| 1 - 3

1684 คำ
 'ขอดีๆ ไม่ให้เหรอ... อย่างนี้พี่ต้องขอค้นกระเป๋าน้องพี่สักหน่อยแล้ว อย่างน้อยวันนี้ น้องพี่ก็ต้องมีเงินติดตัวเป็นพันๆ แน่'     ต้องมนตร์กลัวหันหลังจะวิ่งหนี แต่ศิโรจน์พี่ชายต่างบิดาก็รีบวิ่งมาคว้าแขนข้างหนึ่งของเธอเอาไว้จนได้                               'ขอกันดีๆ ไม่ให้เหรอน้องสาว!' ว่าแล้วก็ใช้มืออีกข้างกระตุกกระเป๋านักเรียนจากเธอไป เพื่อจะค้นหาเงิน ก่อนจะเจอกระเป๋าใบสตางค์ใบเล็กก็หยิบขึ้นมาเตรียมจะเปิดดู แต่ต้องมนตร์ก็รีบเข้าไปแย่งและทุบตีพี่ชาย เพราะเงินที่แลกมาด้วยชีวิตของพ่อ เขาอย่าหวังว่าจะได้จากเธอไป แม้แต่บาทเดียว!    ศิโรจน์หยิบธนบัตรใบร้อยจำนวนสามใบที่อยู่ในกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะผลักตัวน้องสาวออกไปแล้วถามอย่างหงุดหงิด 'อะไร? ตอนนี้มีเงินเป็นสิบๆ ล้านแล้ว แต่พกติดตัวมาแค่สามร้อย...แค่เนี้ย!' ก่อนจะโยนกระเป๋านักเรียนของเธอทิ้งลงกับพื้นตาม  'เอามา! เงินนั่นไม่ใช่ของพี่!'                                             'ไม่ใช่ได้ยังไง ก็เราเป็นพี่น้องกัน น้องต้องแบ่งมาให้พี่ใช้บ้างก็ถูกแล้วนี่' ก่อนจะขยับตัวไปจับคางเล็กๆ ของน้องสาวแล้วบีบตาม 'จำไว้นะ พรุ่งนี้พี่จะมารอน้องรักของพี่ที่เดิม เวลาเดิม ให้น้องเอาเงินมาแบ่งพี่ใช้ก่อนสักหมื่นสองหมื่นนะ เขาใจ๊...'            'ถุย!' ต้องมนตร์ถุยน้ำลายใส่หน้าพี่ชายคนนี้ด้วยความขยะแขยงกับความคิดเช่นนี้                                                        'อีต้อง! พูดไม่รู้เรื่องใช่มั้ย!' ศิโรจน์ที่โกรธจัดได้เงื้อมือข้างหนึ่งขึ้นมาหมายจะตบสั่งสอนน้องสาวคนดื้อ แต่แล้ว มือข้างนั้นของศิโรจน์ก็ถูกคว้าเอาไว้กลางอากาศ ตามด้วยแรงบีบอย่างมหาศาลอีก                                                                   'โอ๊ย!'  ต้องมนตร์ที่เผลอหลับตาลงด้วยความหวาดกลัวว่า ฝ่ามือข้างที่เงื้อง้างอยู่นั้นจะตบลงมาที่ใบหน้า แต่แล้วเธอก็รีบลืมตาขึ้นมาตามเสียงร้อง 'โอ๊ย' ของพี่ชาย เธอเห็นศิโรจน์กำลังนิ่วหน้าลงด้วยความเจ็บปวด แล้วตัวเขาก็ถูกเหวี่ยงออกไปด้วยมือข้างหนึ่งของใครบางคน 'คุณ...'                                                                          เขานั่นเองที่มาช่วยเธอเอาไว้ได้ทัน ใบหน้าถมึงทึงภายใต้แว่นตากันแดดกำลังมองไปที่ศิโรจน์ที่ล้มลงอยู่บนพื้น                    'จะทำอะไร!'                                                               'อะไร? นี่มันเรื่องของคนอื่นโว้ย มึงเป็น... เอ๊ะ!' ศิโรจน์จำได้แล้วว่า ผู้ชายคนนี้ก็คือคู่กรณีของต้องมนตร์นั่นเอง ศิโรจน์จึงไม่กล้าเกรี้ยวกราด พอลุกขึ้นยืนได้ ก็หันไปจ้องน้องสาว แล้วบอก '... อย่าลืมนะที่พี่บอก เอ่อแม่... เอ่อ แม่ฝากพี่มาบอก!' แล้วก็รีบวิ่งหนีไปทางอื่นทันที                                             ทรงโปรดจะวิ่งตามไป แต่ฝ่ามือเขาก็ถูกมือเล็กนุ่มนิ่มจับเอาไว้ ตามด้วยเสียงห้ามอีก                                                       'อย่าค่ะ!'                                                                 เขาหันมาเลิกคิ้ว เธอจึงส่ายหน้าตาม สีหน้าดูลำบากใจแต่ก็บอกว่า 'เขา...เขาเป็นพี่ชายหนูเอง'                                           คราวนี้คิ้วเข้มเหนือแว่นตาสีดำนั่นเลิกขึ้นสูงกว่าเดิมอีก เพราะที่เขารู้จากข้อมูลทั้งหมดของเธอกับย่า ที่ทนายความเคยรายงานเขาเอาไว้ บอกว่าบิดาของเธอมีลูกสาวเพียงคนเดียว ซึ่งก็คือตัวเธอนี่เอง แต่พอเธออธิบายเพิ่ม เขาก็เข้าใจอีก                     'พี่ชายคนละพ่อ'                                                             'แล้วเขามาทำไม?'                                                 ต้องมนตร์ถอนใจมีอาการเครียดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เธอปล่อยมือหนาที่คว้าไว้ทันที ทว่า ทรงโปรดกลับจับมือเธอเอาไว้แทน แล้วออกแรงดึงตัวเธอเล็กน้อย                                              แต่ต้องมนตร์ก็รีบขืนตัวเอาไว้ด้วยความตกใจ ทรงโปรดจึงหันกลับมาบอกเธอว่า 'ไปขึ้นรถกับฉัน ฉันจะพาเธอไปส่งที่บ้านเอง'                                     ‘ไม่...' เธอปฏิเสธ ความจริงที่บอกว่าเขาเป็นคนที่ทำให้พ่อตาย ทำให้เธอไม่อยากอยู่ใกล้เขา          แต่เขายิ่งไม่ยอม ทรงโปรดโน้มตัวลงมาจ้องตาดุๆ ผ่านแว่นตากันแดด แล้วออกคำสั่ง 'เธอจะต้องขึ้นรถไปกับฉันเดี๋ยวนี้! ถ้าไม่อยากให้พี่ชายของเธอมาหาอีก'                                                                เขารู้ว่าเธอไม่ค่อยชอบเขา บางทีอาจจะเข้าขั้นเกลียดด้วยซ้ำ เธอไม่เหมือนกับย่าของเธอ ซึ่งรายนั้นมีความเข้าใจโลก เข้าใจเขา และยอมรับพร้อมกับให้อภัยเขาได้ดีกว่า                                 ต้องมนตร์เริ่มลังเล จริงด้วย... เพราะเธอก็ไม่แน่ใจว่าพี่ชายคนนี้จะไปแล้วจริงๆ หรือยังวนเวียนอยู่แถวนี้เพื่อจะกลับมาขู่เอาเงินจากเธอไปอีก             แล้วชายหนุ่มก็เอ่ยอย่างเครียดๆ อีก 'ระหว่างทางฉันจะต้องถามเธอให้แน่ใจว่าพี่ชายคนเมื่อกี้ เขาทำอะไร อยู่ที่ไหน และเขาคงไม่ได้บังเอิญมาเจอเธอแน่ ใช่มั้ย'                                สุดท้าย ต้องมนตร์จำต้องพยักหน้ารับแล้วยอมทำตามความต้องการเขาไปก่อน ชายหนุ่มจูงมือเธอไปหยิบกระเป๋านักเรียนพร้อมกับกระเป๋าสตางค์ขึ้นมา ก่อนจะพาไปขึ้นรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีดำคันนั้นต่อไป   ระหว่างทางก่อนจะถึงบ้าน เขาก็ซักถามเรื่องพี่ชายคนนี้จากเธอเพิ่ม ต้องมนตร์จึงเล่าว่า 'พี่โรจน์เป็นพี่ชาย แต่คนละพ่อ พี่โรจน์อยู่กับแม่แถวสิงห์บุรี หลังจากเลิกกับพ่อ แม่ก็กลับไปหาสามีคนแรก ซึ่งก็คือพ่อของพี่โรจน์'                                'หมายความว่ายังไง? ที่พี่ชายเธอกลับมาหาเพราะจะมาขู่เอาเงินจากเธอ ใช่มั้ย'                                                               ต้องมนตร์จำต้องพยักหน้ารับ 'ค่ะ'                                   จากนั้นเธอก็ได้ยินเขาถอนหายใจออกเฮือกใหญ่ ก่อนจะสบถตามอีกเล็กน้อย                                                                       'บ้าจริง!'                                                                      ที่ทรงโปรดสบถ เพราะรู้สึกหัวเสียกับความไม่รอบคอบของตัวเอง ลืมคิดเอาไว้ว่า หลังจากข่าวที่ลงกันอย่างครึกโครมว่าเขาได้ชดใช้เงินให้ลูกสาวและมารดาของคู่กรณี จะเป็นดาบสองคมต่อคนทั้งสองอย่างไร กับบ้านหลังเก่าๆ ทรุดโทรมหลังนั้น และยังอยู่ในเขตชุมชนแออัดเช่นนี้ที่มีแค่คนแก่และ... เด็กที่กำลังโตเป็นสาวเต็มตัว                                                                            แถมหน้าตาก็เธอก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรอีกด้วย พวกเขาทั้งสองจะปกป้องกันอย่างไร หากมีอะไรทำนองนี้เกิดขึ้นมาอีก โดยเฉพาะกับพี่ชายของเธอ ทรงโปรดเชื่อว่า เขาคงจะกลับมาหาหญิงสาวอีกแน่! หลังจากที่นั่งรถกับเขามาถึงบ้านแล้ว ต้องมนตร์ก็หลบหน้าเขาไปเลย เธออาบน้ำ ทานข้าวและทำการบ้านอยู่ที่ชั้นบน และบางครั้งเธอก็ยังได้ยินเสียงของเขาพูดคุยกับย่าเบาๆ ที่ชั้นล่างของบ้านด้วย กระทั่งสามทุ่มเธอก็ได้ยินเสียงรถของเขาขับออกไปอย่างช้าๆ ต้องมนตร์จึงลงมาจากชั้นบน เห็นย่ากำลังไล่ปิดประตู หน้าต่างด้วยการลงกลอนอย่างแน่นหนา พร้อมกับทดสอบซ้ำๆ ถึงความแข็งแรงของมันอีกด้วย                                   จากนั้น ย่าก็หันมาบอกกับเธอว่า พรุ่งนี้ให้เธอหยุดเรียนเอาไว้ก่อน หรือบางทีเธออาจจะได้หยุดถึงสองหรือสามวันก็ได้          'ทำไมล่ะคะย่า!' หลานสาวตกใจ เพราะปกติย่าจะไม่ยอมให้เธอหยุดเรียนง่ายๆ เลย                                                           'ก็... คุณโปรดจะให้คนไปติดต่อทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้ต้องน่ะสิ และต้องจะได้หยุดเรียนเพื่อเตรียมเก็บข้าวของด้วย ของไหนที่ไม่จำเป็นก็ทิ้งไว้ที่บ้านหลังนี้ซะ'                                                เด็กสาวเอียงศีรษะเล็กน้อยอย่างงุนงง 'เก็บทำไม? หรือเราจะย้ายบ้าน? แล้ว...เราจะย้ายไปอยู่ที่ไหนคะย่า!'                        คนเป็นย่าเดินมาลูบศีรษะหลานสาวเบาๆ ก่อนจะจูงมือเธอมานั่งลงกับโซฟาเก่าๆ เพื่อพูดจากันให้เป็นกิจจะลักษณะกว่าเดิม 'ก็คุณโปรดน่ะสิ คุยกับย่าว่าจะให้เราสองคนไปอยู่บ้านหลังใหม่ที่ดีกว่าหลังนี้'                                                              'ย่าไม่อยากอยู่บ้านของพ่อแล้วเหรอ' หลานสาวถามกลับ พลางเหลียวมองบ้านหลังนี้ของพ่ออย่างอาลัยอาวรณ์ บ้าน...ที่พ่อขยันทำงานเก็บเงินซื้อเอาไว้ให้ลูกสาวกับมารดาอยู่                         'ต้อง ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมอีกแล้วนะลูก' ย่าบอก แล้วถอนหายใจตามเล็กน้อย ก่อนจะอธิบายเพิ่มว่า 'ตอนนี้ทุกอย่างมันอันตรายกับเราสองคน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ย่าก็ไม่สามารถปกป้องต้องได้หรอกนะ และหากเกิดอะไรขึ้นกับต้องกับย่าจริงๆ คุณโปรดว่า เขาคงจะรู้สึกผิดกับวิญญาณของพ่อเราอีก ที่ย่ายอมย้ายตามคำแนะนำของคุณโปรด ไม่ใช่เพราะความอยากได้อยากมี หรือเห่อเหิมในบ้านหลังที่ดีกว่า ใหญ่กว่านี้หรอก แต่เพราะย่าเห็นแก่ความปลอดภัยของต้องเท่านั้น ย่าเลยเห็นด้วยกับคุณโปรดทุกอย่าง'                                                          เพราะความเยาว์วัย ทำให้ต้องมนตร์ยังมองอะไรไม่รอบคอบพอ แต่เมื่อย่าอธิบายถึงเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ รวมถึงเรื่องพี่ชายต่างบิดาคนนั้น ซึ่งเขาก็คงเล่าให้ย่าฟังหมดแล้ว สุดท้ายแล้วแม้ไม่อยากทิ้งบ้านของพ่อ แต่ต้องมนตร์ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงชะตาในครั้งนี้ได้                                              'เข้าใจแล้วค่ะย่า' เธอรับคำ ก่อนจะค่อยๆ ซบลงกับบ่าอันแห้งแกร็นของย่า แล้วใช้ดวงตาทั้งสองกวาดดูภายในบ้านหลังนี้ด้วยความอาลัยอาวรณ์อีกครั้ง ราวกับจะจดบันทึกรายละเอียดของมันเอาไว้ด้วยดวงใจและดวงตาคู่นี้ให้ได้มากที่สุด เพราะคงอีกนานกว่าเธอจะได้กลับมาอยู่อีก หรือบางทีอาจจะไม่อีกเลยก็ได้ เพราะในอนาคตก็เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดาได้อยู่แล้ว                                                                                                                                                                                                                                                                                           
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม