หลังจากที่อาหารมาเสิร์ฟพร้อม ทั้งสามคนก็นั่งทานอาหารไปพลางๆ ณภัทรอ้อนให้ข้าวหอมตักของชอบให้ ป้อนนั้นนี่จนตฤณอยากจะหายไปจากตรงนั้นเสียจริง ครั้งหน้าเขาคงชวนเธอมาทานข้าวในเวลางานไม่ได้แล้ว คงต้องนัดช่วงเย็นประมาณนั้นจะดีกว่า
"ข้าว... เอาปลาหมึกด้วย"
"ค่ะ"
ข้าวหอมรับคำอย่างว่าง่าย เธอตักกับข้าวเอาใจชายหนุ่มตามที่ตกลงกันไว้ เขาบอกว่าถ้าเธอเชื่อฟังและยอมเขาทุกอย่างเธอจะได้ในสิ่งที่ต้องการ
เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง เวลาแห่งความน่าอึดอัดก็จบลง ทั้งสามคนเดินทางกลับไปที่บริษัทโดยอาหารมื้อนี้เป็นณภัทรเองที่เป็นคนจ่าย เมื่อมาถึงที่หมาย ตฤณก็ขอตัวไปงานต่อส่วนข้าวหอมเธอขอตัวและเดินออกไปจะเข้าห้องทำงานแต่ชายหนุ่มกลับเดินตามเข้ามาด้วย
"เอ่อ... ไม่กลับไปที่ห้องของตัวเองล่ะคะ"
"ไม่อ่ะ เบื่อ ไม่มีอะไรทำ"
"แล้วไม่มีใครเอาเอกสารมาให้เซ็นเหรอคะ"
"อยู่ในช่วงเปลี่ยนเจ้าของ ให้พนักงานจัดการเอกสารให้มันเรียบร้อยก่อนค่อยเรียกประชุมอีกที ตอนนี้ว่างอยากมาอยู่ด้วยได้มั้ยล่ะ"
เขาเปิดประตูเข้าห้องทำงานของเธอไปก่อนจะนั่งลงที่โต๊ะทำงานของเธอแล้วหยิบนั้นหยิบนี่มาดู ข้าวหอมรีบเดินมาด้านหลังของเขาก่อนจะหยิบรูปถ่ายนาราลงแล้วใช้แฟ้มทับเอาไว้
"มีอะไรเหรอ"
"ปะ..เปล่าค่ะ คือว่าคุณอยากรู้ข้อมูลอะไรมั้ยคะ วันนี้ข้าวว่างจะให้ข้อมูลคุณ"
หญิงสาวซ่อนภาพถ่ายเสร็จก็ชวนเขาคุยเปลี่ยนเรื่อง ณภัทรมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรแล้วเรียกหญิงสาวมานั่งลงบนตักกว้าง
"มานั่งนี่สิ"
ข้าวหอมยืนนิ่งไม่กล้าเข้าไป เธอรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมอะไรหลายอย่าง และที่นี่ก็เป็นบริษัทไม่ใช่ที่บ้านจะทำอะไรประเจิดประเจ้อถ้ามีใครมาเห็นจะเอาไปนินทาเอาได้
"ข้าวหอม..."
เธอถอนหายใจออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งลงตามคำสั่งของเขา ณภัทรโอบรอบเอวหญิงสาวไว้แน่นก่อนจะจูบริมฝีปากเธออย่างดูดดื่ม เธอทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เขาทำจนพอใจ คนอย่างเธอไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว จะนอนกับเขาอีกกี่ครั้งก็มีค่าเท่ากัน
ชายหนุ่มผละออกก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพอใจ ท่าทางจะยอมง่ายกว่าที่คิด แบบนี้ถ้าทำให้ทั้งรักทั้งหลงแล้วทิ้งเธอจะมีสภาพต่างจากเขาก่อนหน้านั้นหรือไม่ แค่นี้มันยังน้อยไปเขาจะทำให้ไปไหนไม่รอดร้องไห้คลานเข้ามาขอความรักจากเขาอีกครั้ง
"ไม่อยากทำงานเลย อยากทำอย่างอื่น"
พูดจบเขาก็ค่อยๆปลดกระดุมหญิงสาวออก ข้าวหอมรู้สึกว่ามากกว่านี้มันไม่เหมาะสม ถ้าเขาอยากจะทำมากกว่านั้นต้องเป็นที่อื่น
"ตรงนี้ไม่ได้ค่ะ ใครมาเห็นจะดูไม่ดี"
"ทำไมล่ะ ล็อคประตูซะก็สิ้นเรื่อง ไม่มีใครไปหากุญแจเปิดเข้ามาหรอกจริงมั้ย"
ณภัทรเอ่ยอย่างไม่แคร์ เขาจะทำให้เธอช้ำทั้งตัวและหัวใจ ถ้าเขาไม่ปล่อยเธอไม่มีสิทธิ์ที่จะไปกินนอนกับใครทั้งนั้น เมื่อวานลองถามเพื่อนร่วมงานของเธอ ตลอดการทำงานที่นี่ไม่เคยมีใครเห็นข้าวหอมมีแฟน เช้ามาทำงานเย็นกลับเป็นอย่างนี้หลายปีจนคนคิดว่าเธอน่าจะครองตัวเป็นโสดมากกว่า
"ขอร้องเถอะนะคะ ถ้าอยากทำอะไรข้าวยอมทุกอย่างแต่อย่าให้มันเป็นที่ทำงานเลยนะคะ"
หญิงสาวเอ่ยขอร้องชายหนุ่มอย่างอ้อนวอนสุดๆ อย่างน้อยให้เกียรติกันบ้างถึงจะน้อยนิดก็ยังดี
"ก็ได้ พรุ่งนี้เย็นมาหาที่คอนโด"
เขาหยิบโทรศัพท์มาแอดไลน์และเบอร์ของเธอไว้ ก่อนจะกดส่งที่อยู่คอนโดของเขาให้เธอในข้อความ ข้าวหอมกดดูก่อนจะเก็บโทรศัพท์ตามเดิมแล้วพยายามจะลุกขึ้นยืน
"ข้าวขอทำงานนะคะ"
"ก็ได้ เย็นนี้ว่างมั้ย"
"ไม่สะดวกค่ะต้องไปเตรียมของไงคะ"
ณภัทรทำหน้าเซ็งๆก่อนจะลุกขึ้นแล้วมองสบตาหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า
"วันนี้ถือว่ารอดไปแล้วกัน พรุ่งนี้เตรียมตัวให้พร้อมนะข้าว ผมไม่ปล่อยคุณไปเหมือนอย่างวันนี้แน่นอน"
เขาเอ่ยออกมาก่อนจะเดินออกไปทันที เมื่อชายหนุ่มพ้นจากห้องทำงานเธอก็นั่งลงที่เก้าอี้ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"เกือบไปแล้วมั้ยล่ะไอ้ข้าวเอ้ย"
หญิงสาวบ่นออกมาก่อนจะหยิบรูปถ่ายของนารามาเก็บไว้ในลิ้นชักแล้วล็อคอย่างดี เกิดวันดีคืนดีเขามาค้นห้องเธอเจอรูปของลูกสาวจะแย่เอาได้ โดยเฉพาะเจอหน้ากันเมื่อวานนาราไปเรียกเขาว่าพ่อขนาดนั้น ถ้าเขาเจออีกครั้งต้องสงสัยแน่นอน
"เห้อ! เมื่อไหร่จะหลุดพ้นจากตรงนี้ซักที"
ข้าวหอมสะบัดหน้าไล่ความคิดความกังวลออกไปจนหมดแล้วหันมาตั้งใจทำงานต่อ เวลาล่วงเลยไปถึงเย็นเธอรีบไปรับลูกสาวแล้วพากลับมาที่บ้านช่วยกันเก็บกระเป๋าเตรียมตัวกลับต่างจังหวัดพรุ่งนี้
"หนูจะเอาอะไรไปหยิบเลยนะคะนารา จะได้ไม่ต้องร้องไห้หา"
"ที่บ้านคุณตาคุณยายมีตุ๊กตาเยอะแล้วค่ะ หนูไปเล่นที่นั้นก็ได้"
"ตามใจค่ะ แล้วชุดสวยล่ะคะ เอาตัวไหนอีกดี"
เธอช่วยลูกสาวหยิบนั้นนี่จนเรียบร้อย ถ้าปิดเทอมแบบนี้โดยปกติเธอจะพานาราไปทำงานด้วยเพราะเด็กน้อยน่ารักไม่ดื้อไม่ซนเหมือนเด็กคนอื่น แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนก่อนเพราะที่บริษัทมีคนใจร้ายอย่างณภัทรอยู่ เพราะฉะนั้นนาราควรอยู่ให้ห่างจากเขาก่อน
"แม่ขอโทษนะคะคนสวย ที่ต้องให้หนูไปค้างกับคุณตาคุณยาย"
"คุณแม่ต้องทำงานค่ะ หนูไม่อยากกวนคุณแม่ไปอยู่กับคุณตาคุณยายก็สนุกดีค่ะ"
เด็กน้อยเอ่ยออกมาก่อนจะสวมกอดผู้เป็นแม่อย่างเด็กที่ผ่านการอบรมมาอย่างดี เธอรู้ว่าสถานการณ์ครอบครัวของเราไม่เหมือนครอบครัวอื่น เราสองคนต้องดูแลกันเองสองแม่ลูกถ้าเธอไม่ว่างหรือติดงานต้องไปรบกวนดาหวันช่วยเลี้ยงอีกแรง ซึ่งนารารู้ดีว่าแม่เหนื่อยขนาดไหน
"แม่สัญญาว่าเสร็จทุกอย่างจะรีบไปรับกลับมานะคะ"
"ค่ะคุณแม่ แต่ว่าต้องโทรศัพท์ไปหานาราทุกวันเลยนะคะ"
"ได้ค่ะ แม่จะวิดีโอคอลหาหนูทุกวันเลย"
ข้าวหอมจุ๊บแก้มลูกสาวอย่างหวงแหน ชีวิตของเธอมีลูกที่สำคัญที่สุด นาราคือทุกอย่างในชีวิตของเธอ คนเป็นแม่สามารถอดทนได้ทุกอย่างแต่ทนไม่ได้ถ้าลูกจะต้องเจ็บปวดหรือเสียใจเพราะใครอื่น
"รักคุณแม่ที่สุดเลยค่ะ"
"แม่ก็รักหนูค่ะ"
วันต่อมา....
ณภัทรมาถึงบริษัทในช่วงเที่ยงก็มาหาข้างหอมที่ห้องแต่ก็ได้รับคำตอบว่าลาหยุด เขารู้สึกเสียอารมณ์เป็นอย่างมากหยิบโทรศัพท์มากดโทรไปหาก็ไม่ยอมรับสายอีก
"หรือว่าคิดจะหนี... อย่าให้เจอโดนแน่ข้าวหอม!!"