2
Yoghurt’s part
วันนี้ฉันมาทำงานที่ลานเบียร์เป็นวันสุดท้าย ตลอดหลายวันที่ผ่านมา ฉันได้เจอกับ ‘ลูกค้าขาประจำ’ ทุกวัน และไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรืออย่างไร แต่ละวันพนักงานแนะนำเบียร์จะผลัดเปลี่ยนแถวกัน พี่เอ็กซ์ก็มานั่งที่แถวฉันทุกวัน
“น้องโยเรียนมอไหนครับ” เขาถามก่อนจะวางธนบัตรสีเทาลงบนโต๊ะจำนวน 3ใบ แล้วค่อย ๆ ดันมาตรงหน้าฉันเพื่อแลกกับการตอบคำถาม แน่นอนว่าฉันรับ รีบเก็บเข้ากระเป๋าทันทีเลยล่ะ
“เคเคค่ะ”
“อ๋อ ที่เดียวกับพวกน้อง ๆ ของพวกพี่เลย รู้จักแก๊งวินโซนไหม” พี่อีกคนถามขึ้นมา ถ้าฉันจำไม่ผิดเขาชื่อลม เคยได้ยินพี่เอ็กซ์เรียกเวลาให้พี่เขาหยิบเงินจ่ายค่าอาหารให้ฉัน
“เคยได้ยินชื่อค่ะ แต่ไม่รู้จักกัน” ฉันตอบตามความจริง ในมหา’ลัยแก๊งนี้ดังมาก ฉันก็เคยได้ยินยายแอลเพื่อนฉันพูดให้ฟังเป็นครั้งคราว
“ไอ้ไฟน่ะน้องพี่เอง” พี่ลมพูดต่อ
“อ๋อค่ะ” ฉันรับคำแต่ฉันไม่รู้หรอกว่าคนไหน
ฉันทำหน้าที่ของฉันต่อไปเรื่อย ๆ จนใกล้ได้เวลาเลิกงาน คืนสุดท้ายก็จริงแต่เป็นคืนวันอาทิตย์ ทำให้ผู้คนกลับกันไวเพื่อได้เตรียมพร้อมกับการเรียนหรือทำงานในวันรุ่งขึ้น ฉันจึงมีเวลาได้เคลียร์งานให้เรียบร้อยและได้กลับบ้านตรงเวลาเป๊ะ
“กลับยังไงคะน้องโย พี่ไปส่งไหม”
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อหันไปเห็นว่าพี่เอ็กซ์ยังอยู่ เขาหายไปสักพักแล้วฉันก็คิดว่าเขากลับแล้วเสียอีก
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” ฉันตอบเขาพลางชะเง้อหาพี่กบ ปกติคืนสุดท้ายพี่กบจะเข้ามาเคลียร์ค่าแรงแล้วฉันจะขอติดรถกลับไปด้วย ทว่าวันนี้กลับยังไม่พบ
“สาว ๆ พอดีพี่กบอาหารเป็นพิษตอนนี้อยู่โรงบาล พี่กบเลยบอกว่าให้สาว ๆ ส่งเลขบัญชีไปแล้วจะโอนค่าแรงพร้อมค่าคอมให้นะครับ” พี่หัวหน้าจัดอีเวนต์เอ่ยขึ้นมา
ฉันพรูลมหายใจออกมายาว ๆ พลางคิดว่าคืนนี้จะกลับอย่างไรดี จะโทรให้ลูกหมีมารับหรือจะเสี่ยงนั่งรถแท็กซี่กลับดี จะขอติดรถทีมงานกลับด้วยเหมือนทุกคืนก็ไม่ได้อีกเพราะรถต้องขนของจนไม่มีที่ว่าง
“ดูเหมือนน้องโยกำลังกลุ้มเลยค่ะ” พี่เอ็กซ์เอ่ยออกมา เขาพักแขนไว้กับแผงเหล็กกั้นสีเขียว
“เปล่าค่ะ โยขอตัวกลับก่อนนะคะ” ฉันตัดสินใจว่าจะกลับแท็กซี่ มันคงไม่ซวยนักหรอก ระยะทางไม่ไกลมากนั่งแป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึง
“วันนี้น้องโยกลับยังไง”
“ถามทำไมคะ”
“ก็ทุกวันพี่เห็นน้องโยกลับกับรถทีมงานแต่วันนี้รถแน่นมาก ขนาดแมลงวันยังแทรกเข้าไปไม่ได้เลย”
“พี่เอ็กซ์แอบดูโยทุกวันเลยเหรอคะ” สองขาของฉันหยุดเดินพลันหมุนตัวหันกลับไปถามคนที่เดินตามหลังด้วยความสงสัย
“พี่ไม่ใช่โรคจิตนะคะน้องโย พี่เป็นห่วงน่ะค่ะกลับดึก ๆ ดื่น ๆ แบบนี้” เขารีบแก้ตัวจนลิ้นพันกัน
ฉันแสดงสีหน้าไม่พอใจแล้วหันกลับไปทางเดิมเพื่อที่จะไปรอขึ้นแท็กซี่ที่หน้าห้าง
“เดี๋ยวพี่ไปส่ง กลับเองมันอันตราย ทั้งสวยทั้งเซ็กซี่” น้ำเสียงพี่เอ็กซ์เป็นปกติ ไม่บีบเสียงเหมือนทุกที ราวกับว่าต้องการสื่อให้รู้ว่าพูดจริงจัง
“มีอะไรน่ากลัวไปมากกว่าพี่อีกเหรอคะ”
“แทบทรุด” พี่เอ็กซ์แสร้งทำเป็นขาอ่อนแรงหลังจากที่ฉันพูด ฉันอมยิ้มน้อย ๆ ตลกกับท่าทางของเขา
“นี่พี่จริงจังนะเนี่ย เดี๋ยวพี่ไปส่ง พี่ไม่ทำอะไรน้องหรอก” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังหนักแน่น แต่แล้วก็แผ่วลงเมื่อพูดประโยคหลัง “ถ้าน้องไม่ยอมอะนะ”
“โยไม่ยอมพี่อยู่แล้วค่ะ” ฉันเบ้ปากใส่ เปย์ขนาดไหน ทิปหนักยังไงฉันก็ไม่ให้กินง่าย ๆ หรอก
พี่เอ็กซ์ทำปากล้อเลียนคำพูดฉัน พอฉันถลึงตาใส่ เขาก็หัวเราะร่า ไม่รู้อะไรของเขา
“อะบัตรประชาชน น้องโยถ่ายรูปหน้าบัตรไว้ได้นะ ถ้าพี่ทำอะไร น้องแจ้งความได้เลย”
ฉันมองเขาอย่างคิดไม่ตก เขากล้าให้บัตรประชาชนมาขนาดนี้เลยเหรอ
“อ้าวพี่เอ็กซ์มาทำไรอะ” พี่ทีมงานเดินเข้ามาทักทายคนตรงหน้าฉัน
“รอรับสาวกลับบ้าน แต่สาวกลัวพี่อะดิ”
“ฮ่า ๆ ไม่ต้องกลัวหรอกโยเกิร์ต พี่เอ็กซ์ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร พี่เขาปัญญาอ่อนจะตาย”
“กูจะเลิกแดกเบียร์ยี่ห้อนี้ละ แต่ละคนขยันหลอกด่ากูเหลือเกิน” พี่เอ็กซ์เอ่ยออกมาเสียงเรียบ เขากลอกตาไปมาราวกับเหนื่อยหน่าย
“ค่ะพี่” ฉันตอบพี่ทีมงาน
“น้องโยขับรถเป็นไหมล่ะ น้องขับเองก็ได้นะจะได้มั่นใจว่ารถจะไม่ออกนอกเส้นทาง”
ฉันเห็นข้อเสนอนี้น่าสนใจเลยตัดสินใจ “งั้นโยรบกวนพี่ด้วยแล้วกันนะคะ”
“ด้วยความยินดีเลยค่า” น้ำเสียงของพี่เอ็กซ์กลับมากระแดะเหมือนเดิม ฉันเชื่อสนิทใจว่าเขาปัญญาอ่อนอย่างที่พี่ทีมงานพูด
เราเดินกันมาถึงรถของเขาที่จอดอยู่ใกล้ ๆ เขาขึ้นนั่งฝั่งข้างคนขับด้วยท่าทางสบาย ๆ แต่ฉันนี่สิเกร็งจะตายอยู่แล้ว ฉันขับรถเป็นก็จริงแต่รถของเขามันหรูจนฉันรู้สึกว่าตัวเองขับไม่เป็น
“น้องโยเหยียบคันเร่งได้นะคะ พี่อนุญาต”
ฉันหันไปถลึงตาใส่คำพูดประชดของคนข้าง ๆ ฉันไม่ได้รอให้เขาอนุญาต ฉันแค่กำลังภาวนาว่าจะไม่ขับไปเฉี่ยวไปชนอะไรทั้งนั้น ขืนรถเขาเป็นรอยฉันไม่มีปัญญาชดใช้แน่ ๆ
“คาดเข็มขัดด้วยนะคะ” พี่เอ็กซ์เอ่ยออกมาอีกครั้ง ฉันหลุดออกจากภวังค์แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ รวบรวมความกล้า ก่อนจะดึงสายเข็มขัดมาคาดอย่างที่เขาบอก
“รถพี่เหยียบได้มากกว่านี้นะน้องโย เมื่อกี้พี่เห็นเต่าวิ่งแซงไป”
“นั่นรถเต่าค่ะ” ฉันหันไปเถียง ฉันรู้ว่าเขาจงใจแซวว่าฉันขับช้า ฉันก็ยอมรับแหละ ก็คนมันกลัวนี่หว่า
“แวะกินข้าวหน่อยไหม จะได้มีแรงเหยียบคันเร่ง” เขายังไม่หยุดแซว หลังจากที่เขาพูดประโยคเมื่อครู่ เขาก็เอาแต่หัวเราะ
“โยกลัวทำรถพี่พัง”
“รถคันละหลายล้าน มันไม่พังหรอกค่าน้องโย” ยังไม่หยุดใช้น้ำเสียงกระแดะอีก!
อะได้! ในเมื่ออยากได้ความไวนัก นางโยคนนี้ก็จัดให้! วิญญาณนักซิ่งสาวเข้าสิง ฉันค่อย ๆ ลงน้ำหนักที่เท้ามากขึ้นทีละนิด
“น…น้องโยคะ ร…รถพี่ขับช้าได้นะคะ” คนข้าง ๆ กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ทีอย่างนี้ทำเป็นกลัว
“อ้าว เหรอคะ” ฉันแสร้งทำเป็นสงสัยแล้วเหยียบให้หนักกว่าเดิม
“น้องโย๊” เขาแผดเสียงหลง
ฉันนั่งหัวเราะจนตัวสั่นแล้วค่อย ๆ ผ่อนคันเร่งให้เบาลงจนอยู่ในระดับปกติ พี่เอ็กซ์พรูลมหายใจออกมาราวกับโล่งใจ
“ขอบคุณมาก ๆ นะคะที่มาส่ง รถพี่เหยียบมันมากค่ะ” ฉันจอดสนิทที่หน้าปากซอย ปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วกดปลดล็อกประตูรถ
“น้องโยนอนป้ายรถเมล์เหรอ”
ฉันไม่ตอบคำถามบ้า ๆ บอ ๆ ของเขาแล้วเปิดประตูลงจากรถทันที แต่ประตูฝั่งข้างคนขับกลับถูกเปิดออกพร้อม ๆ กับเจ้าของรถที่ก้าวลงมา
“พี่ไปส่งถึงบ้านเลย มาขึ้นรถ”
“ไม่ค่ะ” ฉันไม่อยากให้เขาไปถึงบ้าน เขาเป็นแค่ลูกค้าดื่มเบียร์
“งั้นพี่เดินไปเป็นเพื่อน น้องไปคนเดียวมันอันตราย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังอีกครั้ง ฉันหันไปสบตากับเขาก็พบว่า…เขาไม่มีทางยอมให้ฉันเดินเข้าไปเพียงลำพังแน่ ๆ
“ก็ได้ค่ะ” ฉันต้องจำใจเดินกลับไปขึ้นรถของเขา แต่คราวนี้เขาขับให้เอง กระทั่งมาถึงที่หน้าบ้าน
“นี่บ้านน้องโยเหรอ” พี่เอ็กซ์มองบ้านสลับกับมองหน้าฉัน เขาคงสงสัยว่าบ้านช่องใหญ่โตขนาดนี้ทำไมฉันต้องไปทำงานเป็นสาวเชียร์เบียร์
“พี่รู้จักโยเท่านี้ก็พอค่ะ” ฉันขีดเสีนไว้ไม่ให้เขาถามต่อ รู้จักกันแค่เบื้องหน้าอย่ารู้เบื้องลึกอะไรนักเลย “ขอบคุณมาก ๆ นะคะพี่เอ็กซ์”
“ครับ” พอเขาส่งยิ้มอบอุ่นมาให้ ใจฉันกลับเต้นแรงจนทำตัวไม่ถูก
บ้าเอ๊ย! อย่ายิ้มแบบนี้!