ตอนที่ : 3 ดิ่งลึกลงในใจ

1534 คำ
2 ดิ่งลึกลงในใจ            วันรุ่งขึ้นสองแม่ลูกก็ตื่นตั้งแต่ตีสามเพื่อทำขนมไทยเตรียมสำหรับลูกค้า เจ็ดโมงเช้าก็พากันไปยังบ้านของนางพิมพ์พรเพื่อทำความสะอาด            “อุปกรณ์ไม่ต้องเอาไปเพราะที่บ้านโน้นมีครบนะรุ้ง”            “ค่ะแม่” หญิงสาวเดินตามหลังมารดาไปกดกริ่งหน้าบ้านหลังด้านข้าง สักพักใหญ่ ๆ นางพิมพ์พรก็เดินมาเปิดประตูให้ด้วยตัวเอง    รุ้งพรายรีบยกมือขึ้นไหว้หญิงสูงวัย            “สวัสดีค่ะคุณป้าพิมพ์”            “หนูรุ้งเหรอลูก กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่กันนี่ โอ๊ยตายแล้วทำไมโตมาแล้วสวยขนาดนี้” เจ้าของบ้านมองรุ้งพรายแล้วทำหน้าปลาบปลื้มใจที่ได้เห็น            “มาเมื่อวานค่ะคุณป้าพิมพ์ วันนี้เลยว่าจะมาช่วยแม่ทำความสะอาดด้วย”            “ดีเลยลูกเข้ามา ๆ ป้าพุดกับแย้มไม่อยู่ไม่มีใครคอยเปิดประตูให้ ขอโทษที่ให้รอนานนะอำไพ”            “ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพิมพ์ฉันเข้าใจค่ะ อุปกรณ์ทำความสะอาดอยู่ในครัวเหมือนเดิมหรือเปล่าคะ”            “ใช่จ้ะ อยู่ที่เดิมนั่นแหละ แต่ว่าเสียดายจังฉันอยู่คุยด้วยนานไม่ได้วันนี้มีงานต้องรีบไปด้วย พอดีรับปากจะไปงานแต่งของลูกสาวเพื่อน เขาจัดช่วงเช้าที่บ้านกันถ้าออกสายรถจะติดมาก ยังไงอำไพก็จัดการไปเลยนะแล้วล็อกประตูบ้านให้ฉันด้วยล่ะ วันนี้ไม่มีใครอยู่ สงสัยเมื่อคืนตาคริษฐ์จะไม่กลับบ้านรถในโรงจอดก็ไม่เห็นมี”            “ค่ะคุณพิมพ์ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เดี๋ยวฉันทำความสะอาดเสร็จแล้วจะปิดบ้านให้ดีตามเดิมเลยค่ะ”            “จ้ะขอบใจมาก งั้นป้าไปก่อนนะหนูรุ้ง เอาไว้วันหลังต้องแวะมาหาป้านะจะได้คุยกันนาน ๆ”            “ค่ะคุณป้าพิมพ์”            นางพิมพ์พรรีบเดินไปเปิดประตูรถแล้วขึ้นไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับ รถเลี้ยวพ้นประตูบ้านไปรุ้งพรายก็เดินไปปิดประตูให้ จากนั้นก็เดินตามหลังมารดาไปยังห้องครัว            “นี่คุณป้าพิมพ์ไว้ใจแม่ขนาดให้ทำความสะอาดแบบไม่มีคนอยู่บ้านเลยเหรอคะ” หญิงสาวถามมารดาด้วยความสงสัยเล็กน้อย            “ก็แม่กับคุณป้าพิมพ์เป็นเพื่อนกันมาก่อนนี่ลูก แม่ไม่เคยมีนิสัยลักขโมยเรื่องนี้คุณพิมพ์แกรู้ดี อีกอย่างของมีค่าทั้งหมดก็ถูกเก็บไว้ในตู้เซฟหมดแล้ว มีก็แค่ของตกแต่งชิ้นใหญ่ ๆ แม่คงไม่ขโมยไปหรอกลูก”            “อ้อ งี้เอง แล้วแม่จะทำความสะอาดตรงไหนก่อนคะ”            “ชั้นสองก่อนเลยรุ้ง ทำความสะอาดในห้องนอนของคุณพิมพ์ตามด้วยของเตชัสแล้วก็ของคริษฐ์ จากนั้นค่อยมาทำข้างล่างเป็นที่สุดท้าย”            “เอ่อค่ะ” ‘ห้องพี่คริษฐ์’ ได้ยินชื่อเขาใจก็เต้นผิดจังหวะอีกแล้ว            การทำความสะอาดเริ่มต้นที่ห้องนอนของนางพิมพ์พร ตามด้วยห้องของเตชัสสองแม่ลูกลงมือดูดฝุ่นแล้วตามด้วยเช็ดถูความสะอาด ก่อนจะจบด้วยการทำความสะอาดในห้องน้ำและถูห้องเป็นด่านสุดท้าย พอจะย้ายไปทำความสะอาดห้องของคริษฐ์ โทรศัพท์จากลูกค้าก็ดังขึ้น            “ขอเพิ่มอีกหนึ่งร้อยกล่องเหรอคะ ทำไมไม่แจ้งล่วงหน้าล่ะคะ” สีหน้าของนางอำไพเคร่งเครียดขึ้นในทันที            “ทางโน้นแจ้งยอดผิดมา นี่ถ้าไม่ได้อีกร้อยกล่องก็จะไม่พอแจกพนักงานที่มาสัมมนากัน ยังไงคุณอำไพก็ช่วยทำให้หน่อยนะ เสร็จช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร” ปลายสายมีน้ำเสียงร้อนรนอย่างชัดเจน            “เอ่อ ก็ได้ค่ะ ฉันจะรีบจัดการให้เร็วที่สุด แต่ไม่รับปากนะคะว่าจะทันไหม ถ้ายังไงจะแจ้งอีกทีนะคะ” “ได้ค่ะฝากด้วยนะคะ” นางอำไพถึงกับถอนหายใจดัง ๆ หลังวางสาย เพราะตะโก้ร้อยกล่องดันเพิ่มเป็นสองร้อยนั่นเอง            “มีอะไรคะแม่” รุ้งพรายเห็นสีหน้าของมารดาก็รู้ได้ว่าท่านกำลังเจอปัญหาอยู่            “ลูกค้าแม่น่ะสิรุ้ง สั่งขนมไปแจกพนักงานช่วงพักเที่ยง แต่ดันแจ้งยอดผิดนี่ขอเพิ่มอีกหนึ่งร้อยกล่อง”            “อ้าว แล้วแม่จะทำเสร็จทันไหมคะ”            “เสร็จน่ะเสร็จ แต่งานที่นี่สิแม่จะทำได้ยังไง”            “แค่นี้เอง รุ้งก็ทำต่อให้เสร็จเองค่ะไม่ต้องห่วง ทำความสะอาดห้องพี่คริษฐ์ตรงโน้นแล้วก็ดูดฝุ่นด้านล่างตามด้วยเช็ดถู กับห้องครัวแค่นี้เองไม่ยากค่ะ รุ้งทำเสร็จแน่นอน”            “ทำคนเดียวได้นะรุ้ง”            “ได้ค่า แม่รีบไปทำขนมให้ลูกค้าเถอะ อันนั้นงานหลักนี่งานรองนะแม่”            “ก็จริงนะ แม่ฝากงานที่นี่ด้วยนะลูก”            “ค่ะ ไปเถอะ แล้วเหลือตะโก้ไส้เผือกไว้ให้รุ้งกินด้วยนะแม่” เพราะไม่อยากให้มารดาต้องหนักใจกับงานที่นี่ รุ้งพรายจึงยิ้มกว้าง ๆ ให้ท่านเห็น            “จ้ะ” เมื่อลูกสาวรับปากเรื่องงานบ้านแล้ว นางอำไพก็พลอยรู้สึกโล่งอกขึ้นมา รีบวางมือจากไม้ถูพื้นแล้วก็กลับไปทำขนมที่บ้านต่อ            รุ้งพรายเงอะงะทันทียามมารดาไม่อยู่ หญิงสาวหอบหิ้วอุปกรณ์ออกจากห้องของนางพิมพ์พรเพื่อไปทำความสะอาดยังห้องของคริษฐ์ต่อ เพิ่งรู้ว่าเขายังอยู่ห้องฝั่งเดิมของบ้านเก่าซึ่งเป็นฝั่งเดียวกับห้องของเธอ หญิงสาวอมยิ้มแบบไม่รู้ตัวระหว่างหมุนลูกบิดแล้วเปิดประตูเข้าไปช้า ๆ ห้องนอนของเขาคลุมโทนอบอุ่นทั้งหมด ชุดผ้าปูที่นอนสีเทาผนังห้องสีควันบุหรี่ บนเตียงนอนมีสภาพยุ่งเหยิงราวกับเจ้าของห้องรีบลุกแบบไม่ได้สนใจเก็บ            หญิงสาวเดินไปพับผ้าห่มแล้วจัดการดึงมุมผ้าปูให้เข้าที่ ใช้ฝ่ามือตบฝุ่นและจัดการให้ทุกอย่างอยู่ในสภาพเรียบร้อย แต่ในระหว่างที่เธอตบหมอนหนุนอยู่นั้น ใจหนึ่งก็คิดไปว่าเป็นใบหน้าของเขาจึงเผลอหยิบขึ้นมาแล้วกอดเอาไว้แนบอกของตัวเอง            “ใคร ! เข้ามาทำอะไรในห้องนี้” คนกอดหมอนสะดุ้งแล้วหันกลับไปมองทางประตูห้องน้ำ หมอนที่กอดร่วงลงพื้นในทันทีหลังจากเห็นว่าใครที่ออกมาจากห้องน้ำในชุดผ้าขนหนูพันสะโพกแค่ผืนเดียว            “รุ้งพราย !” คริษฐ์เองก็ไม่คิดว่าหญิงสาวจะมาอยู่ในห้องนอนของเขาในตอนนี้ แต่พอหันไปเจอกับอุปกรณ์ทำความสะอาดก็พอจะเข้าใจอะไรได้ไม่ยาก            “สวัสดีค่ะพี่คริษฐ์” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้เขาแบบคนใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว รีบก้มลงเก็บหมอนแล้วปัดฝุ่น จากนั้นก็วางเอาไว้ที่เดิม            “คุณป้าพิมพ์บอกว่าพี่คริษฐ์ไปทำงานแล้ว รุ้งไม่รู้ รุ้งขอโทษค่ะ” หญิงสาวลนลานเก็บอุปกรณ์เตรียมจะออกจากห้องนอนของเขา            “ไม่ต้องไป !”            “คะ”            “มาทำความสะอาดห้องพี่ไม่ใช่เหรอ ก็ทำไปสิ”            “แต่ว่าพี่คริษฐ์ยังไม่ใส่เสื้อผ้าเลยนะคะ รุ้งเกรงจะรบกวนพี่ คริษฐ์ค่ะ” คนพูดหันหน้าไปทางอื่นพยายามไม่มองเนื้อตัวเปล่าเปลือยของเขาให้มากนัก เป็นเรื่องที่คริษฐ์แปลกใจอยู่ไม่น้อย ยัยเด็กที่คอยแต่จะจ้องเปลื้องผ้าเขาในอดีต กลายเป็นเด็กหน้าบางไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน            “เดี๋ยวพี่ก็เสร็จแล้ว ไหน ๆ ก็มาทำแล้วก็ทำต่อสิไม่ได้กวนอะไรพี่หรอก ห้องออกกว้าง” พูดแล้วสายตาก็มองคนจับเครื่องดูดฝุ่นดูดทำความสะอาดใต้เตียงไปด้วย เขาไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนนี้หรอก ให้มันรู้ไปว่าจะจัดการกับเด็กใจแตกคนนี้ไม่ได้            “มาตั้งแต่เมื่อไหร่” คำถามของคริษฐ์ห้วน ๆ เหมือนคนไม่ได้ยินดียินร้ายกับการมาของรุ้งพราย            “มาเมื่อวานค่ะ”            “แล้วเมื่อไหร่จะกลับ” เป็นคำถามที่ตอบยากหรืออย่างไรเพราะรุ้งพรายนิ่งเงียบไปเกือบอึดใจใหญ่ ๆ ขณะที่เขาเองก็สวมกางเกงเสร็จเรียบร้อย            “ว่ายังไงพี่ถามว่าเมื่อไหร่จะกลับ” คราวนี้คริษฐ์หันหน้าออกจากตู้เสื้อผ้า คว้าเสื้อยืดมาสวมอย่างรวดเร็ว            คนที่ก้มหน้าก้มตาดูดฝุ่นไปรอบ ๆ บริเวณห้องกดปุ่มปิดเครื่องแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเขา รุ้งพรายนึกน้อยใจนิด ๆ ที่เขาถามเหมือนไล่เธอกลับต่างจังหวัดไป            “รุ้งจะมาอยู่ที่นี่เลยค่ะพี่คริษฐ์”            “ทำไมล่ะ กลับมาทำไม” หญิงสาวเม้มปากกับคำถามนี้ของเขา            “พ่อรุ้งเสียแล้ว รุ้งเลยว่าจะมาอยู่กับแม่ค่ะ”            “แล้วจะกลับมาทำอะไรที่นี่ ได้ข่าวว่าพ่อเลี้ยงไม่ใช่เหรออยู่ที่นั่น” ไม่รู้ว่าคริษฐ์รู้เรื่องของเธอมาแบบไหน ถูกแล้วที่ว่าบิดาของเธอเลี้ยงดูส่งเสียให้เรียนจนจบ แต่นั่นใช่ว่าเธอจะไม่ได้ทำงานเป็นการตอบแทนท่าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม