Chapter.11 ตรงนั้น..มันระบมNc
แม้ในตอนหลับเธอยังรู้สึกว่าร่างกายถูกร่างใหญ่รุกล้ำ ขึ้นขย่มโยก โถมกายกระหน่ำเสียบแทงตรงที่เดิมซ้ำๆ
“ซี้ดดด..แน่นชิบ!”
บวกกับเสียงแหบต่ำสูดปากครางพึมพำตอกย้ำว่านี่ไม่ใช่ฝัน โลเรนโซ่กำลังตักตวงความสุขจากร่างกายที่อ่อนล้าไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน
“อื้อ..ซี้ดด” เสียงเล็กครางฮืออยู่ในการอาการกึ่งหลับกึ่งตื่นสนองรับการสอดใส่ที่ไม่บันยะบันยัง
“อ่าส์.” วงแขนเผลอโอบกอดร่างหนาไว้แนบแน่นเมื่อความทรมานในกายใกล้จะสิ้นสุด
“อ่าส์ วาโย”
สองมือหนากอบโกยสองเต้าโน้มใบหน้าลงฟอนเฟ้น เร่งเร้าส่งตัวเองแตะสวรรค์ ไปพร้อมกัน เนื้อกระทบกันดังสนั่นเป็นจังหวะรัวๆ
“กรี๊ดด/โอ่วววส์”
ทั้งสองเปล่งเสียงครางระงม ร่องสาวคับแน่นรับเอาของเหลวจากปลายท่อนบานใหญ่ปล่อยเข้ามาภายในโพรงลึกสุด รู้สึกได้ถึงความอุ่นซ่านนองเจิ่งไหลออกมาด้านนอก
จุ๊บ
ริมฝีปากหยักเม้มดูดหยอกเย้ายอดถันชูชันมือขยำสองเต้าอวบจากที่ เคยเต่งตึง จนมันเริ่มเหลวคามือ ดวงตาเหลือบมองเห็นเงาจมูกโด่งเป็นสันเลื่อนผ่านเต้าหนึ่งไปยังเต้าหนึ่งสูดดมเนินเนื้ออย่างลุ่มหลง แม้จะผ่านมาค่อนคืนเธอยังรู้สึกตื่นเต้นใจสั่นระรัวกับสัมผัสของเขาเสมอ น้ำเสียงกระเส่า ความเร่าร้อน กลิ่นกายเย้ายวน รูปร่างกำยำสมบูรณ์แบบ หรือแม้แต่ตัวตนความเป็นชายที่เป็นจุดเชื่อมประสานกันและกันไว้ กลายเป็นความบอบช้ำที่มาพร้อมความสุขที่ยากจะอธิบาย
สองร่างเปลือยเหนียวเหนอะแต่ถึงอย่างนั้นโลเรนโซ่ก็ไม่ยอมถอดถอนลำกายออก ยังฝังตัวตนคาไว้หมายจะเริ่มบทรักอีกครั้ง ..และอีกครั้ง
“อ่าส์ ..วาโย ฉันเสียว..ซี้ดด”
“เธอต้องเป็นของฉัน..ของฉันคนเดียว”
เสียงกระซิบอันแหบพร่าที่เอาแต่พร่ำพรรณาถึงความสุขยังติดตรึงในโสตประสาทหญิงสาวพาลให้นอนหลับฝันดี
เธอรู้สึกตัวอีกทีเมื่อทุกอย่างภายในห้องสว่างไสว ร่างเล็กใต้ผ้าห่มหนาแทบขยับแข้งขาไม่ได้ เธอกระพริบดวงตารับแสงพร้อมกับได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของเขาซึ่งกำลังนั่งเอกเขนกบนโซฟาตัวใหญ่ห่างจากเตียงนอนไปหลายก้าว ดวงตากลมสวยปรายมองเห็นร่างใหญ่เปลือยท่อนบนส่วนท่อนล่างสวมกางเกงยีนส์ขายาวและบุหรี่ที่คาบคาไว้ใกล้จะหมดมวนเต็มที เขาขยี้มันบนภาชนะขณะสายตากำลังสนใจมองหน้าจอมือถือ
เธอรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นเครื่องของเธอที่อดัมให้ไว้ ..ก็แค่สงสัย แต่ไม่แน่ใจ เพราะมือใหญ่ของเขากำลังบดบังตัวเครื่องไว้เสียมิด อีกอย่าง ใครๆก็ใช้สมาร์ทโฟนสีดำกันทั้งนั้น
“นี่ที่ไหนคะ?” คำถามของเธอส่งผลให้คิ้วเข้มขมวดย่น รอยยิ้มบนมุมปากเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันควัน
เมื่อยังไร้คำตอบเธอจึงเริ่มเอ่ยอีกคำถาม
“คะ คุณปล่อยในแทบทุกครั้งใช่มั้ยคะ?”
“อือ ถามได้” เขาพึมพำตอบสั้นๆ หากแต่สายตายังสนใจแค่สมาร์ทโฟนในมือ
“แล้ว..ถ้าเกิดฉันท้องขึ้นมาล่ะคะ?”
“ก็อย่าโง่ปล่อยให้ท้องสิ!” เขาชักหัวเสีย เขวี้ยงมือถือทิ้ง
เพล้ง!!
ร่างเล็กสะดุ้ง กลืนน้ำลายหนืดๆลงคอ ก่อนพูดเสียงตะกุกตะกักบอกกับเขาอย่างเสียใจ
“ถ้าอย่างนั้น..ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
ร่างเปลือยล่อนจ้อนหอบเอาผ้าห่มลงจากเตียงด้วยสภาพอิดโรย เท้าเล็กก้าวเตาะแตะไม่ต่างจากเด็กหัดเดิน โลเรนโซ่มองร่างอ่อนปวกเปียกแต่ถือดีด้วยความรำคาญใจจึงเอ่ยถามในที่สุด
“ไปไหน?”
เธอไม่ตอบ ก้มหน้าเดินต่อ
“กูถามว่าไปไหน?!”
“ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินค่ะ”
“แล้วรู้เหรอว่านี่ที่ไหน?”
เท้าเล็กยอมหยุดอย่างจำนน สองมือกระชับผ้าห่มไว้แน่นทันทีที่ร่างใหญ่เดินตรงมาทางเธอ
“รออยู่นี่ เดี๋ยวมา และห้ามขานรับหรือเปิดประตูให้ใครมั่วซั่ว”
เขาชี้นิ้วขู่ก่อนเดินผ่าน
“ดะ เดี๋ยวค่ะ”
“อะไร!”
“จะไปซื้อยามาให้ฉันใช่มั้ยคะ”
“อือ”
“ถ้างั้น ฉันขอยาแก้อักเสบเพิ่มด้วยค่ะ คือ เอ่อ..ตรงนั้นมันระบมมาก”
“เรื่องมากชิบ”
เขากรอกตาพึมพำก่อนรีบปิดประตู
ตุ๊บ ตุ๊บ..
“หมอ..”
ตุ๊บ!..
“ไอ้หมอเว้ย..!”
มาเฟียหนุ่มแหกปากร้องเรียกเพื่อนพลางทุบประตูปึงปัง หากแต่หมอหนุ่มผู้เป็นเจ้าของบ้านเปิดบานหน้าต่างข้างประตูแทน
“เปิดประตูสิวะ”
อีกคนยักไหล่ พลางพยักพเยิดสายตาไปที่กริ่งกด โลเรนโซ่พ่นลมหายใจอย่างหงุดหงิดก่อนยอมกดกริ่งหน้าประตู
“พอใจมึงยัง?”
“ก็โอเค”
หมอหนุ่มกดเปิดประตูพลางผายมือต้อนรับเพื่อน
“มีธุระด่วนอะไรว่ามา?”
ดวงตาสีเทาเข้มเบนออกด้านข้างก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาสีขาว
“อยากได้ยาคุมฉุกเฉินว่ะ อืม แล้วก็..” เขาลูบหน้าแรงๆพลางเอ่ยเสียงกระอ้อมกระแอ้มว่า “ยาแก้อักเสบจากการมีเพศสัมพันธ์รุนแรงจนตรงนั้นมัน.. อาห์ เจ็บ ระบม อะไรประมาณนี้”
“หืม? เมื่อคืนอุ้มเด็กมาเหรอ?”
“ไม่ใช่ แต่ก็ ไม่เชิงเพราะเป็นครั้งแรกของเธอ”
หมอหนุ่มยืนอมยิ้มเอาสองมือล้วงกระเป๋ากางเกง สายตาเพ่งมองเพื่อนอย่างประหลาดใจ ปกติไอ้นี่จะมาขอยาให้ผู้หญิงเสียที่ไหน
“เร็วๆซี่เดี๋ยวท้องขึ้นมาแล้วมึงจะหายาทำแท้งให้ยุ่งยากอีก!” เขากระชากเสียงหงุดหงิดกลบเกลื่อนการถูกจ้องจับผิด
หมอหนุ่มหัวเราะเยาะเบาๆพลางเดินลากนิ้วไปตามตู้คลังยามากมาย พร้อมเปรยออกมา
“เห็นแฝดนรกดีใจใหญ่ นึกว่านายจะแบ่งสาวสวยคนนั้นให้ร่วมแจมด้วยเสียอีก อืม? หรือว่านายชอบคนนี้?”
“ฝันไปเถอะ!”
โลเรนโซ่กระชากถุงยาจากมือพลางเดินออกไป
“อืม..ไม่ชอบ แต่ไม่แชร์ อย่างนั้นสินะ” หมอหนุ่มพึมพำเพียงลำพัง พร้อมให้คำนิยามกับเพื่อนที่ตอบกำกวมและยังดูหงุดหงิดผิดวิสัย
เสียงรถยนต์เร่งเครื่องและกลับรถไปอย่างไม่ระวังชนกระถางต้นก***าพุ่มสูงใหญ่หน้าบ้านแฝดนรกจนพังไปสามกระถาง โลเรนโซ่ซึ่งยืนมองจากไกลๆชักเอะใจ พอเห็นใบหน้าของวาโยกำลังโผล่มาจากเบาะโบกมือไม้ส่งสัญญาณให้เขา เห็นจากกระจกด้านหลัง
ฟึ่บ
มือใหญ่อ่อนยวบปล่อยถุงยาทิ้ง สับเท้าวิ่งตามรถคันนั้นไปพลางเหลือบเห็นฮาร์เล่ย์เดวิสันรุ่นลิมิเตดของพวกเขาซึ่งจอดเรียงรายกัน
มาเฟียหนุ่มรีบขับมอเตอร์ไซค์สมรรถนะแรงเลี้ยว ลงข้างทางฝ่าป่าสนรกชัฏใช้เป็นทางลัด มอเตอร์ไซค์รุ่นเก๋าจอดขวางพาดทางถนนเส้นแคบ ร่างใหญ่หยิบบุหรี่ขึ้นสูบรออย่างใจเย็น มืออีกข้างล้วงเอาปืนสั้นที่ซุกใต้เบาะออกมาเล็งรถยนต์คันที่บังอาจขับพาเธอหนีจากระยะไกล จนกระทั่ง ขับมาในระยะใกล้ๆ
วาโยนั่งไม่ติดเบาะ เธอหันรีหันขวางมองหาโลเรนโซ่อย่างร้อนรน จนกระทั่งพบเขายืนดักรออยู่ตรงหน้า เขากำลังเล็งปืนเตรียมยิง
เอี๊ยดด
ทว่า บอดี้การ์ดสูทดำเงียบขรึมรีบเบรกรถกะทันหันจนวาโยแทบล้มคะมำ บอดี้การ์ดอีกคนรีบต่อสายหาเจ้านายพร้อมวิ่งลกๆลงไปหาโลเรนโซ่
“ยะ อย่าเพิ่งยิงครับ พวกผมทำตามคำสั่งมาดาม” รีบอธิบายพลางยื่นมือถือให้เขาคุยกับมาดามอลิซเซ่ด้วยมืออันสั่นเทา
โลเรนโซ่ยอมระวางปืนลง รับเอามือถือมาแนบหู สองเท้าก้าวสวบๆตรงเข้าไปคว้าแขนวาโยลากเธอออกมาจากรถ
‘ปล่อยเธอซะ เธอต้องเตรียมตัวหลายอย่างเพื่อไปร่วมงานสำคัญที่ญี่ปุ่น’
คำสั่งของมาดามอลิซเซ่ที่ยังอยู่ในสายไม่ได้น่าใส่ใจเท่าเสื้อผ้าที่วาโยสวม ดวงตาสีเทาเพ่งแววตาขุ่นมัวตำหนิเพราะเธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำลิมิเตดลายกะโหลกตัวโคร่งความยาวเหนือหัวเข่าเนียน และเธอยังโนบราอีก!
“ใส่อะไรของมึง?!
“ขะ ขอโทษค่ะที่สวมโดยพละการ คะ..คือชุดฉันมันขาดไปแล้วคุณก็รู้”เธออธิบายพลางถกชายเสื้อให้เขาเห็นว่าท่อนล่างไม่เปลือยเปล่า แต่ยังสวมบ๊อกเซอร์ของเขาอีกด้วย
เมื่อคำสั่งของเธอถูกลูกชายเพิกเฉย
‘กลับมาเดี๋ยวนี้! กลับมาทั้งสองคนเลย ’
มาดามจึงตะคอกเสียงดังลั่นห้องประชุมทำเอาทุกคนที่อยู่ในห้องประชุมสะดุ้งตัวสั่นไม่กล้าขยับตัว
ส่วนปลายสายที่ควรกลัวกลับไม่ได้สะทกสะท้าน พร้อมยื่นเงื่อนไขต่อ
“ขอเวลาสองวัน แล้วเราจะกลับไปหาคุณ”
โลเรนโซ่โยนมือถือคืนบอดี้การ์ด ถอดเสื้อตัวเองออกก่อนนำไปสวมทับเสื้ออีกตัวของวาโยเพื่ออำพรางบริเวณยอดถันไม่ให้เป็นจุดสนใจนัก แล้วมือใหญ่จึงลากจูงร่างบางสภาพเดินเท้าเปล่าให้ขึ้นรถซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไปกับเขา
หญิงสาวนั่งตัวสั่น วางมือไม้ไม่ถูก จะโอบกอดก็ไม่กล้าแถมที่เอวด้านหลังเขายังเหน็บกระบอกปืนไว้
หมั่บ
มือใหญ่คว้าเอาแขนข้างหนึ่งของเธอออกมาโอบกอดเขาไว้ด้วยสีหน้าบึ้งตึงคาดเดายาก
หญิงสาวลอบยิ้มขวยเขินยื่นมืออีกข้างออกไปประสานมือของตัวเองไว้พร้อมเอนศีรษะซบแผ่นหลังกว้างอย่างมีความสุข
“บ้าเอ๊ย รีบแบบไร้สมอง บังอาจพังต้นโปรดกู!”
แฝดผู้น้องโวยวายลั่น พร้อมขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์เตรียมไปเด็ดหัวไอ้คนขับรถไร้มารยาทคนนั้น
“เฮ้ ดูนั่น” แฝดผู้พี่สะกิดไหล่พยักพเยิดหน้าไปที่โลเรนโซ่ซึ่งขับกลับมาพร้อมสาวเอเชียใบหน้าจิ้มลิ้มแสงแดดกระทบผิวขาวเนียนของเธอราวกับสปอร์ตไลท์มีชีวิต แล้วแฝดนรกจึงล้มเลิกความตั้งใจเดิม ยืนกอดอกมองดูสาวสวยด้วยแววตาหื่นกระหายเปิดเผย
“ไง สาวน้อย นอนหลับสบายดีไหม ถ้าไม่ มาลองนอนที่บ้านเราได้นะ”
“หุบปาก” โลเรนโซ่สำทับเสียงเน้นหนัก ก่อนหันไปบอกกับวาโย
“รีบเดินกลับเข้าบ้านไปซะ”
“ค่ะ”
ว่าแล้วหญิงสาวจึงรีบวิ่งก้มหน้าออกไป
ท่าทีของเขาสร้างความประลาดใจให้กับสองพี่น้องเป็นอย่างมาก
“พวกมึงปล่อยให้คนนอกเข้ามาได้ง่ายๆเลยเหรอวะ”
“ไม่รู้สิ” แฝดคนน้องยักไหล่ไม่รู้ไม่ชี้ คนพี่เอ่ยอธิบาย
“ก็นึกว่าพ่อแม่หล่อนมาพาลูกสาวกลับบ้าน เราเลยยืนดูเฉยๆ”
แต่สีหน้าของทั้งสองช่างยียวน
“ทั้งๆที่มึงก็รู้ว่าพวกนั้นเป็นคนของแม่กู พวกมึงยังกล้าแถต่อ?”
“ก็นะ พวกเราอยากเห็นนายออกกำลังกายบ้างน่ะ” หมอหนุ่มเดินเข้ามาพร้อมกับถุงยาที่เก็บมาจากพื้นยื่นคืนให้เขา
โลเรนโซ่พ่นลมออกมาอย่างเหนื่อยหอบ เขารู้เท่าความคิดไอ้พวกนี้ดีว่ากำลังอยากเห็นท่าทีของเขาที่มีต่อหล่อน
ไงล่ะ ในที่สุดก็เผยออกมาให้พวกนี้เห็นจนได้ ทีนี้ได้แซวเรื่องที่เขาวิ่งตามผู้หญิงทั้งปีแน่นอน
“โดนลูกปืนกรอกปากกันสักหน่อยไหม เผื่อจะได้หยุดปากดีบ้าง”
เพื่อนๆหัวเราะขบขัน แต่ยังมีคนหนึ่งกำลังยกมือกุมขมับอย่างเศร้าใจ
“แล้วใครจะรับผิดชอบลูกชายกู เพราะมึงเลยไอ้ลอเรน!”
แฝดนรกผู้น้องหอบเอาต้นก***าขึ้นมาอย่างอาลัย
เพล้ง
โลเรนโซ่เตะโชว์เพิ่มอีกหนึ่งกระถางเป็นการไถ่โทษ แล้วก็ได้ยินเสียงร้องตะโกนก่นด่าไล่หลังพอให้ยิ้มได้