บทที่ 2 : 1/2

1234 คำ
KANOM-PHING TALKS นาฬิกาบอกเวลา 16.00น. เป็นเวลาที่ฉันไม่อยากให้มันต้องเดินทางมาถึง เพราะนี่คือเวลาเลิกคลาส และเป็นเวลาที่ฉันจะต้องไปคุมกลุ่มวิศวะน่ากลัวกลุ่มนั้น ฉันยังจำคำพูดของนายโหดที่บอกว่าจะตีฉันได้ดี แต่ในเมื่อนี่คือหน้าที่ ที่ฉันจะต้องทำก็คงเลี่ยงไม่ได้ หนทางเอาตัวรอดก็คือกิ่งไม้หนา ที่หักลงมาจากต้นไม้ใหญ่หน้าตึกศูนย์หนังสือ ฉันหยิบมันติดมือขึ้นมาบนตึกด้วย กะว่าถ้าโดนพวกนั้นทำร้าย ฉันจะฟาดไม้อันนี้เข้าที่ใบหน้าเขา พอขึ้นมาถึงชั้นห้า พวกเขานั่งกันอยู่ที่พื้นราวกับว่ากำลังรอฉันอยู่ สายตาทั้งห้าคู่จับจ้องมาที่ฉัน ความประหม่าเกิดขึ้นอีกครั้ง แม้จะพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ทำใจมาจากข้างล่างแล้ว แต่พอโดนจับจ้อง ก็ต้องถึงกับขาสั่น ความกล้าแทบหายไปหมดสิ้น พวกเขามองฉันราวกับว่านี่คือตัวประหลาด ไม่เคยพบเคยเห็นมาจากที่ไหนประมาณนั้นเลย นั่นยิ่งทำให้ฉันกลัวเข้าไปอีก "มะ มองอะไร ทะ ทำ ทำ คะ ความสะอาดสิคะ" คำพูดเสียงสั่น ตะกุกตะกัก พูดแทบฟังไม่รู้เรื่องออกจากปากฉัน ให้ตายเถอะ พวกเขากลั้นหัวเราะเอาไว้ นี่นอกจากฉันจะเป็นตัวประหลาดแล้ว ยังเป็นตัวตลกอีกด้วยหรือไง "ลุกสิคะ ฉันอยากกลับแล้ว" พยายามตั้งสติ ค่อย ๆ พูดให้พวกเขาฟังรู้เรื่อง คราวนี้พวกเขาทั้งห้าคนคลี่ยิ้มออกมา แล้วลุกขึ้นยืน แต่ละคนจับไม้กวาด ไม้ถูเตรียมพร้อมทำความสะอาด "เช็กชื่อด้วยครับ ผมชื่อชลธี" ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาฉัน บอกชื่อตัวเอง ฉันพยักหน้ารับแล้วติ๊กชื่อตามที่แต่ละคนเดินเข้ามาบอก จนถึงคนสุดท้าย... "ชื่อภณ เรียกว่าพี่ภณ" ฉันเงยหน้าขึ้นจากแผ่นกระดาษ สบตาคนตัวสูงที่ก้มลงมองหน้าฉัน หัวใจสั่นระริก ไม่รู้ว่าเพราะความกลัวหรือเป็นเพราะความหล่อของเขากันแน่... ใช่แล้ว ฉันยอมรับว่าเขาหล่อ หล่อมากเลยทีเดียว แต่บนใบหน้าหล่อนั้นมีรอยช้ำที่บริเวณโหนกแก้ม ละสายตาจากใบหน้าเขา แล้วดูชื่อที่เหลืออยู่ ไม่มีชื่อภณ มีแต่ชื่อ "ภาณุ" ฉันเอ่ยขึ้นมาแล้วเงยหน้าขึ้นมองหน้าเขาอีกครั้ง "อืม ภณ ภาณุ" เขาตอบรับยืนยันว่านี่คือชื่อของเขา ฉันพยักหน้าแล้วก้มลงติ๊กชื่อเขา "เธอชื่ออะไร" อีกฝ่ายยังไม่ไปทำงาน เขาถามชื่อฉันกลับมา ฉันก้มหน้าอยู่แบบนั้น ไม่ยอมตอบ เพราะฉันไม่ได้อยากทำความรู้จักด้วยเลยแม้แต่น้อย "ชื่ออะไร!" เฮือก! "ขนมผิง" สะดุ้งโหยงเพราะเขาถามเสียงดัง รีบบอกชื่อตัวเองกลับไปด้วยความกลัว แค่ถามชื่อเขายังดูน่ากลัวขนาดนี้ ต่อ ๆ ไป เขาจะน่ากลัวขนาดไหน "ไอ้ภณ เขาตกใจหมดแล้ว" เพื่อนเขาที่ชื่อณัฐวุฒิเอ่ยขึ้นมา ฉันหันไปมองหน้าขอความช่วยเหลือ ช่วยเอานายโหดนี่ออกไปที... "ก็ดื้ออะ" น้ำเสียงของคนข้าง ๆ อ่อนลง ออกจะหยอกล้อด้วยซ้ำ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ฉันหายกลัวหรอกนะ "มึงมาทำงานเลย น้องเขายืนแข็งทื่อแล้วเนี่ย" คนที่ชื่อราเชนทร์เอ่ยเรียกคนข้าง ๆ ฉัน แต่เขาก็ไม่ยอมก้าวขาออกไปเสียที จะหันไปมองก็ไม่กล้า "รอตรงนี้นะ!" อยู่ ๆ เขาก็ตะโกนใส่หูฉัน ด้วยความตกใจฉันเลยจะฟาดเขาด้วยไม้ที่ถืออยู่ในมือ "เฮ้ย ใจเย็น" เขากระโดดหลบอย่างรวดเร็ว อาจจะเป็นเพราะเขาชอบมีเรื่อง ถึงหลบได้เป็นอย่างดีขนาดนี้ "แค่ล้อเล่นเอง" เขายืนฉีกยิ้มอยู่ตรงหน้า พวกเพื่อนเขาพากันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แล้วไปทำงานของตัวเอง ฉันทำตัวไม่ถูก เลยทำท่าจะฟาดใส่เขาอีกครั้ง อีกฝ่ายหัวเราะแล้วรีบวิ่งหนีเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อที่จะทำหน้าที่ของตัวเอง บางมุมก็ดูน่ากลัว บางมุมก็ดูไร้สาระ แต่เลือกได้ก็ขอไม่ดูดีกว่า หันหน้าหนีคนที่อยู่ในห้องน้ำ เขากำลังฉีดน้ำไล่ฟองน้ำยา แต่สายตากลับเอาแต่จ้องมองมาที่ฉัน แบบนี้จะยืนดูเขาได้ยังไงกันล่ะ... ฉันหนีมานั่งที่ขั้นบันได โดยที่หันหลังให้พวกเขา ปล่อยให้ทำงานกันไป "ไป!" "ว้ายยย" เอียงหน้าหลบ อีกทั้งยังยกมือขึ้นปิดหู เพราะเสียงทุ้มของคนข้างหลังดังลั่นเข้ามา ฉันล่ะเบื่อแล้วนะที่ต้องคอยกลัวพวกเขาแบบนี้ ฉันลุกขึ้นยืนที่บันไดขั้นล่าง เงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่ข้างบน เขามองฉันนิ่ง ๆ ส่วนพวกเพื่อนเขาก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก คาดว่าคงสังเกตท่าทีที่เหมือนคนจะร้องไห้ของฉันได้ ฉันเป็นพวกที่ร้องไห้ง่าย โดนดุ หรือกลัวอะไรมาก ๆ ก็ร้องไห้ออกมา สัมผัสได้ถึงความร้อนที่ขอบตา อีกไม่กี่วินาทีจะต้องมีหยาดน้ำสีใสไหลร่วงลงมาเป็นแน่ ฉันจึงรีบหันหลังให้เขา แล้วจะเดินหนีพวกวิศวะกลุ่มนี้ ไม่เอาแล้ว ฉันทนอยู่กับคนพวกนี้ไม่ได้ ฉันจะไปบอกอาจารย์ว่าให้หักคะแนนดีกว่า ดีกว่าที่ต้องส่งฉันมาอยู่ที่นี่ แต่ฉันก้าวลงไปได้แค่ไม่กี่ขั้น ไอ้คนโหดก็วิ่งลงบันไดมายืนดักหน้าฉันไว้ เขากางแขนออกกั้นไม่ให้ฉันเดินต่อ "จะไปไหน ยังทำความสะอาดไม่เสร็จเลย" น้ำเสียงอ่อนโยนผิดกับเมื่อสักครู่นี้ ฉันไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้าตัวเองแบบลวก ๆ "พวกมึงลงมาก่อนได้ปะ กูขอเคลียร์กับเด็กขี้แงคนนี้ก่อน" เขาเอ่ยปากบอกเพื่อนตัวเอง ชายหนุ่มอีกสี่คนเดินเรียงกันลงมา จะว่าไปพวกเขาก็มีมารยาทดีเหมือนกัน ที่รู้ว่าฉันร้องไห้ แต่ไม่มองให้ฉันรู้สึกอายที่ขี้แงแบบนี้ เขาเดินลงไปกันแบบหันหน้าไปอีกฝั่งเลยด้วยซ้ำ ถ้านายคนโหดทำตัวดีได้สักครึ่งหนึ่งของเพื่อนเขา ฉันคงไม่ต้องกลัวจนร้องไห้แบบนี้หรอก "ขึ้นมาเคลียร์กันก่อนเร็ว" ฝ่ามือหนาของคนตรงหน้า คว้าที่ข้อมือฉันไว้ "ถ้าไม่ยอมเดิน ฉันจะอุ้มนะ" คำขู่ของเขาได้ผล ฉันยอมเดินขึ้นไป ดีกว่าจะให้คนแบบเขามาอุ้มฉันไว้ แต่เมื่อขึ้นมาถึงเขาก็ดึงฉันเข้ามาในห้องน้ำหญิง แล้วปิดประตูเอาไว้ "นี่จะทำอะไรอะ" เห็นเขากดล็อกประตูแล้วใจคอไม่ดี กลัวว่าเขาจะทำมิดีมิร้ายใส่ "ก็เคลียร์ไง" เขาเดินเข้ามาหาฉัน ด้วยความกลัวฉันก็เลยเดินถอยหลังมาเรื่อย ๆ จนชนเข้ากับขอบเคาน์เตอร์อ่างล้างมือ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม