| 4 - 2

1084 คำ
เช้านี้ต้องมนตร์ตื่นมาไม่พบชายหนุ่ม มีเพียงอาหารเช้าง่ายๆ ที่เขาเตรียมไว้ให้เธอคือแซนด์วิชและนมหนึ่งแก้ว พร้อมกับข้อความที่เขาเขียนไว้บนโต๊ะอาหารว่า ตำรวจโทรมาบอกให้เขาไปที่โรงพัก เนื่องจากทางตำรวจได้คลิปจากกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านละแวกเดียวกันเกี่ยวกับผู้ชายที่น่าสงสัยคนหนึ่ง แต่เพราะเขาเห็นเธอนอนหลับสนิทอยู่ไม่กล้าปลุก จึงรับเป็นธุระเข้าไปติดตามเรื่องนี้แทน หญิงสาวถอนหายใจ ด้วยความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยที่มีชายหนุ่มอยู่ใกล้ๆ อีกทั้งก็รับเป็นธุระเข้ามาจัดการสิ่งต่างๆ แทนในยามที่เธออ่อนล้าทั้งกายและใจเช่นนี้                               หญิงสาวกัดแซนด์วิชได้คำหนึ่งด้วยอาการตื้อๆ พร้อมกับสัญญากับว่า หลังจากนี้ไปจะพยายามเข้มแข็งขึ้นเพื่อจะไม่ให้ตัวเองเป็นภาระเขาจนเกินไป  และเมื่อทานอาหารเช้าเรียบร้อย เธอก็รีบไลน์ไปลางานกับพีกี๋ โปรดิวเซอร์มือทองที่เธอฝึกงานด้วย เธอไม่ได้บอกสาเหตุเของการลา เพียงเพราะยังไม่พร้อมที่จะตอบคำถามของใครๆ ว่าย่าของเธอเป็นอย่างไร เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เธออยากจะใช้กับท่านมากที่สุดนั่นเอง                               เมื่อเรียบร้อย หญิงสาวก็รีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะเดินทางไปเยี่ยมย่าต่อ แม้ท่านจะนอนอย่างไม่รู้สึกตัวอยู่ในห้องผู้ป่วยวิกฤตก็ตาม ทรงโปรดมาที่โรงพัก หลังจากที่ได้รับโทรศัพท์ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เทปจากกล้องวงจรปิดในบ้านหลังหนึ่ง ที่ สามารถบันทึกภาพของชายท่าทางน่าสงสัย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นคนร้าย เมื่อไปถึง ทรงโปรดได้เห็นรูปร่างของผู้ชายคนนั้นว่ามีการสวมหมวกปกปิดหน้าตาเอาไว้ด้วย ทำให้ยากที่จะดูออกว่าเป็นใคร แต่ท่วงท่าทางการเดินและรูปร่างของผู้ชายคนนี้ทำให้ทรงโปรดรู้สึกคุ้นตากับอยู่ แต่ชายหนุ่มก็ยังนึกไม่ออกว่าเคยพบเห็นมันที่ไหนมาก่อน  หลังจากออกจากโรงพัก ชายหนุ่มก็รีบขับรถเข้าบริษัท และระหว่างที่กำลังเดินผ่านโถงกว้างชั้นล่างได้พบกับโรสิตา และกี๋ ทั้งสองกำลังถือแก้วกาแฟเจ้าดังเอาไว้ในมือด้วย และดูเหมือนโรสิตาจะจงใจพูดดังๆ ขณะเดินเข้ามาใกล้ตัวชายหนุ่มว่า "นักศึกษาฝึกงานกิตติมศักดิ์มารายงานตัวแค่วันเดียว แต่ก็ขอลางานไปเป็นอาทิตย์เลย แถมไม่แจ้งเหตุผลให้ทราบด้วย แบบนี้ก็ได้เหรอพี่กี๋"    กี๋ยิ้มแห้งๆ มองไปทางทรงโปรดด้วยความเกรงใจไม่น้อย ก่อนจะหันไปตอบคำถามโรสิตาอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ "น้องอาจจะติดธุระสำคัญจริงๆ อะค่ะน้องโรส" จากนั้นก็หันไปยกมือไหว้ทรงโปรด แล้วขอตัวจากตรงนี้ทันที เพราะไม่อยากมีส่วนร่วมพูดถึงประเด็น 'นักศึกษากิตติมศักดิ์' คนนี้ ส่วนโรสิตาที่จงใจเดินมาหาชายหนุ่มใกล้ เธอได้ยินเขาถอนหายใจแรงๆ หนึ่งทีก่อนจะหันมาพูดกับเธอว่า  "ช่วงนี้โรสก็อย่าไปกวนใจต้องเธอเลยนะ" เขาเอ่ยเสียงขรึม สีหน้าดูเครียดๆ พิกล "กวนใจ?" หญิงสาวทวนคำเหลอหลา ก่อนจะนึกถึงเรื่องวันก่อน แล้วกลั้วหัวเราะออกมาเล็กน้อย รีบตอบไปว่า "อ้อ! เด็กนั่นคงไปฟ้องโปรดล่ะสินะ!" ทรงโปรดเลือกที่จะเลื่อนสายตาหนีโรสิตา เวลานั้นต้องมนตร์ได้โทรเข้ามาพอดี ชายหนุ่มรีบรับสายจากเธอ ท่ามกลางความสนใจของโรสิตา ที่สังเกตกิริยาของเขาระหว่างคุยโทรศัพท์มือถือไปด้วย "ต้อง มีอะไรรึเปล่า" "ย่ารู้สึกตัวแล้วค่ะ! ย่ารู้สึกตัวแล้ว! ตอนนี้ย่าอยากพบคุณโปรดด่วน!" เธอบอกเสียงล่ะล่ำล่ะลัก                                       "ได้ ฉันจะไปหาย่าเธอเดี๋ยวนี้แหละ!" ทรงโปรดกดวางสาย เขามองหน้าโรสิตาเล็กน้อย แต่ไม่พูดอะไรกับหญิงสาวอีก ทำท่าจะรีบออกไปหาต้องมนตร์และย่าของเธอทันที              "โปรด! นั่นคุณจะไปไหน เรามีประชุมกันตอนบ่ายนะคะ!" โรสิตาพยายามท้วงชายหนุ่มด้วยท่าทางไม่พอใจทีเดียว               ทรงโปรดหันมาตอบแค่ "ผมให้จิ๋วเข้าประชุมแทน ถ้ามีเรื่องด่วนอะไร เธอจะรีบรายงานผมทันทีเขาหมายถึงจิราณีเลขาฯคนเก่งของเขานั่นเอง แต่โรสิตาก็ไม่ยอม เธอพยายามเตือนชายหนุ่มอีกครั้งในฐานะของลูกสาวหุ้นส่วนสำคัญของบริษัทนี้ ที่มีสิทธิ์จะท้วงติงทรงโปรดได้ "โปรด! คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ ประชุมตอนบ่ายนี้สำคัญกับบริษัทมากนะ!"                                                      ทีนี้ทรงโปรดไม่หันกลับไปตอบโรสิตาอีกเลย เพราะที่ที่เขาจะไปก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ย่าของหญิงสาวรู้สึกตัวแล้ว สิ่งแรกที่ท่านเรียกหาคือเขา นั่นหมายความว่าท่านอาจจะต้องการให้เขาไปจัดการอะไรสักอย่าง ตามลางสังหรณ์ใจที่ไม่ดีของเขาจากการได้สบตากับนายแพทย์คนนั้นเมื่อคืนแล้วนั่นเอง โรสิตามองตามร่างสูงที่หุนหันออกไปจากบริษัท ด้วยความขัดเคืองใจ เด็กต้องมนตร์และย่าของมันมีอะไรดีนะ เพียงแค่ชายหนุ่มรับโทรศัพท์คุยกันไม่กี่คำเขาก็รีบออกไปหาแล้ว โดยยอมทิ้งประชุมตอนบ่ายกับพวกเธอเสียด้วย!                          ไม่นาน... ทรงโปรดก็มาถึงโรงพยาบาล เขาสวมหมวกและชุดคลุมสีฟ้า เพื่อเข้าเยี่ยมผู้ป่วยอาการหนัก ภายในห้องนี้ต้องมนตร์ที่อยู่ในชุดเดียวกันกำลังยืนรอเขาอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย ดวงหน้าหวานยังคงมีริ้วรอยความเศร้าอยู่ เธอไม่ได้ดูสดใสขึ้นกว่าตอนที่ย่าของเธอยังไม่รู้สึกตัวเลย และตอนนี้บนเตียงที่มีเครื่องมือทางการแพทย์พ่วงพะรุงพะรังกับตัวของผู้ป่วย                                        พอเห็นเขาเดินมาที่เตียงช้าๆ ดวงตาทั้งสองของผู้สูงวัยที่คอยแต่เหลือบแลทางประตูห้องเหมือนคอยมองหาเขาอยู่ตลอดก็มีน้ำตาไหลรินลงเสียอย่างนั้น ราวกับว่าท่านดีใจมากมายที่ชายหนุ่มมาปรากฏตัวเสียที                                          
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม