บทที่ 7
Red Carnation
ดอกคาร์เนชั่นสีแดง มีความหมายว่า โปรดเห็นความรักของฉันด้วย
อคิราห์จำใจต้องพาผู้เป็นแม่มาที่คาเฟ่ในตอนเที่ยงวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ เคยคิดว่าจะซื้อเค้กที่น้องเหมยเป็นคนทำไปฝากแต่คงไม่ต้องแล้วสินะ เมื่อในตอนนี้แม่ของเขานั่งยิ้มแป้นอยู่ที่โซฟาตรงหน้าร้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เลือกนั่งถูกที่เสียด้วยสิ
"อ้าวคุณอคิณ วันนี้มาเร็วจังเลยนะคะ"
"อ่า...พอดีพาคุณแม่มาชิมของหวานน่ะค่ะ"
ส่งยิ้มแห้ง ๆ ให้เจ้าของร้านแล้วผิดหน้าไปมองคนที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่บนโซฟา
"ว้าว วันนี้พาคุณแม่มาด้วยเหรอคะ"
"สงสัยเหงามั้งคะเลยอยากให้เราพาเที่ยว"
"แล้ววันนี้จะสั่งเหมือนเดิมไหมคะ"
"เหมือนเดิมค่ะ แต่ขอเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพให้คุณแม่ด้วยนะคะ"
"ได้เลยค่ะ"
"เอ้อคุณม่านคะ ขอของหวานด้วยนะคะ"
สั่งเสร็จอคิราห์ก็เดินกลับไปนั่งที่ตรงข้ามกับมารดา วันนี้เขายังไม่เห็นน้องเหมยเลย ส่งข้อความไปเมื่อเช้าเธอก็ทำเพียงแค่กดอ่านเท่านั้น ไม่ส่งอะไรตอบกลับมาเลยแม้แต่ข้อความเดียว ใจร้ายชะมัด
"หนูคนนี้เหรออคิณ"
"คะ?"
อคิราห์หลุดจากภวังค์แล้วเลิกคิ้วถามผู้เป็นแม่ด้วยความสงสัย หนูคนนี้ของคุณแม่หมายความว่ายังไงกันนะ
"หนูคนนี้เหรอที่อคิณสนใจ"
อ๋อ เป็นแบบนี้นี่เอง
"ไม่ใช่ค่ะ"
"หืม มีคนที่สวยกว่าอีกเหรอ"
อคิราห์ยิ้มเต็มหน้า ไม่ใช่ว่าสวยมากกว่าหรือน้อยกว่าหรอกนะ แต่คุณม่านไม่ใช่คนที่เขาชอบ น้องเหมยต่างหากคือคนที่เขาตกหลุมรัก ดังนั้นหากถามว่าใครสวยกว่าแน่นอนว่าเขาต้องตอบว่าน้องเหมย
และถ้าหากว่าเขาชอบคุณม่านเขาก็ต้องตอบว่าคุณม่านสวยกว่า แม้ว่าความเป็นจริงแล้วทุกคนสวยหมด ไม่มีใครไม่สวยเลย แต่อยู่ที่คนมองมากกว่า ว่าชอบแบบไหน และที่สำคัญต้องไม่เอาคนในแบบที่ตัวเองชอบไปกดคนอื่นให้ดูด้อยกว่า
"สวยคนละแบบค่ะ"
"แล้วคนไหนล่ะ"
ผู้เป็นแม่ทำท่าชะเง้อมองหา
"ไม่เห็นเหมือนกันค่ะ"
น้องเหมยคงตื่นแล้วเดาได้จากที่เธอกดอ่านข้อความของเขา แต่ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนต่างหากที่เป็นประเด็นสำคัญ
"เครื่องดื่มและของหวานที่สั่งได้แล้วค่ะ"
เป็นอีกครั้งที่ม่านต้อนรับลูกค้าคนนี้ด้วยตัวเอง แต่วันนี้มีคนพิเศษเพิ่มมาอีกคน นั่นก็คือแม่ของเขา
"สวัสดีค่ะคุณป้า"
"สวัสดีจ้ะหนู"
"นี่คุณแม่อคิณเองค่ะ ส่วนนี่คุณม่านค่ะแม่ เป็นเจ้าของคาเฟ่แห่งนี้"
อาจจะดูแปลกไปนิดที่เขาแนะนำให้ทั้งสองคนรู้จักกันในตอนที่ทั้งคู่ทักทายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ดอกไม้ที่ประดับอยู่มุมนั้นเป็นดอกไม้จากร้านคุณแม่ของคุณม่านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามค่ะ"
"สวยจังเลยนะจ๊ะ แม่ชอบบรรยากาศในร้านมากเลย"
"ขนมก็อร่อยนะคะ"
อคิราห์แนะนำอย่างตื่นเต้น เขาคะยั้นคะยอให้ผู้เป็นแม่ชิมของหวาน จะได้รู้ว่าอร่อยถูกปากมากแค่ไหน และที่สำคัญหากแม่ของเขาชอบ นี่จะได้เป็นความประทับใจแรกที่มีต่อคนที่เขาชอบยังไงล่ะ
"อืม อร่อยจริง คนแก่แบบแม่ยังชอบเลย รสชาติหวานพอดี แต่ความอร่อยมีมากที่สุด"
"น้องสาวม่านเป็นคนทำค่ะ"
"แล้วน้องสาวหนูม่านอยู่ที่ไหนจ๊ะตอนนี้"
เอ่ยถามเจ้าของร้านแล้วหันไปมองลูกสาวด้วยสายตาหมั่นไส้ อะไรมันจะไปแสดงออกว่าตื่นเต้นขนาดนั้นกันนะอคิณ เก็บอาการหน่อยไม่ได้หรือ คนที่นี่เขาคงมองออกหมดแล้วล่ะมั้งว่ามาที่นี่บ่อย ๆ เพราะกำลังหวังอะไรอยู่
"ตอนนี้คงกำลังขายดอกไม้ช่วยคุณแม่อยู่ค่ะ หรือไม่ก็อยู่ในห้องนอน"
"ยังไม่ตื่นเหรอหนู"
หากเป็นคนที่ลูกชอบแต่ตื่นนอนตอนเที่ยงขนาดนี้เห็นทีท่านคงต้องคุยกับลูกสาวใหม่เสียแล้ว
"น้องเหมยเป็นนักเขียนค่ะ บางวันก็เขียนนิยายอยู่ในห้องนอน บางครั้งที่ต้องส่งต้นฉบับน้องเหมยก็อยู่แต่ในห้องเป็นสัปดาห์เลยนะคะ ลงมาข้างล่างแค่ตอนทานข้าวเท่านั้น"
อคิราห์แอบเก็บข้อมูลอยู่เงียบ ๆ และสายตาของเขาก็ลอบมองอาการของผู้เป็นแม่ไปด้วย ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้กลัวนักหนา กลัวว่าคุณแม่จะไม่ชอบน้องเหมย
"นั่นไงคะ พูดถึงก็มาพอดีเลย"
สองแม่ลูกหันไปมองตามทิศทางที่เจ้าของร้านชี้ชวนให้ดู อคิราห์เผยรอยยิ้มเมื่อมองเห็นคนตัวเล็กที่กำลังเดินข้ามถนนมาที่นี่ วันนี้เธอผู้นั้นปล่อยผมยาวให้สยาย และยามเมื่อลมพัดเส้นผมสีดำขลับก็ปลิวไปตามแรงลม ชุดเดรสสีน้ำเงินเข้มลายดอกไม้ช่างดูเข้ากับเธอผู้นี้เสียนี่กระไร
"น้องเหมย"
บริมาสหันไปตามเสียงเรียกก็เจอกับพี่สาวที่กำลังนั่งอยู่ตรงโซฟาที่มีไว้สำหรับให้ลูกค้านั่ง เธอเห็นว่าพี่สาวไม่ได้นั่งอยู่เพียงคนเดียว ที่ตรงนั้นมีคนวุ่นวายไร้มารยาทที่ช่วงนี้ชอบมาวนเวียนป้วนเปี้ยนให้เห็นบ่อย ๆ ด้วย และหญิงวัยกลางคนอีกหนึ่งคนที่เธอไม่เคยเห็นหน้านั่งอยู่กับเขา
"นี่คุณแม่ของคุณอคิณค่ะ"
ทันทีที่เธอเดินเข้ามาใกล้ พี่สาวก็แนะนำให้รู้จักกับผู้มาใหม่ทันที
"สวัสดีค่ะ"
บริมาสยกมือไหว้ด้วยความนอบน้อม ร่างเล็กจำเป็นต้องนั่งลงตรงโซฟาตัวเดียวกันกับอคิราห์ เนื่องจากโซฟาถูกจัดไว้ให้อยู่ตรงข้ามกันและมีโต๊ะเล็ก ๆ กั้นไว้ตรงกลาง
อคิราห์เม้มปากแน่น เขาเกิดอาการเกร็งขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ และอาการนั้นก็ไม่ลอดพ้นสายตาของคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกันไปได้
"เค้กอร่อยมากเลยจ้ะ"
"ขอบคุณมากค่ะ น้องเหมยทำตามสูตรในยูทูป แต่ปรับน้ำตาลลงนิดหน่อยให้ถูกปากลูกค้าค่ะ"
ผู้สูงอายุมากที่สุดในกลุ่มมองคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรแต่พอเห็นว่าทั้งคู่ได้นั่งข้าง ๆ กันแบบนี้ท่านกลับรู้สึกว่าเหมาะสมกันมาก และจะเหมาะสมกว่านี้หากว่าลูกสาวสุดที่รักของท่านจะไม่เกร็งจนสังเกตได้
"แล้วทำไมถึงมีแต่ชีสเค้กล่ะจ๊ะ"
"ถ้าทำเยอะกลัวว่าจะไม่ทันค่ะ แต่ละวันก็เลยมีของหวานแค่อย่างเดียว"
"วันละอย่างค่ะคุณแม่ วันนี้ชีสเค้ก พรุ่งนี้เค้กช็อกโกแลต วันมะรืนบราวนี่สลับกันแค่สามอย่างนี้ค่ะ"
"แต่ก็ขายหมดใช่ไหมจ๊ะ"
"ใช่ค่ะเพราะลูกค้าชอบมาก"
บริมาสตอบด้วยรอยยิ้ม ปกติเธอไม่ค่อยได้เสวนากับใครจึงทำให้คุยไม่เก่งมากนัก ตลอดเวลาที่พูดพี่สาวจึงได้ช่วยพูดเสริมอยู่เสมอ
อคิราห์หลุดออกจากวงโคจรการเสวนาไปในทันที เขาเอาแต่นั่งนิ่งฟังคนโน้นคนนี้พูดอยู่อย่างนั้น และเสียงที่เขาชอบฟังเป็นพิเศษก็คือเสียงหวาน ๆ ของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นี่เอง
"แม่ว่าน่ารักทั้งสองคนเลย"
"แต่อคิณชอบน้องเหมยนะคะ"
ผู้เป็นแม่ยกยิ้มมุมปาก แสดงออกชัดเจนขนาดนั้นใครบ้างล่ะที่จะไม่รู้
"แม่รู้ อคิณแสดงอาการขนาดนั้น"
"ดูออกชัดเจนเลยเหรอคะ"
"เรานั่งตัวเกร็งมากเลยนะเมื่อกี้"
จะไม่ให้เกร็งได้ไงในเมื่อนั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้ใกล้ชิดกับเธอขนาดนั้น มีบ้างบางครั้งที่หัวเข่าของเราชิดกัน นั่นทำให้อคิราห์แทบหยุดหายใจ น่าแปลกที่กับคนนี้เขาเป็นเอามาก มากจนอคิราห์คิดว่าตัวเองเป็นวัยรุ่นหัดรักเสียอีก อยู่ใกล้คนที่ชอบแล้วเสียอาการขนาดนี้เขาไม่เคยเป็นกับใครมาก่อนเลย แม้แต่กับคนที่เขาเคยคบสักคนก็ไม่เคย
"แต่หนูเหมยดูตึง ๆ กับลูกนะ"
"..."
"เคยทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่าล่ะเราน่ะ"
"เอ่อ...อคิณเสียมารยาทกับน้องเหมยนิดหน่อยค่ะ"
"ดอกไม้ที่อยู่ร้านตรงข้ามน่ะ ซื้อไปขอโทษหนูเหมยสักช่อสิ"
จริง ๆ เลยลูกคนนี้ โตขนาดนี้แล้วยังต้องให้แม่สอนวิธีจีบคนที่ชอบอยู่อีก ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย ทีกับคนที่แม่ไม่ถูกชะตาด้วยนี่คบแล้วค่อยมาบอกตลอดเลยนะ ผู้เป็นแม่แอบค่อนขอดลูกสาวสุดที่รักในใจ
"แม่ก็ชอบนะ"
"..."
"หนูเหมยน่ะ"
อคิราห์ยิ้มจนแก้มแทบแตก แบบนี้คงต้องเดินหน้าจีบเร็ว ๆ แล้วสินะ ในเมื่อแม่เขาเปิดทางให้ขนาดนี้ เหลือก็แต่เขานี่แหละที่ต้องพิชิตใจน้องเหมยผู้ที่ชอบหน้าบึ้งกับเขาอยู่ตลอดให้ได้สักที เห็นทีคงต้องเดินหน้าจีบอย่างจริงจังกว่าครั้งไหน ๆ เสียแล้วสิ
"อคิณเอาปิ่นโตมาคืนคุณป้าค่ะ"
ความจริงแล้วอคิราห์จะนำปิ่นโตมาคืนตั้งแต่เมื่อตอนกลางวันก็ย่อมได้ แต่ทำแบบนั้นเขาก็ไม่มีข้ออ้างมาที่ร้านดอกไม้นี้อีกน่ะสิ เพราะฉะนั้นอคิราห์จึงเก็บปิ่นโตเอาไว้เพื่อที่จะได้นำมันมาคืนในตอนเย็นยังไงล่ะ
สรุปว่าวันนี้วันเดียวเขามาวนเวียนอยู่ที่นี่สามครั้งแล้ว เมื่อเช้า ตอนกลางวัน และตอนนี้
"อาหารอร่อยมากเลยค่ะ"
"พรุ่งนี้ก็มาอีกสิจ๊ะ แม่จะได้เตรียมไว้ให้"
"เกรงใจจังเลยค่ะ"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกลูก คนกันเองทั้งนั้นเลย หนูอคิณก็เป็นเพื่อนกับลูกสาวแม่"
แต่ตอนนี้หนูไม่อยากเป็นแค่เพื่อนของลูกแม่อย่างเดียวแล้วน่ะสิคะ อคิราห์คิดในใจยิ้ม ๆ
"คุณแม่คะ"
"ว่าไงคะ"
บ้านนี้เขาพูดจาไพเราะกันจังเลยนะ อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบ้านเร็ว ๆ จัง
"ถ้าจะขอโทษใครสักคนอย่างจริงใจ ดอกอะไรเหมาะที่สุดคะ"
"แม่ขายดอกไม้มาก็นานนะคะ แต่ก็จำความหมายของดอกไม้ไม่ค่อยได้ เรื่องแบบนี้ต้องถามน้องเหมย"
"แล้วถ้าจะขอความรักจากเขาล่ะคะ ต้องใช้ดอกอะไร"
เมื่อกี้คุณแม่ก็ยังบอกอยู่ว่าจำความหมายของดอกไม้ไม่ค่อยได้ แกยังจะเซ้าซี้ถามต่ออยู่อีกหรืออคิราห์ ชักจะสงสัยเสียแล้วสิว่าเขาเป็นคนไม่มีมารยาทอย่างที่น้องเหมยปรามาสไว้จริง ๆ
"ขอความรักต้องใช้ดอกไม้ด้วยเหรอลูก แม่นึกว่าต้องใช้แต่ความจริงใจเสียอีก"
อคิราห์ยิ้มให้กับคำตอบของผู้ที่สูงอายุกว่า ที่คุณแม่บอกมันก็ถูกต้อง แต่เขาก็ยังอยากได้ดอกไม้สักช่อ หรือสักดอกไปมอบให้เธอคนนั้นอยู่ดี เพราะความประทับใจในครั้งแรกของเขากับเธอผู้นั้นติดลบไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงอยากสร้างความทรงจำขึ้นมาใหม่
"ดอกคาร์เนชั่นสีแดงดีไหมลูก"
"มีความหมายไหมคะคุณแม่"
"โปรดเห็นความรักของฉันด้วย คือความหมายจ้ะ"
เท้าเรียวก้าวออกมาจากร้านขายดอกไม้ด้วยความมั่นคง มือข้างซ้ายของเขาถือดอกไม้สีแดงหนึ่งดอกเอาไว้ในมือ ตาเรียวเล็กจ้องมองเข้าไปในร้านคาเฟ่ที่มีผู้หญิงคนที่เขาหมายตากำลังจัดดอกไม้อยู่ สงสัยดอกไม้พวกเดิมคงจะเหี่ยวแล้วสินะเธอได้เปลี่ยนดอกใหม่เข้าไปไว้ทดแทน
น่าเสียดายที่วันนี้เขาไม่ได้พกกล้องติดตัวมาด้วย ภาพที่มองจากตรงนี้ช่างสวยงาม ร่างเล็กกำลังง่วนอยู่กับการจัดดอกไม้ ช่างเป็นภาพที่ดูเพลิดเพลินเสียจริง เพราะไม่ได้พกกล้องถ่ายรูปติดตัวมาด้วย วันนี้อคิราห์เลยอดบันทึกภาพน่าประทับใจเอาไว้เลย
"น้องเหมยคะ"
ทำไมวันนี้คนถึงชอบเรียกชื่อเธอนักนะ
"มีอะไรหรือเปล่าคะ"
บริมาสเงยหน้าขึ้นมามองลูกค้าจอมวุ่นวายของพี่สาว อะไรกันอีกนะ ทั้งเมื่อคืน ตอนกลางวัน แล้วก็ตอนนี้อีก เขาไม่ทำงานทำการหรืออย่างไรถึงได้ชอบมาวนเวียนที่นี่จัง
"พี่ให้ค่ะ"
คนตรงหน้ายื่นดอกไม้ที่บริมาสรู้ดีว่าเป็นดอกอะไรมาให้ แบบนี้คงไม่ใช่เอามาเพื่อให้เธอเสียบลงในแจกันเอาไว้ตกแต่งเป็นแน่
"แทนคำขอโทษที่พี่เสียมารยาทในวันนั้น"
"ขอบคุณค่ะ"
เป็นการขอบคุณตามมารยาทเท่านั้นแหละนะ
"แล้วก็แทนความรู้สึกของพี่ที่มีต่อน้องเหมยด้วยนะคะ"
บริมาสกำลังสับสนว่าเหตุใดเขาถึงได้มอบดอกไม้ชนิดนี้ให้แก่เธอ และเพราะความหมายที่น่าสงสารของมัน ทำให้บริมาสค่อนข้างคิดหนัก ลูกค้าของพี่สาวต้องการอะไรจากเธอกันแน่
"โปรดเห็นความรักของพี่ด้วย"
อคิราห์มองคนตรงหน้าด้วยสายตาละห้อย เกิดมาเพิ่งเคยขอความรักเป็นครั้งแรกมันก็รู้สึกแอบเขินอยู่เหมือนกัน
"เอาดอกไม้จากร้านคุณแม่ มาขอความรักจากลูกสาวของท่านเนี่ยนะคะ"
ดวงตากลมโตจ้องมองร่างสูงด้วยแววล้อเลียน จะขอความรักทั้งทีก็ไม่คิดจะลงทุนสักหน่อยเลยหรืออย่างไรกัน ใช่ว่าเธอจะไม่เคยถูกจีบ ทุกครั้งพี่ชายและพี่สาวจะช่วยกันคนเหล่านั้นออกให้ตลอด แต่ทำไมครั้งนี้ถึงไม่มีใครสนใจเธอเลยล่ะ พี่ชายหายไปไหนก็ไม่รู้ ส่วนพี่สาวก็ออกไปซื้อของเข้าร้าน ทุกคนปล่อยให้เธอยืนเผชิญหน้ากับคนไม่มีมารยาทที่ชอบวุ่นวายอยู่คนเดียวได้อย่างไร เจอแบบนี้ก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันนะ
บริมาสรู้สึกว่าร่างกายของเธอกำลังสั่นน้อย ๆ และที่สั่นมากกว่าส่วนอื่นดูเหมือนว่าจะเป็นอวัยวะภายในที่เรียกว่าหัวใจ