เล่ห์สวาท...มายารัก EP.04 สถานที่แห่งความทรงจำ (3)

1406 คำ
“ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงนะไอ้เกด ไม่ต้องส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มแบบนี้มาให้ฉัน” หญิงสาวรีบผลักศีรษะเล็กที่ซบอยู่ที่ไหล่ออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ นับวันเธอก็กลัวท่าทางชวนให้หวาดเสียวของการะเกดขึ้นเรื่อยๆ ถึงพวกเธอสองคนไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงก็เถอะ แต่คนอื่นมองเขาก็ต้องคิดไปตามที่เห็นนั่นแหละ “รู้แล้วน่า ก็ฉันไม่ชอบไอ้ฝรั่งร่างยักษ์ตรงนั้นนี่นา มันมองแกกับฉันนานแล้วนะ” การะเกดพูดอย่างหัวเสีย เมื่อจู่ๆ เธอก็เห็นฝรั่งร่างใหญ่เดินตามเธอกับฝนแก้วมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว อีกทั้งก็ยังมีสายตาแปลกๆ มามองพวกเธออีก แล้วจะไม่ให้เธอเริ่มเกาะติดฝนแก้วได้ยังไง “ไหน” ฝนแก้วถามขึ้นอย่างเป็นกังวล ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง มิน่าการะเกดถึงได้ทำอะไรแปลกๆ กับเธออยู่เรื่อย หญิงสาวมองไปทางที่เพื่อนรักชี้ไป แล้วเธอก็ได้เห็นฝรั่งร่างยักษ์ที่ยืนมองพวกเธออย่างที่คนขี้กลัวบอกเสียด้วย สายตาคู่คมสวยจ้องมองไปยังฝรั่งทั้งสองอย่างเอาเรื่อง เมื่อฝ่ายที่แอบมองเห็นว่าสองสาวที่พวกเขาติดตามมากำลังเดินตรงมาหา ทั้งสองหนุ่มถึงกับถอยหลังแล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้นทันทีเหมือนกัน “มันเดินหนีเราไปแล้วฝน” คนที่อยู่ในอาการกลับทำเสียงหวานใส่เพื่อนรักอีกครั้ง มือเรียวเล็กจับต้นแขนเรียวเอาไว้แน่น “เราไปเที่ยวที่อื่นกันต่อเถอะ” การะเกดบอกพร้อมกับดึงร่างของฝนแก้วเอาไว้ นึกไปก็น่าจะโทษตัวเองที่ดันพูดให้เพื่อนหัวเสีย รู้อย่างนี้ตัดสินใจชวนไปที่อื่นน่าจะดีกว่า “โอเค งั้นเราไปกันเถอะ” ฝนแก้วหยุดเดินพร้อมกับก้มลงมาบอกการะเกดอย่างเป็นห่วง หญิงสาวรีบดึงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแล้วยื่นให้เพื่อนรักอย่างสงสาร นี่คงกลัวล่ะสิหน้าถึงได้ซีดขนาดนี้ ‘เฮ้อ...แล้วแบบนี้พี่เสือจะชอบได้ยังไงเนี่ย แกไม่รู้หรือยังไงว่าพี่เสือชอบผู้หญิงเข้มแข็งนะไอ้เกด’ “ขอบคุณนะ ถ้าไม่มีแก ฉันคงทำอะไรไม่ถูกแน่” การะเกดขอบคุณฝนแก้ว เธอรักฝนแก้วก็แบบนี้แหละ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยมีพี่น้อง พอมาเจอฝนแก้ว ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเธอก็เปลี่ยนไปหมด เธอมีทั้งเพื่อนทั้งพี่ไปพร้อมๆ กัน “ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก” “ฉันดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนกับแกนะไอ้ฝน เพราะแกเป็นทั้งเพื่อนและพี่ให้ฉันมาตลอดหลายปีที่ผ่าน” “คิดมากอีกแล้วแก ไปได้แล้วว่าแต่จะไปเที่ยวที่ไหนดีล่ะ” ฝนแก้วรีบตัดบท เมื่อเห็นท่าทางเศร้าๆ เหงาๆ ของการะเกด อาจเพราะรู้ดีว่าทุกครั้งที่ยัยเพื่อนจอมขี้อ้อนพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร เธอจะต้องลำบากไปอีกหลายชั่วโมง เพราะต้องมานั่งปลอบให้หยุดร้องไห้ “พระราชวังฤดูหนาว” “โอเค งั้นเราไปกันเลย” ฝนแก้วรับคำพร้อมกับดึงให้การะเกดออกเดินตามเธอ เห็นทีคืนนี้เธอจะต้องนอนพักที่นี่สักคืนแล้วพรุ่งนี้ก็ค่อยเดินทางกลับที่พัก ณ กรุงมอสโคว์ /////////////// สองวันต่อมา... ฝนแก้วกับการะเกดก็เดินกลับมาถึงกรุงมอสโคว์ หลังจากที่พวกเธอเดินทางไปเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของพระราชวังฤดูหนาว,พระราชวังฤดูร้อน, นครเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก, อารามชี สมอลนี่ คอน แวนน์ และมหาวิหารเซ็นต์ไอแซค ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาว ฝรั่งเศส มองต์ แฟร์ร็อง ใช้เวลาสร้างถึง 40 ปี ภายในวิหารประดับประดาด้วยหินอ่อน, และมาลาไคท์หลากสี ยอด โดมทำด้วยทองคำแผ่น หนักถึง 100 กิโลกรัม นับเป็นวิหารทรงโดมที่ใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของโลก ฝนแก้วเดินนำหน้าการะเกดเข้ามารับคีย์การ์ดของห้องพักด้วยสีหน้าที่ดูอ่อนล้า สองวันที่พาการะเกดไปเที่ยว เธอก็แทบจะหมดแรง เพราะรายนั้นไม่ค่อยจะแข็งแรงเหมือนอย่างเธอ ปวดหัวบ้างล่ะ ปวดเท้าบ้างล่ะ ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่าที่พาหญิงสาวมาเที่ยวด้วยในครั้งนี้ เมื่อรับคีย์การ์ดจากประชาสัมพันธ์ที่เคาน์เตอร์ หญิงสาวหุ่นเพรียวระหงก็เดินกลับมาหาหญิงสาวร่างเพรียวบางที่ยืนแทบไม่อยู่ด้วยสีหน้าหนักใจ เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนขี้อ้อน “ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะไอ้เกด ฉันไม่แบกแกขึ้นไปส่งที่ห้องหรอก” “ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา อย่าทำหน้าทำตาดุแบบนั้นสิ” “หน้าฉันก็ปกตินิ แกแหละคิดมากไป เอานี่คีย์การ์ด” ฝนแก้วยื่นคีย์การ์ดส่งให้การะเกดอย่างบึ้งตึงนิดๆ ขืนใจดีมากไป เดี๋ยวก็ทำให้เธอต้องขายหน้าอีก ยิ่งมีคนมากเธอก็ยิ่งกลัว เกิดยัยเพื่อนจอมติ๊งต๊องคนนี้คิดเล่นอะไรพิเรนทร์ขึ้นมาอีก เธอได้เอาหัวไปโขกกับกำแพงแน่ “วันนี้เราลงไปว่ายน้ำกันไหม” “นี่แกยังมีแรงอีกเหรอ คิดว่าพอถึงห้องจะนอนเลยเสียอีก” น้ำเสียงติดจะขุ่นเคืองเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทางชวนให้หมั่นไส้ของการะเกด “มีสิ เย็นนี้เราไปว่ายน้ำกันนะฝน น่านะ...นะฝนนะ” น้ำเสียงช่างออดอ้อนเริ่มพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักยังยืนนิ่งไม่สนใจคำออดอ้อนของเธอ “ฝนจ๋า เราไปว่ายน้ำกันนะ” การะเกดเริ่มแผนเดิมอีกแล้ว ใบหน้าสวยคมเงยขึ้นมาส่งสายตาหวานเยิ้มพร้อมกับยื่นมือขึ้นไปจับแขนเรียว “พอๆ เลย ไปก็ได้ แกไม่ต้องมาอ้อนฉันแบบนี้ก็ได้นะไอ้เกด แกนี่มันน่ากลัวจริงๆ” “ก็ชวนดีๆ ไม่ยอมไปนี่นา มันก็ต้องทำแบบนี้สิ” การะเกดทำเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมากับความสำเร็จของตัวเอง นี่แหละมาตรการกำจัดความแข็งกระด้างของฝนแก้ว ให้มันรู้ไปสิว่าจะทนแรงออดอ้อนของเธอได้ “ไปขึ้นห้องได้แล้ว มัวแต่อ้อนอยู่นั่นแหละ คนมองกันใหม่แล้ว แกนี่มันชอบทำให้ฉันขายหน้าอยู่เรื่อยเลย ไม่รู้หรือยังไงว่าพี่เสือชอบผู้หญิงเข้มแข็งนะ” “ไม่เอาน่า พูดถึงเรื่องนี้แล้วเครียดว่ะ ขึ้นห้องกันเถอะ” การะเกดทำเสียงเศร้ากับปัญหารักของเธอเอง ก็เธอไม่ได้เข้มแข็งเหมือนฝนแก้วนี่นา “แต่ฉันว่าแกน่าจะเอานิสัยขี้อ้อน ออเซาะไปใช้กับพี่เสือบ้างก็ดีนะ บางทีพี่เสืออาจจะตกหลุมพรางแกก็ได้” “นับเป็นความคิดที่ดี” การะเกดยิ้มกว้างกับความคิดของเพื่อน ก่อนจะตัดสินใจเดินไปยังลิฟต์ที่เปิดรับลูกค้าของโรงแรม ฝนแก้วเดินตามการะเกดไปติดๆ พร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอากับนิสัยไม่รู้จักตัวของเพื่อนรัก แต่จะโทษการะเกดก็ไม่ได้ เพราะเธอเองไม่ใช่หรือที่ดันตามใจยัยเพื่อนช่างอ้อนคนนี้มาแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็ตอนนั้นพวกเธอเหลือกันแค่สองคนไม่ใช่เหรอ เมื่อจู่ๆ บิดามารดาของเธอและการะเกดดันประสบอุบัติเหตุพร้อมกัน เพราะพวกท่านทั้งสี่ตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวอังกฤษ เพื่อฉลองวันครบรอบการแต่งงาน และครั้งนั้นเองที่เธอกับเพื่อนต้องเสียบิดามารดาไปพร้อมๆ กันตลอดกาล นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็คอยดูแลเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ให้กับการะเกดมาตลอดสิบปี ไม่ว่าเพื่อนคนนี้อยากได้อะไรเธอก็ไม่เคยขัด ไม่เคยบ่น จนมันกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวของหญิงสาวมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าเพื่อนคนนี้จะอายุยี่สิบเก้าแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นห่วงอีกฝ่ายไม่ต่างจากเมื่อสิบปีที่ผ่านมา /////////// ...โปรดติดตามตอนต่อไป...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม