การกระหน่ำเข้าหาคราวนี้ทำให้อีกคนไม่อาจต้านทานความเจ็บได้อีกต่อไป ความรู้สึกเหมือนกำลังถูกกรีดร่างแยกออกเป็นริ้ว เมื่อต้องเผชิญกับพายุสวาทที่มีความเร็วเกินจะรองรับไหว น้ำตาไหลพรากนองหน้า อกอวบกระเพื่อมไหวจนรู้สึกเจ็บยอกไปทั่วทั้งร่าง แต่ว่าคนทำก็ยังเดินหน้าตอกย้ำแรงกระหน่ำเร็วขึ้นเรื่อยๆ สุริยกาลกำลังเดินทางอยู่ท่ามกลางพายุสวาท เขาต้องฝ่าแรงลมแรงฝนที่ก่อตัวขึ้นจนสะท้านไปทั้งร่าง สิ่งเดียวที่เขาปรารถนาในตอนนี้ก็คือ ปลดปล่อย
ร่างกำยำย้ำรอยรักครั้งแล้วครั้งเล่า แน่นลึกและหนักหน่วง ทุกครั้งที่เคลื่อนสะโพกเข้าออก เขาเป็นอันต้องห่อปากเป่าลมเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ก่อเกิดขึ้นต่อร่างกาย ก่อนจะกระแทกแรงๆ ด้วยความเร็วกระชั้นถี่ยิบ เพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถแหวกว่ายฝ่าพายุสายสวาทที่โหมกระหน่ำอยู่รอบกายได้ ทันทีที่ปลายเท้าลอยพ้นขึ้นสู่อากาศ สุริยกาลก็เปล่งเสียงคำรามกระหึ่มออกมาลั่นห้อง ราวกับจะข่มขู่คู่รักที่นอนหายใจระรวยรินอยู่ด้านล่าง ก่อนจะทรุดฮวบลงไปหายใจหอบเหนื่อย บนทรวงอกอวบที่ช้ำรอยจากน้ำมือของเขาเอง
เมื่อหายเหนื่อยแล้วเขาก็พลิกกายลงไปนอนอยู่ด้านข้าง ส่วนคนที่ถูกตอกย้ำจนยับเยินไปทั้งร่างค่อยๆ พลิกร่างอันแสนจะชอกช้ำของตัวเองไปด้านข้าง เธอไม่เหลืออะไรให้ภาคภูมิใจอีกแล้ว...รวงผึ้งไม่ได้รู้สึกเสียดายต่อสิ่งที่เพิ่งสูญเสียไป เธอแค่ เสียใจ...
“ไม่คิดว่าเธอจะสวยขนาดนี้นิ่ม” คนพูดจูบหัวไหล่มนหนักๆ ปลายนิ้วยกขึ้นลูบต้นแขนเนียนเบาๆ แสดงความเป็นเจ้าของอย่างเต็มที่ “อาบน้ำก่อนไหม”
“ค่ะ” เสียงเครือเอ่ยตอบเบาๆ รวงผึ้งอยากจะชำระร่างกายให้หายคราบคาวโลกีย์
“ปะ ฉันอาบด้วย”
“นิ่มอาบคนเดียวได้ค่ะ คุณกาล” หญิงสาวรีบแย้งขึ้น
“อย่าขัดใจสิ อาบพร้อมๆ กันนี่แหละ จะได้เสร็จเร็วๆ” มือหนากระชากผ้าห่มออกจากร่างของรวงผึ้ง จากนั้นก็ช้อนอุ้มคนหมดแรงเดินเข้าห้องน้ำไป
คนที่ถูกวางลงแตะปลายเท้าลงเหยียบพื้นกระเบื้องห้องน้ำด้วยความรู้สึกไม่มั่นคง เข่าทั้งสองข้างสั่นไปด้วยความเจ็บแปลบใจกลางร่าง ฝ่ามือทั้งสองข้างยังคงปิดเต้าอวบอิ่มเอาไว้แน่น รวงผึ้งได้แต่ยืนหันข้างให้เขาด้วยความรู้สึกเขินอาย หากทำได้หญิงสาวก็อยากจะหยิบผ้าเช็ดตัวที่อยู่บนที่แขวนลงมาพันกาย แต่เพียงแค่เอื้อมมือออกไปก็ถูกสุริยกาลขึงสายตาปรามเอาไว้เสียก่อน
“มานี่เร็ว”
ชายหนุ่มเปิดฝักบัวพร้อมกับดึงร่างของรวงผึ้งให้เข้าไปอยู่ใต้ฝอยละอองน้ำด้วยกันทั้งคู่ กายแนบกายเนื้อชิดเนื้อ เขาทำราวกับว่าเธอคือสมบัติของเขาจะทำอย่างไรก็ได้ตามแต่เจ้าของจะพึงพอใจ สบู่เหลวถูกเทลงบนฝ่ามือของรวงผึ้ง
“อาบน้ำให้ฉัน”
“เอ่อ” สีหน้าลำบากใจของรวงผึ้งทำให้สุริยกาลนึกขัดใจ
“นิ่ม ฉันสั่งให้เธออาบน้ำให้ฉัน” เขาดึงฝ่ามือเล็กมาวางแหมะบนหน้าอกแล้วเลื่อนขึ้นลง
“คุณกาลคะ”
หญิงสาวถึงกับน้ำตาคลอเบ้า เรื่องเมื่อครู่ยังไม่ลืมเลือน เธอยังจะต้องมาเปลือยกายอาบน้ำให้เขาแบบนี้อีก รวงผึ้งทำใจให้ยอมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้จริงๆ
“ว้าย!” ร่างเปลือยถูกกระชากเข้าหาก่อนที่แผ่นหลังบางจะถูกดันให้แนบกับผนังห้องน้ำเย็นเฉียบ
“ไม่อยากอาบน้ำให้ฉัน แสดงว่าอยากทำอย่างอื่นมากกว่าใช่ไหม” เขาขู่ชิดริมฝีปาก ลมหายใจของสุริยกาลเป่ารดจมูกของรวงผึ้ง
“ไม่ใช่นะคะ” ขาทั้งสองข้างของคนพูดหนีบเข้าหากันอย่างไม่รู้ตัว รวงผึ้งได้แต่ยกฝ่ามือทั้งสองข้างดันหน้าอกแกร่งของเขาเอาไว้ ก่อนจะตัวแข็งทื่อเมื่อฝ่ามือของเขายุ่มย่ามอยู่ตรงซอกขาอ่อน
“อาบแล้วค่ะ นิ่มจะอาบน้ำให้คุณกาล แต่ว่าคุณกาลอย่าทำอะไรนิ่มอีกนะคะ คือว่า...นิ่มยังเจ็บอยู่”
รวงผึ้งรีบยื่นมือไปฉุดข้อมือหนาของเขาให้ออกห่างจากจุดอ่อนไหวของตัวเอง สุริยกาลถึงกับเลิกคิ้วสูงมุมปากคลายออกอย่างพอใจ เขายอมปล่อยมือแล้วยืนนิ่งราวหุ่นปั้น
“ลงมือสิ จะได้เสร็จๆ”
เขาเร่งคนที่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้า แววตาของรวงผึ้งเหมือนคนอยากจะร่ำไห้ออกมารอมร่อ แต่ก็พยายามฝืนเอาไว้สุดกำลัง น่าแปลกที่สุริยกาลกลับรู้สึกชอบในสถานการณ์แสนอึดอัดใจของอีกคน เขาเบื่อพวกเจนโลกที่ผ่านมาเต็มทน พอมาเจอคนตื่นสนามเข้าเลยนึกอยากจะกลั่นแกล้งให้สาแก่ใจ
“นิ่ม”
“คะ คุณกาล” หญิงสาวสูดลมหายใจเรียกความกล้าอีกครั้ง จะเป็นไรไปเธอกับเขาเคยลึกซึ้งกันไปจนถึงดาวอังคารแล้วก่อนหน้านี้
แค่อาบน้ำ...
หางตาจ้องไปยังฟองน้ำตาข่ายแต่ก็ต้องเปลี่ยนใจเมื่อเขาส่ายหน้าไม่ยอมรับ มือของรวงผึ้งสั่นระริกยามแบออกเพื่อเทสบู่เหลวใส่อีกครั้ง จุดแรกที่หญิงสาวเลือกถูตัวให้เขาก็คือท่อนแขน ฝ่ามือนุ่มที่มีฟองสบู่เหลวไหลลื่นไปตามแขนทั้งสองข้าง ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายไปแผ่นหลังหนา รวงผึ้งพยายามที่จะปกปิดเนื้อตัวเปลือยเปล่าของตัวเองด้วยวิธีนี้
“ด้านหลังเสร็จแล้วก็มาข้างหน้าสิ”
แต่ก็ใช่ว่าเธอจะยื้อเวลาเอาไว้ได้นาน หญิงสาวจำต้องเผยความงามของร่างกายต่อหน้าเขาอีกครั้ง แผงอกแกร่งถูกลูบไล้ลมหายใจของเจ้าของร่างกายหนาบึกบึนก็เกร็งขนัดไปทั่วทั้งร่าง
“ข้างล่างด้วย” เขาสั่งคนที่หยุดชะงักฝ่ามืออยู่แค่หน้าท้องของตัวเอง รวงผึ้งกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นช้อนสายตามองเขาอย่างตัดพ้อ ได้แต่ยืนแน่นิ่งไม่กล้าแตะต้องความแกร่งที่ผงาดขึ้นมาใจกลางร่างของเขา
“คุณกาลคะ”
เสียงประท้วงดังขึ้นเมื่อเขาลากฝ่ามือของตัวเธอพาดผ่านความแข็งแกร่ง พร้อมกับสัมผัสทักทายอย่างสนิทชิดเชื้อ รวงผึ้งน้ำตาร่วงแหมะทันที ทั้งโกรธทั้งอายในเวลาเดียวกัน กว่าที่เขาจะพอใจ มือน้อยๆ ของเธอก็มัวหมองไปด้วยราคีร้ายที่เขาบังคับให้ฝืนทำ ที่ร้ายไปกว่านั้นสุริยกาลยังถือวิสาสะมาอาบน้ำให้ตัวเธอโดยใช้วิธีเดียวกันอีก กว่าจะได้ฤกษ์ออกจากห้องน้ำ รวงผึ้งก็หน้าซีดหน้าเซียวไปครั้งแล้วครั้งเล่า
“ไม่ต้องใส่เสื้อ ฉันชอบนอนแบบนี้”
คนเจ้าเล่ห์อุ้มร่างที่เช็ดตัวจนแห้งออกมาจากห้องน้ำ ก่อนจะนำไปวางบนที่นอนหนานุ่มเบาๆ คราบรอยเลือดสีแดงจุดเล็กๆ บนที่นอนทำให้รวงผึ้งรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นในใจ
“เอ่อ คุณกาลคะ บนที่นอนมีเลือดติดอยู่” หญิงสาวบอกคนที่กำลังปีนขึ้นเตียงด้วยเกรงว่าเขาจะรังเกียจ อีกคนปรายสายตามองดูหยดเลือดสีแดงจางด้วยสายตาว่างเปล่า
“ไม่เห็นจะเป็นไร นอนได้แล้ว” ผิดคาดเมื่อเขาเอื้อมมือไปกดปิดสวิตช์ไฟ ผ้าห่มนวมถูกดึงขึ้นคลุมร่างของทั้งคู่เอาไว้ ท่อนแขนหนาแข็งแรงเอื้อมมารั้งเอวบางของรวงผึ้งเข้าหา แผ่นหลังเนียนที่ไร้เครื่องนุ่งห่มแนบสนิทไปกับด้านหน้าของเขาตลอดทั้งลำตัว
“คุณกาล” รวงผึ้งเบ้ปากอยากจะร้องไห้ เมื่อใจกลางร่างของเขายังคงแข็งขืนทิ่มแทงด้านหลังของเธอ
“นอนเถอะ”
คนบอกให้นอนกลับเบียดความแกร่งของตนเข้าหา สุริยกาลรู้ดีว่าสักพักใหญ่ๆ ร่างกายของเขาก็คงจะกลับสู่สภาวะปกติ หลังจากตื่นเต้นกับร่างกายของอีกคนมาตลอดระยะเวลาที่อาบน้ำกัน เสียงหัวใจที่เต้นในจังหวะครึกโครมของคนในอ้อมกอด ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกครึ้มอกครึ้มใจแปลกๆ
“นอนไม่หลับเหรอ” เขาถามเมื่อผ่านมาสักพักใหญ่ๆ รวงผึ้งก็ยังขยับตัวไปมาไม่ยอมสงบแนบอกเขาสักที
“นิ่มไม่ชินค่ะ” ใครจะชินกับการนอนเนื้อแนบเนื้อกันแบบนี้ รวงผึ้งรู้สึกเหนื่อยกายล้าใจเหลือเกินในค่ำคืนนี้
“สักพักก็จะชินไปเอง หันหน้ามานี่สิ” เขาดันร่างของอีกคนให้หันกลับมา ความมืดอันเลือนรางพอปรับสายตาได้แล้วก็สามารถมองเห็นใบหน้าของหญิงสาวได้อยู่
“นิ่ม”
“คะ” คนขานยอมเงยหน้าขึ้นมองเขา เพราะว่าความมืดสลัวแบบนี้รวงผึ้งถึงได้กล้า
“รู้สึกยังไงที่เป็นของฉัน” เขาถามโต้งๆ แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย รวงผึ้งจะกล้าตอบหรือว่าเสียใจ หญิงสาวแทบจะเป่าลมฟู่ออกจากปาก คิดหาคำตอบมาให้เขาไม่ได้เลย
“ดีใจ” เขาถามนำทางแต่คำตอบมีเพียงความเงียบที่ขานกลับมา “เสียใจ”
รวงผึ้งถึงกับค้อนขวับใส่เขาในความมืด ‘คนบ้าอะไรรู้อยู่แล้วยังจะมาตอกย้ำให้เสียใจอีก’ จะพยักหน้ายอมรับก็ไม่ได้ จะส่ายหน้าปฏิเสธก็ยิ่งไม่ใช่ หญิงสาวจึงเลือกที่จะสงบปากสงบคำแล้วก้มหน้าลงซุกอกอุ่นของเขาแทน
“ไม่ตอบก็ไม่เป็นไรนอนเถอะ ครั้งแรกก็แบบนี้แหละทั้งเจ็บทั้งเหนื่อย”
คนใจร้ายไม่วายทิ้งทวนคำพูดให้คนฟังเจ็บใจเล่น รวงผึ้งระบายลมหายใจออกมาอย่างอัดอั้นตันใจ สภาพร่างกายที่เหนื่อยล้าทำให้เธอไม่สามารถฝืนสังขารของตัวเองได้อีกต่อไป ดวงตาคู่สวยจึงปิดสนิทลงตามเขาไปในเวลาครึ่งชั่วโมงต่อมา