3
นางบำเรอคืนแรก
รวงผึ้งสะดุ้งสุดตัวปรี่ขึ้นไปนั่งอยู่บนเตียงด้วยอาการเคอะเขิน คนหนึ่งเอนหลังตรงหัวเตียงกับอีกคนที่นั่งหมิ่นเหม่ตรงขอบเตียง โดยที่เท้าทั้งสองข้างของเธอวางแตะอยู่บนพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองเจ้าของห้องในตอนนี้ ปลายนิ้วร้อนๆ ของสุริยกาลไต่ไล่ขึ้นไปตามหัวไหล่ คนถูกแตะกระเถิบห่างไปโดยอัตโนมัติ
“นิ่มอย่าขัดใจฉัน”
คนถูกดุห่อไหล่เข้าหากันพร้อมกับยกแขนขึ้นมากอดอกไว้ ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันแน่น หญิงสาวค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองเขาอย่างขลาดกลัว แววตาของสุริยกาลทำให้รวงผึ้งสะอึกอยู่ในอก มันบอกได้ว่าเขาไม่ปรานีเธอแน่ในคืนนี้ หญิงสาวค่อยๆ ขยับสะโพกเลื่อนไปใกล้ๆ กับเขา
“คะ...คุณกาล” เจ้าของน้ำเสียงสั่นยกมือขึ้นต้านปลายนิ้วที่กำลังเคลื่อนมาดันปลายคางของตัวเอง “อ๊ะ!”
ร่างนุ่มนิ่มของรวงผึ้งถูกกระชากร่างเข้าหาอย่างรวดเร็ว ท้ายทอยถูกดันขึ้นให้รองรับกับริมฝีปากหนาหยักที่แนบทับลงมา กลิ่นกายของบุรุษเพศที่หญิงสาวไม่เคยได้ชิดใกล้ขนาดนี้มาก่อน ก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกประหลาด บางอย่างแล่นพล่านไปทั้งร่าง หญิงสาวพยายามที่จะแข็งขืนริมฝีปากตัวเองเอาไว้ แต่คนไร้ประสบการณ์มีหรือจะต้านเสือร้ายเจนสนามอย่างสุริยกาลได้ ยิ่งถอยห่างก็คล้ายจะเป็นการเชื้อเชิญเขาอยู่ร่ำไป ชายหนุ่มยกร่างของรวงผึ้งให้มานั่งเกยทับอยู่บนหน้าตักของตัวเอง ประคองใบหน้าของหญิงสาวเอาไว้มั่น เกลี่ยริมฝีปากอิ่มที่ฉ่ำด้วยรสชาติของเขาเบาๆ
"รวงผึ้ง หึ หวานจริงๆ นิ่ม" เอ่ยจบก็ฉกลงไปจ้วงชิมริมฝีปากอวบอิ่มที่รสชาติแสนจะหวานล้ำ ลิ้นสากดูดดึงเรียวลิ้นเล็กของหญิงสาวเอาไว้มั่น ก่อนจะกระหวัดพันเกี่ยวอยู่ในโพรงปากนิ่มอย่างหฤหรรษ์
"มะ...ไม่" รวงผึ้งรีบดันข้อมือของเขาที่ล้วงเข้าไปภายในเสื้อยืดของตัวเองไว้
"ว่าไงนะ" อีกคนเสียงต่ำเมื่อถูกขัดใจ
"นะ...นิ่มยังไม่พร้อมค่ะ คุณกาล" หญิงสาวละล่ำละลักตอบ
"พร้อมหรือไม่ฉันเป็นคนบอกเอง ไม่ใช่เธอ!"
มือเล็กถูกปัดทิ้งสุริยกาลปล้ำถอดเสื้อยืดออกจากลำตัวของหญิงสาวจนเป็นผลสำเร็จ คนที่เหลือเพียงเสื้อชั้นในติดกายยกมือขึ้นปิดหน้าอกของตัวเองเอาไว้ รวงผึ้งทำท่าจะหนีลงจากตักของเขา แต่ก็ถูกรวบเอวคอดกิ่วเอาไว้เสียก่อน
"จะถอดเองหรือให้ฉันถอดให้"
คนถูกถามไม่ตอบทำได้แต่ก้มหน้าหนีด้วยความอับอาย เนื้อตัวของหญิงสาวดูเหมือนจะสั่นเทาจนสุริยกาลรับรู้ได้ เขาเอื้อมไปด้านหลังช้าๆ รวงผึ้งก็หลับตาลงแน่นด้วยความกลัว ตะขอถูกปลด มือทั้งสองข้างถูกง้างกว้างออก ความงามตรงทรวงสาวก็เป็นอิสระเด้งตัวออกมาอวดโฉมสล้างทั้งสองข้าง ขาวนวล อวบอิ่ม และเต่งตึง ทำให้คนเห็นต้องตกอยู่ในภวังค์นิ่งงันไป ปลายนิ้วร้อนๆ ยกขึ้นแตะฐานเต้าอย่างเบาๆ รวงผึ้งถึงกับตกใจตะกายลงจากหน้าตักของเขา แต่บางคนก็ไม่ปล่อยให้ทำแบบนั้นได้ง่ายๆ เขารั้งเอวบางเข้าหาตัว ใช้ปลายจมูกโด่งสูดดมกลิ่นกายสาว เม็ดสีชมพูสดเด้งชิดริมฝีปากของเขา สุริยกาลเผยอปากขึ้นเล็กน้อยดูดดุนสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเข้าสู่อุ้งปากอุ่นอย่างรวดเร็ว
“คะ...คุณกาล” คนผวาด้วยความรู้สึกแปลกใหม่รั้งรอบลำคอของเขาเอาไว้แน่น จะผลักไสไล่หนีก็ไม่ได้จะกดแนบกับอกตัวเองก็รู้สึกแปลกๆ ชอบกล รวงผึ้งได้แต่เกร็งร่างที่กำลังสะท้านวูบวาบไปจากรสลิ้นของเขา หน้าอกหน้าใจแอ่นเข้าหาลิ้นสากอย่างไม่รู้ตัว
“อืม” เสียงครางทุ้มต่ำของสุริยกาลดังขึ้น ระหว่างมัวเมาอยู่กับกลิ่นกายแสนหอมและนวลเนื้อขาวผ่อง ที่กอบขยำกำได้เต็มฝ่ามือจนล้น ใบหน้าของชายหนุ่มจมมิดหายไปกับความอวบหยุ่นตรงหน้า เขาค่อยๆ เอนร่างของรวงผึ้งให้ลงไปนอนอยู่ด้านล่าง สุริยกาลเลื่อนมือลงไปแกะกระดุมกางเกงห้าส่วนของหญิงสาวออก
“คุณกาลอย่าทำนิ่มเลยนะคะ”
“หืม ฉันทำอะไร”
คนที่ดึงกางเกงผ้าฝ้ายออกจากปลายเท้าของรวงผึ้งขานตอบเหมือนไม่รู้ว่าตัวเองเอ่ยอะไรออกมา เพราะว่าสายตาของเขากำลังจดจ่อจ้องอยู่กับผิวพรรณละเอียดลออของหญิงสาว
‘ลูกสาวคนงาน ทำไมถึงได้มีผิวสวยสีชมพูเปล่งปลั่งน่าลิ้มลองได้ถึงเพียงนี้’
ฝ่ามือร้อนๆ ลูบไล้ตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นมาจนถึงน่องเรียว ผ่านต้นขาเนียนนุ่มมาหยุดอยู่ที่ขอบกางเกงในสีหวาน เขามองคนหลับตาแน่นก่อนจะค่อยๆ เลื่อนสิ่งกีดขวางชิ้นสุดท้ายให้หลุดออกจากปลายเท้าไป
ในใจของคนที่นอนหลับตาตัวสั่นกำลังสับสนวุ่นวาย รวงผึ้งรู้ดีว่าตัวเองคงไม่รอดแน่ค่ำคืนนี้ แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้าหญิงสาวไม่อาจคาดเดาได้ว่ามันจะเป็นเช่นไร เขาหยุดสัมผัสเหมือนกำลังจะทำบางสิ่งบางอย่าง คนหลับตาแอบลืมปรือขึ้นดูเพียงเล็กน้อย จากนั้นก็หลับแน่นสนิทลงยิ่งกว่าเดิม เมื่อชั้นในตัวสุดท้ายกำลังหลุดออกจากร่างกายแสนกำยำของเขา
“อ๊ะ” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวเมื่อเขาทาบทับลงมาในสภาพเนื้อแนบเนื้อกายแนบสนิท ไอร้อนผ่าวจากมัดกล้ามเนื้อแข็งแกร่งแผ่กระจายไปทั่วเรือนร่างแสนนุ่มนิ่มของรวงผึ้ง
“ไม่ต้องกลัวนะนิ่ม ไม่เคยมาก่อนใช่ไหม” สุริยกาลกระซิบแหบพร่าตรงใบหูนุ่ม อีกคนได้แต่ส่ายหน้าหนี แค่นี้เขาก็รู้แล้วว่าคนด้านล่างยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ความแกร่งของเขาที่บดเบียดอยู่ตรงซอกขานุ่ม ส่งผลให้รวงผึ้งกระถดหนีอย่างตกใจ
“ชู่ว”
เสียงของเขาไม่น่าตกใจเท่ากับฝ่ามือร้อนๆ ที่ทาบไล้ไปทั่วเรือนร่างของหญิงสาว สุริยกาลสัมผัสผิวเนื้อนวลนิ่มอย่างคนต้องการสำรวจทุกซอกทุกมุม ปลายนิ้วเลื่อนมาหยุดอยู่ที่ต้นขาด้านใน ลมหายใจของรวงผึ้งก็แทบจะหยุดเต้นลง มุมปากของชายหนุ่มยกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะก้มลงปิดปากที่กำลังจะท้วงติง พร้อมกับดันปลายนิ้วกรีดกรายสำรวจกายสาว
สัมผัสแปลกใหม่ทำให้รวงผึ้งพยายามที่จะดันต้นขาให้หนีบติดกัน แต่ก็ไม่อาจสู้แรงต้นขาแข็งแรงของเขาได้ เมื่อเข่าด้านหนึ่งกั้นท่อนขาเรียวให้ห่างออกจากกัน ปลายนิ้วหนากรีดลงกลางใจบุปผชาติช่องาม จัดการสำรวจกลีบดอกสีเรื่องามอย่างเบามือ
ร่างของคนถูกรุกล้ำบิดเกลียวหนีไปอย่างควบคุมร่างกายและจิตใจของตัวเองไม่อยู่ ริมฝีปากนิ่มถูกเขารุกรานจนบวมเป่ง ด้านล่างก็ถูกซุกซอนต้อนไล้จนฉ่ำปลายนิ้วของเขา ความคับแน่นที่บีบรัดปลายนิ้วทำให้สุริยกาลรู้สึกตื่นเต้น เขากำลังค้นพบสิ่งแปลกใหม่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน ชายหนุ่มผละใบหน้าออกห่างก็พบว่ามีหยาดน้ำใสไหลลงตรงหางตา เขาจูบซับน้ำตาให้หญิงสาวอย่างอ่อนโยน ค่อยๆ ดันท่อนขาทั้งสองข้างให้แยกกว้างออกจากกัน เมื่อสำรวจนำทางจนพร้อมสำหรับร่วมรัก สะโพกหนาก็ดันความแกร่งเข้าสู่ภายในดอกไม้ช่องามอย่างช้าๆ
“อื้อ!”
รวงผึ้งผวาจิกต้นแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้แน่น ความร้อนดุจไฟลนกำลังแยกร่างของเธอออกจากกัน ทุกสัมผัสมันให้ความรู้สึกเจ็บลึกล่วงล้ำผ่านสู่ภายใน สูดลมหายใจเข้าสู่ปอดแทบไม่ทัน
แม้เสียงของรวงผึ้งจะไม่ได้เปล่งออกมาว่าเจ็บ แต่สีหน้าที่แสดงออกนั้นมันยิ่งกว่าเสียอีก ปลายนิ้วหนากรีดเช็ดหยาดน้ำตาให้อีกครั้ง เขาดันตัวเองเข้าสู่ภายในจนลึกสุดทาง ก่อนจะค่อยๆ ถอยห่างออกมาแล้วกลับสู่ที่เดิม จากช้าไปเร็ว จากเร็วเริ่มทะยาน
“โอ...นิ่ม”
สะโพกสอบสะบัดเข้าออกแทบไม่รู้จักคำว่าเหน็ดเหนื่อย แต่คนที่ถูกล่วงล้ำกลับสะท้านสะเทือนไปทั้งร่างกาย รวงผึ้งไม่รู้สึกอะไรอีกต่อไปนอกจากคำว่า เจ็บ และก็...เจ็บ
ทุกครั้งที่เขาสอดลึกเข้าหาหญิงสาวก็จะทำท่าเหมือนจะกระเถิบหนีอยู่เรื่อย สุริยกาลจึงล็อกต้นขาทั้งสองข้างเอาไว้แน่น กระแทกกระทั้นใจกลางกายเข้าหาให้ลึกยิ่งขึ้น
“จะ...เจ็บ”