โมโหหิว

1891 คำ
ตอนที่ 17 ภายใต้ท่าทีที่ดูเป็นกันเองของพริมโรส ทุกท่วงท่าที่แฝงไปด้วยความสง่าน่าเกรงขามอยู่มาก แม้ทุกคนจะพูดคุยอย่างเป็นกันเอง แต่ก็ยังรู้สึกเกรงใจอยู่มาก ไม่ใช่หญิงสาวคนดังกล่าวเป็นคนสําคัญของเจ้านาย แต่เป็นเพราะหญิงสาวคนดังกล่าวมีรัศมีบางอย่างที่ทํา ให้นึกถึงเจ้านาย...รัศมีแห่งความน่ากลัว “พริม...ขอตัวก่อนนะคะ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่บอกเวลาว่าตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้วเรียบร้อย ไม่รู้ว่า ป่านนี้บรรดายักษ์ทั้งหลายจะประชุมเสร็จหรือยัง ‘ถ้ายังไม่เสร็จ แม่จะอาละวาดให้ห้องประชุมแตกเลย...’ วันนี้ถ้าไม่นับว่าต้องหิ้วท้องรอกินข้าวกับอีตาบ้าจนแสบท้องแล้ว พริมโรสถือว่าวันนี้เป็นวันที่เธอใช้ได้คุ้มค่าไม่น้อย เพราะเธอได้ทําความรู้จักกับคนในบริษัทนี้มากขึ้น ต่อไปนี้ถ้าเธออย่างรู้เรื่องอะไรการที่จะถามพนักงานที่นี่ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป พริมโรสได้แต่ยิ้มกับความคิดของตัวเอง ไม่รู้เหมือนกันว่าความคิดนี้เข้ามาตอนไหน การที่ให้คนในเป็นหูเป็นตาให้ดูจะเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย คราวนี้ต่อให้มีสิบเขมชาติก็ไม่รอดพ้นสายตาเธอไปได้หรอก รอยยิ้มของพริมโรสทําให้เจนจิรารู้สึกไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่ เพราะยิ้มแบบนี้แววตาแบบนี้เหมือนกับของเขมชาติไม่มีผิด เป็น รอยยิ้มและแววตาของความเจ้าเล่ห์ที่สามารถหลอกล่อคนอื่นให้ตก หลุมพรางของตัวเองได้ ท่าทางพริมโรสจะไม่ใช่คนที่จะกันให้ออกไปให้พ้นทางได้ง่าย ๆ เสียด้วย เห็นทีงานนี้คงต้องเปลี่ยนแผนใหม่เสียแล้ว เขมชาติรีบเดินตรงมาหาพริมโรสที่ห้องทํางานของตัวเองทันที โดยไม่สนใจคนอื่นที่เข้าร่วมประชุมด้วยว่าจะออกจากห้องกันหรือยัง แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปกับพบแต่ความว่างเปล่า ทําให้เขาเดิน ออกมาถามคุณพรรณารายที่โต๊ะทํางานนอกห้อง “คุณพริมกลับไปแล้วเหรอ” “ยังค่ะ...ลงไปหาอะไรทานข้างล่างกับเจนค่ะ” ได้ฟังคําตอบแทนที่เขมชาติจะโล่งใจที่หญิงสาวยังไม่ได้ไปไหน แต่กลับเพิ่มความแปลกใจให้เขาแทน เพราะก่อนหน้าที่เขาจะเข้าไปประชุมนั้น แววตาที่เจนจิราใช้มองนั้นไม่ใช่แววตาของความเป็นมิตร ซึ่งตัวเขาเองยังคิดว่าพริมโรสน่าจะดูออก การที่สองสาวลงไปข้างล่างด้วยกันนั้นน่าจะมีเหตุผลอะไรมากกว่านั้น ถ้าเดาไม่ผิดเขาคิดว่าคุณนายระเบียบของเขาน่าจะเป็นคนชวนเจนจิราลงไปข้างล่างมากกว่า และถ้าให้เขาเดาต่อพริมโรสคงต้องการที่จะทําความรู้จักผู้ช่วยของเขาให้เยอะกว่าเดิมเป็นแน่ “ผมบอกแล้วไงว่าไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนคุณพริม” เขมชาติทําเสียงดังดุพรรณาราย “แต่คุณพริมเธอเป็นคนชวนเองนะคะ” คิดแล้วไม่มีผิด พริมโรสคงไม่ปล่อยให้เรื่องที่ตัวเองสงสัยผ่านพ้นไปได้ง่าย ๆ หรอก ไม่รู้ว่าตอนนี้คุณนายเธอจะได้อะไรเพิ่มขึ้นบ้างหรือ ยังดูเหมือนเขาจะไม่ได้รอนานเมื่อพริมโรสและเจนจิราเดินออกมาจากลิฟต์ด้วยกัน “ผมนึกว่าคุณกลับไปแล้วเสีย ตอนออกมาไม่เห็นคุณ...ผมกลัวแทบตาย” เขมชาติพูดพร้อมกับเดินเข้าไปโอบเอวพริมโรสไว้ทันทีโดยไม่สนใจว่า คนอื่นจะมองอย่างไร เพราะที่เขาสนใจตอนนี้คือ คุณนายระเบียบ ได้เรื่องอะไรมาบ้างและที่สําคัญต้องรีบป้องกันตัวเองไว้ ไม่เช่นนั้นมีหวังเขาถูกคนในอ้อมกอดเล่นงานแน่ ๆ ดูจากแววตาของหญิงสาวขณะเดินออกมาจากลิฟต์ เขมชาติมองดูก็รู้แล้วว่า ถ้าเขาไม่รีบทําอะไรก่อนมีหวังคุณเธออาละวาดจนออฟฟิศแตกแน่ และดูเหมือนเขาจะคิดไม่ผิดเพราะร่างบางไม่ได้ยอมให้เขากอดแต่โดยดี คุณนายระเบียบพยายามจะฝืนตัวเองให้ออกจากอ้อมแขนของเขา จนเขาเองต้องใช้แรงเยอะกว่าที่เคยเพื่อรัดและบังคับให้อยู่นิ่ง ๆ ไม่รู้ว่าเขาต้องรบกับคุณนายเธอจนถึงเมื่อไหร่ ภายใต้ท่าทีที่นิ่ง สีหน้าที่นิ่งเฉยเป็นปกติของคนทั้งคู่ แต่บรรดาลูกน้องทุกคนของเขมชาติต่างรู้ดีว่า ตอนนี้ทั้งคู่กําลังทําสงครามเย็นกันอยู่ โดยเฉพาะชงคมกับคาร์ลอต ที่รู้ฤทธิ์ของหญิงสาวในอ้อมกอดของเจ้านายตัวเองดี ไม่รู้ว่าตอนนี้เจ้านายจะโดนอะไรอีก “หิวแล้ว...” พริมโรสยอมปริปากพูดเป็นคนแรกหลังจากเงียบอยู่นาน “ทนเอาหน่อยนะ...รอผมเคลียร์งานเสร็จเราค่อยไปกินข้าวด้วยกัน” เขมชาติตอบเพราะอยากจะเอาคืน เรื่องที่หญิงสาวแกล้งเอาข้าวคลุกเกลือให้เขากิน ต้องปล่อยให้หิวซะให้เข็ด แล้วอย่านึกว่าเขาจะยอมใจอ่อนง่าย ๆ “ไม่เอา...ฉันหิว ฉันจะกลับบ้านแล้ว” พริมโรสก็ไม่ยอมน้อยหน้า เธอพูดเสียงดังขึ้นแถมยังใช้แรงที่มีอยู่สะบัดตัวออกจากแขนแข็งแรงนั้นได้สําเร็จ แต่เธอยังถูกมือใหญ่นั้นจับข้อมือเธอไว้อยู่ดี ทําให้ไม่สามารถไปไหนได้ตามที่ใจต้องการ “ผมบอกให้รอก็ต้องรอสิ” ชายหนุ่มเริ่มแยกเขี้ยวกับอาการงอแงเหมือนเด็กของหญิงสาว “หิว...หิว...หิว” ...หิวจนจะกินช้างได้ทั้งตัวอยู่แล้ว” อาการยึกยักของคนทั้งคู่ไม่ต่างกับเด็กเกเรสองคนที่ต้องการเอาชนะกัน ไม่รู้ว่าสายตาทุกคู่ที่จ้องมองมาต่างมองด้วยความสงสัย และไม่ เชื่อสายตาตัวเองที่จะเห็นเขมชาติที่ใคร ๆ ต่างเกรงกลัว กําลังทําสงครามแบบเด็ก ๆ กับสาวสวยที่ไม่น่าจะมีพิษสงอะไร สายตาที่มองมานั้นไม่ได้มีแต่สายตาของลูกน้องเจ้าพ่อยักษ์ใหญ่ เท่านั้น ยังมีสายตาของสารวัตรก้องเกียรติกับลูกน้องที่เดินออกจากห้องประชุมมาเจอเหตุการณ์นี้เข้าพอดี ทําให้ทั้งคู่หยุดมองด้วยความสนใจเหมือนจะเก็บบันทึกรายละเอียดเอาไว้ “อย่าดื้อ...บอกให้รอก็รอสิ” ชายหนุ่มพูดเสียงเข้ม “ไม่รอ ๆ ...ก็คนมันหิว” พริมโรสตอบเสียงดังไม่แพ้กัน และเมื่อจบประโยคก็ดึงแขนข้างที่เขมชาติจับมือเธอไว้ขึ้นมา แล้ว จัดการกับเนื้อบริเวณท่อนแขน เพราะแขนเสื้อที่ถูกพับขึ้นไปจนถึง ข้อศอก ทําให้คุณนายระเบียบจัดการได้อย่างสะดวก ...หงับ... “โอ๊ย” เสียงร้องของเขมชาติดังขึ้นก่อนจะรีบดึงแขนตัวเองออกจากคมเขี้ยวของคุณนายระเบียบที่ตอนนี้แปลงร่างไปเป็นนางยักษ์แล้วเรียบร้อยแล้ว แววตาดุดันนั้นเริ่มอาการขวางนิด ๆ เหมือนพร้อมจะมีเรื่องเต็มที่ถ้าชายหนุ่มโต้กลับ “เจ็บนะคุณ” ‘คนหรือสุนัขกัดมาได้...’ ทําไมวันนี้มันถึงซวยอย่างนี้ ถูกผู้หญิงคนเดียวกันกัดมาแล้วสองรอบ ไม่รู้ว่าจะติดเชื้อบ้าจากคุณนายระเบียบหรือเปล่า “หิวโว้ย!” ‘แม่จะกินให้แขนด้วนเลยคอยดู...’ ผู้ชายบ้าอะไรชอบเอาชนะกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าคิดว่าเธอจะยอมให้ถูกแกล้งง่าย ๆ ไม่มีทาง...คนอย่างพริมโรสไม่เคยยอมใคร ง่าย ๆ แล้วก็อย่านึกนะว่าเธอจะไม่เอาคืน ขณะที่เสือหนุ่มกับสิงห์สาวกําลังเขม่นกันอยู่นั้น สารวัตรก้องเกียรติที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่ก็อดกลั้นหัวเราะไม่ได้กับกริยาของคนทั้งสอง เขาไม่เคยคิดว่าจะได้มาเห็นอะไรอย่างนี้ เจ้าพ่อตัวโตถูกสาวหน้าหวานกัด ถ้าเป็นคนอื่นเขาคิดว่า ป่านนี้คงโดนเจ้าพ่อตอบกลับอย่างแสนสาหัสไปแล้ว แต่นี่คู่กรณีกลับยังยืนเท้าสะเอวจ้องหน้าได้อย่างไม่กลัวเกรง เสียงหัวเราะอย่างตลกขบขันของใครคนหนึ่งดังขึ้น ทําให้ พริมโรสได้สติว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน และเมื่อเธอมองไปรอบ ๆ ก็พบกับชายแปลกหน้ากลุ่มหนึ่งยืนมองเธออยู่ จากสีหน้าของคนเหล่านั้น พริมโรสคิดว่าทุกคนกําลังตกใจ หรือไม่ก็ทําท่าเหมือนเห็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก คนพวกนี้เธอคิดว่าคงเป็นพวกที่เข้าประชุมเมื่อกี้แน่ ๆ แต่เสียงที่พยายามจะกลั้นหัวเราะของชายคนหนึ่ง ทําให้เธอถลึงตา เข้าใส่ก่อนจะตวาดไล่ให้ไปทํางานอย่างไม่เกรงใจใคร “ยืนมองอะไร...ประชุมเสร็จแล้วก็รีบไปสิ บริษัทนี้งานเยอะไม่ใช่เหรอ...ยังไม่รีบไปทํางานอีก เดี๋ยวก็ถูกไล่ออกหรอก” สารวัตรก้องเกียรติมองพริมโรสอย่างขํา ๆ กับอาการอาละวาดใส่เจ้าพ่อกับบรรดาลูกน้องอย่างไม่รู้สึกตัวว่าตอนนี้ตัวเองกําลังอยู่ในถํ้าเสืออยู่ ถ้าจ่าฝูงสั่งลุยเมื่อไหร่มีหวังสาวตาดุคนนี้คงไม่รอด แต่ดูเหมือนเจ้าพ่อท่านจะยอมอ่อนข้อให้เยอะ จึงทําให้ไม่มีใครกล้าทําอะไรเจ้าหล่อน จากนั้นจึงละสายตาไปมองเจนจิราอย่างครุ่นคิด ซึ่งอาการเหล่านี้หาได้รอดพ้นจากสายตาของเขมชาติไม่ เพราะตัวเขาเองกําลังเขม่นสารวัตรที่มองพริมโรสอยู่ อารมณ์โมโหที่ถูกกัดก็เพิ่มขึ้นเป็นริ้ว ๆ อย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่ที่แน่ ๆ เขาไม่พอใจอย่างมากที่ พริมโรสถูกชายคนอื่นจ้องมอง แต่เมื่อสารวัตรเบนสายตาไปมองเจนจิรานั้น ทําให้เขมชาติมีเรื่องต้องคิดหนักอีกหน เพราะแววตาครุ่นคิดของสารวัตรที่มองผู้ช่วยของเขานั้น เหมือนคนรู้จักกันมาก่อน ถึงแม้ว่าเจนจิราพยายามจะหลบตาแล้วก็ตาม ยิ่งดูยิ่งมีพิรุธ ไม่รู้ว่าผู้ช่วยของเขาจะเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งมาหรือเปล่า... ถ้าใช่ทําไมต้องแสดงอาการออกมามากขนาดนั้นด้วย หรือว่า... ต้องการจะเบี่ยงเบนความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรเขาต้องรู้ให้ ได้ แต่คงจะไม่ใช่เวลานี้ เพราะตอนนี้เขาต้องจัดการกับนางยักษ์ ตรงหน้านี่เสียก่อน ก่อนที่ภาพพจน์เจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลจะถูกทําลาย “แยกย้ายกันไปทํางานได้แล้ว” เขมชาติสั่งเสียงเข้ม “ส่วนนายสองคนรออยู่ข้างนอกไม่ต้องตามเข้าไป” เจ้านายหนุ่มหันมาสั่งกับชงคมและคาร์ลอต ก่อนจะลากตัวต้นเหตุที่ทําให้เขาถูกคนอื่นหัวเราะเยาะเข้าไปในห้อง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม