เกลียดอะไร..ก็เจออย่างนั้น!
เมย่า มัสยา มาคาเอล นางแบบสาวพราวเสน่ห์ วัย 25ปี ด้วยความสูง 175 เซนติเมตรทำให้เธอเป็นนางแบบที่ดูโดดเด่นสวยสง่า เธอเป็นนางแบบมาตั้งแต่วัยเด็ก มัสยาอาศัยอยู่ที่สตูดิโอร่วมรักกับแด็ดดี๊หม่ามี้และน้องแฝดจนเธออายุได้ 15ปี เธอได้เดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศอังกฤษร่วมกับทำงานเป็นนางแบบมืออาชีพไปด้วย โดยมีขุนพัฒน์เพื่อนสมัยเด็กเดินทางไปเรียนด้วยกันและป้าแองจี้ตามไปดูแล แด็ดดี๊มาร์คคอยเดินทางเทียวไปเทียวมา ส่วนหม่ามี้หวายหรือมัมของเธอนั้นอยู่ดูแลคุณทวดกับน้องฝาแฝดของเธอ จนกระทั่งเธอเรียนจบเกรด12 น้องฝาแฝดหญิงชาย โฟกัสกับชัตเตอร์ก็เดินทางตามเธอไปเรียนและอาศัยอยู่กับเธอที่ประเทศอังกฤษด้วยกัน ไม่กี่ปีหลังจากนั้นคุณทวดก็จากไปอย่างสงบด้วยความชรา เมื่อคุณทวดจากไปและลูกๆทั้งสามก็ไปเรียนที่อังกฤษกันหมดแด็ดดี๊ก็พาหม่ามี้กลับไปอยู่ที่คอนโดกันเพียงสองคน
หลังจากมัสยาทำงานที่เธอรักพร้อมกับเรียนหนังสือควบคู่กันไปด้วย เธอก็ส่งเสียตัวเองเรียนจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี เธอก็ยังคงทำงานนางแบบเป็นอาชีพหลัก ทำงานดูแลและส่งให้น้องแฝดของเธอเรียนจนตอนนี้ทั้งคู่กำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังในประเทศอังกฤษ เมื่อน้องแฝดสามารถรับผิดชอบดูแลตัวเองได้ นางแบบสาวก็เดินทางกลับมายังประเทศไทย อาชีพหลักของเธอก็คือการเป็นนางแบบ เดินแบบถ่ายแบบให้กับแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ หรือถ่ายโฆษณา ส่วนอาชีพรองคือการเป็นนักแสดง ที่เธอเพิ่งผันตัวมาลองรับงานแสดงละครออกอากาศจบไปเรื่องแรก ด้วยรูปร่างสูงเพรียวหุ่นเซ็กซี่ก็หนีไม่พ้นบทนางร้ายยั่วสวาทตบตีแย่งชิงพระเอก เธอแสดงเพียงแค่เรื่องเดียวก็เป็นที่รู้จัก กลายเป็นนางร้ายดาวรุ่ง มัสยาเป็นคนตรงไปตรงมา มั่นใจในตัวเอง กล้าคิดกล้าทำ เธออยากทำอะไรก็ทำ อยากได้อะไรก็จะทำให้สำเร็จ ไม่ชอบให้ใครมาดูถูกเหยียดหยาม มัสยากลับมาเมืองไทยเธอก็อาศัยอยู่ที่คอนโดใจกลางเมืองไม่ไกลจากคอนโดของแด็ดดี๊กับหม่ามี้ของเธอมากนัก ที่เธอไม่อยู่คอนโดเดียวกันเพราะไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวและเวลาพักผ่อนของบุพการีทั้งสองเนื่องจากเวลาการทำงานของเธอนั้นไม่แน่นอน ไหนจะเวลาที่เพื่อนๆของเธอมาดื่มสังสรรค์หรือปาร์ตี้กันอีก เธอไม่อยากให้แด็ดดี๊กับหมามี้ต้องคอยรอหรือต้องกังวลเป็นห่วงเธอ
รินณภัทร พชรพิทักษ์กุล หรือ ฟิค ผู้บริหารหนุ่มเจ้าของสำนักพิมพ์และนิตยสาร “The Men Plus Magazine” นิตยสารในเครือสำหรับผู้ชายที่ใหญ่ที่สุดในโลก สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นนิตยสารเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ของผู้ชายทั้งการทำงาน สถานที่เที่ยว เครื่องดื่มหรืออาหารการกินที่ผู้ชายโปรดปราน รวมไปถึงการดูแลสุขภาพและการออกกำลังกาย ครอบคลุมวิถีชีวิตของผู้ชาย เช่น สมรรถภาพทางกาย โภชนาการ รวมถึงเทรนแฟชั่นที่กำลังได้รับความนิยม
รินณภัทรหนุ่มหล่อสมาร์ทวัย 25ปี หลังจากเขาไปศึกษาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท เขาก็กลับมารับช่วงต่อจากป๊าณภัทร เป็นCEOหนุ่มไฟแรง ดูแลและพัฒนานิตยสารจนเป็นที่ยอมรับและเป็นที่รู้จักในประเทศไทยจนเขาได้เป็นเจ้าของนิตยสารและสำนักพิมพ์แห่งนี้.. รินณภัทรเป็นหนุ่มหล่อขาวตี๋สุขุมนิ่งขรึม จริงจังกับการทำงาน หลังจากที่ณภัทรปะป๊าของเขาวางมือยกบริษัทและสำนักพิมพ์ให้เขาดูแลเขาก็มุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ส่วนเรื่องความรัก เขาเป็นคนเซนซิทีฟและจริงจังกับเรื่องความรักมากเช่นกัน เขาชอบผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานเป็นแม่บ้านแม่เรือนเหมือนอย่างรินรดาหม่าม้าของเขา และไม่ชอบผู้หญิงเซ็กซี่ที่แต่งตัวหวือหวาเปิดนั่นโชว์นี่ให้ใครต่อใครเชยชมอย่างไม่เหมาะสม ตอนนี้เขายังไม่เจอคนที่ถูกใจ จึงไม่คิดจริงจัง แต่ใช่ว่าจะไม่มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิต เพราะด้วยความหล่อและหน้าที่การงานของเขาก็มีผู้หญิงมากหน้าหลายตาวนเวียนเข้ามาในชีวิตไม่เคยขาด แต่เขายังไม่คิดที่จะมีครอบครัวหรือลงเอยกับใคร หญิงสาวคนล่าสุดที่เขาพูดคุยหรือไปไหนมาไหนด้วยบ้างก็คือ นารา นารากร นางเอกสาวแสนเรียบร้อยอ่อนหวานน่ารักและอ่อนโยน เธอเป็นรุ่นน้องของเขาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย
“ฟิค..หม่าม้าได้ข่าวมาจากปะป๊าว่าลูกกำลังหานางแบบมาถ่ายแบบลงปกนิตยสารของลูกใช่มั้ย” รินรดาเอ่ยถามขึ้นขณะนั่งรับประทานอาหารเช้าร่วมกับลูกชาย
“ครับม้า..มีอะไรหรือเปล่าครับ”
“เพื่อนของหม่าม้ามีลูกสาวที่เป็นนางแบบชื่อดังเพิ่งจะเดินทางกลับมาอยู่เมืองไทยไม่ถึงปี ทั้งสวยและเซ็กซี่ เผื่อลูกจะสนใจ..”
“ม้าก็รู้ว่าผมไม่ชอบระบบเด็กเส้นเด็กฝากอะไรทั้งนั้น!” รินณภัทรหน้านิ่วคิ้วขมวดตอบกลับหม่าม้าของเขาเสียงขรึม ยิ่งได้ยินว่านางแบบเซ็กซี่เขาก็ยิ่งไม่ชอบ
“แต่หม่าม้าแค่อยากจะแนะนำเผื่อลูกจะสนใจลูกสาวเพื่อนรักของม้า..”
“ผมไม่สนใจครับ! นิตยสารของผมต้องคัดสรรคนที่มีคุณภาพ ไม่ใช่แค่รูปร่างหน้าตา”
“แต่ว่าหนูเมย่า..”
“ริน! ผมบอกแล้วว่าอย่าก้าวก่ายงานของลูก..”
“ค่ะ..รินไม่ก้าวก่ายก็ได้..” รินรดาก้มหน้าทานอาหารตรงหน้าเงียบๆอย่างเสียดายที่อุตส่าห์หวังว่าลูกชายจะได้ร่วมงานกับลูกสาวของเพื่อนรัก
เนื่องในโอกาสที่เขาบริหารดูแลนิตยสารมาจะครบรอบ 3ปี ในเดือนเมษายนที่จะถึงนี้ รินณภัทรจึงเรียกให้บรรณาธิการนิตยสารและคอลัมนิสต์ เตรียมประชุมโปรเจกต์เตรียมการจัดทำนิตยสารฉบับพิเศษครบรอบ 3ปีขึ้นมา...
“คุณปิ่น..เข้ามาพบผมในห้องทำงานด้วย” รินณภัทรกดโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานเรียกบรรณาธิการประจำสำนักพิมพ์เข้ามา
“ค่ะบอส..” ปิ่นกมล บรรณาธิการสาวเท่รับคำแล้วรีบเดินเข้ามายังห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มทันที
“บอสมีอะไรจะสั่งงานปิ่นเหรอคะ..”
“คุณเรียกประชุมบอร์ดเรื่องจะจัดทำนิตยสารฉบับพิเศษเร่งด่วนเลย แล้วนำรายงานมาให้ผมด้วย”
“ได้ค่ะบอส”
ปิ่นกมลออกจากห้องทำงานของรินณภัทรไปเรียกลูกน้องทุกฝ่ายประชุมบอร์ด ระหว่างประชุมเธอก็จดรายละเอียดเพื่อจะนำรายงานมาเสนอให้เจ้านาย..
จนกระทั่งครึ่งวันผ่านไป..บรรณาธิการสาวก็นำรายงานการประชุมเข้ามาให้รินณภัทร
“รายงานการประชุมบอร์ดของทุกฝ่ายเกี่ยวกับปกและเนื้อหาคร่าวๆแต่ละคอลัมน์ในเล่มพิเศษนิตยสารครบรอบ 3ปี ค่ะบอส”
“เธอเป็นใคร!” รินณภัทรรับแฟ้มรายงานมาเปิดอ่านดูคร่าวๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“ใครคะ?”
“ก็..มัสยา..ผู้หญิงคนแรกที่จะมาถ่ายแบบลงปกนิตยสารของเรานี่น่ะ”
“อ๋อ!..คุณเมย่าเป็นทั้งนางแบบและนางร้ายสุดเซ็กซี่ นางร้ายดาวรุ่งที่กำลังมาแรงไงคะ บอสไม่รู้จักเหรอคะ”
“คุณก็น่าจะรู้ว่าผมไม่ชอบผู้หญิงที่ทำงานแบบนั้น เปลืองตัว! เดี๋ยวคุณเอารายละเอียดของผู้หญิงคนนี้มาให้ผมด้วย!”
“เอ่อ..ค่ะบอส” ปิ่นกมลรับคำสั่งอย่างงุนงง ก่อนจะเดินออกไปสั่งลูกน้องให้ค้นหาประวัติส่วนตัวของมัสยาไปให้เจ้านาย...
รินณภัทรนั่งรอรายละเอียดเกี่ยวกับนางแบบสาวคนแรกที่จะมาขึ้นปกบนนิตยสารของเขา ตกเย็นก่อนเลิกงาน ปิ่นกมลก็นำรายละเอียดเกี่ยวกับมัสยามาวางบนโต๊ะทำงานของเจ้านาย
“รายละเอียดของคุณเมย่า เอ่อ..คุณมัสยาที่บอสต้องการค่ะ” ปิ่นกมลบอกเจ้านายก่อนจะกลับไปทำงานของเธอ เมื่อบรรณาธิการสาวออกจากห้องเขาไปแล้ว ชายหนุ่มก็หยิบแฟ้มเอกสารตรงหน้าขึ้นมาเปิดดูและอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับนางแบบสาว..
นางสาวเมย่า มัสยา มาคาเอล อายุ 25 นางแบบสาวลูกเสี้ยวทายาทคนโตของอดีตนายแบบชื่อดัง มาร์คัส มาคาเอลกับวัสยาช่างภาพสาว ลูกไม้ที่หล่นใต้ต้น เมย่าเป็นนางแบบมืออาชีพตามรอยผู้เป็นพ่อ เข้าสู่วงการนางแบบตั้งแต่เด็ก เป็นทั้งนางแบบถ่ายแบบวาบหวิวเซ็กซี่และเป็นนักแสดงนางร้ายดาวรุ่ง นอกจากนั้นยังเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าลดความอ้วนหรือผลิตภัณฑ์ปลุกใจเสือป่าต่างๆอีกมากมาย ปัจจุบันเธอกำลังมีข่าวพัวพันกับหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทั้งดารานักแสดง เสี่ยและไฮโซชื่อดังมากหน้าหลายตา ใครได้อยู่ใกล้เธอเป็นต้องหลงเสน่ห์ ทั้งความสวยและเซ็กซี่ สายตาเย้ายวนชวนหลงใหล ผู้ชายเพียงแค่ได้เห็นภาพของเธอ น้ำก็แทบพุ่ง! รินณภัทรอ่านได้แค่นั้นก็โยนแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะทำงาน
“นี่เป็นนางแบบนางร้ายหรือว่าสาวไซด์ไลน์กันแน่!” รินณภัทรหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความไม่พอใจ
“คุณปิ่น..เข้ามาพบผมด่วน!” เขากดโทรศัพท์เรียกบรรณาธิการสาวทันที ไม่นานเธอก็เปิดประตูก้าวเข้ามา
“บอสมีอะไรจะให้ปิ่นทำเหรอคะ”
“ผมจะเปลี่ยนนางแบบเล่มพิเศษ ผมไม่เอานางแบบคนนี้!” รินณภัทรเลื่อนแฟ้มไปตรงหน้าปิ่นกมล
“อ่ะ..บอสว่าอะไรนะคะ..”
“ผมไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้! บอกตรงๆว่าค่อนข้างจะเกลียดเลยซะด้วยซ้ำ! ผมไม่เอาผู้หญิงแบบนี้มาขึ้นปกนิตยสารของผมเด็ดขาด!”
“เอ่อ..บอสคะ ใจเย็นๆ เกลียดอะไรระวังจะได้อย่างนั้นนะคะบอส” ปิ่นกมลพูดออกมาตรงๆโดยไม่ทันคิด
“คุณปิ่น!” ชายหนุ่มเสียงขรึม มองบรรณาธิการสาวด้วยสายตาขุ่นมัวไม่พอใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เธอพูดออกมา
“เอ่อ..โบราณเขาว่าไว้อย่างนั้นหนิคะ แล้วบอสก็บอกว่าเกลียดน้องเมย่า..”
“หยุดได้แล้ว! ผมไม่อยากได้ยิน ไม่อยากพูดถึงผู้หญิงคนนั้นอีก!”
“แต่ลูกค้าและสปอนเซอร์เจาะจงเธอมาโดยเฉพาะนะคะ เราคงจะเปลี่ยนนางแบบไม่ได้ค่ะ”
“อะไรนะ! นี่สปอนเซอร์เจาะจงมาเองอย่างนั้นหรือ..”
“ค่ะ บอส..”
“(เธอมีอะไรดีตรงไหน?..)”
รินณภัทรรู้ดีว่าถ้าลูกค้าหรือสปอนเซอร์รายใหญ่ระบุเจาะจงมา เขาจะปฏิเสธหรือเปลี่ยนแปลงไม่ได้! เพราะจะกระทบกระเทือนต่อรายได้และการสนับสนุนครั้งต่อไปในอนาคต นี่เขารู้สึกในแง่ลบกับผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่ยังไม่ได้เจอ แล้วจะทำงานร่วมกันได้ยังไงเนี่ย ชายหนุ่มครุ่นคิด
“ถ้าอย่างนั้น..คุณออกไปทำงานต่อเถอะ เดี๋ยวผมจะลองพิจารณาดูใหม่อีกครั้งก็แล้วกัน” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมา
ปิ่นกมลเดินออกจากห้องทำงานของเขาไปแล้ว ชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปหยิบแฟ้มเอกสารบนโต๊ะทำงานขึ้นมาเปิดพิจารณาดูอีกครั้ง..ภาพใบหน้าของหญิงสาวที่เขารู้สึกไม่ชอบใจ สวยเด่นสง่าอยู่ตรงหน้า รอยยิ้มสดใสมีเสน่ห์ชวนมอง จูงใจให้เขาเปิดดูภาพอื่นๆต่อไปเรื่อยๆโดยไม่รู้ตัว ใบหน้าสวยเรียวรูปไข่ ใบหน้าหวานปนเซ็กซี่ ดวงตาเป็นประกายดูมีเสน่ห์น่าหลงใหล จมูกโด่งปลายจมูกเชิดท่าทางจะดื้อรั้นไม่เบา แก้มขาวเนียนใสอมชมพู ปากอิ่มสีชมพู หุ่นดีสูงโปร่ง อกเป็นอก เอวเป็นเอว แต่ละภาพเซ็กซี่เปิดนั่นเว้านี่ อวดเรือนร่าง เปลือยผิวเผยกายแทบทุกภาพ รินณภัทรดูภาพไปก็รู้สึกร้อนรุ่มเกร็งๆหายใจถี่ๆ อึดอัดแปลกๆ เขาจึงก้มลงมองที่เป้ากางเกงสแล็คของตัวเอง..
“เอ๊ย!” ชายหนุ่มอุทานออกมาอย่างตกใจเพราะน้องชายของเขาตื่นตัวขึ้นมาได้จริงอย่างที่ข้อมูลบรรยายไว้ รินณภัทรรีบปิดแฟ้มข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับนางแบบสาวทันที เขาพิงพนักเก้าอี้เงยหน้าสูดอากาศเข้าปอดแล้วสะบัดศีรษะเบาๆไล่ความคิด เขารู้สึกหงุดหงิดแปลกๆ ผู้หญิงคนนี้มีแรงดึงดูดน่ากลัวกว่าที่เขาคิด นี่ขนาดแค่ดูรูปก็ทำให้น้องชายของเขามีความต้องการขึ้นมาได้ เขาควรจะอยู่ให้ห่างผู้หญิงคนนี้!
เมื่อไม่สามารถเปลี่ยนตัวนางแบบได้ รินณภัทรก็ต้องปล่อยให้เลยตามเลยไปตามขั้นตอนของงาน จนมาถึงวันนี้..ทางสำนักพิมพ์นัดให้นายแบบและนางแบบที่จะถ่ายปกในเล่มฉบับพิเศษมาพูดคุยตกลงเรื่องงานรายละเอียดรูปแบบการถ่ายและฟิตติ้งเสื้อผ้าก่อนจะถึงวันถ่ายจริง ปิ่นกมลมาเตรียมงานในห้องประชุมตั้งแต่เช้า รินณภัทรเข้ามาดูความเรียบร้อยก่อนถึงเวลานัดหมาย
“เป็นยังไงบ้างคุณปิ่น เรียบร้อยดีไหม..”
“เรียบร้อยทุกอย่างพร้อมแล้วค่ะบอส”
“ผมฝากคุณด้วยก็แล้วกัน ผมจะออกไปทำธุระ” รินณภัทรตั้งใจจะหลบเลี่ยงเพราะไม่อยากเจอกับนางแบบสาวดาวยั่วรายนั้น
“เดี๋ยวค่ะบอส..” บรรณาธิการสาวจะเรียกเจ้านายหนุ่มไว้แต่เขาก็รีบเดินออกไปเสียก่อน
“เฮ้อ! จะรีบไปไหนกันนักหนานะบอส จะบอกว่ารอเจอคุณเมย่าก่อน เธอกำลังเข้ามา..” ปิ่นกมลบ่นตามหลังเจ้านาย
รินณภัทรเดินออกจากห้องประชุม เขาสาวเท้าด้วยความเร่งรีบ กำลังจะเลี้ยวเดินไปยังลิฟท์ก็ปะทะชนเข้าอย่างจังกับร่างบางของหญิงสาวรายหนึ่งที่กำลังเดินสวนมา..
“เอ๊ย! | อุ๊ย!” ชายหนุ่มรีบยื่นมือออกไปจับไหล่โอบร่างนั้นไว้เพื่อไม่ให้เธอหงายหลังล้มลงไปบนพื้น
“มัสยา!” รินณภัทรอุทานพึมพำออกมาเบาๆในลำคอเมื่อเห็นใบหน้าสวยนั้นชัดเจน
เมื่อบังเอิญชนเข้ากับหญิงสาวที่เขาพยายามจะหลบหน้าเข้าอย่างจัง ชายหนุ่มก็อดที่จะพิจารณานางแบบสาวอย่างละเอียดไม่ได้..ใบหน้าสวย คิ้วโค้งรับกับขนตางอนยาวและดวงตาคม แววตาเป็นประกายเซ็กซี่ จมูกรั้น ปากอิ่มสีชมพู ในรูปที่ว่าสวยแล้ว ตัวจริงเธอสวยมีเสน่ห์น่าหลงใหลยิ่งกว่า เขากวาดสายตาพิจารณาร่างบางอย่างรวดเร็ว รินณภัทรนึกถึงความรู้สึกที่เขาชนเธอเมื่อสักครู่..อกนุ่มๆทั้งหยุ่นเด้งดึ๋งทั้งอึ๋มแบบนั้น..คงจะไม่พ้นอกปลอมที่อัพให้ใหญ่ขึ้นด้วยอาชีพนางแบบเพื่ออวดโชว์เป็นแน่ แล้วดูการแต่งตัวของเธอจะมาทำงานหรือมายั่วเสือยั่วตะเข้กันหรือยังไงแม่คุณ! ชายหนุ่มขมวดคิ้ว ต่างคนก็ต่างมองพิจารณาและคิดไปต่างๆนานา จนกระทั่งนางแบบสาวเอ่ยออกมา..
“คุณคะ..คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง..”
“เอ่อ..ครับ ขอโทษ..”
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยจับฉันไว้ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะหงายหลังลงไปนอนกับพื้นแน่เลยค่ะ”
“ขอโทษที่ผมรีบเดินจนไม่ทันมอง..”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็รีบ มองไม่เห็นเหมือนกัน”
“ครับ”
“เอ่อ..คุณพอจะทราบไหมคะว่าห้องประชุมอยู่ตรงไหน..”
“เดินตรงไปอีกห้อง ห้องประชุมอยู่ห้องถัดไปทางขวา”
“ขอบคุณค่ะ” มัสยายิ้มให้ชายหนุ่มร่างสูงอย่างขอบคุณก่อนจะเดินไปตามที่เขาบอก รินณภัทรเห็นรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของนางแบบสาว ก็พยายามเตือนสติตัวเอง เขาจะแพ้ทาง หลงเสน่ห์ผู้หญิงแบบนี้ไม่ได้! เขายอมรับว่าเธอสวยมีเสน่ห์น่าหลงใหล แต่เขาไม่ชอบผู้หญิงที่ใช้เต้าไต่ใช้วิธีแบบนี้ในการทำงานหาเงินมาดำเนินชีวิต หน้าตาการศึกษาก็ดี ทำไมไม่ใช้ในทางที่ดีที่ถูกที่ควร รินณภัทรคิดอย่างเสียดายก่อนจะก้าวตรงไปยังลิฟท์ มัสยาเดินไปก็นึกถึงใบหน้าหล่อๆขาวตี๋ของชายหนุ่มที่บังเอิญเดินชนกัน
(“สงสัยจะเป็นนายแบบมาถ่ายแบบลงนิตยสาร แต่ทำไมไม่รู้สึกคุ้นหน้าเลย”) นางแบบสาวเดินไปคิดไปจนถึงห้องประชุมก็เปิดประตูเข้ามาด้านใน
“สวัสดีค่ะพี่ปิ่น”
“สวัสดีค่ะคุณเมย่า”
“เมย่าบอกแล้วไงคะว่าอย่าเรียกคุณ”
“ค่ะๆ น้องเมย่า วันนี้มาก่อนเวลาเชียว คุณป้าไม่มาด้วยเหรอคะ”
“เมย่าไม่อยากให้คนอื่นต้องรอน่ะค่ะ วันนี้ให้ป้าแองจี้หยุดพักค่ะ”
“น้องเมย่านั่งก่อนนะคะ คุณริวยังไม่มาเลยค่ะ”
“ค่ะ พี่ปิ่น”
“เอ่อ..พี่ปิ่นคะ ผู้ชายขาวๆตี๋ๆหล่อๆสมาร์ทๆที่เดินออกไปเมื่อไม่นานนี้ คนนั้นเขาเป็นนายแบบใหม่เหรอคะ เมย่าไม่คุ้นหน้าเลย”
“ใครคะ นายแบบยังไม่มาเลยค่ะ”
“ก็คนที่ดูนิ่งๆขรึมๆเนี้ยบๆสูงราว 185 หล่อๆสมาร์ทตาสีน้ำตาลเข้มน่ะค่ะ”
“อ๋อ..คนนั้นไม่ใช่นายแบบหรอกค่ะ” ปิ่นกมลฟังที่มัสยาบรรยายลักษณะอย่างละเอียดก็นึกออกในทันที
“อ้าว! แล้วเขาเป็นใครกันคะ หรือว่าเป็นพนักงานในสำนักพิมพ์”
“คุณรินณภัทรเป็นบอส เป็นเจ้าของนิตยสารและสำนักพิมพ์นี้ค่ะ”
“อะไรนะคะ! เป็นเจ้าของที่นี่..เมย่าคิดว่าเขาเป็นนายแบบซะอีกค่ะ” มัสยายิ้มแหยๆ รู้สึกหน้าแตกที่เข้าใจผิด...
มัสยาไม่รู้มาก่อนเลยว่าเจ้าของนิตยสารที่เธอมาถ่ายแบบลงปกยังเป็นหนุ่มและหล่อเหมือนนายแบบขนาดนั้น ปกติเธอรับงานก็แทบจะไม่รู้รายละเอียดอะไรเพราะป้าแองจี้เป็นคนคอยดูแลให้ เธอจะดูแค่รายละเอียดงานคร่าวๆกับค่าตอบแทน ไม่รู้ไม่ได้สนใจเลยว่าใครจะเป็นคนว่าจ้างหรือเป็นเจ้าของ แต่ผู้ชายคนนี้..แตกต่างจากผู้ชายทุกคนที่เธอเคยเจอมา เขาเห็นเธอกลับนิ่งๆ เฉยๆ แปลกจากผู้ชายคนอื่นๆทั่วไป ไม่ถือโอกาสแต๊ะอั๋งหรือลวนลามเธอทั้งสายตาและท่าทาง ผู้ชายทั่วไปมักจะมองเธออย่างละลาบละล้วงเสียมารยาท ระหว่างที่รอแอนดริวนายแบบหนุ่มที่จะมาฟิตติ้งถ่ายแบบคู่กับเธอ มัสยาก็นั่งนึกถึงชายหนุ่มที่บังเอิญชนกันอย่างนึกสนใจ
รินณภัทรออกมาร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขานั่งรออย่างเซ็งๆเริ่มหงุดหงิดเพราะอีกฝ่ายที่นัดหมายกันไว้มาช้ากว่าเวลานัด 1ชั่วโมงเข้าไปแล้ว
“สวัสดีค่ะพี่ฟิค”
“สวัสดีครับน้องนารา”
“พี่ฟิครอนารานานไหมคะ รถติดมากเลยค่ะ” นางเอกสาวออกตัว
“พี่ก็มาตรงตามเวลานัด..” รินณภัทรตอบออกมาเรียบๆไม่แสดงอาการว่ารู้สึกอย่างไร
“นาราขอโทษด้วยนะคะที่ต้องให้พี่ฟิครอ จริงๆให้นาราไปหาพี่ที่สำนักพิมพ์เลยก็ได้นะคะ”
“ที่สำนักพิมพ์พี่ไม่ค่อยสะดวก นารามีอะไรจะคุยกับพี่ก็พูดมาได้เลย”
“เอ่อ..เมื่อไหร่พี่ฟิคจะให้นาราลงปกนิตยสารของพี่บ้างละคะ”
“นิตยสารของพี่เป็นแนวผู้ชาย และนายแบบดารานักแสดงที่มาขึ้นปกก็ล้วนแต่เป็นผู้ชาย”
“แต่นาราได้ยินข่าวมาว่า ฉบับครบรอบ 3ปี จะให้ผู้หญิงมาลงปกไม่ใช่เหรอคะ”
“นารารู้ได้ยังไง..”
“เอ่อ..นาราได้ยินเขาพูดๆกันน่ะค่ะ”
“เขาน่ะใคร? งานนี้คุณปิ่นกับทีมงานที่สำนักพิมพ์เขาดูแลอยู่..”
“พี่ฟิคช่วยถามบก.ของพี่ให้นาราหน่อยนะคะ” นางเอกสาวพูดออดอ้อนลุกขึ้นจากเก้าอี้ของตนมานั่งบนพนักวางแขนเก้าอี้ของรินณภัทร หญิงสาวเบียดไหล่เกาะแขนลูบแขนชายหนุ่มเบาๆ
“เดี๋ยวพี่จะลองถามให้ก็แล้วกัน”
เมื่อทั้งสองทานอาหารเรียบร้อยแล้วต่างแยกย้ายกันกลับ รินณภัทรแวะไปเช็กนิตยสารตามห้างสรรพสินค้าและร้านหนังสือชั้นนำต่างๆ เป็นการถ่วงเวลาไปในตัวก่อนจะกลับเข้าบริษัท เขาเข้ามานั่งในห้องทำงานก็รู้สึกอยากรู้ว่างานวันนี้เรียบร้อยดีหรือไม่ เขาตั้งใจจะไปถามปิ่นกมล ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานเดินตรงไปยังห้องประชุม เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นภาพชายหนุ่มกับหญิงสาวกำลังหยอกล้อกันอยู่ นายแบบหนุ่มกำลังแนบชิดนางแบบสาว
“พี่ริวอย่ารุ่มร่ามสิคะ..” แอนดริวพยายามจะโอบเอวดึงมัสยาเข้าไปกอด
“น้องเมย่าพูดเหมือนกับว่าพี่ไม่เคยกอดอย่างนั้นแหละ”
รินณภัทรยืนกอดอกสังเกตดูอยู่ห่างๆอย่างไม่ค่อยพอใจกับภาพตรงหน้ามากนัก
“อ้าว! บอสมาพอดีเลยค่ะ..” บรรณาธิการสาวหันมาเห็นเจ้านายหนุ่มก็เอ่ยทักขึ้น
“โทษที..ที่เข้ามาขัดจังหวะ ผมคิดว่างานเรียบร้อยแล้วซะอีก”
“ทีมงานรอคุณแอนดริวอยู่เกือบ 2ชั่วโมงน่ะค่ะ กว่าจะได้ลองเสื้อผ้าฟิตติ้งและเริ่มซ้อมท่าทางการถ่ายแบบ”
“ฮืมม์..”
“บอสเข้ามาช่วยดูท่าโพสกันหน่อยนะคะ ว่าโอเคหรือยัง” ปิ่นกมลดึงแขนรินณภัทรเข้าไปยืนดูใกล้ๆ มัสยาหันมาเห็นใบหน้าเคร่งครัดสายตาเข้มงวดของชายหนุ่มที่ยืนจ้องมองอยู่ก็รู้สึกเกร็งๆแปลกๆ รินณภัทรยืนมองภาพแอนดริวนายแบบหนุ่มโอบกอดแนบชิดมัสยาแล้วเคร่งขรึมหน้านิ่วคิ้วขมวดโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งการฟิตติ้งถ่ายแบบปกนิตยสารเสร็จสิ้นลง ต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันกลับ