ลออสิริเปิดแบรนด์ขายเสื้อผ้ารวมถึงเครื่องประดับสำหรับสาวพลัสไซซ์ โดยการเอาความชอบของตัวเองเป็นที่ตั้ง ถึงแบรนด์ของเธอจะยังไม่เป็นที่รู้จักมาก แต่ก็ถือว่าไปได้ดีเพราะมีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาซื้ออยู่ตลอด ส่วนลูกค้าเก่าก็ยังอุดหนุนอยู่เหมือนเดิม
ช่วงบ่ายแทนที่เธอจะได้ไปขายขนมจีบให้วิคเตอร์ กลับต้องติดแหง็กอยู่ที่ออฟฟิศแทน เพราะงานมีปัญหาจนกระทั่งเย็นถึงเคลียร์เรียบร้อย บริษัทเธอตั้งอยู่ใจกลางเมืองเป็นบริษัทขนาดกลาง คนทำงานจึงไม่เยอะเหมือนบริษัทของวิคเตอร์
หนึ่งในพนักงานของบริษัทคือเพื่อนในกลุ่มเดียวกันชื่อว่า แนน นันนิยา ทำงานในตำแหน่งแอดมินดูแลเพจของบริษัท คอยตอบแชตลูกค้าในแต่ละวัน ตอนแรกหญิงสาวทำงานที่บริษัทอื่นแต่โดนเลิกจ้างกะทันหัน ด้วยความสงสารเพื่อน ลออสิริจึงชวนนันนิยามาทำงานด้วยกัน
“ไปกินชาบูกันไหมแนนที่ร้านเดิม เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”
เจ้านายพ่วงตำแหน่งเพื่อนเก็บของใส่กระเป๋าเสร็จ เดินออกมาจากห้องทำงาน เห็นนันนิยายังไม่กลับจึงเอ่ยชวน เธอไม่ได้ไปกินชาบูประมาณเดือนหนึ่งได้ เพราะมัวแต่ยุ่งกับงานและการตามจีบวิคเตอร์
“อืมก็ดีเหมือนกันนะ แต่ไม่ต้องเลี้ยงหรอก หารได้”
“ไม่เป็นไร แนนเก็บเงินไว้เถอะ ค่าอาหารแค่นี้สบายมาก”
“เกิดเป็นลูกคนรวยมันดีจริงๆ เนอะ อยากทำอะไรก็ได้ทำอยากกินอะไรก็ได้กิน ไม่ต้องดิ้นรนเหมือนลูกคนจน”
“มันก็ไม่เสมอไปหรอก แล้วบ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร อาศัยว่าพ่อกับแม่ขยันทำงานเลยมีเงินเก็บไว้ให้ลูกๆ พวกท่านวางแผนในการดำเนินชีวิต อยากมีลูกเมื่อพร้อม เราว่ามันดีมากเลย”
คิดถึงพ่อกับแม่แล้วอดยิ้มภูมิใจไม่ได้ ลออสิริเป็นลูกคนเล็กพ่อแม่และพี่ชายค่อนข้างตามใจ เธออยากทำอะไร หรืออยากเรียนอะไร ครอบครัวไม่เคยขัดกลับสนับสนุนทุกอย่างเต็มที่
ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี เปิดร้านขายอุปกรณ์การเกษตร เรียกได้ว่าเป็นเจ้าใหญ่ มีทั้งหน้าร้านและขายบนออนไลน์ ปัจจุบันพี่ชายเป็นคนดูแลกิจการต่อจากพ่อแม่ ที่ตอนนี้ผันตัวไปเป็นเกษตรกรปลูกผักปลูกผลไม้แทน ส่วนตัวเธอก็ได้ทำงานที่รักตามความชอบ ความถนัด
“อือใช่ มันดีมากจริงแหละ เฮ้อไปกันเถอะ”
คิดถึงเรื่องครอบครัวทีไรนันนิยาก็เครียดขึ้นมาทันที ลึกๆ ในใจเธอแอบอิจฉาลออสิริ ที่มีครอบครัวอบอุ่นและมีเงินมากพอที่จะทำตามฝัน อย่างเช่นการเปิดบริษัทขายเสื้อผ้าเป็นของตัวเอง คงมีสิ่งเดียวที่เธอพอจะชนะได้ คือรูปร่างหน้าตาที่เรียกได้ว่าเพอร์เฟกต์
“เอ่อ ชวนเหนือมาด้วยดีไหม”
“ลองถามดู ถ้าเหนือว่างก็มาได้ เลี้ยงเพื่อนแค่นี้สบายมาก”
นันนิยายิ้มกว้างก่อนจะคว้าโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาเพื่อนชายในกลุ่มอีกคน จากนั้นไม่นานทั้งสองคนก็มุ่งไปยังร้านชาบูเจ้าประจำ
ร้านชาบูที่ชอบตั้งอยู่ในห้าง ทั้งสองจึงใช้รถไฟฟ้าในการเดินทาง ใครจะไปคิดว่าในระหว่างกำลังก้าวขาเพื่อตรงไปยังร้านจะบังเอิญเจอกับวิคเตอร์ที่ไม่ได้เดินอยู่เพียงลำพัง ข้างกายเขามีสาวสวยยืนอยู่ด้วย ลออสิริเห็นปุ๊บก็จำได้ทันทีว่าผู้หญิงคนนี้คือใคร
“พี่วิคขาบังเอิญจังเลยค่ะ ตอนเช้าก็ได้เจอ ตอนเย็นก็ยังได้เจออีก อย่างว่าแหละเนื้อคู่”
หยอดไว้ก่อนตำราบอกไว้ ถึงปากจะทักทายชายในดวงใจแต่สายตากลับจับจ้องไปที่นางเอกสาวหน้าใส อายุน้อยกว่าเธอราวสองปี ไม่รู้ทำไมวันนี้นางเอกช่องดังถึงมาเดินห้างกับวิคเตอร์ได้ ไม่กลัวเป็นข่าวหรืออย่างไร ลออสิริคิดในใจ
“คู่เวรคู่กรรมมากกว่า” คำตอบแสนร้ายกาจที่หลุดออกจากปากวิคเตอร์ ทำให้นันนิยากับลลินารู้สึกตกใจ สวนทางกับลออสิริที่ยังยิ้มหวานได้เพราะชินแล้ว ถ้าเขาไม่ตอบแบบนี้สิแปลก แสดงว่าตัวปลอม
“สวัสดีค่ะคุณ...”
“ลออสิริค่ะ ว่าที่คู่หมั้นของพี่วิค”
“เดี๋ยวนะ เราไปเป็นว่าที่คู่หมั้นกันตอนไหน ผมไม่เห็นรู้เลย”
“ก็ตอนที่คุณยายปลายพูดยังไงล่ะคะ พี่วิคลืมแล้วเหรอ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะคุณลออสิริ ลีน่า ลลินาค่ะ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ น้องลีน่านางเอกช่องดัง”
“ตัวจริงสวยกว่าในจออีกนะคะ สวัสดีค่ะ แนนค่ะเป็นเพื่อนของสิ สวัสดีค่ะคุณวิคเตอร์ได้ยินชื่อบ่อยๆ ได้เจอตัวจริงสักที”
“สวัสดีครับ” ชายหนุ่มยิ้มตอบตามมารยาท ก่อนจะหันไปมองหน้าลออสิริที่กำลังหันหน้าจ้องมองคนรอบตัว
ตอนนี้เหมือนคนที่มาเที่ยวห้างเริ่มรู้แล้วว่าผู้หญิงสวยๆ ที่ดูโดดเด่นกว่าใครคือลลินา นางเอกช่องดังจึงยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป นั่นทำให้นางเอกสาวรู้สึกพอใจมาก เพราะอยากให้มีข่าวของตัวเองกับชายหนุ่มในโลกออนไลน์อยู่แล้ว
การเป็นข่าวกับลูกหลานตระกูลไฮโซย่อมต้องมีคนสนใจ เป็นกระแสในโลกโซเชียล จากนั้นก็จะถูกนักข่าวรุมสัมภาษณ์ มีแต่ได้กับได้ ดีจริงๆ ที่วันนี้เธอตัดสินใจมาคุยเรื่องงานกับเขา ทำให้ได้มาเดินในห้างด้วยกันแบบนี้
“พี่วิคขาไหนๆ เราก็เจอกันแล้ว ไปกินชาบูด้วยกันไหม เดี๋ยวสิเลี้ยงทุกคนเอง”
“ผมไม่ชอบอาหารปิ้งย่าง ไม่ชอบชาบู”
“สิโทรหาคุณยายปลายดีไหมนะ”
“อยากกินร้านไหนว่ามา เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”
“แต่ลีน่ากินไม่ได้นะคะ คืออยู่ระหว่างลดน้ำหนัก”
“หุ่นดีขนาดนี้ยังลดน้ำหนักอีกเหรอคะน้องลีน่า”
“ใครจะไปเหมือนคุณ อ้วนแล้วยังไม่คิดจะลดน้ำหนัก”
“สิบอกแล้วไงว่าไม่ได้อ้วน อยู่ในช่วงอวบระยะสุดท้ายเอง”
ลออสิริเชิดหน้าขึ้นมาเถียงคอเป็นเอ็น ก่อนจะเดินเข้าไปแทรกกลางระหว่างลลินากับวิคเตอร์ จากนั้นก็เอามือขึ้นมาคล้องแขนชายหนุ่มราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
วิคเตอร์พยายามปัดมือออก แต่พอได้ยินชื่อคุณยายอันเป็นที่รักจากเสียงกระซิบของลออสิริก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เธออยากทำอะไรก็เชิญ เพราะเขาไม่มีทางหวั่นไหวแน่นอน อ้วนขนาดนี้ใครจะชอบลงโดยเฉพาะผู้ชายหล่อเพอร์เฟกต์อย่างเขา เป็นไปไม่ได้ล้านเปอร์เซ็นต์ ให้ตายยังไงก็ไม่มีทางหลงรักยัยโอ่งมังกรเด็ดขาด