ตึก!! ตึก!!
ผมเดินตามทางที่มืดไปหมด มองไปรอบๆ มีเพียงผมคนเดียวที่ยืนอยู่ท่ามกลางความเงียบสงัด แต่สถานที่แห่งนี้กลับรู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
"ช่วยด้วย"
ผมหันไปมองทิศทางของเสียงก่อนจะมุ่งตรงไปทางนั้น
ขณะนั้นเอง สระน้ำกว้างใหญ่มองไปก็รู้ว่ามันต้องลึกมาก สระน้ำที่เคยว่างเปล่ากลับมีร่างของเด็กผู้ชายคนหนึ่งตะเกียกตะกายพาตัวเองขึ้นเหนือน้ำ
กึก!!
ผมที่พยายามขยับตัวแต่กลับทำไม่ได้สายตาจ้องมองไปยังเบื้องหน้ากลับปรากฏร่างเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กระโดดลงไปช่วยเด็กผู้ชายที่กำลังจะจมน้ำ
เฮือก!!!!
ติ๊ด ติ๊ด
เสียงนาฬิกาดิจิตอลแจ้งเตือนบ่งบอกว่าตอนนี้เวลาตีหนึ่ง ยกมือลูบหน้าผากตัวเองที่มีเหงื่อผุดออกมาพลางก้มหยิบสร้อยคอเส้นหนึ่งขึ้นมาดู
ผมมักฝันเรื่องเดิมๆ เป็นประจำ เด็กผู้ชายในฝันคนนั้นก็คือผมในวัยเด็ก
ผมเคยช่วยเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังจมน้ำ แต่หลังจากนั้นผมกลับจำเรื่องราวไม่ได้อีกเลย ผมรู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตัวเองอยู่โรงพยาบาลเสียแล้ว แถมยังมีสร้อยคอเส้นหนึ่งติดมาอีกด้วย
ผมคิดว่า เจ้าของสร้อยเส้นนี้ อาจจะเป็นคนที่ผมเคยช่วยชีวิตก็เป็นไปได้….
Rrr Rrr
แสงแดดยามเช้ากระทบลงที่ใบหน้า พยายามยกผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าหนีแสงสว่างพลางยื่นมือไปหยิบมือถือที่กำลังสั่นจนทำให้รำคาญ
"มีอะไรโทรมาแต่เช้า"
(มันไม่เช้าแล้วเว๊ย มึงแหกขี้ตาดู นี่มันจะเที่ยงแล้ว)
(นี่อย่าบอกนะว่ามึงยังไม่ตื่นจากบรรทม)
"วันนี้อาจารย์ยกคลาสไม่ใช่เหรอวะ โทรมากวนเวลานอนกูสัส"
(กูจะบอกว่าเย็นวันนี้ มึงต้องไปช่วยงานกูกับไอ้วิน)
"เออ กูไม่ลืมหรอกน่า"
(อย่าคิดชิ่งเชียวนะคุณชายหมอก ไม่งั้นกูจะจับมึงไปปล่อยป่าช้าคนเดียว)
"ครับคุณเปอร์ หมอกกลัวแล้วครับ"
ผมนัดช่วยงานพวกไอ้เปอร์กับไอ้วิน มันบอกว่าแค่ให้ไปช่วยขนของ แต่ไม่รู้ว่าของนั่นมันคืออะไร
หลังจากที่วางสายจากเปอร์ผมก็ลุกมุ่งไปยังห้องน้ำทันที กะว่าจะนอนต่อแต่ตื่นเต็มตาตั้งแต่เปอร์โทรมาแล้วครับ
หลังจากที่จัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ผมก็ลงไปหาอะไรกินที่เซเว่นนอกมอ นี่แหละชีวิตเด็กมหาลัย คลุกคลีแต่กับเซเว่นจนจะได้เสียเป็นผัวเมียกันแล้ว
เดินมาหยุดที่ตู้นมยืนมือไปจะหยิบเอามาใส่ตะกร้า ผมเดินหยิบของกินตามที่ท้องอยากแล้วตรงไปยังพนักงานเพื่อจ่ายเงิน
ยกยิ้มส่งให้พนักงานตรงหน้าจนหน้าเธอขึ้นสีแดงระรื่นพลางมองผมไปด้วยคิดเงินไปด้วย แหม เห็นผมเป็นแบบนี้ก็มีเสน่ห์ดึงดูดสาวน้อยสาวใหญ่นะครับ
"น่าระ…." แต่ยังไม่ทันได้หว่านเสน่ห์ปลายกวักกลับต้องอ้าปากค้างคำพูดเอาไว้
"ต้องการอะไรหรือเปล่าคะ"
"ครับ? " เอ๋อเลยครับ เขาไม่ได้มองมึงไอ้หมอก สายตาพนักงานคนสวยที่มองไปทางด้านหลังด้วยท่าทีเขินอายจนผมต้องหันไปมองตามเพราะสงสัย
บุคคลที่ทำให้ผมเข้าใจผิดเขาไม่ตอบพนักงานแต่กลับมองไปยังกล่องสี่เหลี่ยมข้างๆ ผมแทน
“เอ้า สวัสดีพี่” บุคคลตรงหน้าเพียงพยักหน้าตอบเท่านั้น
ป๋าใหญ่วิศวะเมื่อเห็นผมหลีกทางให้ก็ยื่นมือไปหยิบกล่องสี่เหลี่ยม 5 กล่องแล้ววางรวมกับของผม
โอ้โห๋ พี่มึงซื้อถุงยางตั้งแต่เช้าเลยหรอวะ แต่เดี๋ยวนะ แล้วเอามาวางรวมกันกับของผมทำไม มาหลังก็ต่อคิวจ่ายดิ เห็นว่าหล่อหน่อยก็คิดจะแซงคิวหรือไง ไรวะ
"คิดเงินรวมกันเลย”
“อย่าบอกนะว่าพี่จะให้ผมจ่ายให้ บอกไว้ก่อนนะทั้งตัวมีอยู่สองร้อย” อันนี้เรื่องจริงไม่ได้หลอก ช่วงนี้จนจริง ป๋าไม่โอนเงินมาให้เพราะผมไม่ยอมไปช่วยงาน คิดว่าใช้วิธีนี้แล้วจะทำให้ผมยอมทำงานให้หรอ ฮึ บอกเลย ยอม
“กูมีเงินจ่าย ไม่คิดจะรังแกคนหาเช้ากินค่ำอย่างมึง” เฮ้ย อยู่ดีๆ ก็ถูกว่าจนเฉยเลย เออ ยอมรับก็ได้ พ่อแม่ทำงานข้าราชการมันจะมีเงินเดือนกี่บาทเชียว
“ใครจะหล่อรวยเหมือนพี่ล่ะ”
“ทั้งหมด 720 บาทค่ะ” หลังจากที่ป๋าใหญ่จ่ายเงิน ผมก็หยิบถุงมาถือเดินนำคนหน้าตาดีออกจากเซเว่น
หมั่นไส้ : (
ผมหยิบแค่ถุงขนมของตัวเองก่อนจะยื่นของในถุงให้อีกคน
“อะไร”
“ของพี่ไง ส่วนนี่เงินค่าขนมของผม”
“เงินกูไม่เอา ส่วนถุงยางกูฝากไว้ก่อนก็แล้วกัน” พูดจบพี่มันก็เดินไปขึ้นรถด้วยท่าทางสบายๆ สองมือล้วงกระเป๋าสองเท้าก้าวขึ้นรถ
“เฮ้ย พี่จะฝากไว้กับผมทำไม ไอ้พี่มึงโว้ย” อะไรของเขา คิดอยากจะฝากอะไรไว้ก็ฝากเลยหรือไง คนนะโว้ยไม่ใช่ธนาคาร เดี๋ยวก็คิดค่าธรรมเนียมรายวันแม่งเลย เอาให้จนเลยคอยดู
“หึ”
ผมมองเด็กเตี้ยที่ยืนทำหน้าดำหน้าแดงหน้าเซเว่น ดูแล้วก็น่ารักดี ถามว่าผมซื้อถุงยางทำไมนะเหรอ เห็นหน้าเด็กนั่นแล้วเกิดอยากแกล้งขึ้นมาก็แค่นั้น
มันก็แปลกดีนะ เด็กที่ทำตัวห้าวหาญ พูดมาก ยิ้มเก่ง เป็นคนเดียวที่ทำให้ผมสามารถยิ้มได้โดยไม่ต้องพยายามอะไรเลยสักนิด ผมไม่ชอบให้ใครเข้ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวแม้กระทั่งผู้เป็นพ่อก็ตาม แต่ผมกลับให้กระเป๋าเงินกับเด็กนั่นโดยไม่ลังเลทั้งๆ ที่ในนั้นมีบัตรประชาชนอยู่ก็ตาม ซึ่งข้อมูลนั้นสามารถบอกว่าผมเป็นใคร
ยังไงก็ตามเชื่อเถอะว่าเด็กนั่นไม่มีทางดูข้อมูลส่วนตัวผมแน่ๆ บื่อแถมซื่อขนาดนั้นคงจะหยิบแค่เงินร้อยหนึ่งแค่นั้นแหละ
@ผับ JK
“เฮ้ย ป๋ามาแล้วเว้ย”
ผมเดินเข้าในห้องที่มีทั้งเพื่อนและรุ่นน้องนั่งอยู่ ข้างกายก็คงไม่พ้นผู้หญิงของพวกมัน
"ทำไมทำหน้าแบบนั้นอ่ะป๋า แล้วไหนของขวัญวันเกิดผมล่ะ" ตี๋รุ่นน้องเอ่ยทักพร้อมกับแบมือรอรับของขวัญ
"ไม่มี"
"อะไรวะเฮีย นี่น้องนุ่งนะของขวัญก็ไม่มีมาให้"
"มึงจะเอาอะไรกับป๋ามันวะ ชีวิตนี้เคยซื้อของขวัญให้ใครบ้าง" ผมไม่สนใจคำพูดเพื่อนสักเท่าไหร่ ก็จริง ผมไม่เคยซื้อของให้ใคร ปกติก็แค่ทิ้งเงินให้ไปซื้อเอง
"เออ ใช่สิ วันนี้คณะเราจัดคนไปช่วยงานทำบุญใหญ่ พวกเฮียไม่ได้ไปหรอ"
" มึงดูหน้ากูก่อนไอ้ทีน หน้ากูเนี่ยเหมือนคนชอบทำบุญมากหรอ"
" ผมลืมไป เฮียไบร์ทไม่เหมาะกับบุญแต่เหมาะกับการทำบาปมากกว่า วันก่อนยังเห็นไปสอยเมียชาวบ้านอยู่เลย ชอบปีนต้นงิ้วก็ไม่บอก"
"ปากมึงนี่วอนตีนกูจริงๆ "
"ทำไมเฮียไบร์ทชอบทำร้ายคนอ่อนแอ"
ทีนหันมามองร่างสูงที่นั่งจ้องมือถือไม่พูดไม่จา ไม่สนใจผู้หญิงเลยสักนิด วันนี้เฮียมาแปลก
" เฮียเจ ทำไมวันนี้ไม่แลหญิงเลยเห็นจ้องแต่มือถือ ไหนขอผมดูหน่อยสิมันมีอะไรน่าสนใจ"
ทีนชะงักเมื่อมือใหญ่ของรุ่นพี่ผลักหัวออก ก่อนจะส่งสายตาเย็นวาบมาให้จนทำให้รู้สึกไม่ควรเข้าไปล้อเล่นด้วย
"มึงอย่าล้ำเส้น" ประโยคที่ถูกเปล่งออกมาทำให้ทีนนั่งลงที่เดิม สายตามองหน้ารุ่นพี่ข้างๆ เป็นสายตาเชิงถามแล้วหันหน้าไปกระซิบถามไบร์ท
" เฮียเจเป็นอะไรทำไมต้องหงุดหงิดด้วย"
"กูจะรู้เหรอก็อยู่ด้วยกันไหม"
ฟิ้ววว
พรึบ!!
ผมชะงักหยุดมองแขนตัวเองเมื่อถูกรั้งไว้พร้อมกับสีหน้าอ้อนวอน ผมส่ายหน้ารัวๆ ก่อนจะแกะมือนั้นออก
"นะๆ มึงสัญญาแล้ว มึงจะผิดสัญญาไม่ได้นะ"
"พวกมึงเอากูมาฆ่าชัดๆ "
"ก็แค่ทำบุญล้างป่าช้าเอง ทำบุญครั้งใหญ่เลยนะเว้ยไอ้หมอก" ไอ้วินพูดแต่ท่าทางของมันนี่โคตรตรงข้าม
"แล้วมึงละเปอร์ มึงกลัวผีไม่ใช่เหรอ คิดไงมาทำ"
"กูกลัวนะผีแต่กูกลัว F มากกว่า อาจารย์แม่งบอกกูถ้าไม่อยากได้เอฟก็ไปลงชื่อเข้าร่วมทำบุญ แรกๆ กูก็ไม่ได้อะไรมากก็คิดว่าทำบุญธรรมดา แต่ใครจะคิดว่าทำบุญอะ มันทำบุญล้างป่าช้า"
"กูไม่น่าโดดวิชาอาจารย์สาครเลย พอเรื่องนี้ถึงหูคุณหญิงนะ กูโดนสวดยับเลย"
อะแฮ่ม “ไอ้ลูกไม่รักดี ฉันส่งให้แกไปเรียนไม่ได้ให้ไปตามจีบสาว แกไปทำตามอาจารย์บอกเลยนะ ไม่งั้นฉันจะตัดเงินค่าขนมแก ไอ้ลูกเวร”
“เหี้ย โหดจัด” พวกผมได้แต่มองท่าทางของไอ้เปอร์ที่เลียนแบบแม่ของมันพร้อมกับทำสีหน้าลำบากใจ
"เพราะกลัวถูกหักค่าขนมและกลัวติด F มึงก็เลยลากกูมาเป็นยันกันผีเนี่ยนะ" มันพยักหน้าตอบอย่างมั่นใจ
เจริญล่ะเพื่อนกู
" ช่วยกูหน่อยนะหมอกเพื่อนรัก กูรู้ว่ามึงไม่กลัว มึงคงชินแล้ว"
" ชินกับผีนะสิ ยืนโด่ๆ อยู่ตรงหน้ากูเนี่ย ฉี่จะราดแล้วมึงโปรดรู้ไว้"
“ห๊ะ” ผมเซนิดหน่อยเนื่องจากเพื่อนตัวดีวิ่งมาหลบหลัง
"จริงเหรอวะ มะ มึงเห็นเหรอ" ผมพยักหน้าตอบมองอาม่าตรงหน้า ไปที่ชอบๆ นะอาม่า ไว้ผมจะทำบุญไปให้
" ละ แล้วมีกี่ตัววะ" ผมเงยหน้ามองไปรอบๆ ก่อนจะเบิกตากว้างก้าวถอยหลัง
"เชี่ยเปอร์ เชี่ยวิน เยอะยิ่งกว่าเส้นผมบนหัวพวกมึงอีก"
อย่างที่เคยบอก ผมเคยจมน้ำตอนเด็กตอนที่ช่วยเด็กผู้ชายคนหนึ่ง หลังจากผมฟื้น ร่างกายผมก็มีอาการแปลกๆ ผมตื่นขึ้นมามองเห็นเด็กคนหนึ่งนั่งทับอยู่ แต่มองดีๆ เด็กคนนั้นกลับมีดวงตาแดงก่ำผิวซีดเผือก
หลังจากนั้นมา ที่ตรงไหนแรงๆ ผมมักจะเห็น เห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น บางครั้งได้ยินเสียงร้องให้ทั้งคืน บางครั้งก็มีเสียงรื้อของลากโต๊ะทั้งคืนจนทำให้ผมนอนไม่หลับ ถึงจะเจอบ่อยแต่ผมก็ไม่ชินหรอกนะ
เกิดมาเป็นไอ้หมอกชีวิตแม่งน่าตื่นเต้นฉิบหายเลยครับ
"เด็กหนุ่มสามคนที่ยืนตรงนั้นมาช่วยลุงเก็บของหน่อย" เสียงลุงคนหนึ่งที่ยืนไม่ใกล้ไม่ไกลจากพวกผมดังขึ้น ไอ้เปอร์ทำการลากผมกับไอ้วินไปช่วยลุงเก็บของทันที
หลังจากพวกผมช่วยลุงแกยกของเสร็จ ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งคาดว่าน่าจะเป็นนักศึกษามหาลัยเดียวกันกับพวกผมถือน้ำเปล่ามาให้
มีผู้หญิงสวยๆ มาสถานที่แบบนี้ด้วยหรอเนี่ย เธอช่างเป็นคนใจกล้าจริงๆ
"เราชื่อครีมนะ"
" ชื่อเปอร์ครับคนสวย ส่วนไอ้หน้าปลาไหลข้างๆ มันชื่อวิน"
“ไอ้สัสเปอร์ เอ่อ ถึงเพื่อนมันจะบอกว่าหน้าผมเหมือนปลาไหล แต่ชีวิตผมอาจจะไม่ลื่นไหลถ้าไม่มีคุณนะครับ”
“ถุ้ย ขี้เหร่แล้วไม่เจียมตัวนะมึง”
“เอ่อ ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เธอหันไปยิ้มแห้งๆ ให้กับพวกหน้าม่อสองตัวจากนั้นใบหน้าหวานๆ จึงหันมาหาผม
"เราชื่อสายหมอก"
"มีผัวแล้ว" ประโยคหลังผมไม่ได้พูดครับ แต่เป็นเชี่ยเปอร์ต่างหาก
"มีผัวบ้านมึงสิไอ้เปอร์" ครีมหัวเราะก่อนจะเดินมานั่งข้างผม
"ทำไมหน้าซีดจัง ไม่สบายหรือเปล่า"
"เออ มึงไม่สบายหรือเปล่าหรือว่าเป็นเพราะผะ อื้อ.." คว้าหมับเข้าปิดปากเพื่อนตัวดีทันทีก่อนที่มันจะหลุดพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป
" เปล่า สบายดี" ยกขวดน้ำขึ้นดื่ม สายตาเหลือบไปเห็นร่างสูงคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา และจังหวะที่ผมจะลุกขึ้นเสียงคนที่ผมหนีมาตลอดก็ลอยเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
" น้องหมอก น้องหมอกจริงด้วย"
"เชี่ยหมอก กูไม่รู้นะเว้ยว่าพี่มันมาด้วย"
พี่ซีวายเดินตรงมาทางผมด้วยท่าทางดีใจ รอยยิ้มของพี่มันชวนผมขนลุกยิ่งกว่าเจอผีอีก นอกจากเห็นผีทั้งวันแล้ว ผมยังมาเห็นพี่ซีวายอีกหรอวะ
พี่มึงจะตามกูไปทุกที่ไม่ได้นะเว้ย
"ทำไมน้องหน้าซีดจัง ไม่สบายหรอ พี่พากลับดีไหม หรือไปโรงพะ… "
" ผมสบายดีพี่" ผมจับมือพี่ซีวายออกจากหน้าผาก ก่อนที่พี่มันจะลุกขึ้นยืน
"พี่มีผ้าเย็นพี่รถ เดี๋ยวพี่ไปเอามาให้นะครับ" ผมพยักหน้าเบาๆ มองพี่มันวิ่งหน้าตื่นไปที่รถ
“ดูไปเขาก็ดูจะชอบมึงจริงๆ นะ มึงไม่หวั่นไหวบ้างเหรอ”
“ไม่ กูคิดกับพี่มันแค่พี่น้องแค่นั้นแหละ”
กรี๊ด จู่ๆ เสียงกรี๊ดของผู้หญิงทำให้พวกผมสะดุ้งมองไปยังต้นเสียง พวกผมวิ่งไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่มีลุงผู้ชายสองคนจับไว้ โดยมีหลวงพ่อยืนอยู่ตรงหน้า
เธอร้องให้และมีอาการคลั่ง อาการแบบนี้ผีเข้าชัวร์
"หลวงพ่อนางหนูคนนี้ถูกผีเข้าแน่ๆ " ลุงชาวบ้านพูดขึ้น
"อย่าก่อกรรมทำบาปอีกเลยนะโยม แค่นี้ก็หนักหนาพอแล้ว ออกมาคุยกันเถอะ โยมเจ้าของร่างเขาจะแย่เอานะถ้าโยมยังไม่ออกมาแบบนี้"
"ไม่ กูไม่ออก พระก็อยู่ส่วนพระจะมายุ่งกับกูทำไม"
"พะ พี่…"
เชี่ย ผู้หญิงคนนั้นหันมาทางผมจนขนลุกซู่
" ไอ้หมอก มึงอยู่ดูเฉยๆ ไม่ได้หรือไง เกิดบ้าคลั่งขึ้นมาบีบคอมึงทำไง" วินดึงแขนผมให้หลบอยู่หลังหลวงพ่อ
" ปล่อยกู" เสียงของเธอดังจนลุงชาวบ้านสะดุ้งตกใจปล่อยมือเธอ
"พี่มีห่วงอะไรบอกผมได้ไหม" อึก ผมกลืนน้ำลายอึกใหญ่หลบอยู่หลังหลวงพ่อโดยโผล่แค่หัวออกไป
เหมือนผมกำลังต่อรองกับโจรเลยวะ แต่ลืมไปนี่ไม่ใช่โจรแต่เป็นผี
" มึงยุ่งอะไรด้วยไอ้เด็กทอม" เอ้า ขึ้นเลยครับ ขึ้นเลย
ผีมันด่าโผมมม
" เอ้า ป้า พูดงี้ได้ไงวะ เป็นผีผมก็ต่อยได้นะเว้ย"
" ไอ้หมอกมึงมานี่"
" สิงคนอื่น ทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปหมด ขาดความอบอุ่นหรือไงป้า"
"มะ.."
"ป้าดูดิ ผีตนอื่นเขาอยากได้บุญขนาดไหน เขามายื่นรอมันเสียเวลาขนาดไหน สำนึกผิดบ้างดิวะ" ผีก็ผีเถอะ ณ จุดนี้ ไอ้หมอกไม่ไว้หน้าหรอกนะเว้ย
“ไอ้เด็ก..”
“อ้ะๆ มาดิ ทำร้ายผม ผมต่อยจริงด้วย”
" ฮึก ฮือๆ เกลียด เกลียดผู้ชาย ฮือๆ "
ผมมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างอึ้งๆ ก่อนที่เจ้าของร่างจะล้มพับไปตรงหน้าจนลุงชาวบ้านต้องวิ่งมาอุ้มไปที่ศาลา
" เชี่ย ด่าผี ไม่ใช่หมอกทำไม่ได้ ยกให้เป็นไอดอลเลยครับ"
" ผีว่ากูก่อนนี่ กูก็ต้องปกป้องและให้ความยุติธรรมแก่ตัวเองสิ จริงไหมเปอร์วินเพื่อนรัก"
"จริงที่สุด เราต้องไม่ยอมใครแม้กระทั่งเป็นผีก็ตาม"
"เห็นไหม เพราะมีความคิดเหมือนกันถึงคบกันได้"
"เพราะไม่มีใครคบพวกเราต่างหากล่ะ หมอกเพื่อนรัก"