จารีย์เลขาสาวที่ทำงานร่วมกับธันวามาเนิ่นนานดันแผ่นหลังแกร่งของผู้เป็นนายเข้าไปในห้องประชุมโดยที่พายอาร์ยังยืนก้มหน้ากุมมือเอาไว้อย่างสุภาพอยู่เลย เมื่อเดินเข้ามาให้ห้องประชุมจารีย์รู้ใจผู้เป็นนายก็จับเขาให้นั่งลง เธอเดินไปเปิดแอร์เพื่อให้นายใจเย็นลงกว่านี้หน่อย
"นายคะ จารีย์ขอโทษที่ฝ่าฝืนคำสั่งนาย"
" ... "
"จารีย์ยอมรับค่ะ ว่าเป็นคนรับน้องเข้ามาทำงานเอง แต่! จารีย์มีเหตุผลนะคะ"
"คุณจารีย์ คุณขึ้นไปที่ห้องฝ่ายบุคคลหยิบใบคำร้องขอลาออกมาหนึ่งใบ เดี๋ยวผมเซ็นให้คุณเอง"
ธันวาหยัดกายลุกขึ้นทำท่าจะเดินออกไปแต่ทว่าเลขาสาวที่ทำงานด้วยกันมานานก็รู้ว่าต้องทำอย่างไรเขาจึงจะยอม เธอรีบทรุดตัวลงคุกเข่าธันวาตกใจเล็กน้อย แล้วถอยหลังไปสองสามเก้า
"นายคะ ฟังจารีย์ก่อนนะคะ"
"ก่อนจะรับน้องเข้ามาทำงาน จารีย์ให้โจทย์ยากไปข้อหนึ่ง ถ้าน้องดิวกับบริษัทล้างรถครบวงจรเจ้าใหญ่มาได้จารีย์จะให้น้องทำงานที่นี่ แต่ให้เป็นฟรีแลนซ์นะคะ แล้ว ... เออ บังเอิญว่าน้องทำได้จารีย์เลยต้องรับน่ะค่ะ"
"คุณจารีย์ คุณไม่รู้รึไงว่าพายฉลาดขนาดไหน คุณไม่น่ามาเป็นลูกน้องผมเลย" เขาหัวเสียใส่เลขาสาว ทำให้จารีย์ยังดึงดันนั่งคุกเข่าอยู่อย่างนั้นเมื่อเห็นธันวาสงบลงเธอจึงเปิดปากอีกครั้ง
"นายลองดูรายงานก่อนไหมคะ น้องทำได้ดีเลยนะถึงแม้ว่าทางนั้นจะยังไม่ตัดสินใจแต่ก็ยอมเปิดโอกาสให้เราเข้าไปเสนองานนะคะ"
อันที่จริงเขามีวิธีที่ดีกว่านั้น ก็แค่ส่งลูกน้องเข้าไปสองสามคน กรอกยาพิษใส่ปากไอ้เวรตะไลนั่น แค่นี้ก็ได้ดองธุรกิจกันอย่างผ่าเผยแล้ว จารีย์ยื่นแฟ้มเอกสารวางไว้ข้างหน้าธันวาแล้วค่อยๆ เดินออกไปอย่างเงียบๆ ปล่อยให้ธันวาดูแฟ้มเอกสารนั่นเงียบๆ เธอมั่นใจว่าเขาต้องดูแน่เพราะธันวาเป็นคนที่ชอบคนทำงานเก่ง และไร้ความผิดพลาด
"พี่จารีย์คะ"
"ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเพียงตามีบุญคุณกับพี่ พี่ไม่มีวันยอมทำแบบนี้แน่"
จารีย์กระซิบพูดกับพายอาร์ครั้งเมื่อตอนสมัยที่พายอาร์ยังคบกับธันวาอยู่คุณเพียงตามารดาของพายอาร์เคยมีบุญคุณช่วยชีวิตคุณแม่ของเธอจากอุบัติเหตุรถชน แถมยังดูแลอย่างดีตลอดเวลาที่อยู่ที่โรงพยาบาลอีก
"พายขอโทษนะคะที่ทวงบุญคุณพี่จารีย์แบบนี้ พายจำเป็นต้องได้งานที่นี่จริงๆ นะคะ"
"อันที่จริงผลงานที่น้องพายทำ ไม่ใช่เรื่องที่นายจะตัดสินให้อยู่หรือไม่อยู่ ต่อให้ทำดีกว่านี้นายไล่ออกก็ทำได้ พี่จารีย์ช่วยน้องพายได้เท่านี้นะคะ"
"ขอบคุณนะคะพี่จารีย์"
"ไปค่ะ เข้าไปในห้องได้แล้วนายรอนานเดี๋ยวจะทรงพระกริ้วเอา"
พายอาร์แอบขำกับการนินทานายของจารีย์ไม่ได้ แต่อนาคตของเธออยู่ที่คนในห้องมากกว่า ในเมื่อต้องหน้าด้าน เธอก็จะต้องด้านให้ถึงที่สุดเท่าที่จะทำได้ บานประตูกระจกถูกเปิดออกพร้อมกับลมเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำจนจารีย์ที่ยืนอยู่ข้างหลังพายอาร์ยังตัวสั่น เหมือนเธอนึกได้ว่าตอนที่เธออยู่ในห้องเมื่อครู่มันไม่ได้เย็นอย่างนี้นี่
"ยังจะเสนอหน้าอยู่อีก" เสียงคำรามจากในห้องดังออกมาจนจารีย์ต้องถอยทัพ ก่อนไปเธอกระซิบแผ่วเบากับพายอาร์แล้วรีบแผ่นแนบ
"ด้านได้อยู่ อายได้ไปนะคะ"
บานประตูกระจกถูกปิดลงพร้อมกับอากาศเย็นฉ่ำภายในห้องที่มืดสนิทมีเพียงแค่แสงสว่างจากหน้าจอไอแพดที่แสดงขึ้นมา พายอาร์กวาดสายตาไปทั่วห้องจนเจอกับเจ้าของร่างกำยำสมบูรณ์แบบที่ยืนหันหลังสองมือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง เธอพิจารณาเขาจากความมืดคล้ายกับว่าเขาจะดูตัวใหญ่กว่าเมื่อก่อนอีกนะ เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเลยทีเดียว
"เธอต้องการอะไร"
"คะ"
"ฉันถามว่าเธอต้องการอะไร ที่อื่นมีเยอะแยะทำไมไม่ไปทำ ทำไมจะต้องที่ที่ฉันดูแลด้วย"
"ก็ที่นี่เงินดีนี่คะ"
"พาย!"
พายอาร์ขยับเท้าเข้าใกล้ธันวาทีละนิดเมื่อเขาหลุดพูดชื่อเธอออกมาอย่างลืมตัว มาเฟียหนุ่มขมวดคิ้วยุ่งที่เห็นว่าเธอเงียบไปเขาหมุนตัวกลับมาก็เจอเข้ากับเธอที่ยืนอยู่แทบจะชิดแผ่นหลังของเขาอยู่แล้ว
"ออกไปไกลๆ เหม็น"
"พี่ธันเรียกชื่อพายด้วย พายดีใจนะคะเนี่ย"
"ยังมาทำหน้าระรื่น ฉันจะไล่เธอออก"
"พายทำอะไรผิดคะ ทำไมต้องไล่ออกด้วยอีกอย่างพายเป็นฟรีแลนซ์นะคะไม่ใช่พนักงานประจำ หนังสือสัญญาจ้างก็บอกแล้วว่าทาง We are friends ต้องป้อนงานให้พายตลอดหนึ่งปีเต็มเลยนะ"
ธันวากัดปากล่างแน่น เขาถอยหลังไปทีละก้าวเมื่อเห็นมุมปากอวบอิ่มของเธอยกยิ้มขึ้นนิดหน่อย ยัยจารีย์ถ้าเขาออกไปจากห้องนี้เมื่อไหร่เขาสาบานว่าจะจับยัยนั่นมาเลาะฟันออกจากปากให้หมดเลย
"เป็นอะไรไปคะ กินกาแฟไหม"
"ไม่ต้องมาวุ่นวายกับพะ ... ฉัน" น้ำเสียงเขาเบาลง ขาเริ่มขยับถอยหลังไปไม่ได้ธันวาพยายามกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อพายอาร์เริ่มเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
"พูดเสียงเบาจัง พายไม่ค่อยได้ยินเลยค่ะ"
"ยะ ... อย่ามาลามปามฉัน ฉันเป็นหัวหน้าเธอเป็นขี้ข้า"
"แปลว่าพี่ธัน เอ๊ย! นายรับพายเข้าทำงานแล้วใช่ไหมคะ"
ธันวาเดินไปฝั่งตรงข้ามนั่งลงที่เก้าอี้นุ่ม แล้วจ้องมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มุมปากหนาเผลอยกยิ้มขึ้นเล็กน้อยไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน เขารู้แค่เพียงว่าเมื่อยามที่เขาจ้องมองเธออย่างนี้เธอก็ไม่ต่างจากน้องพายของเขาเมื่อสิบเอ็ดปีก่อนเลย ยัยเด็กนั่นเหรอทั้งดื้อด้าน และซุกซน ทะเล้นแถมยังขี้เล่นอีกต่างหาก
"พายไปได้รึยังคะ"
"อืม" กว่าจะตอบออกมาได้แต่ละคำทำเอาคนที่ยืนอยู่เกร็งไม่น้อย แต่ทำไมครั้งนี้เขาไม่เกรี้ยวกราดใส่เธอแล้วนะ หรือว่ามีแผนอื่นหรือเปล่า พายอาร์แอบงงเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินออกไปเงียบๆ ปล่อยให้ธันวานั่งอยู่ที่เดิม
ภายในห้องที่แอร์เย็นฉ่ำหนุ่มหล่อนั่งอยู่ในความมืดเหม่อมองกำแพงนิ่งๆ พลางขบคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ไม่รู้ว่ามุมปากของเขายกยิ้มตั้งแต่เมื่อไหร่กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เกือบทำเอาเมื่อยอยู่เหมือนกัน ธันวานั่งไขว่ห้างจ้องมองไอแพดที่จารีย์เอามาอ้างแสดงผลงานของพายอาร์ มุมปากยังคงยกยิ้มค้างอยู่อย่างนั้น พลางคิดในใจ
"คงลำบากอยู่จริงแหละมั้ง" นิ่งไปอีกเพียงครู่แล้วพึมพำกับตัวเองเบาๆ
"ถือว่าช่วยลูกหมาลูกแมวแล้วกัน"