด็กตรงหน้าแล้วถอนหายใจ เด็กน้อยเอ๊ย บ้านก็ยากจน หนังสือก็ไม่ได้เรียน พ่อก็ตาย ป้าก็ไม่มีเงินพอจะเลี้ยงดู แม่ก็ไม่สนใจ แถมพ่อเลี้ยงยังทุบตีทำร้าย ชีวิตจริงยิ่งกว่าละครน้ำเน่าอีก   "จะกลับไปหาแม่ไหม?" ทิวากรลองถาม   "เอ่อ... คือ... ไม่รู้ครับ ถ้ากลับไปหาแม่ผมคงโดนพ่อลงโทษหนักแน่ ที่หายออกจากบ้านมาสองวันแล้ว งานก็ไม่ไปช่วยเขาทำ"   "พ่อแม่นายทำงานอะไร?" ทิวากรอดถามไม่ได้ ว่าจะไม่เผือกแล้วเชียว   "แม่ผม เป็นแม่บ้านในผับ พ่อผม เอ่อ... ดูแลพวกพี่สาวกับพี่ชายในผับเดียวกัน"   "หมายความว่าไงน่ะ? พ่อแม่นายมีลูกกี่คนเนี่ย? ฟังดูแปลก ๆ"   "คือ ผมก็ไม่เข้าใจเท่าไหร่ แต่พ่อผมจะให้พวกพี่สาวกับพี่ชายคอยเอาใจพวกอาเสี่ยกระเป๋าหนัก บางทีพวกพี่ ๆ ก็จะไปเที่ยวกับพวกเขาทั้งคืน แล้วเอาเงินกลับมาให้พ่อ"   "เชี่ยย มันเป็นแมงดาในซ่องนี่หว่า" ทิวากรพึมพำ เขามองเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้วตัดสินใจ   "อยากอยู่กับฉันไหม?" ทิวากรถามออกไปตรง ๆ   "อยู่เหรอครับ? หมายความว่ายังไงครับ?" ข้าวเม่ามองหน้าทิวากรด้วยความไม่เข้าใจ   "ทำงานบ้านให้ฉัน ซักผ้า หุงข้าว ทำกับข้าว ล้างรถ เลี้ยงแมว แล้วฉันจะให้เงิน จะให้เรียนกศน.ด้วย ถ้านายอยากเรียนต่อ" ทิวากรเสนอ   "ทำงานให้คุณ แล้วคุณจะให้เงินผมเหรอ? คุณจะให้ผมอยู่ด้วยเหรอ?" ข้าวเม่าถามย้ำด้วยความไม่แน่ใจ   "อืม จะไม่ลงโทษที่ทำจานแตกด้วย โอเคไหม?" ทิวากรยิ้ม   "จะไม่ลงโทษผมด้วยเหรอ?" ข้าวเม่าน้ำตาร่วงทั้งที่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ   "ใช่ ไม่ลงโทษแน่นอน" ทิวากรรับปาก   "ผมจะอยู่กับคุณครับ ผมจะทำงานให้คุณ ผมจะเชื่อฟังคุณด้วย" ข้าวเม่ายกมือปาดน้ำตาที่ร่วงหล่นไม่ขาดสาย   ทิวากรมองแล้วส่ายหน้า ไอ้เด็กนี่ นอกจากจะหน้าหวานยังกะผู้หญิงแล้ว ท่าทางก็อ่อนแอ ทั้งขี้แย ทั้งซื่อบื้อ ขืนปล่อยไปเผชิญชะตาชีวิตตามลำพังคงเอาตัวไม่รอดแน่   "เอาล่ะ เลิกร้องไห้แล้วขึ้นไปทำความสะอาดห้องเล็กบนชั้นสองซะ มันจะเป็นห้องของนายตั้งแต่วันนี้" ทิวากรบอก   "เอ๋? ห้องของผมเหรอ? ไม่ใช่ว่าจะให้ผมนอนหลังบ้านเหรอ?" ข้าวเม่าเงยหน้าถามทั้งน้ำตาที่ยังเปื้อนแก้ม   "เลิกคิดถึงสิ่งที่เคยเป็นตอนอยู่ที่นั่นได้แล้ว อยู่กับฉันก็ต้องฟังคำสั่งฉัน ฉันให้นายอยู่ห้องเล็กชั้นบน ก็ต้องทำตามนั้น ไม่ต้องถามมาก" ทิวากรทำเสียงดุ   "ครับ ทราบแล้วครับ ผมจะรีบขึ้นไปทำความสะอาดห้องเล็กเดี๋ยวนี้ครับ" ข้าวเม่ารีบรับคำแล้วเดินไปทางหลังบ้าน เขาคว้าไม้กวาด ไม้ถูพื้นกับถังน้ำ หอบขึ้นไปชั้นสองห้องฝั่งตะวันตกที่เป็นห้องว่าง และลงมือทำความสะอาดเป็นการใหญ่   "ห้องของเรา เราจะอยู่ห้องนี้" ข้าวเม่ามองไปรอบ ๆ ห้องด้วยความดีใจ มันกว้างกว่าห้องนอนที่เขานอนกับพ่อตอนอยู่บ้านนอกเยอะเลย แถมยังมีเตียงกับตู้เสื้อผ้าด้วย   "เราจะได้อยู่ที่นี่ ทำงานรับใช้คุณกร และจะไม่โดนลงโทษด้วย" ข้าวเม่ายกหลังมือปาดน้ำตาที่รินลงมาดัวยความตื้นตันหัวอก เขาตั้งใจมั่นว่าจะรับใช้ทิวากรให้ดีที่สุด ให้สมกับความเมตตาที่อุตส่าห์รับเด็กจน ๆ ไร้การศึกษาคนหนึ่งมาทำงานบ้าน แถมให้อยู่ในบ้านด้วย   "เมี้ยวว..." แมวลายสลิดเดินเชิดหน้าเข้ามาในห้องและมองไปรอบ ๆ มันมองข้าวเม่าที่กำลังทำความสะอาดห้องแล้วก็เชิดหน้าก่อนจะกระโดดขึ้นไปบนเตียงและนั่งมองเด็กหนุ่มเช็ดห้องไปยิ้มไป   "ข้าวตัง ตั้งแต่วันนี้ฉันจะมาอยู่ห้องนี้แล้วนะ มานอนกับฉันไหม?" ข้าวเม่าเดินมากอดแมวที่นั่งบนเตียง แต่ข้าวตังไม่เล่นด้วย มันยกเท้าหลังถีบขาคู่ใส่หน้าอีกฝ่ายแล้วกระโดดลงไปบนพื้น ก่อนจะสะบัดหน้าเดินนวยนาดออกไป   "โธ่ ไม่ยอมเป็นเพื่อนกันเลย" ข้าวเม่าบ่นตามหลังแมวแล้วทำความสะอาดห้องต่อด้วยใจพองโต   -------------------------  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม