สายฟ้า
“แล้วพวกพี่ๆมาทำอะไรที่นี่หรอคะ” กุ้งนางเพื่อนของเรนโบว์ถามออกมา(พวกเธอพึ่งแนะนำตัวหลังจากเรนโบว์กลับออกไป)
“ฉันพาไอ้สายฟ้ามาหาว่าที่แฟนมันอ่ะ” แล้วไอ้ดีเจก็ตอบกลับไป
“ว่าที่แฟน พี่สายฟ้ามีคนที่ชอบแล้วหรอคะ” แล้วปาลินก็ถามขึ้นอีกคนด้วยความตื่นเต้น
“เพื่อนเธอไง” แล้วไอ้คัตเตอร์ก็พูดออกมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ทำให้ทั้งกุ้งนางและปาลินหันหน้ามองกันพร้อมกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“มะ...หมายถึงยัยเรนหรอคะ” กุ้งนางถามขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ
“แล้วนอกจากพวกเธอสองคน ยังคบใครอีกล่ะ” ไอ้ดีเจพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกวนๆเป็นปกติของมัน แต่คำตอบของมันกลับไม่ได้ทำให้สองคนนั้นโกรธ ยังคงมีแต่ความไม่อยากเชื่อเหมือนเดิม
“หึ” ผมเค่นหัวเราะออกมาก่อนจะเดินออกจากตรงนั้นเพื่อกลับคอนโดตัวเอง ส่วนยัยเตี้ยนั่นนะหรอ วันนี้ปล่อยไปก่อนแล้วกัน เพราะถ้าผมบุกหนักเกินไปกลัวว่าเธอจะหัวใจวาย
เรนโบว์
ชีวิตการเรียนของฉันตอนนี้บอกเลยว่าไร้ความสงบสุขอย่างเป็นที่สุด โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่มักจะพากันพูดจิกกัด หรือนินทาทั้งทางคำพูดและสาย ซึ่งไม่ว่าฉันจะเดินไปไหน ก็ต้องเจอและได้ยินกับคำพูดและสายตาหน้าเบื่อพวกนี้ และต้นเหตุไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก เหอะ...
“ว่าไงสาวน้อย” เสียงกะล่อนของพี่ดีเจดังขึ้นก่อนจะเดินอ้อมไปนั่งฝั่งตรงข้ามฉันข้างๆปาลิน
“หึ” ฉันฉีกยิ้มใส่อย่างประชดก่อนจะหุบยิ้มทันทีอย่างหมั่นไส้
“ที่มีตั้งเยอะไปนั่งไกลๆไม่ได้หรือไง” ก่อนจะหันไปพูดกับตัวต้นเหตุที่ทำให้ชีวิตในมหาลัยของฉันไม่สงบสุขที่ตอนนี้นั่งข้างๆฉันจนแทบจะเกยขึ้นมานั่งตักแล้วก็ว่าได้
“อยากนั่งตรงนี้ มีปัญหาหรือไง” นายสายฟ้าพูดขึ้นด้วยใบหน้ากวนๆ
“ถ้าไม่มีปัญหาจะพูดเพื่อ?” ฉันตอบกลับไปด้วยความหมั่นไส้ แค่ตอนนี้มีสายตาเกือบทั้งโรงอาหารจับจ้องมองมาที่ฉันก็น่าเบื่อเกินทนแล้ว ยังจะต้องมาเบื่อกับไอ้เสาไฟฟ้าที่นั่งข้างๆนี่อีก
“เพราะอยากคุยกับฉันไง” แล้วนายสายฟ้าก็ตอบกลับอย่างหลงตัวเอง
“มั่นหน้าเกินไปแล้วเหอะ” ฉันว่าให้อย่างหมั่นไส้ก่อนจะหันมากินข้าวต่อโดยไม่สนใจพูดกับสายฟ้าอีก
“กินคนเดียวไม่กลัวข้าวติดคอตายหรือไง” แล้วร่างสูงข้างๆก็ทักขึ้น
“ไม่เห็นคนนั่งกินเป็นร้อยหรือไง” พูดมาได้ว่านั่งกินคนเดียว
“ฉันหมายถึงทำไมไม่ชวนฉันกินด้วย เตี้ยแล้วยังโง่อีก” แล้วนายสายฟ้าก็พูดอย่างไม่พอใจ แต่มันจำเป็นที่ฉันจะต้องชวนเขากินหรือไง
“ไปซื้อธูปมาสิ จะได้จุดเรียกได้” ฉันไหวไหล่ตอบกลับไปก่อนจะกินข้าวต่ออย่างอารมณ์ดี
“ว้าวๆ มวยถูกคู่จริงๆครับ” เสียงพี่ดีเจพูดขึ้นอย่างถูกใจ
“แล้วพวกพี่ไม่กินข้าวกันหรอคะ” เป็นปาลินที่พูดขึ้น
“คิดว่าจะไม่ชวนซะแล้ว งั้นเดี๋ยวพี่ไปซื้อก่อนนะที่รัก” พี่ดีเจตอบกลับอย่างกะล่อนก่อนจะลุกออกไปพร้อมกับพี่คัตเตอร์ แต่ยังคงทิ้งนายสายฟ้าไว้ที่เดิม
“แล้วนายไม่ไปกับเขาหรือไง” ฉันอดหันไปถามไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงกลัวหิวข้าวนะ แต่รำคาญอ่ะ
“เป็นห่วงฉันหรอ” ยังมีหน้ามาทำตาเจ้าชู้ใส่
“ถึงมันจะเป็นความสุขเดียวของนาย แต่ฉันก็ไม่คิดจะโกหกช่วยหรอกนะ” ฉันตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มสะใจ
“ก็ถ้าอยากเป็นหม้ายจนแก่ก็ตามใจ” แล้วนายสายฟ้าก็พูดขึ้นก่อนจะสะบัดหน้าหนีด้วยท่าทางเหมือนกับงอน แต่เดี๋ยวนะ งอนใคร เรื่องอะไร ท่าจะบ้า
และฉันก็หันมากินข้าวของตัวเองต่อโดยไม่ได้สนใจนายสายฟ้าอีก ไม่นานเพื่อนเขาก็กลับมาพร้อมกับจานข้าวสามใบและน้ำ
“ฉันไม่ชอบกินผัก” นายสายฟ้าว่าจบก็ตักผักจากจานตัวเองมาใส่จานฉันทันที
“นี่! ไม่กินก็เรื่องของนายสิ มายุ่งอะไรกับฉันล่ะ” ฉันว่าพร้อมกับจับจานหนีเขา
“เธออ่ะควรไปเยอะๆ เผื่อจะโตกว่านี้” นายสายฟ้าพูดขึ้นอีกทั้งใช้มืออีกข้างดึงมือฉันที่จับจานไว้จนตอนนี้มันขยับเข้าหาเขาคืน และเขาก็จัดการจับจานฉันไว้และตักผักใส่จานฉัน
“นายนั่นแหละที่ควรจะกินผักเยอะๆ จะได้มีสมองมากกว่านี้ นี่หยุดนะ!” ไม่ว่าฉันจะโวยวายยังไงนายสายฟ้าก็ไม่ยอมหยุดตักผักใส่จานฉัน จนสุดท้ายเขาพอใจ และปล่อยมือจากจานฉันไปและนั่งกินข้าวจานตัวเองอย่างสบายใจ
“ที่นิ่งนี่คืออยากให้ฉันป้อน?” ร่างสูงเลิกคิ้วถามขึ้นพร้อมรอยยิ้มกวนๆ
“ขอให้สำลักข้าวตายไอ้บ้า!” ฉันว่าให้อย่างไม่พอใจก่อนจะหยิบกระเป๋าลุกออกจากโรงอาหารไป อาหารเที่ยงของฉันหมดอร่อยไปเพราะไอ้บ้านั่นจริงๆเลย น่าโมโหที่สุด!