“ฉันไม่ได้ชอบผู้หญิงนะไอ้เกด ไม่ต้องส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มแบบนี้มาให้ฉัน”
หญิงสาวรีบผลักศีรษะเล็กที่ซบอยู่ที่ไหล่ออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ นับวันเธอก็กลัวท่าทางชวนให้หวาดเสียวของการะเกดขึ้นเรื่อยๆ ถึงพวกเธอสองคนไม่ได้เป็นผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงก็เถอะ แต่คนอื่นมองเขาก็ต้องคิดไปตามที่เห็นนั่นแหละ
“รู้แล้วน่า ก็ฉันไม่ชอบไอ้ฝรั่งร่างยักษ์ตรงนั้นนี่นา มันมองแกกับฉันนานแล้วนะ”
การะเกดพูดอย่างหัวเสีย เมื่อจู่ๆ เธอก็เห็นฝรั่งร่างใหญ่เดินตามเธอกับฝนแก้วมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว อีกทั้งก็ยังมีสายตาแปลกๆ มามองพวกเธออีก แล้วจะไม่ให้เธอเริ่มเกาะติดฝนแก้วได้ยังไง
“ไหน”
ฝนแก้วถามขึ้นอย่างเป็นกังวล ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง มิน่าการะเกดถึงได้ทำอะไรแปลกๆ กับเธออยู่เรื่อย หญิงสาวมองไปทางที่เพื่อนรักชี้ไป แล้วเธอก็ได้เห็นฝรั่งร่างยักษ์ที่ยืนมองพวกเธออย่างที่คนขี้กลัวบอกเสียด้วย สายตาคู่คมสวยจ้องมองไปยังฝรั่งทั้งสองอย่างเอาเรื่อง
เมื่อฝ่ายที่แอบมองเห็นว่าสองสาวที่พวกเขาติดตามมากำลังเดินตรงมาหา ทั้งสองหนุ่มถึงกับถอยหลังแล้วรีบเดินออกมาจากตรงนั้นทันทีเหมือนกัน
“มันเดินหนีเราไปแล้วฝน” คนที่อยู่ในอาการกลับทำเสียงหวานใส่เพื่อนรักอีกครั้ง มือเรียวเล็กจับต้นแขนเรียวเอาไว้แน่น
“เราไปเที่ยวที่อื่นกันต่อเถอะ”
การะเกดบอกพร้อมกับดึงร่างของฝนแก้วเอาไว้ นึกไปก็น่าจะโทษตัวเองที่ดันพูดให้เพื่อนหัวเสีย รู้อย่างนี้ตัดสินใจชวนไปที่อื่นน่าจะดีกว่า
“โอเค งั้นเราไปกันเถอะ”
ฝนแก้วหยุดเดินพร้อมกับก้มลงมาบอกการะเกดอย่างเป็นห่วง หญิงสาวรีบดึงผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแล้วยื่นให้เพื่อนรักอย่างสงสาร นี่คงกลัวล่ะสิหน้าถึงได้ซีดขนาดนี้
‘เฮ้อ...แล้วแบบนี้พี่เสือจะชอบได้ยังไงเนี่ย แกไม่รู้หรือยังไงว่าพี่เสือชอบผู้หญิงเข้มแข็งนะไอ้เกด’
“ขอบคุณนะ ถ้าไม่มีแก ฉันคงทำอะไรไม่ถูกแน่”
การะเกดขอบคุณฝนแก้ว เธอรักฝนแก้วก็แบบนี้แหละ ตั้งแต่เล็กจนโต เธอไม่เคยมีพี่น้อง พอมาเจอฝนแก้ว ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเธอก็เปลี่ยนไปหมด เธอมีทั้งเพื่อนทั้งพี่ไปพร้อมๆ กัน
“ไม่เป็นไรหรอก อย่าคิดมาก”
“ฉันดีใจนะที่ได้เป็นเพื่อนกับแกนะไอ้ฝน เพราะแกเป็นทั้งเพื่อนและพี่ให้ฉันมาตลอดหลายปีที่ผ่าน”
“คิดมากอีกแล้วแก ไปได้แล้วว่าแต่จะไปเที่ยวที่ไหนดีล่ะ”
ฝนแก้วรีบตัดบท เมื่อเห็นท่าทางเศร้าๆ เหงาๆ ของการะเกด อาจเพราะรู้ดีว่าทุกครั้งที่ยัยเพื่อนจอมขี้อ้อนพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไร เธอจะต้องลำบากไปอีกหลายชั่วโมง เพราะต้องมานั่งปลอบให้หยุดร้องไห้
“พระราชวังฤดูหนาว”
“โอเค งั้นเราไปกันเลย”
ฝนแก้วรับคำพร้อมกับดึงให้การะเกดออกเดินตามเธอ เห็นทีคืนนี้เธอจะต้องนอนพักที่นี่สักคืนแล้วพรุ่งนี้ก็ค่อยเดินทางกลับที่พัก ณ กรุงมอสโคว์
///////////////
สองวันต่อมา...
ฝนแก้วกับการะเกดก็เดินกลับมาถึงกรุงมอสโคว์ หลังจากที่พวกเธอเดินทางไปเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ของพระราชวังฤดูหนาว,พระราชวังฤดูร้อน, นครเซนต์ ปีเตอร์สเบอร์ก, อารามชี สมอลนี่ คอน แวนน์ และมหาวิหารเซ็นต์ไอแซค ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาว ฝรั่งเศส มองต์ แฟร์ร็อง
ใช้เวลาสร้างถึง 40 ปี ภายในวิหารประดับประดาด้วยหินอ่อน, และมาลาไคท์หลากสี ยอด โดมทำด้วยทองคำแผ่น หนักถึง 100 กิโลกรัม นับเป็นวิหารทรงโดมที่ใหญ่ เป็นอันดับ 3 ของโลก
ฝนแก้วเดินนำหน้าการะเกดเข้ามารับคีย์การ์ดของห้องพักด้วยสีหน้าที่ดูอ่อนล้า สองวันที่พาการะเกดไปเที่ยว เธอก็แทบจะหมดแรง เพราะรายนั้นไม่ค่อยจะแข็งแรงเหมือนอย่างเธอ ปวดหัวบ้างล่ะ ปวดเท้าบ้างล่ะ
ไม่รู้คิดถูกหรือเปล่าที่พาหญิงสาวมาเที่ยวด้วยในครั้งนี้ เมื่อรับคีย์การ์ดจากประชาสัมพันธ์ที่เคาน์เตอร์ หญิงสาวหุ่นเพรียวระหงก็เดินกลับมาหาหญิงสาวร่างเพรียวบางที่ยืนแทบไม่อยู่ด้วยสีหน้าหนักใจ เพียงไม่กี่ก้าวก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคนขี้อ้อน
“ไม่ต้องมาอ้อนเลยนะไอ้เกด ฉันไม่แบกแกขึ้นไปส่งที่ห้องหรอก”
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่นา อย่าทำหน้าทำตาดุแบบนั้นสิ”
“หน้าฉันก็ปกตินิ แกแหละคิดมากไป เอานี่คีย์การ์ด”
ฝนแก้วยื่นคีย์การ์ดส่งให้การะเกดอย่างบึ้งตึงนิดๆ ขืนใจดีมากไป เดี๋ยวก็ทำให้เธอต้องขายหน้าอีก ยิ่งมีคนมากเธอก็ยิ่งกลัว เกิดยัยเพื่อนจอมติ๊งต๊องคนนี้คิดเล่นอะไรพิเรนทร์ขึ้นมาอีก เธอได้เอาหัวไปโขกกับกำแพงแน่
“วันนี้เราลงไปว่ายน้ำกันไหม”
“นี่แกยังมีแรงอีกเหรอ คิดว่าพอถึงห้องจะนอนเลยเสียอีก” น้ำเสียงติดจะขุ่นเคืองเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นท่าทางชวนให้หมั่นไส้ของการะเกด
“มีสิ เย็นนี้เราไปว่ายน้ำกันนะฝน น่านะ...นะฝนนะ” น้ำเสียงช่างออดอ้อนเริ่มพูดขึ้น เมื่อเห็นว่าเพื่อนรักยังยืนนิ่งไม่สนใจคำออดอ้อนของเธอ “ฝนจ๋า เราไปว่ายน้ำกันนะ” การะเกดเริ่มแผนเดิมอีกแล้ว ใบหน้าสวยคมเงยขึ้นมาส่งสายตาหวานเยิ้มพร้อมกับยื่นมือขึ้นไปจับแขนเรียว
“พอๆ เลย ไปก็ได้ แกไม่ต้องมาอ้อนฉันแบบนี้ก็ได้นะไอ้เกด แกนี่มันน่ากลัวจริงๆ”
“ก็ชวนดีๆ ไม่ยอมไปนี่นา มันก็ต้องทำแบบนี้สิ”
การะเกดทำเสียงขึ้นจมูกเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมากับความสำเร็จของตัวเอง นี่แหละมาตรการกำจัดความแข็งกระด้างของฝนแก้ว ให้มันรู้ไปสิว่าจะทนแรงออดอ้อนของเธอได้
“ไปขึ้นห้องได้แล้ว มัวแต่อ้อนอยู่นั่นแหละ คนมองกันใหม่แล้ว แกนี่มันชอบทำให้ฉันขายหน้าอยู่เรื่อยเลย ไม่รู้หรือยังไงว่าพี่เสือชอบผู้หญิงเข้มแข็งนะ”
“ไม่เอาน่า พูดถึงเรื่องนี้แล้วเครียดว่ะ ขึ้นห้องกันเถอะ” การะเกดทำเสียงเศร้ากับปัญหารักของเธอเอง ก็เธอไม่ได้เข้มแข็งเหมือนฝนแก้วนี่นา
“แต่ฉันว่าแกน่าจะเอานิสัยขี้อ้อน ออเซาะไปใช้กับพี่เสือบ้างก็ดีนะ บางทีพี่เสืออาจจะตกหลุมพรางแกก็ได้”
“นับเป็นความคิดที่ดี” การะเกดยิ้มกว้างกับความคิดของเพื่อน ก่อนจะตัดสินใจเดินไปยังลิฟต์ที่เปิดรับลูกค้าของโรงแรม
ฝนแก้วเดินตามการะเกดไปติดๆ พร้อมกับส่ายหน้าอย่างระอากับนิสัยไม่รู้จักตัวของเพื่อนรัก แต่จะโทษการะเกดก็ไม่ได้ เพราะเธอเองไม่ใช่หรือที่ดันตามใจยัยเพื่อนช่างอ้อนคนนี้มาแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย ก็ตอนนั้นพวกเธอเหลือกันแค่สองคนไม่ใช่เหรอ
เมื่อจู่ๆ บิดามารดาของเธอและการะเกดดันประสบอุบัติเหตุพร้อมกัน เพราะพวกท่านทั้งสี่ตัดสินใจเดินทางไปเที่ยวอังกฤษ เพื่อฉลองวันครบรอบการแต่งงาน และครั้งนั้นเองที่เธอกับเพื่อนต้องเสียบิดามารดาไปพร้อมๆ กันตลอดกาล
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเธอก็คอยดูแลเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ให้กับการะเกดมาตลอดสิบปี ไม่ว่าเพื่อนคนนี้อยากได้อะไรเธอก็ไม่เคยขัด ไม่เคยบ่น จนมันกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวของหญิงสาวมาจนถึงทุกวันนี้ ถึงแม้ว่าเพื่อนคนนี้จะอายุยี่สิบเก้าแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเป็นห่วงอีกฝ่ายไม่ต่างจากเมื่อสิบปีที่ผ่านมา
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...