ตอนที่ 18
ประตูที่ปิดตามหลังอย่างแรงด้วยฝีมือของท่านประธาน กับร่างบางที่ถูกลากติดมือเข้ามาด้วยถูกเหวี่ยงทิ้งลงบนโซฟานุ่ม ก่อนที่จะทิ้ง ตัวเองลงตามมานั่งข้าง ๆ โดยที่ไม่ยอมปล่อยข้อมือเล็กที่เขาจับนั่นอย่างเด็ดขาด
“อยู่นิ่ง ๆ ไม่เป็นเลยหรือไง คุณป้าระเบียบ” ดุคนที่กําลังพยายามดิ้นให้ ฃหลุดจากการเกาะกุมของเขาอย่างเหลืออด
“ปล่อยฉันก่อนสิ ตาบ้า” เสียงโอดครวญเหมือนจะยอมแพ้ของสาวหน้าหวานทําให้เขมชาติเกือบจะใจอ่อน แต่เขาจะใจอ่อนง่าย ๆ ไม่ได้ ถึงเวลาเอาคืนของเขาแล้ว ชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ให้กับความคิดของตัวเอง
เขมชาติจะทําให้หญิงสาวคนนี้ได้รู้เสียบ้างว่า คนอย่างเขาไม่ยอมเสียเปรียบใคร และไม่เคยยอมใครที่ไหนมาก่อนด้วย ถ้าหล่อนคิดจะมาลองดีกับเขาแล้วละก็...รับรองต้องใช้คืนให้มากกว่าเป็นสิบเท่าเลยคอยดู
จากที่แค่จับข้อมือ ตอนนี้เขมชาติเปลี่ยนมาเป็นผลักร่างบางให้ล้มลงไปนอนหงายกับโซฟา แล้วตัวเขาเองค่อยล้มตัวมานอนทับอีกที มือใหญ่จับรวบมือทั้งสองข้างของหญิงสาวขึ้นไปเหนือศีรษะ พร้อมกับใบหน้าที่โน้มตํ่าลงมา จนกระทั่งริมฝีปากหนาสัมผัสกับริมฝีปากบางก่อนจะทันได้กล่าวอะไรออกมา
“อย่าดื้อสิ ผมบอกอะไรก็เชื่อผมบ้าง” ชายหนุ่มดุร่างบางที่ถูกร่างใหญ่ของเขาทับไม่ได้ให้หนีไปไหน
“ปล่อยชั้นนะ...ตาบ้า..ไอ้คนบ้า”
“ไม่ปล่อย...จนกว่าคุณจะยอมเชื่อผมและทําตามที่ผมบอก ไม่อย่างงั้นผมก็จะอยู่อย่างนี้แหละ”
“แต่ฉันหิว” หญิงสาวเอ่ยด้วยนํ้าเสียงละห้อย คนฟังจึงอดที่จะใจอ่อนไม่ได้ แต่ไม่ใช่มีหล่อนเพียงคนเดียวที่หิว ตัวเขาเองก็หิวไม่แพ้กัน แต่จะให้เขาปล่อยไปง่าย ๆ ก็ไม่มีทาง
“ผมก็หิวเหมือนกัน วันนี้ทั้งวันมีกาแฟแค่สองถ้วยกับอาหารจานพิเศษของคุณที่ตกถึงท้องของผม...แต่ผมยังเคลียร์งานไม่เสร็จ...รอ แป๊บหนึ่งนะครับ” ท้ายประโยคมีแววออดอ้อนนิด ๆ
“แต่..ชั้นหิวนะ” เธอตะโกนใส่หน้า ก่อนที่เขมชาติจะทันได้ตั้งตัว พริมโรสก็ยกเข่าขึ้นมากระทุ้งเข้าเป้าหมายอย่างจัง ทําให้ชายหนุ่มถึงกับผงะแล้วคลายมือที่จับกุม เธออาศัยจังหวะนั้นรวบรวมแรงที่มีอยู่พลิกตัว ทําให้ร่างของทั้งคู่หล่นลงจากโซฟามานอนกลิ้งอยู่กับพรมหนาด้านล่างแทน
ร่างบางที่ตอนนี้ควํ่าหน้าอยู่บนร่างหนายังไม่ทันได้ขยับหนี ก็ถูก ร่างใหญ่พลิกตัวขึ้นมาทับอีกที พร้อมกับทิ้งนํ้าหนักทั้งหมดลงบนร่างบางที่พยายามดิ้นเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม
เขมชาติไม่ยอมพลาดเหมือนคราวก่อน เขาใช้แรงทั้งหมดทั้งรัดทั้งรวบไม่ให้พริมโรสได้ขยับตัวทําอะไรเขาได้ ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน ถึงได้ดิ้นไม่ยอมหยุด ถ้าเขาเผลอเมื่อไหร่มีหวังเจ็บตัวเมื่อนั้น ต้องสั่งสอนให้เข็ด...
ภายในห้องกําลังรบกันอยู่ นอกห้องก็คงกําลังเตรียมตัวรับศึกใหม่เหมือนกัน เพราะการมาเยือนของคุณวิภาดาและวิลาสินีที่ ต้องการจะให้เขมชาติจัดการเรื่องของเขมกรกับพิชชภรณ์ให้เด็ดขาด
“เข้าไปไม่ได้นะครับ” ชงคมห้ามทันทีที่คุณวิภาดาจะผลักประตูห้องทํางานเข้าไป
“ฉันมาหาเขมชาติลูกชาย ทําไมฉันจะเข้าไปไม่ได้...หลีกไปเดี๋ยวนี้นะ” คุณวิภาดาพูดเสียงเข้ม
“แต่ท่านสั่งไม่ให้ใครรบกวน” ชงคมตอบ
“พวกแกมีสิทธิ์อะไรมาห้ามพวกฉัน คอยดูนะถ้าฉันแต่งงานกับพี่เขมเมื่อไหร่ ฉันจะไล่พวกแกออกให้หมด” วิลาสินีขู่
และดูเหมือนว่ายิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ เพราะนอกจากสองแม่ลูกจะไม่
ฟังคําทัดทานของชงคมแล้ว วิลาสินียังผลักคาร์ลอตให้พ้นทางก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
“กรี๊ดดดดดดด!!!!!!!!”
เสียงกรีดร้องของวิลาสินีดังลั่น แม้แต่คุณวิภาดายังตะลึงกับภาพที่เห็นข้างหน้า ทําให้ลูกน้องของเขมชาติที่อยู่นอกห้องทั้งหมดวิ่งเข้ามาดู และต้องชะงักอยู่กับที่อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
เพราะภาพที่ทุกคนเห็นตรงหน้า ไม่ต่างอะไรไปกับเขมชาติกําลัง ปลํ้าพริมโรสอยู่บนพื้น
สภาพร่างบางที่อยู่ใต้ร่างใหญ่ กระโปร่งร่นขึ้นมา เหนือเข่า กระดุมเสื้อด้านบนหลุดออกเผยให้เห็นเนินอกอยู่รําไร ยิ่งริมฝีปากที่บวมเบ่งใบหน้าที่แดงกํ่า ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโดนอะไรมา แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้วิลาสินีคลั่ง
เขมชาติเงยหน้าขึ้นมามองกลุ่มคนที่เข้ามาใจอย่างขัดใจ ก่อนจะดันตัวเองขึ้นแล้วดึงร่างบางให้ลุกขึ้นตาม พร้อมกับเอื้อมมือมาจัดแจงเสื้อผ้าของหญิงสาวให้เรียบร้อย ยิ่งเหมือนเป็นการตอก ยํ้าให้ทุกคนคิดไปในทางเดียวกัน
“แก...นังพริม แกอย่าอยู่เลย” วิลาสินีปรี่เข้ามาจะทําร้ายพริมโรสที่ยืนจ้องเขมชาติอยู่อย่างเอาเรื่องที่ทํา ให้เธอได้รับความอับอายวันนี้ ร่างสูงโปร่งของเธอถูกวิลาสินีกระชาก ให้หันมาเผชิญหน้าด้วย พร้อมกับเงื้อมือขึ้นจะตบ แต่เพราะอารมณ์โกรธยังคลุกกรุ่นอยู่ ที่เธอไม่สามารถทําอะไรเขมชาติได้ ทําให้วิลาสินีกลายเป็นที่ระบายอารมณ์ของเธอแทน เพราะเมื่อพริมโรสถูก กระชากให้หันมาเผชิญหน้ากับวิลาสินีนั้น หมัดของเธอก็ปล่อยตรงไปยังปลายคางของคนข้างหน้าทันทีอย่างไม่ต้องคิด
ร่างของวิลาสินีถึงกับลงไปกองบนพื้นแน่นิ่งไม่ไหวติง ทําให้คุณวิภาดารีบปรี่เข้าไปคุกเข่าดูอาการของลูกสาวตัวเองก่อนจะตรง เข้ามาเอาเรื่องกับพริมโรสที่ยืน
“กล้าดียังไงมาทําร้ายลูกสาวชั้น”
“ถามลูกสาวคุณดูสิ...ว่ากล้าดียังไงจะมาทําร้ายชั้น” พริมโรสถามกลับไปอย่างไม่สะทกสะท้าน พร้อมกับมองหน้าอย่างเอาเรื่อง
“งั้น...ก็อย่าอยู่เลย” และเหนือความคาดคิดของทุกคน คุณวิภาดาล้วงปืนกระบอกเล็กในกระเป๋าถือที่พกอยู่เป็นประจําออกมาจ่อตรงหน้าของพริมโรส สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนที่คิดไม่ถึงว่าคุณวิภาดาจะเล่นแรงขนาดนี้
เขมชาติขยับตัวจะเข้ามาช่วยแต่เขาก็ช้าไปแล้ว เมื่อร่างสูงโปร่งที่ประจันหน้าอยู่กับอาวุธร้ายแรง ใช้มือปัดปืนในมือของอีกฝ่ายได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่คุณวิภาดาจะทันได้ใช้ประโยชน์จากอาวุธในมือ
พริมโรสปัดปืนในมือของหญิงสูงวัยหล่นลงไปกับพื้น พร้อมกับใช้มือข้างนั้นจับมือข้างที่เคยถือปืนอยู่ดึงเข้ามาใกล้
“จะใช้ปืนขู่ฉัน...มันต้องเร็วกว่านี้” พริมโรสพูดจบก็ผลักลงวิภาดาลงไปกองข้างวิลาสินีที่ยังไม่ได้สติอยู่
“แก...” คุณวิภาดามองหน้าพริมโรสด้วยความเครียดแค้น ขณะ ชงคมช่วยพยุงให้ลุกขึ้น ก่อนจะเกิดเรื่องมากไปกว่านี้ เขมชาติถือโอกาสนี้ดึงพริมโรสเข้ามาหา พร้อมกับพูดอย่างนุ่มนวล
“ไม่เอาน่าพริม...อย่ามีเรื่องในที่ทํางานเลย” วิภาดามองลูกเลี้ยงด้วยความไม่พอใจ เพราะนอกจาก เขมชาติจะไม่ช่วยแล้ว ยังเข้าข้างพริมโรสอย่างเห็นได้ชัด
“เขม...ทําไมทําแบบนี้ เขมเห็นผู้หญิงคนนี้ดีกว่า ดีกว่ายัยวิ เขมเห็นคนอื่นดีกว่าคนในครอบครัวของตัวเอง เขมกําลังทําผิด สัญญา...รู้ไหม”
เขมชาติหรี่ตามองแม่เลี้ยงของตัวเองอย่าไม่พอใจที่ชอบพูดทวงสัญญา ถ้าไม่ได้อะไรดั่งใจตัวเอง เขาจึงตอบออกไปอย่างชัดเจนว่า
“พริมโรสไม่ใช่คนอื่นสําหรับผม แต่...” มองหน้าหญิงสาวที่ตัวเองเอ่ยชื่อ ก่อนจะพูดต่อด้วยประโยคที่ทําให้คนฟังแทบจะกระทืบเท้าร้องลั่นด้วยความไม่พอใจ
“พริม...กําลังจะมาเป็นคนในครอบครัวของผมต่างหาก”
เมื่อพูดจบเขมชาติก็ไม่รอให้ใครได้ต่อความยาวสาวความยืด เขารีบสั่งให้พรรณารายดูแลวิลาสินีและคุณวิภาดา ส่วนชงคมกับคาร์ลอต ให้อยู่ดูแลความเรียบร้อยทางนี้แทนตัวเขา ก่อนจะดึงพริมโรสออกจากห้องไป
การกระทําและคําพูดของเขมชาติครั้งนี้ เหมือนเป็นการ ทิ้งระเบิดก้อนใหญ่ให้ใครหลาย ๆ คนได้คิด และเป็นความคิดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
วิภาดามองตามร่างของคนทั้งคู่ที่เดินออกจากห้องไปด้วย ความเครียดแค้น และรู้สึกอับอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่เคยมี ครั้งไหนที่เขมชาติจะขัดใจเธอ เมื่อเธอยกคําสัญญาที่ชายหนุ่มได้ให้ไว้กับบิดาก่อนที่จะเสียชีวิต แต่ครั้งนี้...ไม่ใช่
‘นังพริม เพราะแกคนเดียว...’
วิภาดาจะยอมแพ้ง่าย ๆ ทุกคนคงจะคิดผิดไปแล้ว เพราะว่าถ้าเธอไม่แน่จริง เธอคงมาอยู่ตรงจุดนี้ไม่ได้ การที่ผู้หญิงธรรมดาจะก้าวมาเป็นภรรยาของเจ้าพ่อใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ
‘แล้วเราจะได้เห็นดีกัน...นังพริม’
ทางด้านลูกน้องของเขมชาติต่างที่จะอดเป็นห่วงเจ้านายตัวเองไม่ได้ เพราะไม่มีครั้งไหนที่เขมชาติจะสูญเสียการควบคุมตัวเองครั้งนี้ การที่เจ้านายปล่อยอารมณ์เข้าครอบงํา จนถึงขั้นปลุกปลํ้าผู้หญิงในห้องทํางานเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แม้ว่าเขมชาติจะประกาศฐานะของพริมโรสอย่างชัดเจนแล้วก็ตาม
แต่การประกาศตัวพริมโรสในฐานะคนรัก ยิ่งจะทําให้เกิดความ ยุ่งยากตามมา ความยุ่งยากที่ว่าไม่ได้มาจากใครที่ไหน แต่มาจาก คนในครอบครัวของเจ้านายของเขานั่นเอง เพราะดูจากสีหน้าของคุณวิภาดาแล้ว พวกเขาคิดว่าคุณวิภาดา คงไม่ปล่อยให้เขมชาติคบกับพริมโรสได้ง่าย ๆ หรอก คงจะหาวิธีกําจัดหญิงสาวคนดังกล่าวให้พ้นทางลูกสาวของตัวเองเป็นแน่ ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งกลุ้มใจแทนเจ้านาย