Chapter.9 บริสุทธิ์ เลือดสาดNc++
นาตาเลีย บุตรสาวทายาทจากตระกูลแอลเบอโตผู้มีรสนิยมรักร่วมเพศมาแต่ไหนแต่ไร และหญิงสาวคนล่าสุดที่เธอมาดหมายกลับปฏิเสธเล่นเอาเธอเดินหัวเสียกลับเข้ามาเก็บของใช้ส่วนตัวที่คฤหาสน์พี่ชายคนโต
หลังจากวันนี้ไป ถ้าวาโยยังอยู่เธอคงไม่มาเหยียบที่นี่อีก
..เธอไม่กล้าสู้หน้าหล่อน
ร่างเพรียวสูงชะงักกึกเมื่อเจอน้องชายกำลังนั่งเอนตัวเต็มเบาะยกเท้าขึ้นไขว่ห้าง ดวงตาสีเทาเข้มจับจ้องมองอยู่เหมือนจงใจดักรอเธอ
“แล้วอีกคนไปไหนล่ะ?” โลเรนโซ่เอ่ยถามอย่างจับผิด
“ไม่รู้” เธอส่ายหน้า รีบเดินจ้ำอ้าวผ่านน้องชายไป
“นาตาล อย่าโกหก เธอไปกับพี่ทั้งวัน แล้วยังกล้าโกหกเพื่อ!” โลเรนโซ่ลุกพรวดขึ้นเอ่ยตามไล่หลัง
เขาสู้อุตส่าห์แต่งตัวเรียบร้อยสวมสูทผูกไทก์เข้าร่วมประชุมได้ไม่ทันไร พอ736บอดี้การ์ดคนสนิทของเขารายงานว่าวาโยออกไปข้างนอกกับพี่สาวตั้งแต่เช้าเขารู้ได้เลยว่านาตาเลียคงคิดไม่ซื่อกับเธอ ..คนอย่างแม่นั่นมัวแต่ยิ้มโง่ๆคงรู้หรอกว่าใครเป็นอย่างไร
“พากันไปทำอะไรทั้งวัน แล้วตอนนี้แม่นั่นอยู่ไหน?”
“หือ?”
นาตาเลียหันขวับกลับไปมองหน้าน้องชาย “ก็เธอมาถึงก่อนแล้วนี่ ระ หรือว่า”
“หรือว่าอะไร ห๊ะ หรือว่าอะไร บอกมาเซ่” โลเรนโซ่คว้าหัวไหล่พี่สาวเขย่าอย่างแรง
“คนของอดัมรับเธอขึ้นรถไป”
“หา?”
“โอ๊ะ โอ .. ตอนนี้คนที่นายควรระวังมากกว่า..คงไม่ใช่ฉันแล้วล่ะ”
นาตาเลียยิ้มอ่อน ดวงตาเบิกกว้าง ไม่นึกว่าอดัมคิดแบบเดียวกันกับเธอ เพราะปกติรายนั้นก็ชอบเพศเดียวกันอยู่แล้ว
...แต่ที่น่าประหลาดใจสุดคงเป็นไอ้น้องชายคนนี้ที่แสดงอาการเป็นห่วงวาโยเสียจนออกนอกหน้า
มาเฟียหนุ่มไม่รอช้ารีบวิ่งหน้าตั้งกระโจนขึ้นรถขับปรู๋ออกจากคฤหาสน์ออกตามหาหญิงสาว
“นังบ้าเอ๊ย”
เท้าเหยียบคันเร่ง กำปั้นหนักทุบลงพวงมาลัยระบายความขุ่นเคืองในอก
……………………..
“เชิญครับ”
บอดี้การ์ด 705 ผายมือเชื้อเชิญให้หญิงสาวขึ้นเรือยอร์ชลำหรูจอดเทียบท่ารอไว้แล้ว
“พาฉันมาที่นี่ทำไมคะ?”
“คุณอดัมมีเรื่องสำคัญที่อยากคุยกับคุณ”
“กับฉัน? แล้วทำไมต้องคุยกันบนเรือด้วยคะ?”
“ไปเถอะครับ ผมมีหน้าที่ทำตามเจ้านายสั่งเท่านั้น ถ้าอยากรู้ก็เข้าไปถามคุณอดัมเอง”
น้ำเสียงดุดันของเขาทำเอาเธอไม่กล้าถามต่อและเดินตามไปอย่างเงียบๆ
พอมาถึงหน้าห้องของอดัม บอดี้การ์ดคนสนิทของเขากลับหยุดยืนอยู่ด้านหน้าประตู ปล่อยให้เธอเดินเข้าไปเพียงลำพัง เธอชักรู้สึกไม่ชอบมาพากลบางอย่าง พบร่างกำยำอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำยืนหันหลังจิบไวน์อยู่ เมื่อเหลือบมองทางซ้ายมีโต๊ะดินเนอร์ ฝั่งขวามีเตียงสีขาวขนาดใหญ่โปรยด้วยกลีบกุหลาบสีแดง เธอชะงักค้าง และไม่มีทางที่จะก้าวเดินต่อ
“ก้าวเข้ามาสิ”
อดัมรีบวางแก้ว ดวงตาทอดมองร่างบางในชุดเดรสสั้นสีแดงอย่างพอใจ
“วันนี้เธอสวยมาก” เขาหย่อนกายลงนั่งเก้าอี้พร้อมบริการรินไวน์ให้เธออย่างเสร็จสรรพ
“มีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูหรือคะ?” ในใจเธอกำลังคาดหวังว่าเขาคงมีเรื่องใหญ่อยากคุยกับเธอจริงจัง บรรยากาศที่เขาสร้างขึ้นมาคงไม่เกี่ยวกับเธอหรอกน่า
“มีเรื่องอยากเปิดใจคุยกันแค่เราน่ะ”
“คะ แค่เรา?? ทำไมต้อง เอ่อ เป็นที่นี่ด้วยคะ”
อดัมขำเบาๆ “ถามได้ ดูนี่สิ”
อดัมถ่างขาออกเล็กน้อย เขากำลังอวดน้องชายตรงกลางเป้ากำลังตั้งโด่ขึ้น
“บอกตามตรงนะว่าฉันเป็นไบเซ็กชวล เชื่อไหมว่าปกติฉันไม่ค่อยรู้สึกกระหายผู้หญิง แต่เธอ ทำให้ฉันรู้สึก อาห์ แบบว่า ตื่นตัวไว”
ใบหน้าคมเข้มก้มมองท่อนเอ็นใหญ่พร้อมรูดสาวช้าๆ
“ไม่” หญิงสาวส่ายหน้า สองเท้าถอยร่น สายตากำลังตื่นกลัวอย่างหนัก
“ใจเย็นๆสาวน้อย ไม่ต้องกลัว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สารภาพกับฉันสิ ว่าเธอรู้สึกกับฉันยังไง ฉันรู้ ว่าเธอแอบชอบฉัน แสดงออกสิวาโย แสดงความต้องการในใจออกมาว่าเธอชอบฉันมากแค่ไหน อ่าส์ ก้าวเข้ามาสาวน้อย ซี้ดด”
ดวงตาคู่เข้มจ้องมองหญิงสาวราวกับสะกดจิต มือใหญ่ค่อยๆรูดสาวลำแกร่งที่กำลังแข็งได้ที่
“ซี้ดดด ก้าวเข้ามาสิ ก้าวมานั่งตรงหน้าฉัน ดูดฉัน แล้วแสดงออกมาว่าเธอชอบฉันแค่ไหน”
“...!”
หญิงสาวพรหมจรรย์ยืนแข็งทื่อ สองขาเรียวสั่นเทา ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะวิ่งหนี
“ไม่ต้องกลัว ซี้ดด วาโย ..ฉันรู้ว่าเธอคงไม่เคยเจอขนาดไซส์ยุโรปแบบนี้ แต่รับรองว่าเธอจะชอบมัน”
“นะ หนูไม่เคย หนูไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน ได้โปรดอย่าทำหนูเลย”
เธอพนมมือไหว้อ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แววตาตื่นกลัวคู่นั้นทำให้เขาตกใจ
“หืม? เธอไม่เคย” อดัมรีบลุกขึ้น ดึงชุดให้ปกปิดความเป็นชายเอาไว้ ในขณะที่วาโยสะดุ้งโหยง เหมือนหนูติดจั่นกำลังพยายามหาทางหนีเอาตัวรอด
“โอเค ฉันขอโทษวาโย เราควรค่อยๆก้าวไปทีละขั้น”
เขาพยายามตะล่อมเอ่ยกับหญิงสาวพลางขยับก้าวเข้ามาช้าๆ
“ฉันรู้ว่าเธอชอบฉัน ไม่เช่นนั้นเธอคงไม่กล้ายอมรับมีดแทนฉันหรอก ใช่มั้ยล่ะ”
“ฮึก.. ใช่ ฉันช่วยชีวิตคุณไว้” เธอกลั้นก้อนสะอื้น กัดฟันเอ่ยให้จบประโยค “แต่นั่นไม่ได้แปลว่าฉันชอบคุณและอยากนอนกับคุณ”
เธอมองสีหน้าที่รู้สึกผิดของอดัม
แล้วร่างบางจึงเดินรีบวิ่งออกไป
เกลียดตัวเองจัง ทำไมต้องปฏิเสธเสียงสั่นด้วย
รู้สึกผิดหรือ?
แล้วรู้สึกผิดทำไม??
ทำไมต้องเกรงใจ ถ้าเกรงใจมากมันอาจจะถลำไกลจนกลายเป็นยอมพลีกายให้ ทั้งที่เธอไม่ได้อยากทำแบบนั้น
เธอแค่รู้สึกดี
ไม่ได้รู้สึกรัก
หญิงสาวเดินปาดน้ำตาป้อยๆ แววตามองต่ำแค่พื้น รู้สึกน้อยใจในโชคชะตา คนที่ดูเป็นมิตรและทำดีกับเธอล้วนแล้วแต่หวังผลจากร่างกายเธอทั้งนั้น
“ไง ยัยหมาจรจัด”
เมื่อได้ยินเสียงของโลเรนโซ่พร้อมกับกลิ่นบุหรี่ที่เขาพ่นออกมา แววตาคู่เศร้าทอดมองทางข้างหน้าที่มีร่างสูงใหญ่ยืนดักรออยู่อย่างสิ้นหวัง สองเท้าเธออ่อนยวบไร้เรี่ยวแรง
ขอล่ะ ..
เธอเหนื่อยเกินจะต่อกรกับอะไรได้อีกต่อไปแล้ว มือเล็กจับราวระเบียงไว้เป็นที่ยึด ก่อนฝืนเดินผ่านเขาพร้อมภาวนาว่าจะไม่มีการถูกดึงกระชากหรืออะไรทั้งนั้น
หมั่บ!
เธอไม่สมหวัง
ร่างบางถูกดึงกระชากอย่างแรง เธอปวดตรงข้อมือเหมือนมันใกล้จะหักในไม่ช้า
“ฮึก ขอร้องล่ะ ปล่อยฉันเถอะวันนี้ฉันเหนื่อยมากพอแล้ว”
“เหนื่อยเหรอ? เฮอะ เหนื่อยกับอะไรล่ะ?” แววตาเขาทอดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าด้วยความดูถูกดูแคลน สองขาเรียวยาวสวยขาวเนียนของเธอมันกำลังสั่น เหมือนว่าเพิ่งรับศึกหนักมา ส่วนใบหน้าก็ซีดเซียว
“งามหน้าจริงๆให้ตายเถอะ กะจะเวียนเอาทั้งสามพี่น้องเลยสินะ”
มือใหญ่ลูบคลำต้นแขนเรียวเนียนละเอียดก่อนบีบมันเต็มแรง
“โอ๊ย”
“โดนตีฉิ่งตอนเช้า ตกบ่ายถ่างตูดให้อดัม ตอนค่ำลองถ่างขาให้ฉันเอาสักหน่อยไหมล่ะ?”
เปรี๊ยะ!
ฝ่ามือเล็กฟาดเข้าที่ใบหน้าของเขาเต็มแรง
“เหอะ” ใบหน้าคมคายหันกลับมาฟาดเธอกลับ
เปรี๊ยะ!
แก้มนุ่มถูกฝ่ามือหนาฟาดจนเสียหลักล้มครืนลงนั่งกองกับพื้น และยังคงไม่สาสมสำหรับคนโหดร้าย เขากระชากลากถูเธอเข้าไปในเคบินขนาดกระทัดรัด โลเรนโซ่เหวี่ยงร่างบางลอยวืดไปกระทบกับผนังห้อง
ตุ่บ
สองมือเล็กพยายามดันพื้นพยุงตัวเองลุกขึ้น
“ไม่นะ”
เธออุทานเสียงแหบในลำคอเมื่อเขากำลังล็อคประตูแน่นหนา มือปลดเข็มขัดและตะขอกางเกงขณะก้าวเข้ามาใกล้เธอเรื่อยๆ..
เสี้ยววินาทีนั้นเธอนึกอะไรไม่ออก นอกจากรีบควักมือถือในกระเป๋าสะพายเล็กๆที่นาตาเลียซื้อให้ ตั้งใจจะกดโทรหาอดัม
‘ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดเวลาเลยนะ’
เธอจำใจต้องโทรขอความช่วยเหลือกับคนที่เธอเพิ่งวิ่งหนีมา ช่างดูสิ้นหวังจริงๆ
“เฮอะ โทรหาอดัมงั้นเหรอ”
เขาหัวเราะเยาะ ก่อนยื่นมือคว้าหมั่บเข้าที่ลำคอ
วาโยออกแรงฮึดสุดท้ายในการสัมผัสจอ
เธอกดโทรออกสำเร็จก่อนที่มันจะตกลงพื้น
“แค่ก ปะ ปล่อย”
ร่างบางโดนลากไปยืนชิดผนังอย่างทุลักทุเล โลเรนโซ่กดศีรษะเธอไว้เสียจนแก้มข้างหนึ่งแนบไปกับผนังห้อง
“อย่านะ ฮึก.. ช่วยด้วย!! ”
สติเธอหลุดลอยเมื่อเขากำลังถกชายกระโปรงสั้นขึ้น แพนตี้ตัวจิ๋วถูกเบี่ยงออกด้านข้าง
“อย่า ได้โปรด”
นอกจากเสียงร้องของเธอแล้ว โลเรนโซ่ยังได้ยินเสียงของอดัมร้องระงมอยู่ในมือถือที่ตกแหมะบนพื้น
‘เฮ้ย อย่านะโลเรนโซ่ แกห้ามรังแกเธอเด็ดขาด!’
“เฮอะ อยากร่วมฟังเสียงครางของเธองั้นเหรอ ได้ เฮ้ อดัม ฉันกำลังลูบก้นเนียนๆของเธอว่ะ”
‘ไอ้บ้าเอ๊ย อย่าทำอะไรเธอ’
“ไม่นะโลเรนโซ่” เธอร่ำร้องเสียงสั่นเมื่อมีบางอย่างถูไถบริเวณร่องก้น
ปึง ปึง..
“ปล่อยเธอแล้วมาเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะพังประตูไปแน่โลเรนโซ่”
ปึง ปึง
“หึ ฝันไปเถอะ”
เขาไม่แยแสเสียงขู่จากด้านนอก
“เตรียมครางเสียงดังๆให้อดัมได้ยินนะนังโสเภณี”
แล้วมือขวากระทอกเอ็นอวบใหญ่แทงยัดเข้าไป
พรวด!
“กรี๊ดดด”
วาโยกรีดร้องลั่นท่ามกลางเสียงทุบประตูระรัวของอดัม
ใบหน้ายิ้มเหี้ยมเกรียมเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นชะงักค้าง ความเป็นชายสอดใส่เข้าไปในร่องคับแน่นปิดสนิทชนิดที่เขาคาดไม่ถึง ส่วนหัวบานใหญ่ของอวัยวะถูกข้างในเธอบีบรัดอย่างแรงชนิดที่เลือดไหลเวียนยังลำบาก
“นะ นี่เธอ!”
โลเรนโซ่รีบก้มมองตรงหว่างขาของเธอกำลังมีเลือดสีแดงสดไหลออกมา
“วาโย ฉัน..”
คำขอโทษกลืนหายไปในลำคอพร้อมด้วยสีหน้ารู้สึกผิดระคนดีใจ
“เจ็บ เอาออก ฉันเจ็บ”
เขารีบถอนตัวตนออก เอื้อมคว้ามือถือของเธอเพื่อวางสายที่อดัมถือค้างอยู่
เขาหวงแหนแม้กระทั่งเสียงของเธอ
“วาโย!”
แต่แล้ว เจ้าของร่างบางเกิดอาการช็อคสุดขีดจนเป็นลม
ฟุ่บ
ปึง ปึง..
อดัมชักใจคอไม่ดี เขาเป็นห่วงหญิงสาวที่เพิ่งจะเผยความจริงเรื่องที่เธอบริสุทธิ์ หากจะพังประตูเข้าไปย่อมทำได้ แต่เขากลัวว่าเธอจะอยู่ในสภาพเปลือย แต่ตอนนี้ ข้างในมันเงียบจนไม่อาจรอได้ไหว
“ถ้าแกไม่เปิดฉันจะพังประตูแล้วนะ”
อดัมรับปืนจาก705 เตรียมจะเหนี่ยวไก
ผลั๊วะ
โลเรนโซ่เปิดประตูออกมาเสียก่อน ร่างสูงใหญ่สวมเพียงกางเกงท่อนบนปล่อยเปลือยเต็มไปด้วยรอยสักเดินออกมาพร้อมกับหญิงสาวที่ไม่ได้สติถูกอุ้มพาดบนบ่ากว้างโดยมีเสื้อของโลเรนโซ่คลุมขาอ่อนเธอเอาไว้
“นั่น เธอเป็นอะไร แกจะพาเธอไปไหน”
“อย่ามายุ่ง นี่เมียกู!”