| 4 - 3

2000 คำ
 รอยยิ้มที่อยู่ภายใต้หน้ากากออกซิเจนนั้นบางเบา แต่ก็ดูคุ้นเคยและอบอุ่นกว่าทุกครั้งที่ได้พบกัน ต้องมนตร์ขยับตัวออกเล็กน้อย เพื่อให้ชายหนุ่มเข้ามายืนตรงหน้าย่าเธอมากขึ้น ดูเหมือนท่านมีความในอยากจะสั่งเสียเขามากกว่าเธอ และเธอก็พร้อมที่จะให้ย่าของเธอสมความปรารถนานี้                           ทรงโปรดจับมืออีกข้างของท่านทันที เรียกท่านด้วยความอ่อนโยนกว่าทุกครั้งว่า "คุณย่า มีอะไรจะคุยกับผมเหรอครับ"         ท่านพยักหน้า ขยับปากเอ่ยช้าๆ เบาๆ ว่า "พี่ชาย...ต้องคนนั้น..."                                                                                   ชายหนุ่มขมวดคิ้วทันที ค่อยๆ ถามเพื่อความแน่ใจ "พี่ชายของต้องมนตร์ คือคนที่ทำร้ายคุณย่า ใช่มั้ยครับ"               คนป่วยที่นอนบนเตียงค่อยๆ พยักหน้า มองทางหลานสาวแล้วเอ่ย "ฆ่า... มันบอกจะ...ฆ่าต้อง"                              ทรงโปรดมีท่าทางตกใจเป็นอย่างมาก "พี่ชายต้อง ขู่จะฆ่าต้อง..." แล้วหันไปมองหญิงสาวด้วยความเป็นห่วงอีก                       ท่านหลับตาลง พลางพยักหน้ารับอีกแทนการพูดที่ทำให้เหนื่อยมาก มิน่าเขาถึงรู้สึกคุ้นตารูปร่างผู้ชายคนนั้น!                       "คุณย่าเรียกผมมาคงไม่ได้จะบอกเพียงเท่านี้แน่ ใช่มั้ยครับ อยากให้ผมทำอะไร หรือช่วยเหลืออะไรอีก"                             ท่านจับมือเขาพลางบีบด้วยพละกำลังเท่าที่จะมี เหลือบมองหน้าหลานสาวที แล้วหันมาบอกชายหนุ่ม ด้วยเรื่องที่ตนอยากจะจัดการมากที่สุด ก่อนที่ลมหายใจสุดท้ายจะปลิดปลิวไป "คุณ...แต่งงานกับ ตะ ต้อง ได้มั้ย"                                                เขาหันไปมองเธอด้วยความตื่นตะลึง เธอเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่คาดคิดมาก่อนว่าย่าจะเรียกเขามาและขอร้องให้เขาทำถึงขนาดนี้ "ผม เอ่อ..." เขาทั้งตกใจ แต่อีกใจกลับรู้สึกดีกับคำขอร้องนี้ แต่ว่าเธอจะรู้สึกเช่นเดียวกันมั้ย เพราะเธอได้ทำท่าคล้ายช็อกกับคำสั่งเสียนี้อยู่ คนป่วยส่ายหน้าไม่ฟังคำพูดของชายหนุ่ม เพราะคำขู่อาฆาตของผู้ชายคนนั้นยังดังก้องให้ตนผวา จนไม่อาจจะตายอย่างเป็นสุขได้ ตราบใดที่ยังไม่มั่นใจว่าต้องมนตร์จะอยู่รอดและปลอดภัยจากน้ำมือของผู้ชายพาลสันดานหยาบพรรค์นั้น นี่จึงเป็นการรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายขึ้นมา ตนต้องการยกต้องมนตร์ให้ทรงโปรดไปเสีย ด้วยเชื่อมั่นว่านี่จะเป็นหนทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้ตนวางใจและตายตาอย่างหลับได้                                                อย่างน้อย ทรงโปรดก็สามารถดูแลต้องมนตร์แทนตนได้อย่างเต็มที่ด้วยสิทธิ์เดียวที่เขาจะมีก็คือ เป็น 'สามี' ของต้องมนตร์นั่นเอง   และที่ตนขอร้องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องที่มาบังคับจิตใจเขาเลย แต่เพราะตนรู้มาตลอดว่าทรงโปรดคิดอย่างไรกับต้องมนตร์ จึงยอมยกหลานสาวคนนี้ให้แต่งงานกับเขา ส่วนต้องมนตร์ อาจจะมากไปด้วยทิฐิจากเรื่องของพ่อ ทว่า การที่ทรงโปรดรักเธอด้วยความจริงใจ ตนเชื่อว่าด้วยความรักและความดีที่ชายหนุ่มมีให้จะละลายปราการน้ำแข็งในหัวใจของต้องมนตร์ได้ คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นสำหรับทรงโปรดเลย หญิงสาวรีบส่ายหน้า ทำท่าจะค้าน แต่คนเป็นย่าก็ใช้วิธีหยิกลงที่หลังมือบางนั้นแทนคำตำหนิ เป็นการดุทางอ้อม และหากต้องมนตร์เป็นหลานที่ได้ดั่งใจตนมาตลอด เธอก็ต้องทำตามการสั่งเสียนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข เพราะนี่จะทำให้ต้องมนตร์พ้นจากภัยอันตรายได้ดีที่สุดแล้ว  "นะคุ คุณโปรด ... ย่าจะตายตาไม่หลับ..." ท่านเอ่ยพร้อมกับส่ายหน้าทั้งน้ำตา มองเขาด้วยความวิงวอนเป็นครั้งสุดท้าย         "ผม..." เขาเข้าใจ แต่อีกใจเขาก็เกรงใจหญิงสาวเหลือเกิน เนื่องจากเธอดูไม่เต็มใจ ทว่า เหมือนต้องมนตร์กำลังชะงักอยู่กับคำว่า 'ตายตาไม่หลับ' อยู่เช่นกัน เธอรักย่าของเธอมาก จนไม่รู้จะทำอย่างไรกับสถานการณ์อย่างนี้อีกแล้ว  "คุณพาต้องมาทำไมที่นี่คะ" ต้องมนตร์เอ่ยหลังจากที่เขาจอดรถหรูไว้ที่หน้าที่ทำการสำนักงานเขตแห่งหนึ่ง ของกรุงเทพฯ    "จดทะเบียนกันให้เรียบร้อย ให้ย่าของเธอมั่นใจว่าเราแต่งงานกันจริงๆ" เขาเอ่ยพร้อมกับหันมาจ้องใบหน้าตกใจของหญิงสาว  "เพื่ออะไร! เราก็แค่รับปากท่านว่าเรา เอ่อ จะแต่งงานกันก็พอแล้วนี่คะ" เธอถามขณะเหลียวมองไปรอบๆ ตัว ทำราวกับว่าทรงโปรดกำลังจะพาเธอมาทำมิดีมิร้าย มากกว่าจะพามาจดทะเบียนสมรส  "ต้อง เธอไม่รู้จริงๆ เหรอว่าอาการของย่าเธอนั้น...หนักแล้ว"                                                                                            "แต่ต้องจะแต่งงานกับคนที่ทำให้พ่อตายได้ยังไง!" เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเจ็บปวด  พร้อมกับจ้องมองใบหน้าคมคายนิ่ง แล้วทรงโปรดก็ถอนหายใจพร้อมกับค่อยๆ ถอดแว่นตากันแดดออก เพื่อจะสบตาเธอกลับไปด้วยความจริงจังบ้าง                        นี่สินะที่ยังเป็นปมอยู่ในใจเธอ!                                                 ทรงโปรดยอมรับในคำพูดอันเจ็บปวดนี้โดยดุษฎี แต่ว่า ย่าของเธอที่รอเขาและเธออยู่ก็สำคัญเช่นกัน เขาจึงยื่นคำขาดไปว่า "ฉันจะเข้าไปรอข้างใน ถ้าเธอเห็นแก่ย่าของตัวเองก็ตามเข้าไปจดทะเบียนให้เรียบร้อยแล้วนำไปให้ย่าเธอดู เพื่อท่านจะได้มั่นใจว่าเราแต่งงานกันจริงๆ แต่ถ้าเธอยังให้อภัยฉันในเรื่องนั้นไม่ได้ เมื่อหมดเวลาการทำการของเขตในวันนี้ ฉันจะถือว่าเธอไม่ยอมรับวิธีนี้ ส่วนที่จะบอกกับย่าของเธอ ฉันคงโกหกคนใกล้จากไปให้ไม่ได้ด้วย เธอก็กลับไปบอกท่านเองก็แล้วกัน"                  ทรงโปรดพูดจบด้วยใบหน้าเคร่งขรึม แล้วเอ่ยต่อด้วยความน้อยใจอีกว่า "เราจะแต่งงานกันเงียบๆ พยายามไม่ให้มีใครรู้มากที่สุด และถ้าวันไหนที่เราจับตัวพี่ชายเธอเข้าคุกได้ ฉันจะหย่าให้เธอเป็นอิสระเอง...ต้องมนตร์!"                                        พูดจบ ก็เปิดประตูรถเพื่อเข้าไปรอภายในสำนักงานเขตแห่งนี้ แล้วที่เหลือให้เธอได้ตัดสินใจด้วยตัวเองไป                             ต้องมนตร์รู้สึกทรมานใจ กับการตัดสินใจในครั้งสำคัญนี้เหลือเกิน ใจหนึ่งก็ทนไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องพ่อ แต่ย่าก็รอให้เธอกับเขาถือใบจดทะเบียนสมรสไปยืนยัน เพื่อที่ท่านจะได้ไม่เป็นห่วงเธอจากพี่ชายแสนร้ายกาจคนนั้นอีก                                         หญิงสาวมองป้ายทำการเขต ที่คนนิยมมาจดทะเบียนสมรสกันมากที่สุด เขาไม่ได้จงใจเลือกว่าต้องเป็นเขต 'บางรัก' นี่หรอกนะ เพราะเขตนี้ถือว่าอยู่ใกล้โรงพยาบาลที่สุดแล้ว หญิงสาวเม้มริมฝีปากแน่นใคร่ครวญว่า เธอจะเลือกเอาทิฐิหรือจะเอาสิ่งสุดท้ายที่จะทำไว้ให้ย่าดีนะ ทรงโปรดก้มมองดูนาฬิกาข้อมือเห็นว่า ใกล้จะหมดเวลาทำการสำนักเขตแห่งนี้แล้ว ยามนี้เขาค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าหญิงสาวไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาแน่ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเก้าอี้ด้วยความผิดหวังเล็กน้อย แล้วตั้งท่าจะเดินออกไป แต่สายตาก็สบกับดวงตาคู่หนึ่งที่กำลังมองมาทางเขาอยู่พอดี เขาสบสายตาด้วยความตื่นเต้นอย่างไม่กะพริบ กระทั่งเจ้าของดวงตาคู่นี้มาหยุดอยู่ตรงหน้านั่นเอง แม้ดวงหน้าของเธอไม่ได้ดูสดใสกว่าทุกวัน เพราะยังอยู่ในภาวะทุกข์ตรมทางจิตใจอยู่ แต่สำหรับเขากลับรู้สึกว่าวันนี้เธอสวยกว่าทุกวันอย่างไรไม่รู้ เธอสบตาเขาเงียบๆ อีกนิด แล้วเอ่ยขึ้นว่า "ต้องขอโทษที่ทำให้คุณรอนาน... เพราะมันเป็นเรื่องสำคัญจึงต้องใช้เวลานานสำหรับการตัดสินใจ"  "ฉันเข้าใจ..."  "ขอให้คุณรู้ไว้ว่า ต้องทำทุกอย่างเพื่อย่า ไม่อยากให้ย่าจากไปด้วยความไม่สงบ และหลังจากจดทะเบียนสมรสแล้ว เราจะคงสถานะสามีภรรยาแต่ในนามเท่านั้น และต้องขอให้เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างเรามากที่สุด และที่สำคัญ...เราจะหย่าจากกันทันทีเมื่อจับตัวพี่ชายของต้องได้"  ทรงโปรดพยักหน้า "ได้"  เธอค่อนข้างสบายใจที่พูดกับเขาให้เข้าใจเสีย แล้วมองไปทางห้องที่ที่มีไว้สำหรับทำเรื่องที่เธอ และเขาจะมาติดต่อ จากนั้นเธอก็เป็นฝ่ายเดินนำเขาไปก่อน  ทรงโปรดยังไม่ตามเธอเข้าไป เพราะมัวแต่โทษตัวเองถึงเรื่องหย่าบ้าบอนี่...เนื่องจากทีแรก เขาพูดเรื่องหย่าขึ้นมาเพื่อใช้เกลี้ยกล่อมให้เธอยอมจดทะเบียนสมรสกับเขาก่อนเท่านั้น แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ต้องมนตร์นำมันมาใช้เป็นเงื่อนไขต่อรองให้เขาตกปากสัญญากับเธอเสียนี่  ทุกอย่างกำลังเป็นเรื่องที่สวนทางกันสิ้นดี! เขาอยากจะไล่ล่าตัวพี่ชายสาระเลวของเธอ ให้ได้ตัวมันให้ไวที่สุดเพื่อความปลอดภัยของเธอเอง แต่ในขณะเดียวกันเขาก็อยากเก็บสถานะสามีและภรรยาระหว่างเขากับเธอ ให้ยาวนานที่สุดด้วย! และ ถ้าหากเขาอยากจะให้ทุกอย่างมันดำเนินไปในทางเดียวกัน เป็นแบบที่เขาสมความปรารถนาทุกทาง นั่นก็หมายความว่า ในช่วงที่เขากำลังหาตัวศิโรจน์ เขาก็จะต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ต้องมนตร์รักเขาให้ได้ เธอจะได้เลิกพูดเรื่องหย่าบ้าบอนี่เสียที! เมื่อดำเนินการทางกฎหมายเรียบร้อยแล้ว ทรงโปรดก็ได้ทะเบียนสมรสมากอดให้อุ่นใจ และระหว่างทางที่กำลังกลับ โรงพยาบาลได้แจ้งมาว่าความดันของย่าเธอเริ่มตกลงเรื่อยๆ อันเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนัก ให้เธอและเขารีบมาพบท่านโดยไวที่สุดเสีย ทั้งคู่ต่างกลับมาที่ห้องเดิมอีกครั้ง โดยที่ในมือต่างก็ถือทะเบียนสมรสมาด้วย ทรงโปรดเหลียวมองหญิงสาวที่เริ่มร้องไห้เงียบๆ เธอพยายามจะกลั้นน้ำตา ไม่ให้ตัวเองฟูมหายเพื่อย่าของเธอจะได้ไม่ต้องทุกข์ร้อนอีก ฝ่ามือหนาค่อยๆ ยกขึ้นลูบแผ่นหลังเธอแผ่วเบาไปด้วย ต้องมนตร์จึงรีบก้มหน้าลงแล้วกลืนเสียงสะอื้นไห้ไป ก่อนจะเงยหน้ามาสบตาเขา เป็นสัญญาณว่าเธอพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้ง ทรงโปรดจึงเป็นฝ่ายจับมือเธอ แล้วพากันเดินตรงไปที่เตียงผู้ป่วยตรงหน้า จากนั้นเขาก็เป็นฝ่ายพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลกับร่างที่นอนหายใจแผ่วเบาลงเรื่อยๆ ว่า "ผมกับต้อง เราเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ผมให้สัญญาว่าจะดูแลต้องให้ดีที่สุด จะไม่ทำให้เธอเสียใจ คุณย่าเชื่อใจผมนะครับ" พร้อมกันนั้นก็ค่อยๆ วางแผ่นกระดาษลงบนลำตัวท่านใกล้กับมือข้างหนึ่งที่สุด ต้องมนตร์เองก็นึกว่า เขาพูดขึ้นเพื่อให้ย่าเธอคลายความเป็นห่วงและยอมจากไปเท่านั้น แต่แล้ว... คนป่วยที่พยายามปรือตาขึ้น มาสบตากับทรงโปรด ทั้งสองสบกันอย่างรู้กันเองว่า ที่ทรงโปรดเอ่ยมา เขาจะทำตามคำพูดไว้อย่างแน่นอน เท่านี้ตนก็หมดห่วงจริงๆ เพราะรู้ว่าทรงโปรดจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาและดูแลผู้หญิงที่เขารักได้ มือเหี่ยวแห้งข้างนั้นค่อยๆ ลูบที่ทะเบียนสมรสที่ถูกวางไว้บนลำตัวแผ่วๆ จากนั้นก็ค่อยๆ ปิดเปลือกตาที่ปรือหรี่อยู่แล้วลงอย่างช้าๆ แล้วทุกอย่างก็มืดมิด นิจนิรันดร์...                                   
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม