บทที่ 7 ร่วมเตียงกับฮ่องเต้

1646 คำ
            เมื่อเมากันจนลิ้นเริ่มแข็งจนพูดจาอ้อแอ้ทั้งคู่แล้ว คุณชายสามเป็นฝ่ายกึ่ง โอบกึ่งลากเอาจอมยุทธ์หงขึ้นเตียงนอน “ปาย...น้องโหง...เจ้านอนข้างใน ส่วนข้าจานอนข้างนอนเตียงเอง”             “เอือม...เอิ๊ก....เอื๊อก..ดะ...ด้ายยยยยย ตามใจพี่สาม” ครึ่งตัวนางอยู่บนเตียงแต่ขายังชี้โด่เด่ เมื่อพี่สามหันมาเห็นก็ช่วยถอดรองเท้าให้นางก่อนจะรวบขาของนางเข้าด้วยกันแล้วเลื่อนเข้าไปเตียงด้านใน คุณชายร่างใหญ่ยังพอมีสติรื้อเอาผ้าห่มปลายเตียงมาห่มให้หนุ่มน้อยที่เขาอุ้มขึ้นเตียงได้สำเร็จ แล้วหันไปดับตะเกียงก่อนจะเคลื่อนกายเข้าไปนอนข้างร่างบาง             ท่านอ๋องเก้าเดินลงมาดูที่ระเบียงใหญ่ด้วยความเป็นห่วงพี่ชายกับเพื่อนของภรรยาทว่ากลับไม่เห็นผู้ใด สอบถามเสี่ยวเอ้อจึงได้ความว่าคนทั้งหมดขึ้นไปห้องนอนกันแล้ว “อืม...เช่นนั้นข้าก็สบายใจจะได้เข้านอนเสียที”             อากาศยามดึกโดยปกติก็หนาวอยู่แล้ว ยิ่งอยู่กลางเกาะแก่งของทะเลสาบกว้างยิ่งเย็นกว่าปกติ ‘มือข้าหนาวเย็นมาก ไม่มีที่ใดอุ่นเลยหรือไร ผ้าห่มก็บางเหลือเกิน’ นางคว้านมือไปรอบๆ พลันไปปะทะกับซอกหนึ่งที่อบอุ่นยิ่ง เมื่อยื่นมือไปแนบแล้วผ้าแถบนั้นคล้ายส่งความร้อนออกมา นางซุกร่างของตนเข้าไปใกล้จนแนบสนิทกับผ้าผืนนั้น             ฮ่องเต้โอบร่างที่เบียดเข้าหาอกหนาของตนเองตามสัญชาตญาณ แม้จำไม่ได้แน่ชัดว่าตนเองนอนอยู่ตำหนักสนมนางใด ทว่าอกอวบที่แนบชิดอยู่ทำให้รู้ว่านางคงต้องเป็นคนโปรดของตนสักคนเป็นแน่ เขาก้มหน้าลงจูบขมับและแก้มนวล แม้จะมิได้ลืมตาขึ้นแต่ก็รู้สึกถึงความเนียนนุ่มของผิวพรรณนาง มือของเขาทำตามความคุ้นเคยนั่นคือลูบบ่าของนางแล้วเลื่อนต่ำลงไปตามสาบเสื้อจนถึงสายรัดเอว เขาถอดสายนั่นออกแล้วปลดเสื้อตัวนอกออกจากตัวนาง แต่พอเขาจะเลื่อนมือเข้าไปในสาบเสื้อตัวในนางกลับดึงมือของเขาออก “เจ้าไม่ยินยอมหรือ?” เขาพึมพำออกมาเบาๆ แล้วพยายามล้วงเข้าไปอีกทั้งแต่นางก็ดึงมือของเขาออกอีก เมื่อเห็นว่านางไม่เต็มใจ ซ้ำเขายังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่จึงทำเพียงร่นเสื้อตัวในของนางลงเคลียต้นแขน สองมือของเขาลูบไล้บ่าเปลือยของนางอย่างเบามือ             ความอุ่นเกือบร้อนที่ผ่านบ่าไหล่ลงไปตามต้นแขนทำให้หงซือซือครางออกมาอย่างพึงพอใจ ยอมให้เขาถอดเสื้อนอนตัวในออกจนเหลือเพียงเอี๊ยมบาง เมื่อนางซุกตัวเข้าไปอ้อมแขนของชายที่นอนเปลือยหน้าอกจึงได้รับไออุ่นจากกายของเขาอย่างเต็มที่ ‘ผ้าห่มผืนนี้ช่างอุ่นเสียจริง ตื่นขึ้นข้าจะขอเอากลับบ้านไปด้วย’ นางนึกอยู่ในใจขณะโอบกอดก้อนผ้าห่มนั้นเอาไว้แน่น ‘แปลกจริงผ้าห่มขยับเองได้ด้วย’             “โอ๊ะ! โอ๊ย! ปวดหัวจริง” นางลืมตาขึ้น ตะเกียงในห้องถูกดับไปเพียงส่วนหนึ่งอีกส่วนยังคงติดอยู่ทำให้นางพอจะมองเห็น ทว่าที่สิ่งที่มองเห็นต่อหน้าช่างแปลกเสียจริง ‘นี่มันมิใช่เนื้อคนหรอกหรือ?’ นางขยับศีรษะและปล่อยมือออกห่างจากร่างที่นอนอยู่ข้างหน้า “นี่มัน! ฮ่องเต้!”             ดีที่คำอุทานนั้นแม้จะดังแต่เขากลับยังนอนเมาสุรายังมิได้สติ ร่างที่เปลือยส่วนบนของคุณชายสามทำให้นางผงะ ยิ่งก้มลงมองตนเองที่ช่วงบนเหลือเพียงเอี๊ยมตัวเดียวนางก็ยิ่งตกใจ ‘นี่ข้ากับเขา ทำสิ่งใดลงไป?’ เคราะห์ดีที่เห็นกางเกงขายาวของตนยังเหลืออยู่ เมื่อเปิดผ้าห่มออกดูเขาเองก็ยังสวมกางเกง นางถอนหายใจอย่างโล่งอกตั้งสติได้ก็รีบลงไปยืนข้างเตียง มองหาเสื้อผ้าของตนที่หล่นอยู่ตามพื้น รีบสวมใส่แล้วเก็บของส่วนตัวใส่ห่อผ้าลงไปถามหาห้องพักว่าง นางยังรู้สึกมึนเพราะสุราอยู่จึงอยากจะนอนต่ออีกสักหน่อย             ในยามเหม่าฮ่องเต้มักจะตื่นบรรทมจนเป็นนิสัย เมื่อลืมตาขึ้นได้เห็นตนเองถอดเสื้อนอนใต้ผ้าห่มก็นึกแปลกใจ ‘นี่ไม่ใช่ห้องที่ข้าจองไว้นี่’ เขามองไปรอบๆ ค่อยทบทวนจนจำได้ว่าตนเองตามจอมยุทธ์หงมาที่ห้องนี้ ดื่มจนเมาแล้วก็ลากชายหนุ่ม     ผู้นั้นขึ้นนอนด้วยกัน ‘เขาหายไปไหนล่ะนี่?’             คุณชายสามลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ข้างกายขึ้นมาสวมใส่ จากนั้นกลับไปอาบน้ำที่ห้องของตนเอง ยามสายเขาลงไปที่ร้านอาหารข้างใต้โรงเตี๊ยมจึงพบกับน้องชายและน้องสะใภ้ที่กำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่             “พี่สามมากินข้าวเช้ากัน ข้าสั่งอาหารเผื่อท่านไว้แล้ว เมื่อคืนคงดื่มล่ะสินะ”             “อืม! ก็ทำเอามึนไปเหมือนกัน ข้าตื่นมาที่ห้องน้องหง ไม่รู้น้องหงไปนอนที่ห้องไหน?” เขาใช้ส้นมือกระแทกศีรษะตนเองเบาๆ รับถ้วยข้าวต้มจากน้องชายขึ้นมาตักซดน้ำสองสามคำจึงรู้สึกสบายตัวขึ้น น้องสะใภ้เลื่อนถ้วยน้ำแกงสร่างเมามาให้ เขาก็รับไว้แล้วจิบตามไปอีกครึ่งถ้วย “อา...ค่อยยังชั่ว”             จอมยุทธ์หงเดินลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทีองอาจ นางดื่มน้ำแกงสร่างเมาไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง อาบน้ำสระผมใหม่มาในชุดที่เพิ่งซื้อจากที่นี่เมื่อวาน ทว่าเมื่อมองเห็นคุณชายสามคิดจะหันหนีก็ไม่ทันแล้ว             “น้องหง เจ้ามากินข้าวกับข้าเร็ว!” คุณชายสามโบกไม้โบกมืออย่างยินดี ทำเอาหงซือซือไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจ นางมองเลยไปยังพระชายาหาน สหายสนิทของนางกลับยักคิ้วหลิ่วตาล้อเลียน             “มาเถิดจอมยุทธ์หง อาหารเช้าที่นี่อร่อยนัก” พระชายาหานยิ้มหวานเชิญชวน ท่านอ๋องเก้าสังเกตอากัปกิริยาทั้งสามคนแล้วก็นึกขำ หากเขาไม่รู้มาก่อนว่าจอมยุทธ์หงผู้นี้คือหงซือซือเพื่อนสนิทของภรรยาก็คงโมโหจนควันขึ้นศีรษะไปแล้ว             คุณชายสามตบเก้าอี้ข้างกายสองสามครั้ง หงซือซือจึงไม่กล้าปฏิเสธเดินไปนั่งข้างเขาแต่โดยดี ใบหน้าของนางขึ้นสีระเรื่ออยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนนี้             “เจ้าคงเมาจนป่วยไปเสียแล้ว เดี๋ยวข้าสั่งเสี่ยวเอ้อให้ต้มยามาส่งเจ้า” พี่สามหันมามองนางด้วยความห่วงใย พลางโบกมือเรียกให้เสี่ยวเอ้อไปหายาแก้ไข้มาให้นาง “ดูสิทั้งใบหน้าและลำคอเจ้าแดงหมดแล้ว” ไม่พูดเปล่าเขายังยื่นมือมาแตะหน้าผากและคอนางด้วย ทำเอาหงซือซือขนหลังคอลุกชัน “มะ ไม่เป็นไรพี่สาม สงสัยข้าจะดื่มมากไปหน่อย” “ใบหน้าเจ้าแดงจริงๆ นะ จอมยุทธ์หง” หานซู่ลี่เห็นพี่สามทักเช่นนั้นก็รู้สึกห่วงสหายขึ้นมา รีบรินน้ำชาไปยื่นให้นาง “เจ้าดื่มน้ำเยอะหน่อยจะดีกว่า”  “เมื่อคืนข้าเสียมารยาทแย่งห้องนอนของเจ้า อย่าโกรธข้าเลยนะน้องหง ว่าแต่เจ้าได้ห้องนอนใหม่อยู่ตรงไหนหรือ?”             หงซือซือที่กำลังยกน้ำแกงขึ้นดื่มแทบจะพ่นพรวดออกมา ‘ยังอยากจะรู้อีกว่าข้านอนอยู่ห้องไหน? อย่าหวังเลยว่าข้าจะให้เข้าไปห้องนอนของข้า’ นางแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินแล้วดื่มน้ำแกงต่อ             ท่านอ๋องเก้าหันมาชะโงกหน้าสนทนากับพี่ชาย “กินข้าวเสร็จแล้วข้ามีเรื่องจะเล่าให้ท่านฟัง”             “อืม...” พี่สามเร่งมือพุ้ยข้าวเข้าปาก เขาคีบอาหารมาวางบนถ้วยข้าวของจอมยุทธ์หง “เจ้าเองก็รีบกินเข้าเถิดน้องหง อีกสักหน่อยพวกจอมยุทธ์ที่มาพักที่นี่จะเริ่มประลองกันแล้ว”             หงซือซือลืมไปเสียสนิทว่า ช่วงเช้าจะเป็นช่วงที่เหล่าแขกที่มาพักที่นี่จะออกมาประลองยุทธ์กัน วิทยายุทธ์ของคนทั่วหล้าที่ว่ายอดเยี่ยมก็จะได้เห็นกันที่นี่ ที่นางต้องการจะมาก็เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้เหล่านี้ ขณะเดียวกันก็กำลังรอคนผู้หนึ่ง             “ข้าลืมไปเสียสนิท ทุกคราที่มาที่นี่ต้องได้ดูการประลองจึงจะคุ้มค่า” นางเงยหน้าขึ้นสบตากับพระชายาหาน หงซือซือกินข้าวต้มไปจนหมดชามแล้ว พี่สามจึงเลื่อนถ้วยยาแก้ไขที่เสี่ยวเอ้อนำมาส่งให้กับนาง             “เจ้าต้องกินยาให้เรียบร้อยก่อน ข้าจึงจะวางใจ”             หงซือซืออึกอักเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าฮ่องเต้มีความห่วงใยตนอย่างจริงใจจึงยกถ้วยยาขึ้น “ขอบคุณพี่สามที่ห่วงใย”             “พวกเจ้าสองคนไปดูการประลองเถิด ข้ามีเรื่องจะปรึกษากับพี่สามสักครู่”             เห็นอ๋องเก้าเอ่ยอนุญาตให้พระชายาคนงามไปกับจอมยุทธ์หนุ่มน้อยง่ายดายเช่นนั้น ฮ่องเต้ก็รู้สึกได้ทันทีว่าน้องชายผู้รอบคอบของตนไว้ใจในตัวจอมยุทธ์หง       ‘เจ้าหนุ่มน้อยผู้นี้ดูท่าเป็นคนใช้ได้เทียว เจ้าเก้าผู้รอบคอบไว้ใจจนยอมให้ภรรยาคนงามไปด้วยเขาต้องมิใช่คนธรรมดาเป็นแน่’             “ข้าจะดูแลนางอย่างดี ท่านอ๋องโปรดวางใจ”                                     ***************************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม